ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic marvel] Stealer,,(oc)

    ลำดับตอนที่ #3 : Stealer| 03

    • อัปเดตล่าสุด 18 ส.ค. 64


    Stealer| 03

     

    ดื่มดำความสุขปิติและอิ่มเอมบนความตายของผู้อื่น นั่นมิใช่มนุษย์แต่อย่างใดหากแต่สิ่งนั้นคือปีศาจที่อยู่ภายในจิตสำนึกที่ลึกที่สุดภายในจิตใจ อารมณ์ที่เคยเก็บกลั้นได้ปล่อยออกมาพรั่งพรู

     

    รอยยิ้มแห่งความยินดีนั้นฉายบนใบหน้าเล็กขณะที่ในหัวยังคงมีประโยคนั้นกรอวนในหัวเป็นเทปวีดีโอไม่มีวันจบ โดยเฉพาะคำว่าตาย

     

    ฟิน..ฟินลิกส์ คอลลินด์ได้ตายแล้ว น้องชายเธอได้ตายไปแล้ว! พื้นที่เธอได้กลับคืนมาโดยไม่ต้องแบ่งให้คนอื่นอีกต่อไปและเราจะได้อยู่ด้วยกันเหมือนเดิมอีกครั้ง เด็กสาวคิด

     

    แอนเดรียชะงักเมื่อเห็นพ่อชี้ของแหลมคมมายังเธอด้วยสีหน้าโทสะ ทำไมพ่อกับแม่ไม่ดีใจล่ะ มีแค่เธอไงล่ะ มีแค่เธอคนเดียว เด็กสาวไม่เคยเข้าใจการกระทำทั้งสองเลยแม้แต่นิด

     

     เหตุฉไหนถึงได้โกรธเกรี้ยวดังไฟโลกันต์เช่นนี้? แอนเดรียคิดก่อนจะรู้สึกถึงไอละอ่องเล็กๆ ที่เธอไม่รู้ว่าคืออะไรภายในจิตใจที่เต็มไปด้วยไฟร้อน 

     แต่อย่างไรครอบครัวเธอก็ไม่วันสมบูรณ์แบบอีกต่อไปและไม่มีวันที่จะกลับเป็นเหมือนเดิมอีกหนดังแก้วที่ไม่มีวันกลับเป็นอย่างเดิมหากแตกละเอียด

     

    ช่างน่าขำชะตาชีวิตที่วาดฝันไว้สวยงามราวกับทุ่งดอกไม้ได้แหลกเป็นผุยผง

     

    บิดาและมารดาได้ถูกตัดสินโทษให้จำคุกหลายสิบปี ส่วนเด็กสาวสิ่งเป็นมรดกสุดท้ายถูกส่งต่อให้ญาติพี่น้อง ทว่าพวกเขาเลือกขับไล่ไสส่งไปยังบ้านเด็กกำพร้า กลายเป็นว่า เธอคือสิ่งไร้ค่าแล้วในสายตาพวกเขา

     

    ไม่มีเงินทอง ไม่มีชื่อเสียงเท่ากับไม่มีใครใยดีเธออีกต่อไป

     

    หากเธอตายคงไม่มีใครเลี้ยวแลเหมือนกันใช่ไหม?

     

    ในขณะที่แอนเดรียกลั้นใจมองลงคลื่นน้ำทะเลสีเข้ม เกลียวคลื่นพัดพาน้ำอารมณ์เดือดดาลคล้ายชักชวนเธอให้โดดลงไปพร้อมดำดิ่งสู่ก้นบึง

     

     เด็กสาวที่ผ่านเหตุการณ์เลวร้ายและถูกสอนมาด้วยแนวคิดที่บิดเบี้ยว เธอพร้อมที่จะหยุดชะตาชีวิตเอาไว้แค่นี้แต่ทว่า..

     

    “หนูจ้ะ ช่วยบอกทางน้าไปร้านดอกไม้ให้หน่อยได้ไหมจ้ะ?”

     

    “..คะ?” 

     

     

    ณ พื้นนภาอันกว้างใหญ่และปลอดโปล่งเมฆของพื้นที่แถบมองโกเลีย ชาวมองโกต่างทำงานกันอย่างแข็งขันและใช้ชีวิตประจำวันดังเช่นเคยที่ผ่านมา แต่แล้วผืนฟ้าก็ได้มีเสียงโหยหวนของสิ่งมีชีวิตตกลงมาเร็วอย่างกับจรวจ

     

    ชาวเผ่ามองหน้ากันอย่างสงสัยไม่อาจรู้ได้เลยว่าสิ่งนั้นคือสิ่งใดกันแน่

     

    “แล้วทำไมฉันถึงอยู่มองโกเลียได้เนี่ย ห้ะ!”

     

    “อย่ามาแตะตัวข้านะ เจ้ามิดการ์ดบ้า!”

     

    “มิดการ์ดแล้วจะทำไม ยังไงฉันก็ต่อยแกฟันร่วงได้แล้วกัน!” 

     

    เสียงชายหญิงแต่งกายไม่เข้ากับสถานที่ตะโกนโหวกเหวกโวยวายลั่นไปถึงหมู่บ้าน ชาวพื้นเมืองได้แต่ยืนมองห่างๆ ไม่กล้าเข้าขัดเพราะอาจจะโดนง้างหมัดใส่หน้าเหมือนชายข้างหน้าเป็นได้

     

    “ฉันล่ะอยากเชือดแกแล้วเอาไปแจกให้แมลงวันตอม” เธอถอยมาพร้อมกับนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นไพลินอมม่วงใส ฝ่ามือบางนั้นถูกคลุมไปด้วยละอองสีม่วงจางๆ

     

    “ข้าขอชื้นชมความโง่เขลาของเจ้าที่กล้าท้าทาย..เทพอย่างข้า” โลกิกล่าวชื้นชมแล้วเสกกริซขึ้นมาทั้งสองข้างพร้อมฟาดฟันเช่นกัน

     

    หากไม่มีผู้ใดสละตัวเข้าหากคงมีการนองเลือดแน่ๆ แต่ถ้าคิดอีกมุมหนึ่งของชาวมองโกที่มามุงดูเหตุการณ์ พวกเขาคงต้องการขนมขบเคี้ยวทานตอนชมอย่างไม่ต้องถาม

     

    ทว่าความสนุกก็คงต้องจบลงเท่านี้ เพราะกลุ่มคนประหลาดเปิดประตูมิติเข้ามาขั้นเหตุการณ์ไว้ พวกเขากล่าวอ้างในสิ่งที่แอนเดรียไม่คิดว่าตนไม่เข้าใจเลยแม้แต่นิด 

     

    องค์กรเหนือกาลเวลาหรอ แล้วอะไรคือตัวแปร?

     

    แต่แล้วข้อสงสัยของแอนเดรียก็ต้องถูกพับเก็บแทบไม่ทันในเมื่อโลกิขัดขืนทำให้เขาถูกกระบองฟาดไปเต็มแรงจนหน้าหันสโลโมชั่น หญิงในชุดเครื่องแบบบอกยิ่งยืดเวลาเท่าไหร่ความเจ็บปวดก็ยิ่งมากเท่านั้น

     

    คำพูดนั้นทำเธอหน้าเหยเกเจ็บแทนเลย

     

    รายต่อมาคงเป็นใครไม่ได้นอกจากเธอ แอนเดรียยิ้มแห้งถ้าขัดขืนแบบหมอนั้นคงได้หันคอหักแน่ มือบางทั้งสองยืนไปให้คนข้างหน้าจับแต่โดยดี

     

    “แล้วแต่คุณพี่เลยจ้ะ” 

     

    หน้าเธอยังต้องใช้อีกยาว เธอไม่ยอมยืนเถียงให้โดยตบเป็นหมาหัวเน่าหรอก

     

    --TVA—

     

    ตั้งแต่เธอผ่านประตูสีเหลืองนี่ เธอก็พบกับสำนักงานที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายเดินกันให้วุ่นและเสียงโวยวายแสนหนวกหูนี่อย่าให้ต้องพูด

     

    “เฮ้ยๆ เจ้าจะเอาเทสเซอร์แรคต์ข้าไปไหน!” โลกิพูดเสียงดัง

     

    “อ่อ เจ้านี่หรอเทสเซอร์แรคต์ ไม่เป็นไรฉันจะรับฝากไว้อย่างดี” พนักงานงานต้อนรับกล่าวเสียงสดใสพร้อมกับรอยยิ้มของเขาให้หายห่วง แต่คนอย่างโลกิหรือจะยอมง่ายๆ

     

    “ไม่ๆ มนุษย์อย่างเจ้าไม่ควรถือพลังทรงพลังนั้น มันอันตราย เอามาให้ข้า” โลกิพยายามพูดกล่อมไม่ทันจบประโยคก็ถูกพาไปซะแล้ว เสียงเขาก็ยังคงดังแข่งกับพนักงานที่บอกไม่ต้องห่วงกับรอยยิ้ม

     

    บอกเลยว่าเป็นบทสนทนาพิลึกแปลกสุดๆ อย่างไรก็ตามเธอก็จะไม่เก็บมาคิดให้รกสมอง “สวัสดีครับ ช่วยฝากแหวนวงนั้นไว้ทางนี้ด้วย” พนักงานต้อนรับอีกคนกล่าวหลังนำเครื่องสแกนตัวสอบบางอย่าง

     

    ดวงตาคู่สวยมองตานิ้วที่ชี้ตะกร้ารีไซเคิลในนั้นมีทั้งปืน สร้อย แหวนต่างๆ นาๆ แล้วจะเห็นเกลือนไปหมด

     

     “คือว่าฉันทิ้งแหวนนี้ไปไม่ได้หรอกค่ะ มันสำคัญกับฉันมาก” แอนเดรียลูบแหวนเงินที่ประดับไปด้วยลูกแก้วเล็ก

     

    “ไม่ได้ครับทางเราต้องทำแล้วจะคืนให้ภายหลัง” 

     

    มันเห็นๆ อยู่ว่ามันไม่ได้คืน! ของเยอะเกลือนกลานขนาดนั้น หญิงสาวนักเจรจาธุรกิจพยายมต่อรองให้มากที่สุด เธอพูดทุกคำพูดและเธอก็ถูกปฏิเสธทุกคำพูดเช่นกัน จนสุดท้ายเธอก็ต้องงัดท่าไม้ตายสุดท้ายออกมา

     

    “ค..คือว่า แหวนวงนี้คุณย่าท่านให้มาก่อนเสียน่ะค่ะ ท่านค่อนข้างรักแหวนวงนี้มากจริงๆ” เธอแสร้งบีบน้ำตาขอความเห็นใจ

     

    “แต่ดูจากเอกสารแล้ว ในนี้บอกย่าคุณยังไม่เสียไม่ใช่หรอครับ?” พนักงานหนุ่มกล่าวพร้อมชูเอกสารขึ้นให้เธอเต็มสองตา

     

    หญิงสาวทำหน้าบึ้งตึงไม่สบอารมณ์ ทุกคนล้วนหลงกลไม้นี้ของเธอทั้งนั้นหากเขาไม่มีประวัติส่วนตัวเธอคงรอดไปแล้วเชียว มือบางถอดแหวนออกมาแล้วปาใส่ตะกร้าอย่างแรง 

     

    หญิงสาวที่สามารถทำให้คนอื่นคล้อยตามได้ตลอดถึงกับมองแรงอีกฝ่ายขณะดึงตัวไปห้องต่อไป เธอยังเห็นเขาหัวเราะเยาะเธอผ่านห่างตาด้วยซ้ำ!

     

    “..แค้นนี้ต้องชำระ” เสียงหวานพูดลอดไร้ฟัน สแกนใบหน้านั้นไว้ในบัญชีดำแล้วรีบร้อย

     

     

    TBC.

     

    #ยังไม่เเก้คำผิด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×