ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Romantic Movement(YAOI)

    ลำดับตอนที่ #1 : I need you (ราศีกรกฏ-Cancer)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.21K
      6
      16 ก.พ. 52

    Romantic Movement

    Series :จักรราศี

    Title: I need you (ราศีกรกฏ-Cancer)

                   

    ราศีกรกฏ (15 ก.ค.- 16 ส.ค.)

     

    ผู้ชายราศีกรกฏ

            หนุ่มใจเย็น  เป็นผู้นำที่ดี  แต่ลึกลับซับซ้อน  เข้าใจยาก   ท่าทีของในบางครั้งอาจดูคล้ายคนเย็นชาเพราะเขาเป็นคนที่ออกจะฟอร์มจัดบวกเผด็จการอยู่สักหน่อย   เป็นคนที่อ่อนไหวแต่เก็บความรู้สึกเก่งจึงดูเป็นพวกเฉยชา  และหากเขาต้องการอะไรสักอย่างเขาจะไม่ทะเล่อทะล่าบุ่มบ่ามเข้าไปคว้าทันที  เขาจะนั่งเฝ้านอนเฝ้าสิ่งนั้นอย่างใจเย็น(พร้อมกำจัดคู่แข่ง)ก่อนจะคว้าเมื่อได้โอกาสที่เหมาะสม  ซึ่งเมื่อเขาได้สิ่งนั้นมาแล้วเขาจะไม่มีวันปล่อยมือเด็ดขาด  เพราะเขาถือว่าสิ่งนั้นเป็นของเขาห้ามใครแตะ  ในเรื่องความรัก เขาดูเป็นคนที่ไม่ค่อยใส่ใจคนที่เขารักจนติดเย็นชา  แต่นั่นก็แค่ฟอร์มเพราะเขาอายที่จะแสดงออกว่าจริง ๆ แล้วเขาแคร์มาก(ถึงมากที่สุด)  แถมยังขี้หวง  ขี้หึง  ไม่ชอบให้ใครมายุ่มย่ามกับคนของเขาอีกต่างหาก  เขาพร้อมที่จะปกป้องคนที่เขารัก  และจะอ่อนโยนต่อคนที่รักเมื่อเขาพร้อมหรือแน่ใจว่าเขาจะไม่แห้วแน่ ๆ (ฟอร์มมันค้ำคอ)  หากคุณคิดที่จะรักเขาคุณต้องแสดงให้เขาเห็นว่าคุณรักเขาจริง  รักเขาคนเดียวเท่านั้น  ใส่ใจเขาให้มาก ๆ พยายามเข้าใจเขา  และที่สำคัญห้ามมีกิ๊ก       

     

    ผู้หญิงราศีกรกฏ

                    สาวอารมณ์อ่อนไหว  เก็บอารมณ์ไม่เป็น  เป็นสาวช่างฝัน  น้อยใจง่าย  ร้องไห้เก่ง  ในเรื่องความรักเธอเป็นคนขี้กลัวและขี้หึงเธอจึงเลือกที่จะตามติดคนที่เธอรักไปทุกที่  เป็นคนรักเดียวใจเดียว  หากเธอรักใครเธอทำให้ได้ทุกอย่างแต่หากเธอรู้ว่าเขานอกใจเธอก็พร้อมที่จะตัดเขาออกไปแบบตัดเป็นตัดตายไม่ไว้ไมตรีอีก  หากคุณคิดที่จะรักเธอคุณต้องแสดงให้เธอเห็นว่าคุณเป็นคนจริงใจ  อบอุ่น  และพร้อมที่จะเป็นผู้นำให้เธอ  ที่สำคัญคุณจะต้องไม่รำคาญเวลาที่เธอตามติดเป็นคุณไปไหน

          

    *โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน  เรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น  ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคล  สถานที่ หรือเหตุการณ์ที่มีอยู่จริง  หากมีบางส่วนพาดพิงถึงผู้ใดก็ต้องขออภัยไว้ ณ  ที่นี้ด้วย 

     

     

     

                    เจ้านายของผม...เขามีคุณสมบัติของเจ้านายในฝัน(?)หลายประการด้วยกัน  และนี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นที่ส่งเสริมให้เขาเป็นเจ้านายในฝัน(ร้ายของผม)

     

     

              1.เขาเป็นเจ้านายที่ดี (แต่โดยรวมแล้วแย่มากกว่า) 

     

                    2.เขาหน้าตาดีจนสาว ๆ ในออฟฟิศต่างพากัน (แต่งตัวมาล่อตะเข้) ใฝ่ฝันถึง 

     

              3.เขาเอาใจใส่ลูกน้อง (แน่นอนหากคุณทำอะไรผิดพลาดไปสักจุดสองจุด เขาก็พร้อมที่จะประชดเหน็บแนมคุณไปเป็นเดือน ๆ)

     

                    4.เขาเป็นคนใจเย็น (ไม่แน่เขาอาจใจเย็นและเลือดเย็นพอที่จะปล่อยให้คุณชักแหง่กแหง่กไปต่อหน้าต่อตาก่อนค่อยเรียกรถร่วมฯหรือเฮียปอมาเก็บศพคุณก็ได้)

     

                    5.เขาเป็นคนไม่ถือตัว (แต่เรียกได้ว่าโคตรหยิ่งเลยต่างหาก)

     

                    6. เขายอมรับความคิดของคนอื่น (ซะที่ไหน  เสนอมาสิพี่ท่านฟังอยู่หรอกแต่เคยเอามาใช้เรอะ?)

     

                    7. เขาเป็นคนอ่อนไหว ใจอ่อน มีเมตตากรุณา สงสารคนอื่นง่าย ๆ (สาธุ! ขอให้มันเป็นเช่นนั้นในเร็ววันด้วยเถ๊อะ  แล้วลูกช้างจะเอาหัวไก่  ไตหมู  ฉู่ฉี่เป็ด ฯลฯ ไปถวาย)

     

                    8. เขาเป็นคนอารมณ์(ไม่)ดี มี(อารมณ์บูดไร้ซึ่ง)อารมณ์ขัน (ให้ตาย  ผมกล้าสาบานเลยว่า  เขายิ้มให้คนอื่นเห็นแทบจะนับครั้งได้)

                   

     

                       บทความส่วนหนึ่งจากเรียงความเรื่อง เจ้านายของผม   นายอวิรุทธิ์  มุรธา

    (ผู้เขียน: หากคุณต้องการอ่านแต่ข้อดีจริง ๆ กรุณากลับไปอ่านใหม่แล้วอย่าไปสนใจวงเล็บซะ.........ขอบคุณค่ะ.........)

     

     

                   

     

     

                    อยู่ไหน?  อยู่ไหนวะ? เสียงนุ่มน่าฟังพึมพำ

     

                    มือเรียวพลิกควานหาอะไรสักอย่างจนโต๊ะที่เคยเรียบร้อย  กระจัดกระจายเสียยิ่งกว่าเพิ่งผ่านสงครามโลก

     

                    ไม่มี  ที่นี่ก็ไม่มี

     

                    ร่างสูงสมส่วนถอนหายใจเฮือก  ผมดำสนิทระต้นคอสวย  ยุ่งเหยิง  เหงื่อเม็ดเล็ก ๆ เริ่มซึมทั่วใบหน้า  ทั้ง ๆ ที่อากาศไม่ได้ร้อน

     

                    มือทั้งสองข้างยกขึ้นขยี้ผมตนเองด้วยความหงุดหงิด  เสื้อเชิ้ตสีเข้มยับยู่ยี่นิด ๆ ถูกปลดกระดุมออกสองสามเม็ดจนเห็นแผงอกสีน้ำผึ้งอ่อนนวลเนียนอยู่รำไร

     

                    คุณทำอะไรน่ะ? เสียงทุ้มกังวานกระทบเข้าสู่โสตประสาท

     

                    ไม่มีตาหรือไง!  ก็เห็นอยู่ว่าคนกำลั....หา..ของ..อยู่..ครับ เสียงที่เคยกรรโชกอ่อยลงเมื่อนัยน์ตาคู่สวยเขียวปัดตวัดขึ้นสบกับนัยน์ตาคู่คมไร้อารมณ์ของเจ้าของคำถาม

     

                    ริมฝีปากสวยได้รูปแย้มรอยยิ้มแหยส่งให้ร่างสูงไปเป็นทัพหน้า  ก่อนจะรีบยืดตัวขึ้นจากโต๊ะรังหนูเมื่อนัยน์ตาคู่ดุปรายมองคล้ายรังเกียจ

     

                    มีอะไรหรือเปล่าครับ?  เจ้านาย ประโยคนั้นอ่อนอ่อยอย่างน่าขัน

     

                    ร่างสูงยังคงเงียบ  มีเพียงดวงตาสีถ่านคู่ดุเท่านั้นที่กวาดมองร่างเขาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าแฝงแววหยามเหยียดอย่างเห็นได้ชัด 

     

                    ร่างโปร่งกลืนน้ำลายฝืดเฝือก่อนแค่นยิ้มที่ดูยังไงก็คงคล้ายแยกเขี้ยว

     

                    ตูจะโดนไล่ออกไหมนี่!

     

                    เอาวะ!!  ถ้าโดนไล่ออกก็กลับไปเกาะพี่กินก็ได้ฟะ!!!

     

                    ทำไม...โทรศัพท์โต๊ะคุณสายไม่ว่าง? เสียงทุ้มเรียบ

     

                    เอ๋...?

     

                    หน่วยตาสวยล้อมกรอบด้วยขนตาเป็นแพหนากระพริบปริบ ๆ

     

                    อะไรนะ? โทร...ไม่ว่าง  

     

                    ไม่ใช่...ซองขาว...ไล่ออก..จ่ายเงินชดเชยสามเดือน....

     

                    ได้ยินที่ผมถามไหม  คุณอวิรุทธิ์

     

                    ร่างโปร่งเกือบสะดุ้งเมื่อร่างสูงถามซ้ำ  นัยน์ตาคู่โตกวัดมองไปที่โทรศัพท์ก่อนดวงหน้าสีน้ำผึ้งอ่อนนวลเนียนจะเริ่มซีด

     

              ขอโทษครับ  ผมวางหูไม่สนิท

     

                    นัยน์ตาคู่ดุของชนาธิปฉายแววตำหนิจนดวงหน้าสวยร้อนวูบด้วยความอับอาย

     

                    แล้วเอกสารร่วมทุนกับอเนกคุณกรุ๊ปที่ผมสั่งไว้  อยู่ไหน?

     

                    นัยน์ตาคู่สวยเบิกกว้าง  ริมฝีปากบางเผยอแล้วหุบฉับคล้ายปลาขาดน้ำ   

     

                    ฉิบหาย!!!  ลืม!!

     

                    อีก 15 นาที  เดี๋ยวผมเอาเข้าไปให้ครับ

     

              เมื่อวานผมสั่งให้คุณเอาเข้าไปวางตั้งแต่เช้าไม่ใช่หรือ?

     

              ใบหน้าคมสันได้รูปก้มนิด ๆ ลงมองนาฬิกาเรือนหรูที่ประดับอยู่บนข้อมือแกร่ง

     

                    แต่...นี่มันเกือบเที่ยงเข้าไปแล้ว

     

                    ขอโทษครับ  พอดี....

     

                    มือหนายกขึ้นโบกช้า ๆ เป็นเชิงให้หยุด

     

                    ไม่ต้องแก้ตัว  ผมไม่อยากฟัง ประโยคนั้นเย็นชา

     

                    ดวงหน้าสวยก้มต่ำ

     

                    ขอโทษครับ

     

                    แล้วผมก็ไม่ได้จ้างคุณมาขอโทษ  ผมจ้างคุณมาทำงาน!!”

     

                    ข... เสียงนุ่มถูกกลืนหายไปในลำคอ  หลังปะทะเข้ากับกระแสเย็นเยียบของผู้เป็นนาย

     

                    เอกสารของอเนกคุณกรุ๊ป  อย่าลืมเอาไปไว้ในรถผมพร้อมกับเอกสารของBOLด้วย  ผมจะเอากลับไปดูที่บ้าน

     

                    ครับ  เจ้านาย

     

                    ชนาธิปตวัดสายตามองเลขาหนุ่มหน้าสวย  ก่อนจะสาวเท้าหมุนตัวกลับเข้าห้องทำงานของตน

     

                    เหอะ!!  แล้วผมก็ไม่ได้จ้างคุณมาขอโทษ  ผมจ้างคุณมาทำงาน!!” เสียงนุ่มล้อเลียนเบา ๆ

     

                    จมูกโด่งได้รูปย่นน้อย ๆ พลางแลบลิ้นไล่แผ่นหลังเจ้านายจอมวางมาด  มือเรียวข้างหนึ่งยกขึ้นโบกบ๊ายบาย  ส่วนอีกข้างยกขึ้นโบกเป็นเชิงไล่  ก่อนดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง  ตะลึง  เมื่อร่างสูงหันหลังกลับมาอีกครั้ง!

     

                    ริมฝีปากบางไม่ได้เอ่ยตำหนิ  แต่นัยน์ตาคู่ดุคาดโทษจนอวิรุทธิ์ต้องฉีกยิ้ม(แยกเขี้ยว)แล้วแก้ตัวด้วยประโยคที่ห่วยแตกที่สุดในชีวิต

     

                    แหม....ร้อนแปลก ๆ นะครับวันนี้ ว่าแล้วมือเรียวทั้งสองข้างก็รีบโบกไปมาคล้ายกำลังพัดไล่ความร้อน

     

                    ท่าจะจริง....เสียงทุ้มเอ่ยเนิบ ๆ

     

                    นัยน์ตาสีถ่านตวัดไปยังเสื้อนอกและเนคไทของร่างโปร่งที่พาดอยู่บนพนักเก้าอี้ก่อนกราดกลับมายังเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มยับยู่ยี่ที่ปลดกระดุมลงจนเผยแผ่นอกเนียนละเอียด  สายตาคู่คมทอดมองอ้อยอิ่ง  

     

                    ดวงหน้าหวานร้อนวาบ  แผ่นอกคล้ายถูกเปลวไฟลามเลีย 

     

                    สภาพคุณถึงเป็นอย่างนี้  ผมคิดว่าคุณน่าจะแต่งตัวให้เรียบร้อยกว่านี้ก่อนลงไปทานข้าวจะดีกว่าไหม

     

                    ครับ  เจ้านาย ร่างโปร่งรับคำเสียงแผ่ว  นัยน์ตาคู่สวยหรุบต่ำ

                   

                    เรียวขายาวที่กำลังสาวเท้ากลับเข้าห้องทำงานชะงักอีกครั้ง  เมื่อได้ยินเสียงนุ่มหูเอ่ยเรียก

     

                    ใบหน้าหล่อราวจับวางหันกลับไป  คิ้วได้รูปเลิกขึ้นเป็นเชิงถาม 

     

                    แล้วเรื่องลาพักร้อนของผมล่ะครับ

     

                    ไม่อนุมัติ เสียงทุ้มตอบเร็วโดยไม่เสียเวลาคิด

     

                    ริมฝีปากสีสดเผยอค้าง

     

                    เสียใจด้วย  ใบลาของคุณผมฉีกทิ้งไปแล้ว!!”           

                   

     

     

     

                   

                    เสียงหัวเราะคิกคักของสามสาวที่นั่งร่วมโต๊ะ  ทำให้หน้าที่บูดสนิทอยู่แล้วบูดยิ่งขึ้นไปอีก

     

                    หัวเราะอะไรกันครับ? เสียงนุ่มไม่สบอารมณ์

     

                    ก็ขำเธอน่ะสิ  ส่งใบลาพักร้อนก็กลับถูกฉีกทิ้งซะอย่างนั้น สาวใหญ่ร่างสมส่วน  ดวงหน้าสวยตบแต่งประณีตจนดูสง่าสมวัยเป็นผู้เอ่ยตอบ

     

                    จริงด้วยค่ะพี่ลี  จ๋าคิดว่าคงไม่เคยมีใครหรอกค่ะที่จะเจอเรื่องแบบนี้แบบไอ้หวาน สาวร่างอวบขยับแว่นบนดั้งจมูกให้เข้าที่ก่อนจะกัดริมฝีปากกลั้นหัวเราะ

     

                    แหม...แต่หนูว่าที่คุณชนฉีกใบลาของพี่หวานทิ้งก็ดีออกจะตายไป สาวน้อยร่างเล็กในชุดนักศึกษาแสดงความเห็นบ้าง

     

               ร่างโปร่งถอนหายใจเฮือกแล้วแยกเขี้ยวใส่สาวน้อยนักศึกษาฝึกงาน

     

                     ดีตรงไหนวะสา  พี่กะจะกลับบ้านสักหน่อยก็กลับไม่ได้

     

                    ดีสิเว้ยไอ้หวาน  นาน ๆ ทีบริษัทถึงจะพาพนักงานไปเที่ยวพร้อมหน้าพร้อมตาขนาดนี้  แกไม่คิดจะไปสังสรรค์กับเพื่อน ๆ เลยหรือไง?  แกจะมาสำนึกรักบ้านเกิดอะไรเอาตอนนี้หา?จารุกรหรือเจ้จ๋าของอวิรุทธิ์โวย

     

                    อยากไปก็อยากไปอยู่หรอกเจ้  เพียงแต่ว่าช่วงนี้พี่มุกแกบ่นให้ผมกลับบ้านจนหูผมจะแตกอยู่แล้ว

     

                    ชายหนุ่มบ่นถึงคุณพี่ที่เคารพของตน

     

                    บริษัทเขาจะพาไปเที่ยวภาคใต้  แถว ๆ จังหวัดบ้านเกิดนายไม่ใช่หรือไง?

     

                    คิ้วเรียวขมวดมุ่น  พลางส่งสายตาเป็นคำถามให้จารุกร

     

                    เปล่า  ที่ที่เราจะไปนั่นล่ะบ้านเกิดผมเลย  แล้วไง?

     

                    แล้วไง?  โธ่! ไอ้หวาน!!  แกก็แอบแวบกลับบ้านไปสักหน่อยแล้วค่อยกลับเข้ามาสิฟะ  แค่แวบแป๊บเดียว  เจ้านายไม่มีทางจับได้หรอก  จารุกรอธิบายเป็นฉาก ๆ

     

              นั่นสิทำอย่างนั้นเถอะนะ   เพราะถ้าขาดหวานไปใครล่ะจะเป็นคนดูแลคุณชนวราลีสาวใหญ่ผู้จัดการฝ่ายบุคคลสนับสนุนจารุกร

     

              อ้อ  นี่พวกเจ้เจ้กะจะให้ผมไปเป็นเหยื่อให้เจ้านายโขกสับ  แล้วพวกตัวเองก็มองเจ้านายเป็นอาหารตาใช่ไหมล่ะ  แอบหลงเค้าแต่ไม่ค่อยลงทุนกันเลยนี่หว่า ร่างโปร่งบ่นน้อยใจ

     

                    ใคร้ใครหน้าไหนมันจะกล้ามาหาว่าพวกเจ้ไม่ลงทุนยะ จารุกรกรีดเสียงแหลมบาดแก้วหู

     

                    จริงด้วยค่ะ  พวกเราลงทุนมากที่สุดแล้วด้วยซ้ำไป  จริงไหมคะเจ้ลี นิสาสาวน้อยผู้อ่อนวัยที่สุดเอ่ยเสียงหวาน

     

              จริงสิ   พวกเราน่ะลงทุนแบบทุ่มให้ไปทั้งตัวเลยล่ะ สาวใหญ่รับมุกเสียงเรียบ

     

                    อวิรุทธิ์ส่ายหน้าหน่าย

     

                    เหอะ!! พวกเจ้ลงทุนเป็นอะไรมิทราบครับไอ้ทุ่มให้ทั้งตัวน่ะ  ผมเห็นพวกเจ้เอาแต่ส่งผมไปเป็นเหยื่อบูชายัญตลอด  ไม่เคยเห็นส่งตัวเองไปกันสักที

     

                    พวกเราส่งเธอไปน่ะถูกแล้ว  ก็ในเมื่อพวกเราลงทุนเป็นตัวเธอไง!  หวาน!!” วราลียิ้มหวานกระชากไส้ให้ชายหนุ่มเพียงหนึ่งเดียวที่ร่วมโต๊ะ

     

                    Oh! My Buddha! พระเจ้าจอร์จขายทองหยอดทองหยิบ  บอกผมทีเท๊อะสามสาวเธอกำลังล้อเล่น!!     

     

                   

     

     

     

                    คุณชนคะ  คุณชน

     

                    เจ้ลี  เจ้ช่างเป็นยอดหญิงซะจริง ๆ กล้าหาญชาญชัยซะเหลือเกินที่ไปเรียกเจ้านายไร้อารมณ์ตอนที่เขากำลังจะขึ้นรถอย่างนั้นน่ะ

     

                    ร่างสูงหันกลับมามองก่อนเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

     

              เออ  รู้ว่าหล่อทุกท่า  แต่ช่วยเพลาเพลาความหล่อหน่อยได้ไหม?  หมั่นไส้ครับเจ้านาย

     

                    มีอะไรหรือ?  คุณวราลี

     

                    คุณชนจะขับรถไปเองคนเดียวหรือคะ?

     

                    แล้วเจ้จะไปอยากรู้เรื่องของเขาทำไมน่ะ   เขาอยากขับรถไปก็เรื่องของเขา  แต่เรารีบเอากระเป๋าขึ้นไปนั่งตากแอร์บนรถทัวร์กันเถอะเจ้  ผมร้อน อวิรุทธิ์สะกิดสาวใหญ่พลางกระซิบ

     

                    คล้ายสาวใหญ่จะไม่ได้ยินเสียงกระซิบของหนุ่มรุ่นน้อง  สาวเจ้ายังคงยิ้มหวานส่งให้ชายหนุ่มร่างสูง

     

                    ครับ  ผมขับเอง

     

                    ต๊าย   นี่เลยค่ะ  เอานายหวานไปด้วยเลยค่ะ เสียงสาวใหญ่หวานเชื่อมแต่ร่างสูงโปร่งข้างกายเจ้าหล่อนแทบสะดุ้งเมื่อนัยน์ตาคมปลาบตวัดมาทางเขา

     

                    คุณอวิรุทธิ์  คงไม่ค่อยสะดวก?

     

                    โอ๊ย!! สะดวกค่ะ  สะดวกม๊ากมากด้วย 

     

                    เจ้ฮะ  ได้ข่าวว่าเจ้านายเขา(อาจจะ)ถามผม

     

                    ตะกี๊  เขายังกระซิบกับลีอยู่เลยค่ะว่าเป็นห่วงเจ้านาย  จะขับรถยังไงมืดมืดดึกดื่นคนเดียว  อย่างน้อยก็น่าจะมีใครไปเป็นเพื่อนบ้างน่ะค่ะ

     

              เอ่อ...ไม่ทราบว่าพูดตอนไหนครับเจ๊   ตะกี๊จำได้ว่าพูดแล้วเจ้จะไปอยากรู้เรื่องของเขาทำไมน่ะ   เขาอยากขับรถไปก็เรื่องของเขา  แต่เรารีบเอากระเป๋าขึ้นไปนั่งตากแอร์บนรถทัวร์กันเถอะเจ้  ผมร้อน อย่างนี้มากกว่านะฮะ

     

                    ถ้าไม่เป็นการลำบากคุณอวิรุทธิ์ก็เชิญครับ

     

                    ร่างสูงระหงกะพริบตาปริบ ๆ ยิ้มแหย  ทั้ง ๆ ที่ในใจคิดอยากตะโกน

     

                    ลำบากครับ  ลำบาก(ใจ)มาก ๆ เลยด้วย!

     

                    แต่สำหรับวราลีนั้นเพียงแค่ได้ยินประโยคนั้นของคุณเจ้านาย  ร่างสมส่วนของเจ้แกก็หันหลังเดินฉับฉับฉับขึ้นรถทัวร์โดยไม่หันมาสนใจคนที่กำลังยืนกระพริบตาปริบ ๆ เลยแม้แต่น้อย

     

                    ประตูรถทัวร์ปิดฉับด้วยฝีมือน้องสา

     

                    แถมท้ายด้วยเจ้จ๋า  ที่พูดอะไรบางอย่างพะงาบพะงาบจับความแล้วคลับคล้ายคลับคลาว่า ดูแลคุณชนสุดหล่อของพวกฉันให้ดีนะยะไอ้หวาน อะไรประมาณนั้น

     

                    ท่าทางที่พวกคุณเธอบอกว่าทุ่ม(ผม)ไปทั้งตัว  พวกคุณเธอคงพูดจริงและทำจริง!!

     

                    ลาก่อน...ทะเลแสนงาม  แสนง้าม  แสนงาม  ฟ้าสีครามสดใส  สดใส๊  สดใส..เสียงนุ่มพึมพำเบาในลำคอท้าย ๆ ประโยคเริ่มเป็นเพลง  นัยน์ตาคู่สวยมองตามหลังรถทัวร์รับพนักงานของบริษัทตาละห้อย

     

                    อ้าว! คุณ  นั่นจะยืนบื้ออีกนานไหมน่ะ  รีบ ๆ ขึ้นรถเร็ว ๆ เข้าสิ

     

                    ใครว่ายืนบื้อ  ยืนหล่อต่างหาก

     

                    ร่างโปร่งเถียงกลับในใจ  แต่ก็ต้องยอมลากกระเป๋าตรงไปยังรถยุโรปสีดำมันปลาบเมื่อเจอกับสายตาคู่ดุ

     

                    ถ้าอยากจะชิ่ง  ตูปวดท้อง  เป็นไข้  ไอเป็นเลือด ตอนนี้ยังทันไหมวะครับ

     

                    ทั้ง ๆ ที่รถคันนั้นยังไม่เต็มแท้ ๆ ทำไม๊  ทำไม  พวกเจ้เจ้ทั้งหลายถึงเฉดหัวผมมานั่งกับเจ้านายผีดิบวะเนี่ย....ทำไมถึงทำกับผมด้ายยยยยย

     

     

     

     

     

                    บรรยากาศในรถเงียบสนิท  เงียบ.....จนร่างโปร่งเกร็งตัวลีบ  และพยายามขยับตัวชิดประตูให้ห่างจากตัวคนขับมากที่สุด

     

                    นัยน์ตาคู่สวยกลอกไปมา  ใช้ความคิด

     

                    เอ่อ....เจ้านายครับ

     

                    นัยน์ตาคู่คมตวัดมองเพียงนิดแต่เล่นเอาร่างโปร่งเกือบสะดุ้ง

     

                    ไปโกรธอะไรมาอีกล่ะนั่น?

     

                    มีอะไร? เสียงทุ้มเรียบสนิท

     

                    ไม่มีอะไรครับ เสียงนุ่มสงบเสงี่ยม

     

                    มีอะไรก็รีบ ๆ พูดมา  มัวแต่อ้ำอึ้ง  รำคาญ

                   

                    นัยน์ตาคู่โตแอบเหลือบใบหน้าขรึมของเจ้านายพลางคลี่ยิ้มแหยก่อนถามเสียงแผ่ว

     

                    ผมไม่เข้าใจ  ทีคนอื่นเจ้านายยังให้เขาลาพักร้อนกันได้  แต่ทำไมผม...

     

                    เขาที่ว่าน่ะใครบ้าง? เสียงทุ้มขัด รำคาญ

     

                    ก็...คุณสมชาติ คุณธารินี  ฝ่ายบัญชี  คุณจันทร ฝ่ายบุคคล  คุณยลฤดี  เลขาท่านรองประธาน  คุณทำนุ  ฝ่ายธุรการ คุณ.... เสียงที่กำลังแจกแจงอยู่แจ้วแจ้วชะงักกึกเมื่อมือหนาข้างหนึ่งผละออกจากพวงมาลัยยกขึ้นเป็นเชิงให้หยุด

     

                    โอเค  โอเค  ผมรู้แล้วว่าเขาของคุณน่ะหลายคน

     

                    ก็ใช่น่ะสิ  มากกว่าครึ่งหนึ่งของบริษัทได้เลยมั้ง 

     

                    คิดดูสิ  คิดดู  ถ้าคนทั้งบริษัทหลักมารถทัวร์แค่สี่ซ้าห้าคันมันคงจะพอหรอกครับท่าน    

     

                    แต่ใครเขาจะลาก็ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับคุณนี่

     

                    อ้าว...เจ้านายครับพูดอย่างนี้มีเฮนะครับท่าน

     

                    คุณเป็นเลขา  ผมเป็นเจ้านาย  ผมไปไหนคุณก็ต้องไปด้วย

     

                    (ท่าน)เจ้านายครับ  ไปเที่ยวนะครับไม่ได้ไปทำงาน อวิรุทธ์อดประชดไม่ได้

     

                    แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าผมไม่ได้ไปทำงาน

     

                    สาบานซิ  พี่ท่านพูดจริง!!!

                   

                    คิ้วเรียวขมวดจนแทบเป็นปม

     

                    ก็ในตารางนัดของคุณมันว่างอาทิตย์นึงนี่ครับ

     

                    ผมเพิ่งรับนัดเองล่ะ ชนาธิปพูดหน้าตาเฉย 

     

              ร่างโปร่งเอี้ยวไปมองร่างสูงจนคอแทบเคล็ด  หน่วยตาโตเบิกกว้างก่อนกะพริบปริบ ๆ

     

                    ประทานโทษครับเจ้านาย.....แล้วท่านจะจ้างผมไว้ทำเพื่อ?

                   

     

                   

     

                    แสงจัดจ้าน่ารำคาญตัดผ่านมาในความมืด  ส่งผลให้เปลือกตาบางขยับขยุกขยิก  ก่อนเปิดขึ้นเกือบเป็นเวลาเดียวกันกับที่รถจอดสนิท

     

                    มือเรียวยกขึ้นขยี้ตาน้อย ๆ เป็นการปรับสายตาและไล่ความง่วงงุน

     

                    ถึงแล้วหรือครับ? เสียงนุ่มติดงัวเงีย

     

                    ยัง  ผมแวะซื้อของ  จะเอาอะไรไหม? เสียงทุ้มนุ่มเจือเอ็นดู

                   

                    อวิรุทธิ์เลิกคิ้ว  ก่อนหันไปสำรวจสีหน้าคนข้างกายด้วยความประหลาดใจ 

     

                    ใบหน้าคมคายยังคง  เฉยชา  เรียบสนิท  นัยน์ตาคู่คมที่มองมายังเขาฉายแววรำคาญ

     

                    ผมถามว่าจะเอาอะไรไหม เสียงทุ้มเรียบสนิท

     

                    กาแฟสักกระป๋องแล้วก็นมจืดอีกสักกล่องก็ดีครับ

     

                    นัยน์ตาคู่สวยมองตามหลังไหล่กว้างของร่างสูง  ก่อนส่ายหน้าช้า ๆ

     

                    แวบหนึ่งที่คิดว่าได้ยินน้ำเสียงอบอุ่นของร่างสูง....สงสัย....

     

                    หูฝาด!!!              

     

     

     

     

     

                     ร่างโปร่งในเสื้อกล้ามสีสะอาดกับกางเกงเลสีส้มสด  ขยับมือยืดเส้นสายพลางสูดลมหายใจรับอากาศบริสุทธิ์เจือกลิ่นทะเลเข้าเต็มปอด  ร่างโปร่งอิงสะโพกเข้ากับขอบระเบียงไม้  นัยน์ตาคู่สวยทอดมองดวงอาทิตย์ยามเพิ่งโผล่พ้นขอบน้ำ  ริมปากสีสดแตะแต้มด้วยรอยยิ้มละไม   แต่แล้วเจ้าตัวก็สะดุดเข้ากับร่างสูงใหญ่ที่กำลังเดินตัดกลับมาจากชายหาด

     

                    ไม่รู้ว่าผีป่า  ซาตาน  หรือผีพราย  ผีทะเลตนใดดลใจ

     

                    เจ้านายครับ!!”  เสียงตะโกนเรียกเจื้อยแจ้ว  แถมยังมีการยกมือบางโบกทักทายอีกต่างหาก

     

                    ชนาธิปชะงัก  ใบหน้าคมคายเงยขึ้นมองคนที่กำลังฉีกยิ้มอยู่บนชานไม้กว้างบนชั้นสอง 

     

                    รอยยิ้มที่เจิดจ้าราวแสงอรุณทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มตอบ  แล้วจึงรีบสาวเท้าเร็วขึ้น

     

                    อวิรุทธิ์กระพริบตาปริบ ๆ  แก้มสีน้ำผึ้งนวลเนียนแต่งแต้มด้วยสีแดงระเรื่อ  หัวใจเต้นแรงราวจะทะลุออกนอกอก

     

                    เมื่อกี๊.....เจ้านาย......ยิ้ม!!!

     

                    มือบางยกขึ้นทาบสองข้างแก้มร้อนราวมีไฟนาบ  นัยน์ตาคู่โตเบิกกว้าง  ริมฝีปากได้รูปเผยอค้าง

     

                    ยิ้มสวยเป็นบ้า!!

     

                    โว้ยยยย!!  อยากจะกรี๊ดดด(?)

     

                    หวาน  ลงมาข้างล่างหน่อย เสียงทุ้มตะโกนเรียกจากชั้นล่าง  ร่างโปร่งสะดุ้งเฮือก  รีบวิ่งตาลีตาลานลงไปหาเจ้าของเสียง

     

                    เสียงวิ่งลงบันไดตึงตังทำให้ชนาธิปต้องหันไปมอง

     

                    อย่าวิ่ง  เดี๋ยวตกบันได เสียงเข้มดุ 

     

                    ครับ  ครับ น้ำเสียงอ่อนอ่อยแต่เจ้าตัวก็ยังคงวิ่งอยู่ดี

     

                    ร่างสูงใหญ่สวมเสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายสีอ่อนเปิดหน้าอกเต็มด้วยมัดกล้ามหรากับกางเกงขาสั้นสีขาวทำให้ร่างบางชะงักกึก  คิ้วสวยขมวดมุ่น

     

                    ที่เขาว่ากันว่าคนจะหล่อใส่อะไรมันก็หล่อนี่เห็นจะจริงแฮะ

     

                    มีอะไรติดหน้าผม? เสียงทุ้มฉงน

     

                    นัยน์ตาคู่สวยกะพริบปริบ ๆ ก่อนส่ายหน้าหวือ

     

                    เปล่า  นั่นหิ้วถุงอะไรมาครับ ประโยคนั้นเปลี่ยนเรื่อง

     

                    ปลาหมึก  ปู  แล้วก็กุ้งน่ะ  ชนาธิปพูดพลางชูถุงพลาสติกที่หิ้วขึ้นมาให้ดู ลองเดินไปดูแถวหาดด้านโน้นเห็นสดดีเลยซื้อกลับมา  ว่าแต่...ทำกับข้าวเป็นไหม?

     

              ร่างบางยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้ม

     

                    กล้วย ๆ ครับเจ้านาย  ซื้อมาเยอะขนาดนี้จะกินหมดหรือครับ  เราอยู่ที่นี่แป๊บเดียวเดี๋ยวก็ต้องไปสมทบกับคนอื่นที่โรงแรมแล้วด้วย

     

                    ทำไมคุณต้องเรียกผมว่าเจ้านายด้วย? ร่างสูงไม่ตอบแต่เสถามไปอีกเรื่อง  พลางเดินเข้าไปยังส่วนที่เป็นห้องครัว

     

                    อวิรุทธิ์ขมวดคิ้วสาวเท้าเดินตามร่างสูง  อ้าว  ก็เจ้านายเป็นเจ้านายผมก็ต้องเรียกว่าเจ้านายสิครับ

     

                    เรามาเที่ยว  ไม่ได้มาทำงาน

     

                    หา? คนตัวเล็กกว่าเอ๋อ

     

                    พี่ท่านว่ายังไงนะ? 

     

                    แล้วมิทราบว่าท่านใดขอรับที่เป็นคนบอกกับกระผมว่าแล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าผมไม่ได้ไปทำงานน่ะครับ

     

                    ผมบอกว่าเรามาเที่ยวดังนั้นไม่ต้องเรียกผมว่าเจ้านาย  you see? ร่างหนาถามพลางเลิกคิ้ว

     

                    ร่างโปร่งพยักหน้ารับหงึกราวหลง(?)รัศมีความหล่อ เยส  ไอซี  เอ๊ยย!!  ไอ้หวานเรียกสติกลับด่วน!!

     

                    แล้วจะให้ผมเรียกว่าอะไร  เรียกคุณชนหรือครับ?

     

              นัยน์ตาสีถ่านทอดสบนัยน์ตาคู่สวยที่ยังคงฉายแววเอ๋อ

     

                    ผมอายุมากกว่าก็จริงแต่ผมไม่ถือดังนั้นคุณเรียกผมว่าชน  แล้วแทนตัวคุณว่าหวาน ร่างสูงยักไหล่เป็นเชิง ก็แค่เนี้ย  ยากตรงไหน

     

                    อวิรุทธิ์เห็นแล้วอยากจะร้องไห้

     

                    ยากสิครับ  ยากตรงที่ต้องทำ(ใจ)!!

     

                    จะให้ผม...เอ๊ย!...หวานเรียกเจ้านายว่าชนห้วน ๆ เลยเนี่ยนะ ร่างบางรีบเปลี่ยนสรรพนามฉับเมื่อนัยน์ตาคู่คมฉายแววดุ   

     

              ก็แหงสิ  ลำบากตรงไหน

     

                    ลำบากสิครับ  ลำบากใจ!!

     

                    อวิรุทธ์เกือบส่ายหัวเดียะแล้วร้องไม่หนูไม่เอ๊า  หนูไม่เรียกแล้วเชียว  ถ้าไม่ติดนัยน์ตาคู่ดุมีแววเว้าวอนแปลก ๆ จนร่างโปร่งใจอ่อน

     

                    ครับ  ครับ เรียกก็เรียก

     

                    แล้วเจ้าน...ชนอยากกินอะไร?  คำที่หลุดออกมาถูกกลืนหายเข้าไปในคอฉับพลัน  นัยน์ตาคู่คมฉายแววพึงใจ

             

              From the moment you spoke my name. I knew everything had changed because of you I felt my life would be complete.

     

                    ดวงหน้าราวรูปสลักหยักยิ้มอ่อนโยน  จนร่างบางแทบยกมือขยี้ตา

     

                    โอ้ววว  เจิดจ้า!!!!

     

     

                    อะไรก็ได้  อ้อ...แล้วไม่ต้องกลัวหรอกนะว่าจะกินไม่หมด  เราจะพักกันที่นี่ล่ะไม่ต้องไปอยู่โรงแรมเหมือนคนอื่นเขา

     

                    พักที่นี่?

     

                    ใช่  บ้านผมเอง  ซื้อไว้ไม่ค่อยได้มามีแต่คนดูแลที่จ้างไว้เขาจะมาช่วยทำความสะอาดให้อาทิตย์ละครั้ง 

     

                    แล้วไม่ต้องไปร่วมกิจกรรมกับคนอื่นหรือครับ?

     

                    ไป  แต่เราค่อยไปกันบ่าย ๆ     น้ำร้อนที่ผมเสียบไว้เดือดพอดี  คุณเอากาแฟไหม? เสียงทุ้มถามพลางเดินไปหยิบแก้วกาแฟออกจากตู้

     

                    ผม...หวานชงให้ ร่างโปร่งเดินตาม  คว้าแก้วกาแฟจากร่างสูงแต่ก็ต้องวืดเมื่อร่างสูงโยกหลบ

     

                    ผมชงเอง ผมชงอร่อยนา ร่างสูงขยิบตา  น่ารักประหลาด ๆ จนร่างบางเอ๋อกินอีกรอบ

     

                    วันนี้เจ้านายของเขากินยาไม่เขย่าขวดหรือไง  ทำไมมาดเก่าหายไปเกลี้ยงเหมือน delete งี้อ้ะ  ดูเป็นคนละคนจนเขาตามไม่ทัน!!

     

                    คุณลองดูหน่อยข้าวสุกหรือยัง  เมื่อเช้าผมหุงไว้  ถ้าสุกแล้วผัดข้าวผัดกุ้งให้หน่อย  ผมหิวแล้ว

     

                    เอ....แล้วตะกี๊ใครวะที่บอกว่ากินอะไรก็ได้?

     

                    ร่างบางแคะหูด้วยท่าทางประหลาด ๆ

     

                    นี่เจ้านายพูดมากผิดปกติ

     

                    หรือ...ประสาทเราหลอนไปเองฟะ? 

                   

                   

     *****************************

                   รู้สึกแต่งไปแต่งมาคาแรคฯยิ่งหลุดกระจุย  กรรม!! 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×