รักแรกและรักสุดท้ายของชีวิต - รักแรกและรักสุดท้ายของชีวิต นิยาย รักแรกและรักสุดท้ายของชีวิต : Dek-D.com - Writer

    รักแรกและรักสุดท้ายของชีวิต

    ยูมิเดินตรงมายังซอยมืดๆแคบๆตอนกลางคืนอย่างเช่นที่เธอมาทุกวันแต่วันนี้เธฮพบผู้ชายคนนึงยืนอยู่ตรงหน้าถังขยะ......

    ผู้เข้าชมรวม

    135

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    135

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  23 พ.ค. 50 / 19:32 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      นี่ถ้านายจะทิ้งหมวกนั้นแล้วฉันขอได้ไหมฉันพูดกับผู้ชายคนหนึ่งที่ทำหน้าเซ็งกับชีวิตกำลังจะทิ้งหมวกลงถังขยะ

      หมวกนี่นะเหรอเธอจะเอาไปทำไรนายคนนั้นตอบกับมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่บ่งบอกถึงความรู้สึกอะไร

      ก็เอามาใส่ไงแล้วฉันก็เดินไปหานายนั้นแล้วหยิบหมวกมาใส่

      ทำไมนายถึงทิ้งมันล่ะน่าสงสารมันออกดูสิหมวกที่นายกำลังจะทิ้งมันร้องไห้อยู่บนหัวฉันเนี้ยนายไม่รู้เลยหรอฉันถามนายนั้นกับไปนายคนนั้นทำหน้างงๆก่อนจะตอบกับมา

      ก็เพราะว่ามันเก่าแล้วไงละเพียงเพราะเหตุผลแค่เนี้ยนะหรอความรู้สึกที่ซื้อมันมาตอนแรกทำไมมันไม่เหมือนความรู้สึกเดียวกับตอนที่จะทิ้งเลยนะ

      เฮ้อนายนี่ไม่ไหวเอาซะเลยฉันพูดแค่นั้นแล้วก็นั่งลงข้างถังขยะถ้าถามว่าฉันเหม็นไหมนะเหรอฉันก็จะตอบกับไปว่าไม่เหม็นเลยเพราะว่าถ้าเราไม่ไปดมมันซะอย่างแล้วมันจะเหม็นได้ไงจริงไหมล่ะ

      เธอไม่กลัวเหรอมาเดินตอนกลางคืนในซอยเปลี่ยวๆอย่างนี้นายคนนั้นถามฉันแล้วก็นั่งลงข้างๆฉัน

      ไม่รู้สิฉันตอบแค่นั้นเพราะไม่รู้จะตอบอะไรความจริงฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันเดินมาที่ซอยเปลี่ยวๆแคบๆตอนกลางคืนทำไมสงสัยเพราะฉันมาที่นี่จนชินแล้วมั้ง

      แล้วพ่อแม่เธอไม่ว่าหรอ

      ฉันไม่มีพ่อแม่หรอกความจริงมีก็เหมือนไม่มีนั้นแหละฉันตอบคำถามนายนั้นอย่างว่าง่ายเหมือนกับว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อน

      หรอนายนั่นพูดแค่นั้นแล้วก็เงียบไป

      เธอ/นายชื่ออะไรเราสองคนพูดพร้อมกันขึ้นมา

      ยูมิ/จินเราพูดพร้อมกันอีกเป็นครั้งที่ 2

      5555555เราสองคนหัวเราะพร้อมกันอีก

      หน้าเธอตรงแก้มข้างซ้ายมันเป็นอะไรอ่ะ

      อ๋อ รูปดาวนะฉันใช่สีเมจิกสีดำแต้มเอาฉันบอกจินไปหลายคนอาจคิดว่าฉันแปลกที่อยู่ดีไม่ว่าดีก็เอาสีเมจิกแต้มหน้าตัวเองซะอย่างงั้นแต่ฉันว่าฉันออกจะชอบเพราะรูปดาวนะมันสวยดี ---o---และแล้วลมหนาวก็เริ่มพัดผ่านซอยนี้มันเป็นความรู้สึกที่หนาวจับใจเลยล่ะบางคนอาจจะไม่ชอบที่ลมหนาวพัดผ่านตัวเองแต่ฉันกับชอบเพราะมันให้ความรู้สึกเหงายังไงก็ไม่รู้

      นี่นายถ้าไม่รังเกียจนายจะใช่ผ้าพันคอกับฉันก็ได้นะฉันยินดีแบ่งให้ฉันหยิบผ้าพันคอออกมาจากกระเป๋าแล้วพันคอฉันก่อนที่จะส่งยื่นให้จินถ้าใครหลายๆคนคิดว่าผ้าพันคอสั้นนิดเดียวจะใช่ด้วยกันสองคนได้ยังไงแต่ว่าคิดผิดแล้วละเพราะผ้าพันคอของฉันนะยาวมากเลยละไม่รู้ว่าฉันยัดใส่กระเป๋าเข้าไปได้ยังไง

      อือขอบใจนะ

      แล้วนายออกมาข้างนอกตอนกลางคืนเพียงเพื่อจะทิ้งหมวกใบนี้อย่างเดียวหรอฉันพูดพลางชี้ไปที่หมวกใบที่ฉันสวมอยู่

      ไม่ใช่แค่นี้หรอกฉันออกมาเพื่อหนีความวุ่นวายในบ้านต่างหากล่ะจินตอบฉันฉันเงียบไปซักพักนึงก่อนที่จะพูดขึ้นมาอีก

      นายก็เหมือนฉันนั้นแหละแล้วทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งมีเพียงแต่ลมหนาวเท่านั้นที่พัดเข้ามาในซอย

      นี้ตลอดแล้วจู่ๆจินก็เอาหัวมาซบไหล่ฉันแล้วก็หลับไปส่วนฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะฉันมีความรู้สึกว่าง่วงนอนเต็มที่แล้วแล้วก็เผลอหลับไป---o----

      นี่พวกเธอสองคนตื่นกันได้แล้วไปนอนที่อื่นไปฉันลืมตาตื่นขึ้นมาจินก็เหมือนกัน

      จะไปนอนก็ไปที่อื่นฉันจะกวดขยะไปไม่รู้ไปอารมณ์เสียมาจากไหนตวาดได้ตวาดดี

      หว่าหิมะตกอีกแล้วจินบ่นออกมา

      นายไม่ชอบให้หิมะตกเหรอ

      เธอคงไม่อยากเดินตากหิมะไปหรอกจินบ่นต่ออีกแล้วฉันก็หยิบร่มออกมาจากกระเป๋า

      อ่ะทีนี่ก็ไม่ต้องเดินตากหิมะอีกแล้วฉันพูดพลางกลางร่ม

      เธอนี่มีกระเป๋าโดเรมอนหรือไงเนี้ยถึงได้มีซะทุกสิ่งทุกอย่างฉันยิ้มๆแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรแล้วก็เปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่น

      แล้วนายจะไปไหนอ่ะฉันถามจินขึ้นมาเพราะไม่อยากเดินไปแบบไม่มีจุดหมายปลายทาง

      ไปบ้านเธอก็แล้วกัน

      เอ๊ะบ้านฉันหรอแน่ใจนะทำใจให้ดีดีก็แล้วกันจินพยักหน้าแล้วเราก็เดินกันต่อไปฉันไม่อยากจะพูดถึงสภาพบ้านฉันนักหรอกนะเพราะบ้านฉันนั้นค่อนข้างจนถึงจนมากเลยละและแล้วเราสองคนก็เดินมาถึงบ้านฉันขนาดทางเข้าหมู่บ้านฉันยังไม่ค่อยอำนวยเลยมีแต่บรรยากาศครึ้มๆ

      ที่นี้บ้านเธอหรอ

      เป็นไงต่างจากที่คิดไว้เยอะเลยใช่ไหมเอาล่ะฉันว่านายควรกลับบ้านของตัวเองได้แล้วนะตอนบ่ายฉันมีนัด

      อือฉันก็เหมือนกัน ลาก่อนนะบายเป็นอะไรก็ไม่รู้ฉันไม่ค่อยชอบคำว่าลาก่อนเลยมันให้ความหมายที่ว่าเหมือนเราจะไม่ได้พบกันอีก

      ตอนบ่าย

      ยูมิเสียงผู้ชายคนนึงเรียกฉันจากทางด้านหลังพอฉันหันไปก็พบกับจินจินดูแปลกตาไปมากจินดูซูบๆลงมากหลังจากตอนที่เราเจอกันแต่ที่น่าแปลกอีกอย่างนึงก็คือตรงที่ว่าเราสองคนบังเอิญกันจังเลยทำไมเราถึงได้พบกันอีกนะหรือว่านี่คือ....พรหมลิขิต แต่...มันคงอยู่กับฉันได้อีกไม่นาน

      อ้าวจินนายมาทำอะไรที่นี้แน่นอนว่าที่ฉันมาธุระก็คือที่โรงพยาบาล

      มาตรวจดูอะไรนิดหน่อยนะแล้วเธออ่ะ

      เหมือนกันฉันตอบได้แค่นั้นแล้วจินก็เดินไปไหนก็ไม่รู้แล้วฉันก็เดินแยกไปที่ที่ฉันมีธุระมันก็คือห้องของผู้ป่วยที่ป่วยเป็นเนื้องอกในสมองอย่าง......ฉันไงล่ะ

      ยูมิเสียงจินนั้นเองเสียงจินในตอนนี้ดูแผ่วเบามากมากเหมือนกับคนไม่มีแรง

      เธอกำลังจะเข้าไปในห้องนั้นหรอฉันได้แต่พยักหน้า

      ตอน 2 ทุ่มเจอกันที่ใต้ต้นไม้หน้าอาคารได้ไหมฉันอยากเจอเธอนะฉันก็พยักหน้าอีก หรือว่าความบังเอิญนี่จะทำให้เราพบกัน

      2 ทุ่มที่ใต้ต้นไม้หน้าอาคาร

      มานานแล้วหรอจินเดินเข้ามาหาฉันซึ่งมาก่อนหน้านี้แล้ว

      ป่าวมาพึ่งมาเมื่อตะกี้นี้เอง อะผ้าพันคอฉันส่งผ้าพันคอส่วนที่เหมือนให้จนส่วนจินก็รับผ้าพันคอมาพันไว้อย่างเข้าใจ

      เธอเป็นคนไข้โรงพยาบาลนี้หรอใช่แล้วล่ะตอนนี้ฉันสวมชุดคนไข้ของโรงพยาบาลนี้เหมือนกับ....จินนั้นแหละ

      เธอป่วยเป็นอะไรคำถามของจินทำให้ฉันเงียบไปซักพักก่อนตัดสินใจตอบ

      เนื้องอกในสมองฉันคงอยู่ได้อีกไม่นานหรอกเพราะว่าฉันที่บ้านฉันไม่มีเงินพอที่จะจ่ายค่าผ้าตัดให้ฉันก็เลยได้แต่รอความตายแล้วนายล่ะป่วยเป็นไร

      เหมือนเธอแต่ฉันปฏิเสธที่จะไม่ผ่าตัดเพราะอะไรนั้นฉันก็ไม่รู้เหมือนกันฉันไม่ถามว่าทำไมเพราะจินคงไม่อยากจะพูดอะไรมากนักและฉันพอจะเดาได้ว่าบ้านจินคงจะรวยพอดูเหมือนกันดูจากการแต่งกายของจินแล้วมันทำให้ฉันคิดอย่างนั้น

      งั้นเราสองคนก็คงจะอยู่ได้อีกไม่นาน

      2 อาทิตย์ต่อมา ตอน 2ทุ่มใต้ต้นไม้หน้าอาคาร

      ถ้านายตายไปแล้วนายจะอยากเป็นอะไรฉันถามจินขึ้นมาตอนนี้เราสองคนอยู่ในสภาพเดียวกันคือต้องสวมหมวกตลอดเวลาเพราะเป็นผลค้างเคียงของยาละมั้งทำให้เราสองคนผมร่วง

      “…..”จินไม่ตอบอะไร

      ฉันนะถ้าตายไปแล้วฉันอยากจะเกิดเป็นดาวทำไมนะเหรอก็เพราะว่าฉันจะได้ส่องแสงให้กับคนที่ฉันรักตลอดไปไงแล้วฉันก็หันหน้าไปหอมแก้มจินทีนึงเพราะอะไรไม่รู้เหมือนกันมันเหมือนกับว่าฉันกับจินเคยรู้จักกันมาก่อนแล้วฉันก็รู้สึกว่าฉันตกหลุมรักจนเข้าแล้วละอิอิ

      ฉันรักนายนะแม้เราจะรู้จักกันตอนบั้นปลายชีวิตก็ตามแต่ฉันก็มีความรู้สึกว่า ครั้งหนึ่งนานมาแล้วเราเคยรักกันมาก่อน

      วันสุดท้ายของชีวิต ตอน 2ทุ่มใต้ต้นไม้หน้าอาคาร

      จิน วันนี้คงเป็นวันสุดท้ายที่เราจะพบกันแล้วละฉันเริ่มพูดขึ้นมาลมหนาวพัดผ่านเราตลอดเวลาแต่แค่มีผ้าพันคอนี้ที่พันรอบคอฉันกับจินแล้วก็จินแค่นี้มันก็อุ่นมากสำหรับฉันแล้วละ

      ยูมิ ฉันรักเธอนะแม้ว่าเราจะรู้จักกันเพียงไม่นานแต่ก็เหมือนกับว่าเราเคยรู้จักกันมานานแล้วฉันรักเธอนะยูมิจินพูดจบแล้วก็ซบไหล่ฉัน------o-------เราเงียบกันอยู่สักพักจินก็เริ่มพูดขึ้นมาว่า

      ยูมิเราจะตายพร้อมกันใช่ไหม

      อย่าพูดอย่างนั้นเลยฉันว่านายควรจะพูดว่าฉันจะจากไปพร้อมกับเธออย่างสงบใช่ไหมมากกว่า

      ยูมิ/จินเราสองคนต่างเรียกชื่อของกันและกัน

      ฉันรักเธอนะ/ฉันรักนายนะ”------o------ได้เท่านั้นแหละความเงียบก็เริ่มคืบคลานเข้ามาเหลือแต่เสียงของลมหนาวเท่านั้นที่พัดผ่านร่างทั้งสองซึ่งเข้าทั้งสองได้จากไปพ้อมกันอย่างสงบ

      นานมาแล้ว

      ยูมิฉันให้เด็กผู้ชายคนนึงกำลังยื่นแหวนให้เด็กหญิง

      ขอบใจนะจินแต่แล้วแหวนกับหล่นกลิ้งไปกลางถนนทำให้เด็กหญิงคนนั้นต้องเดินไปเก็บโดยไม่รู้เลยว่ารถที่วิ่งเร็วคันนึงกำลังพุ่งมาหาเธอ

      ยูมิระวังเด็กผู้ชายวิ่งเข้าไปหาเด็กหญิงแต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรทำให้ทั้งเด็กหญิงและเด็กชายต่างก็ถูกรถชน

      คุณหมอคะเด็กสองคนนั้นเป็นยังไงบ้างค่ะ

      ดูเหมือนว่าเด็กสองคนนั้นจะสูญเสียความทรงจำทั้งคู่เลยนะครับ........

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×