คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : ขอบ..ใจ6.1 (ราศีตุลย์-Libra)
Romantic Movement
Series: จักรราศี
Title: ขอบ..ใจ6 (ราศีตุลย์-Libra)
Warning: เรื่องนี้น่าจะจบที่10 ตอน(มั้งคะ) ฮา เป็นเรื่องสั้นที่ยาวดีจริงๆ
เสียงนาฬิกาปลุกกริ๊งลั่นเล่นเอาภาสุปวดจี๊ดไปถึงขั้วสมอง
มือเรียวกระเสือกกระสนตบปุลงไปบนปุ่มหยุด แล้วตกห้อยลงข้างเตียงอย่างสิ้นท่า
ละอองฝนเมื่อวานคงทำพิษเข้าให้แล้ว
“ตุลย์...”
“ตุลย์” เสียงแหบพร่าเรียกดังขึ้น ก่อนไอแห้งๆ
มือบางอีกข้างควานหาอีกคนบนเตียงแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า...
ลืมไป...เมื่อเย็น เขากับตุลาสวนทางกัน
เขากลับจากไซต์งานต่างจังหวัดมันออกไปโรงพยาบาล
ไม่มีเวลาได้ทักทายกันด้วยซ้ำ มีเพียงโพสต์อิทสีแสบที่มันแปะไว้ว่าโรงพยาบาลมีเคสด่วน
ดี....ที่ตาเพชรยังอยู่บ้านแม่
ไม่งั้นถ้าลูกติดหวัดล่ะยุ่งแน่ ตัวพ่อมันคงแทบงับหัว
คิดๆ ดู เดี๋ยวนี้ตาเพชรอยู่บ้านแม่มากกว่าอยู่กับพวกเขาอีกแฮะ
ชักกลุ้มตงิดๆ ถ้าโตขึ้นแล้วตาเพชรดันนิสัยเหมือนเขา
คิ้วเรียวขมวดมุ่นเมื่อรู้สึกปวดเมื่อยทั่วร่างกายแถมกะโหลกก็ปวดเหมือนกับจะร้าวออกเป็นเสี่ยงๆ
ไม่สบายนี่เขาต้องทำอะไรบ้างวะ?
กินยา....
ลุกไม่รอด....แถมไม่อยากกิน...เก็บไว้ก่อนละกัน
หาหมอ...
ลุกไม่รอด....ขี้เกียจ....คอยก่อน เดี๋ยวหมอมันก็กลับมาเอง
อ้อน...
อยู่คนเดียว...ไม่มีใครให้อ้อน...กลับมาเมื่อไหร่ค่อยอ้อน
ไม่อาบน้ำ....
อันนี้โอเค...นอนแบ็บแบบนี้ใครมันจะบ้าไปอาบ ไม่ได้ขี้เกียจเลยเหอะ สาบานได้..
เช็ดตัว...
คอย...กลับมาเช็ดตัวให้
มีอะไรอีกไหมอ่ะที่ต้องทำ?
เออ...เกือบลืมไป
ต้องลางานนี่หว่า...
วันนี้ต้องเอาความคืบหน้าที่ไซต์พรีเซนต์ซะด้วย ป่านนี้ชะรอยไอ้ตรีมันคงเตรียมกินหัว
ว่าแล้วก็ต้องโทรหามันในทันใด
มือเรียวที่ตกห้อยร่องแร่งข้างเตียงต้องพยายามกระเสือกกระสนควานบนโต๊ะข้างหัวเตียงอีกครั้ง เมื่อพบเจ้าตัวก็กำก่อนกระทำคล้ายลากโทรศัพท์มือถือขึ้นมาวางข้างตัว
นัยน์ตาฉ่ำด้วยพิษไข้ปรือขึ้นมองพลางใช้นิ้วเรียวจิ้มๆ ลงบนปุ่มเล็กๆ
เสียงเรียกสายที่ดังลอดผ่านลำโพงว่าดังแล้วแต่เสียงตะโกนด่าของคู่สายยามรับนี่...ช่างดังกว่ามากมาย เล่นเอาร่างโปร่งต้องขดตัวคว้าหมอนมาปิดหูกันเลยทีเดียว
“มุดหัวอยู่ที่ไหนไอ้พาย”
อยากจะตอบว่ามุดหัวอยู่ใต้หมอน แต่ก็กลัวว่าจะเป็นการเกรียนพี่ตรีเนตรที่เคารพของน้องพายเกินไป จึงทำได้เพียงส่งเสียงแหบเซ็กซี่ไปตามสาย
“อยู่ใต้โต๊ะมึงมั้งสัส!” ตามด้วยกระแอมเล็กๆเหมือนนายกอบต.เตรียมหาเสียง
“อ้าวอยู่ใกล้ๆ ก็ไม่บอก...” แว่วเสียงมันงึมงำเหมือนคนไอคิวต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาตามสาย
“ห่า!! มึงโกหกกู!!”
เออ... เอากับมัน
“มึงดูดีๆดิ เนี่ยกูนั่งมองหัวแม่ตีนมึ” งอยู่เนี่ยเจ็บคอแล้วไม่เจียมจึงต้องไอจนลูกกระเดือกแทบหลุดพอเป็นพิธี
“ตะกวด!! มึงอยู่หนายยยยยย?” ไอ้ตรีเนตรคล้ายคนสติหลุดเต็มที
แหม...ถามหาตะกวดยิ่งกว่าจาพนมถามหาช้างกูอยู่หนายยยเชียวนะมึง
“อยู่ห้อง...”
“ตื่นสายเรอะ...รีบมาให้ว่อง...อีกสองชั่วโมงบอสเรียกเข้าห้องเล็กว่ะ”
ห้องเล็กมิใช่ห้องปรุงเส้นเล็กน้ำตกแต่อย่างใด แต่มันคือห้องประชุมเล็กที่มีไว้เพื่อพรีเซนต์แผนงานภายในหรือส่วนตัว
“ไม่สบาย...ลุกจากเตียงไม่ไหว...”แหมเสียงเซ็กซี่เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ กู
ปลายสายเงียบจนภาสุต้องนิ่วหน้าแปลกใจ
“ตรี...”
อย่าเงียบสิวะ ใจไม่ดี
“มึง....”
จะพูดไรก็พูดเหอะ มาเป็นคำงี้กูค้างคา
“มึง...มีไอ้นั่นแล้วเหรอวะ...”
เสียงมันเหมือนคนกลั้นหายใจถาม
แล้วต้องกลั้นหายใจตอบมันไหมเนี่ย
“มีอะไร?”
“ก็ไอ้นั่นน่ะ”
วะ ไอ้นั่นน่ะมันอาร๊ายยย
มันหมายถึงไอ้แอ๊บโดมิไนซ์ชิ้นนี้มันเยี่ยมมากเลยค่ะจอร์จเรอะ
“ก็ไอ้นั่นน่ะ ที่มันเล่นจนมึงไม่สบายแถมยังลุกจากเตียงไม่รอดอีก” บรรยายซะเร็วปรื๋อเชียวนะเอ็ง
ภาสุถอนหายใจเฮือก จะพูดแค่ว่าเชื้อหวัดนี่มึงจะตายห่าเหรอวะไอ้ตรี
“อือ” ตอบสั้นๆ แต่ได้ใจความ
เงียบ....เงียบอีกแล้ว...ไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆ พับผ่าสิตัวตรี
“มึงบอกบอสด้วยนะ” ตัวพายจะได้นอนต่อ
“เดี๋ยว...”
เอ๊า...รั้งกูไว้แต่เสือกไม่พูดต่อ เดี๋ยวกดตัดสาย
“แล้วเป็นไงบ้าง..เอิ่ม...ครั้งแรกใช่ไหม?” เสียงมันเสือกปนห่วง
ทีหลังกูขอห่วงปนเสือกได้ป่ะ มันน่าจะทำให้ซาบซึ้งมากกว่านะ
อยากจะบอกมันว่าไม่ได้เป็นไข้ครั้งแรกในชีวิต แต่คิดไปคิดมาอีกทีนี่เป็นไข้ครั้งแรกในรอบปีเลยนี่หว่าเลยเออออกับมันไปงั้น ก่อนบรรยายอาการ “ก็เมื่อยไปทั้งตัวอ่ะ เหมือนข้อต่อมันจะหลุด แถมเหนียวตัวด้วย”
ทั้งที่แอร์เย็นแต่เหงื่อกลับออกจนเตียงชื้น
ตรีเนตรหัวเราะแห้งๆ
“งั้นมึงพักผ่อนเหอะ เดี๋ยวกูบอกบอสให้”ว่าแล้วมันก็วางสายไปในทันใด
ทีกูจะวางมึงรั้ง แต่มึงวางเนี่ยไม่เหลือเวลาให้กูรั้งเลยใช่ไหม?
นิ้วเรียวจิ้มๆ เบอร์ที่ต้องการก่อนกดโทรออกอีกครั้ง
อยากนอนก็อยากอยู่หรอกนะ
แต่อุตส่าห์ใช้เสียงแหบเสน่ห์คุยเป็นวรรคเป็นเวรกับไอ้ตัวไร้ประโยชน์อย่างไอ้ตรีได้ตั้งนานแล้วทำไม๊ทำไมคนหล่อหัวดีอย่างภาสุจะโทรหาตัวช่วยบ้างไม่ได้
“ว่าไงพาย?” ปลายสายเป็นเสียงทุ้มนุ่มแบบที่เสียงแหบๆ ของภาสุเทียบไม่ติดแต่แปลกที่เขาอยากจะฟังใกล้ๆ นิ้วเรียวจึงจิ้มเปลี่ยนโหมดแล้วดึงโทรศัพท์มือถือมาแนบหูแทน
“ตุลย์....”เสียงแหบยิ่งแหบเมื่อเจ้าตัวเพิ่งฝอยกับเพื่อนอย่างไม่เจียมสังขาร
เท่านั้นเสียงนุ่มๆ ของตุลาก็ถามอย่างเป็นห่วงและก็เท่านั้นทำนบน้ำตาของภาสุก็ไหลบ่าลงนองสองแก้มเนียน
สงสัยต่อมน้ำตาของเขามันมีน้ำตาค้างสต็อคไว้เยอะ ช่วงนี้เขาถึงได้ร้องได้ร้องดี
“เราไม่สบาย....” ว่าแล้วก็สะอื้นฮัก
“ปวดหัว...” ปิดชุดด้วยการไอแบบคอมโบเซ็ตแถมท้ายให้คนฟังยิ่งร้อนใจ
“หนาว...”
“กลับมาเร็วๆ นะ” มือเรียวเช็ดน้ำตาป้อยๆ เหมือนเด็กสามขวบ
“อือ...เอาโจ๊กฮ่องกงด้วยนะอยากกิน” สั่งแล้วกดวางอย่างว่อง
นัยน์ตาฉ่ำน้ำปรือหลับด้วยความเพลียก่อนปิดสนิทในที่สุด
ความเย็นที่ลากผ่านทั่วแผ่นอกและระเรื่อยต่ำลงไปทำให้ภาสุกะพริบตาถี่ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเยิ้มด้วยพิษไข้ปรือมองมือใหญ่ต้นเหตุที่ทำให้เขาตื่น
“ตุลย์...” กว่าเสียงจะหลุดออกจากคอแต่ละคำช่างยากลำบาก
คนตัวสูงส่งเสียงเบาๆ ในลำคอเป็นเชิงถาม พลางวางผ้าขนหนูชุบน้ำลงบนขอบอ่างแก้วใบไม่ใหญ่นัก
“ไหนโจ๊กอ่ะ?” จะเสียงหายก็ยอม...ก็อยากกิน
“เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”
ร่างโปร่งผงกหัวรับ แต่ก็ต้องนิ่วหน้าเมื่อรู้สึกความเย็นแล่นปราดเข้าทักทายต้นขาและบริเวณที่ไม่ควรเจอความหนาวเย็น
“ตัวทำอะไรน่ะ?”
“เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ตัวไง”
“แล้วตัวเปลี่ยนกกน.ให้เราด้วยเรอะ!!” เมื่อไม่เจียมกำลังเสียงตัวเองอนิจจาภาสุจึงต้องขดตัวไอจนลูกกระเดือกเต้นแซมบ้า
“แล้วตัวจะหมักหมมไว้เนี่ยนะ” เสียงทุ้มดุ
ภาสุอยากเอาหัวมุดหมอนให้มันรู้แล้วรู้รอด อย่างตุลานี่หน้ามันด้านเกินเยียวยาแล้วใช่ไหม
“พายยกสะโพกขึ้นสิ....”
หือ?
“ตัวนอนนิ่งๆ แล้วเราจะสอดเข้าไปได้ยังไง”
นั่น...แค่จะใส่กางเกงให้กูมึงยังติดเรทฉ.ได้อีกนะมึง
“เคยมีคนบอกไหมว่าตัวหน้าด้าน” เสียงแหบๆ ถามอย่างอดไม่ได้
เรียวนิ้วแกร่งที่กำลังติดกระดุมเสื้อนอนให้ร่างบางชะงัก
“มีแต่คนบอกว่าเราหน้าบางกว่าตัวนะ”
อยากตะโกนว่าตรงไหนให้มันลั่นบ้าน
แต่ติดที่กล่องเสียงมันเตือนว่า อย่านะพุทโธ อย่านะธัมโม ไม่งั้นจะหายไปแล้วไปลับไม่กลับมานะจริงๆ นะสังโฆ
ที่พอทำได้จึงมีเพียงหลับตาข่มจริตข่มเสียงให้นุ่มนิ่มทำตัวเป็นน้องขมดงผู้ดี “ตัวมันยั่วให้เราบ้า”
ไอ้คนยั่วให้บ้าหัวเราะนุ่มๆ ตามสไตล์มัน “ตัวมันก็ยั่วเราเหมือนกันนั่นล่ะ” แล้วริมฝีปากอุ่นๆ ก็ประทับลงบนหน้าผากของภาสุ “ตัวไม่รู้หรอกว่าตัวยั่วเราไว้แค่ไหน...”
“เดี๋ยวเราไปเอาโจ๊กมาให้ ตัวจะได้กินยา”
เพียงยินเสียงปิดประตู ร่างโปร่งก็ลืมตาพลัน มือเรียวยกขึ้นแตะบนหน้าผากเหมือนคนเพ้อ ดวงหน้าเห่อร้อนแถมความร้อนยังลามเหมือนพิษร้ายไปถึงหัวใจจนมันเต้นถี่อกแทบทะลุ
แล้วไอ้ความหวานเลี่ยนๆ ที่เข้ามาแทนที่ความขมปร่าของลิ้นนี่ล่ะ มาจากไหน?
วุ้ย!!!
คนหล่ออยากจะกรี๊ดให้สาวแตก
ตุลย์เอ๊ยยยกูรู้แล้วทำไมมึงถึงได้ตำแหน่งหนุ่มในฝันหลายปีซ้อนที่มึงอยู่มหาลัย
แต่....ขอได้ไหม...อย่ามาใช้ท่าทางนี้กับกู
เห็นแล้วมันมันเขี้ยวอยากลากไปฟัดในซอกจริงๆ สิวะ พับผ่าสิ!!
ความคิดเห็น