ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic marvel] Stealer,,(oc)

    ลำดับตอนที่ #2 : Stealer| 02

    • อัปเดตล่าสุด 17 ส.ค. 64


    Stealer| 02 

     

    มนุษย์ สัตว์ที่เรียกตนว่าปัญญาสูงส่งเหนือใครแต่จะเรียกแค่ปัญญาอย่างเดียวคงจะไม่ถูกมากนัก ความโลภและทะเยอทะยานก็เหนือกว่าสัตว์เผ่าพันธุ์เช่นกัน 

     

    ความอยาก ความต้องการและการครอบครอง ทุกคนล้วนแต่มีอยู่เป็นโลกันต์แผดเผาสุมคล้ายกองไฟข้างในจิตใจ หากแต่ความอยากนั้นได้รับการการสิ้นสุดเสียคงดี แต่คงไม่ใช่กับเผ่าพันธุ์นี้

     

    แต่ก่อนมีอารยธรรมที่ดูสวยงามต่างแปดเปื้อนไปด้วยโลหิตแดง แย่งฟันกันไม่มีที่สิ้นสุดแลหัวเราะกับความตายของผู้อื่นอย่างปริ่มเปรมสุข ดื่มฉลองบนความตายที่ดำมืด 

     

    เสียอย่างไรแล้ว มนุษย์ก็เป็นสัตว์มีปัญญาที่รู้จักความเศร้า เสียใจ เห็นแก่ตัวแล..โกรธแค้น 

     

    แน่นอนเลยว่าตอนนี้เธอกำลังโกรธแค้นแทบอยากฆ่าให้ตายเลยซ้ำ

    “ห๊ะ เงินฉันหายไปไหนนะ!!” แอนเดรียน่าตะโกนลั่นคอนโดถามปลายสาย มือข้างหนึ่งกำถุงนำแข็งประคบหัวบี้คามือ

     

    “อ..อ่า คือ ท่านประธานได้ส่งมอบทรัพย์สินทั้งหมดให้กับคนที่ชื่อโลกิค่ะ” เลขาสาวตอบอึกอักผู้ที่เคยเป็นเจ้านาย “ทั้งหมดเลยน่ะหรอ..” เธอถามเสียงเบาภวานาขออย่าให้เป็นเลย

     

    “..ใช่ ค่ะ” อีกฝ่ายตอบนั้นทำใจเธอตกไปถึงตาตุ่ม มืออีกข้างพิงเคาน์เตอร์เหมือนเธอจะล้มอยู่ร่อมรอ คนเคยเป็นเลขาเรียกชื่อ แอนเดรียน่า โรซิเออร์ ซ้ำหลายหนไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายเป็นลมไปหรือยัง

     

    ความพยายามทั้งหมดได้หายไปแล้ว หายไปเป็นฝุ่นในอากาศ เงินทองชื่อเสียงมากมายที่เธอพยายามปั้นขึ้นมาหลายปีกลับสลายไปในอากาศ กลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อน

     

    ไม่มีใครสนใจหรือใยดีเธออีกแล้ว

     

    ตอนนี้เธอไม่ต่างไปเลยกับคำว่า ล้มเหลว

     

    หญิงสาวคิดทบทวนเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นโดยที่เธอไม่แม้แต่จะรู้สึกตัวว่าทำอะไรไปบ้าง ตอนแรกเธอรับรู้ประสาททั้งห้าที่อังกฤษที่เธอไปทำธุรกิจที่วางแผนไว้รู้ตัวอีกที่เธอก็มาหัวฟาดพื้นที่เยอรมัน

     

     แอนเดรียผูกโยงเรื่องราวที่ไม่ค่อยจะสมเหตุสมผลมาปะติปะต่อจนเริ่มเป็นภาพขึ้นมาบ้าง

     

    โลกิ โลกิ..โลกิ ชื่อคุ้นหูจังแหะ เธอคิดเหมือนเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน นัยน์ตาสีน้ำตาลเหลือบไปเห็นข่าวเมื่อคืนฉายภาพชายหนุ่มสวมชุดแปลกสีเขียว สวมเขากวางสีทองโดดเด่น ยืนสั่งคนอื่นเป็นเด็กเอาแต่ใจ 

     

    แต่หากไม่นับไม้คาถาปล่อยเลเซอร์ได้ เธอถือว่าเป็นคนบ้าคนหนึ่งเลยนะ

     

    แล้วเขาก็ถูกพวกกลุ่มคนที่ทำตัวเป็นฮีโร่พาตัวขึ้นยานไป นี้มันเรียกว่าไม่น่าเชื่อเลยล่ะถ้าไม่ได้เห็นกับตา “นี่จินนี่ เธอบอกฉันทีว่าคนที่ชื่อโลกิเนี่ย ไม่ใช่คนบ้าถือคาถาปล่อยแสงพร้อมกับเขากวางเรนเดียร์ของเขาน่ะ”

     

    “ที่กล่าวมาก็ใช่ค่ะ..ประธานคิดจะทำอยู่หรอคะ” อดีตเลขาถามเสียงหวั่นใจ เธอล่ะกลัวจริงๆ เพราะแอนเดรียน่าคนนี้มักกล้าในสิ่งที่คนอื่นไม่กล้า สิ่งนั้นล่ะทำเธอใจไม่ดีจริงๆ

     

    ริมฝีปากแดงเชอร์รี่เหยียดยิ้มกว้าง เป็นคำตอบที่พาเลขาสาวห้ามแทบไม่ทัน “ก็ไปเอาเงินคืนไงล่ะ” พูดจบเธอก็ตัดสายไปสนามบินทันที

     

    เธอจะไม่ยอมถูกพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งว่า

     

    --แอนเดรียน่า โรซิเออร์ นักธุรกิจสาวผู้อัจฉริยะ สร้างธุรกิจใหญ่โตด้วยเวลาไม่ถึงสองปีและดับได้ไม่ถึงปีเช่นกัน!!—

     

    ฆ่าเธอให้ตายก่อนที่จะมาเม้าท์เรื่องเธอเถอะพวกนักข่าวเฮงซวย!

     

    ณ สนามบิน

     

    หญิงสาวในชุดเดรสเหลืองสดใสที่ไม่เปลี่ยนตั้งแต่เมื่อคืน เธอกระเสือกกระสนวิ่งตั้งหน้าไปหาเจ้าโจรหัวขโมยหน้าหล่อคนนั้นให้ได้ทันเวลา แต่ดูเหมือนพระเจ้าจะกลั่นแกล้งเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าในเมื่อ..!

     

    ข่าวทุกสำนักต่างประกาศจากทางรัฐบาลและองค์กรความมั่นคงแห่งชาติว่าให้อพยพออกจากเมื่อนิวยอร์กโดยด่วน รถโดยสารทุกคนต่างปฏิเสธเธอเป็นพัลวัน

    แล้วยังถามอีกว่าจะไปทำไม

     

    ก็ไปเอาเงินคืนโว้ยยย

     

    ตอบไปก็ไม่เข้าใจ สุดท้ายเธอก็ต้องควักเงินฟ่อนให้กับแท็กซี่คันหนึ่งจนเขารับปากว่าจะส่งถึงที่เลย ได้ฟังแบบนั้นแอนเดรียก็ชื้นใจขึ้นมาหน่อย ตลอดทางไปถนนนั้นว่างเปลี่ยวน่าใจหาย

     

     นัยน์ตาสีน้ำตาลใสมองเศษซากปะรักหักพังของซากตึกตามถนน ทั้งที่แต่ก่อนนั้นสวยงามและสะอาดช่างขัดกับภาพตรงหน้าเสียเหลือเกิน แต่สักพักรถทั้งคันก็หยุดตัวลงพร้อมกับตัวเอเลี่ยนประหลาดถือหอกโผล่ตัดหน้ารถ

     

    “กรี้ดดด/กรี้ดดด!!?”

     

    เธอและชายวัยกลางคนกรีดร้องตกใจ ไม่รู้จะตกใจเอเลี่ยนที่เคยเจอนี้หรือคุณลุงที่กรี้ดเสียงแหลมกว่าเธอกันแน่ 

     

    เสียงกรีดร้องของความหวาดกลัวนั้นเป็นสิ่งกระตุ้นอารมณ์เร้าของนักล่าได้อย่างดี มันกระโจนพร้อมฉีกร่างพวกเธอเป็นชิ้นๆ แต่แล้วร่างอัปลักษณ์ก็หัวโขกประโปรงรถเต็มแรงตามมาด้วยเสียงระเบิดตู้มใหญ่บนฟากฟ้าคราม

     

    สิ่งมีชีวิตประหลาดทั้งบนพื้นพสุธาและฟากฟ้าต่างร่วงลงตามแรงโน้มถ่วงโลก เธอและคนขับที่กอดกันกลมดิกมองไปรอบๆ อย่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น มันเหมือนฝนตกห่าใหญ่อย่างน่าพิศวง

     

    มันทั้งน่าสยดสยองที่เกือบถูกเขมือบเป็นอาหารและโล่งใจที่รอดแล้วยังมีโอกาสเอาเงินที่เหลือคืนมาและฟาดคนขโมยสักทีสองที แต่ก่อนอื่น

     

    “มันตายรึยังหนู” ชายวัยกลางคนกล่าวถามพลางเอาไม่เคี้ยๆ ไม่ไว้ใจ

     

    “..ตายแล้ว..มั้งคะ” เธอเองก็ไม่ได้ใบปริญญาเอกชีวะเอเลี่ยนด้วยสิเนี้ย

     

    จนแล้วจนรอดเธอก็ต้องเป็นคนใช้ฝ่าเท้าพิฆาตถีบลงมันลงไปเอง โดยมีคุณลุงช่วยให้กำลังใจอยู่ไกลๆ 

     

    ทุกอย่างดูกลับไปเป็นปกติ ตึกสตาร์คทาวเวอร์เต็มไปด้วยรถตู้ดำและทหารมากมายเดินกันให้วุ่น นี่ยังไม่รวมถึงพลังงานบริษัทนี้อีกเป็นกระบุง หญิงสาวเรือนผมสีโกโก้เดินจำอ้าวไปหาสตาร์คทันที

     

     พวกเขาล้อมรอบไปด้วยกลุ่มทหารคุ้มกัน แล้วตามหลังด้วยคนที่เธอคุ้นหน้าดี จำได้ขึ้นใจ

     

    “อ้าว แม่สาวโรซิเออร์นี่เอง ฉันว่าฉันไม่ได้ส่งบัตรเชิญงานแฟนซีนะ—“ 

     

    พลั่ก

     

    หน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มผมนิลหันตามแรงต่อยอย่างแรง มือบางทั้งสองเอื้อมมือคว้าคอปกสีเขียวเหลือบทองแล้วกระชากอย่างแรงตามโทสะ

     

    “คืน เงิน ฉัน มา นะ ไอเวรตะไล!” แอนเดรียน่าพูดลอดไรฟันเสียงเกรี้ยวกราดเต็มทน

     

    ทุกอย่าอยู่ในความนิ่งเงียบ ทุกคนต่างช็อคไม่เว้นแต่ธอร์ จนเธอเริ่มที่จะง้างหมัดต่อยอีกทีแต่เธอถูกแยกโดยคำของโทนี่ ให้เธอถูกล็อกแขนไม่ให้ไปไหน

     

    “โว้วๆ ใจเย็นคุณนักธุรกิจอัจฉริยะ อะไรทำให้เธอเลือดขึ้นหน้าได้ขนาดนี้กัน” โทนี่ถามเสียงกวนประสาทตามเจ้าตัว “หมอนี้มันขโมยเงินฉัน ปล่อยนะ! ฉันจะไปกระชากหัวมันให้จมดิน” เธอกล่าวน่ากลัวพลางดิ้นๆ ออกจากพันธนาการ

     

    “ขโมย? อนุชาข้าขโมยอะไรไปรึ?” ธอร์ที่เงียบมานานเอ่ยสงสัยแล้วเหลือบมองโลกิทำหน้าคิดขมวดไม่ต่างจากเขา

     

    “อ่อ พี่ชายหรอ งั้นก็รู้ไว้ก็ดีว่าน้องชายคุณนั้น—“ 

     

    ตุ้บ!!

     

    อยู่ๆ โทนี่เขาก็ล้มลงสร้างความตื่นตกใจให้คนรอบข้างเป็นอย่างมาก ตามมาด้วยเสียงคำรามของสัตว์ยังตัวเขียว มันทะลุกำแพงมาอย่างบ้าคลั่งยิ่งเกิดเสียงชุลมุนมากกว่าเดิมเสียอีก

     

    นัยน์ตาสีน้ำตาลมองการกระทำของผู้ขึ้นชื่อว่า ‘อาชญากร ‘ เขามองมองรอบข้างอย่างระมัดระวังและเหลือบมองลูกบาศก์เรืองแสงที่หลุดออกมาจากกระเป๋าที่สตาร์คถือ ทว่าเธอก็รู้ได้ทันทีเลยล่ะว่าเขาจะทำอะไร

     

    จากความชะลาใจของคนคุมตัวเธอนั้น หญิงสาวเห็นโอกาสจึงสลัดแขนเล้วพุ่งตัวไปทางชายผมนิลทันที ทั้งสองได้หายไปในหมอกดำโดยไม่มีใครสังเกตุเห็นแม้แต่คนเดียว

     

    เงินฉัน!! ใครอย่าแตะ!

     

     

    TBC.

     

    #ยังไม่เเก้คำผิด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×