รักแรกและรักสุดท้ายของชีวิต
ยูมิเดินตรงมายังซอยมืดๆแคบๆตอนกลางคืนอย่างเช่นที่เธอมาทุกวันแต่วันนี้เธฮพบผู้ชายคนนึงยืนอยู่ตรงหน้าถังขยะ......
ผู้เข้าชมรวม
135
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“นี่ถ้านายจะทิ้งหมวกนั้นแล้วฉันขอได้ไหม”ฉันพูดกับผู้ชายคนหนึ่งที่ทำหน้าเซ็งกับชีวิตกำลังจะทิ้งหมวกลงถังขยะ
“หมวกนี่นะเหรอเธอจะเอาไปทำไร”นายคนนั้นตอบกับมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่บ่งบอกถึงความรู้สึกอะไร
“ก็เอามาใส่ไง”แล้วฉันก็เดินไปหานายนั้นแล้วหยิบหมวกมาใส่
“ทำไมนายถึงทิ้งมันล่ะน่าสงสารมันออกดูสิหมวกที่นายกำลังจะทิ้งมันร้องไห้อยู่บนหัวฉันเนี้ยนายไม่รู้เลยหรอ”ฉันถามนายนั้นกับไปนายคนนั้นทำหน้างงๆก่อนจะตอบกับมา
“ก็เพราะว่ามันเก่าแล้วไงละ”เพียงเพราะเหตุผลแค่เนี้ยนะหรอความรู้สึกที่ซื้อมันมาตอนแรกทำไมมันไม่เหมือนความรู้สึกเดียวกับตอนที่จะทิ้งเลยนะ
“เฮ้อนายนี่ไม่ไหวเอาซะเลย”ฉันพูดแค่นั้นแล้วก็นั่งลงข้างถังขยะถ้าถามว่าฉันเหม็นไหมนะเหรอฉันก็จะตอบกับไปว่าไม่เหม็นเลยเพราะว่าถ้าเราไม่ไปดมมันซะอย่างแล้วมันจะเหม็นได้ไงจริงไหมล่ะ
“เธอไม่กลัวเหรอมาเดินตอนกลางคืนในซอยเปลี่ยวๆอย่างนี้”นายคนนั้นถามฉันแล้วก็นั่งลงข้างๆฉัน
“ไม่รู้สิ”ฉันตอบแค่นั้นเพราะไม่รู้จะตอบอะไรความจริงฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันเดินมาที่ซอยเปลี่ยวๆแคบๆตอนกลางคืนทำไมสงสัยเพราะฉันมาที่นี่จนชินแล้วมั้ง
“แล้วพ่อแม่เธอไม่ว่าหรอ”
“ฉันไม่มีพ่อแม่หรอกความจริงมีก็เหมือนไม่มีนั้นแหละ”ฉันตอบคำถามนายนั้นอย่างว่าง่ายเหมือนกับว่าเราเคยรู้จักกันมาก่อน
“หรอ”นายนั่นพูดแค่นั้นแล้วก็เงียบไป
“เธอ/นายชื่ออะไร”เราสองคนพูดพร้อมกันขึ้นมา
“ยูมิ/จิน”เราพูดพร้อมกันอีกเป็นครั้งที่ 2
“5555555”เราสองคนหัวเราะพร้อมกันอีก
“หน้าเธอตรงแก้มข้างซ้ายมันเป็นอะไรอ่ะ”
“อ๋อ รูปดาวนะฉันใช่สีเมจิกสีดำแต้มเอา”ฉันบอกจินไปหลายคนอาจคิดว่าฉันแปลกที่อยู่ดีไม่ว่าดีก็เอาสีเมจิกแต้มหน้าตัวเองซะอย่างงั้นแต่ฉันว่าฉันออกจะชอบเพราะรูปดาวนะมันสวยดี ---o---และแล้วลมหนาวก็เริ่มพัดผ่านซอยนี้มันเป็นความรู้สึกที่หนาวจับใจเลยล่ะบางคนอาจจะไม่ชอบที่ลมหนาวพัดผ่านตัวเองแต่ฉันกับชอบเพราะมันให้ความรู้สึกเหงายังไงก็ไม่รู้
“นี่นายถ้าไม่รังเกียจนายจะใช่ผ้าพันคอกับฉันก็ได้นะฉันยินดีแบ่งให้”ฉันหยิบผ้าพันคอออกมาจากกระเป๋าแล้วพันคอฉันก่อนที่จะส่งยื่นให้จินถ้าใครหลายๆคนคิดว่าผ้าพันคอสั้นนิดเดียวจะใช่ด้วยกันสองคนได้ยังไงแต่ว่าคิดผิดแล้วละเพราะผ้าพันคอของฉันนะยาวมากเลยละไม่รู้ว่าฉันยัดใส่กระเป๋าเข้าไปได้ยังไง
“อือขอบใจนะ”
“แล้วนายออกมาข้างนอกตอนกลางคืนเพียงเพื่อจะทิ้งหมวกใบนี้อย่างเดียวหรอ”ฉันพูดพลางชี้ไปที่หมวกใบที่ฉันสวมอยู่
“ไม่ใช่แค่นี้หรอกฉันออกมาเพื่อหนีความวุ่นวายในบ้านต่างหากล่ะ”จินตอบฉันฉันเงียบไปซักพักนึงก่อนที่จะพูดขึ้นมาอีก
“นายก็เหมือนฉันนั้นแหละ”แล้วทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งมีเพียงแต่ลมหนาวเท่านั้นที่พัดเข้ามาในซอย
นี้ตลอดแล้วจู่ๆจินก็เอาหัวมาซบไหล่ฉันแล้วก็หลับไปส่วนฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะฉันมีความรู้สึกว่าง่วงนอนเต็มที่แล้วแล้วก็เผลอหลับไป---o----
“นี่พวกเธอสองคนตื่นกันได้แล้วไปนอนที่อื่นไป”ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาจินก็เหมือนกัน
“จะไปนอนก็ไปที่อื่นฉันจะกวดขยะไป”ไม่รู้ไปอารมณ์เสียมาจากไหนตวาดได้ตวาดดี
“หว่าหิมะตกอีกแล้ว”จินบ่นออกมา
“นายไม่ชอบให้หิมะตกเหรอ”
“เธอคงไม่อยากเดินตากหิมะไปหรอก”จินบ่นต่ออีกแล้วฉันก็หยิบร่มออกมาจากกระเป๋า
“อ่ะทีนี่ก็ไม่ต้องเดินตากหิมะอีกแล้ว”ฉันพูดพลางกลางร่ม
“เธอนี่มีกระเป๋าโดเรมอนหรือไงเนี้ยถึงได้มีซะทุกสิ่งทุกอย่าง”ฉันยิ้มๆแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรแล้วก็เปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่น
“แล้วนายจะไปไหนอ่ะ”ฉันถามจินขึ้นมาเพราะไม่อยากเดินไปแบบไม่มีจุดหมายปลายทาง
“ไปบ้านเธอก็แล้วกัน”
“เอ๊ะบ้านฉันหรอแน่ใจนะทำใจให้ดีดีก็แล้วกัน”จินพยักหน้าแล้วเราก็เดินกันต่อไปฉันไม่อยากจะพูดถึงสภาพบ้านฉันนักหรอกนะเพราะบ้านฉันนั้นค่อนข้างจนถึงจนมากเลยละและแล้วเราสองคนก็เดินมาถึงบ้านฉันขนาดทางเข้าหมู่บ้านฉันยังไม่ค่อยอำนวยเลยมีแต่บรรยากาศครึ้มๆ
“ที่นี้บ้านเธอหรอ”
“เป็นไงต่างจากที่คิดไว้เยอะเลยใช่ไหมเอาล่ะฉันว่านายควรกลับบ้านของตัวเองได้แล้วนะตอนบ่ายฉันมีนัด”
“อือฉันก็เหมือนกัน ลาก่อนนะบาย”เป็นอะไรก็ไม่รู้ฉันไม่ค่อยชอบคำว่าลาก่อนเลยมันให้ความหมายที่ว่าเหมือนเราจะไม่ได้พบกันอีก
ตอนบ่าย
“ยูมิ”เสียงผู้ชายคนนึงเรียกฉันจากทางด้านหลังพอฉันหันไปก็พบกับจินจินดูแปลกตาไปมากจินดูซูบๆลงมากหลังจากตอนที่เราเจอกันแต่ที่น่าแปลกอีกอย่างนึงก็คือตรงที่ว่าเราสองคนบังเอิญกันจังเลยทำไมเราถึงได้พบกันอีกนะหรือว่านี่คือ....พรหมลิขิต แต่...มันคงอยู่กับฉันได้อีกไม่นาน
“อ้าวจินนายมาทำอะไรที่นี้”แน่นอนว่าที่ฉันมาธุระก็คือที่โรงพยาบาล
“มาตรวจดูอะไรนิดหน่อยนะแล้วเธออ่ะ”
“เหมือนกัน”ฉันตอบได้แค่นั้นแล้วจินก็เดินไปไหนก็ไม่รู้แล้วฉันก็เดินแยกไปที่ที่ฉันมีธุระมันก็คือห้องของผู้ป่วยที่ป่วยเป็นเนื้องอกในสมองอย่าง......ฉันไงล่ะ
“ยูมิ”เสียงจินนั้นเองเสียงจินในตอนนี้ดูแผ่วเบามากมากเหมือนกับคนไม่มีแรง
“เธอกำลังจะเข้าไปในห้องนั้นหรอ”ฉันได้แต่พยักหน้า
“ตอน 2 ทุ่มเจอกันที่ใต้ต้นไม้หน้าอาคารได้ไหมฉันอยากเจอเธอนะ”ฉันก็พยักหน้าอีก หรือว่าความบังเอิญนี่จะทำให้เราพบกัน
2 ทุ่มที่ใต้ต้นไม้หน้าอาคาร
“มานานแล้วหรอ”จินเดินเข้ามาหาฉันซึ่งมาก่อนหน้านี้แล้ว
“ป่าวมาพึ่งมาเมื่อตะกี้นี้เอง อะผ้าพันคอ”ฉันส่งผ้าพันคอส่วนที่เหมือนให้จนส่วนจินก็รับผ้าพันคอมาพันไว้อย่างเข้าใจ
“เธอเป็นคนไข้โรงพยาบาลนี้หรอ”ใช่แล้วล่ะตอนนี้ฉันสวมชุดคนไข้ของโรงพยาบาลนี้เหมือนกับ....จินนั้นแหละ
“เธอป่วยเป็นอะไร”คำถามของจินทำให้ฉันเงียบไปซักพักก่อนตัดสินใจตอบ
“เนื้องอกในสมองฉันคงอยู่ได้อีกไม่นานหรอกเพราะว่าฉันที่บ้านฉันไม่มีเงินพอที่จะจ่ายค่าผ้าตัดให้ฉันก็เลยได้แต่รอความตายแล้วนายล่ะป่วยเป็นไร”
“เหมือนเธอแต่ฉันปฏิเสธที่จะไม่ผ่าตัดเพราะอะไรนั้นฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”ฉันไม่ถามว่าทำไมเพราะจินคงไม่อยากจะพูดอะไรมากนักและฉันพอจะเดาได้ว่าบ้านจินคงจะรวยพอดูเหมือนกันดูจากการแต่งกายของจินแล้วมันทำให้ฉันคิดอย่างนั้น
“งั้นเราสองคนก็คงจะอยู่ได้อีกไม่นาน”
2 อาทิตย์ต่อมา ตอน 2ทุ่มใต้ต้นไม้หน้าอาคาร
“ถ้านายตายไปแล้วนายจะอยากเป็นอะไร”ฉันถามจินขึ้นมาตอนนี้เราสองคนอยู่ในสภาพเดียวกันคือต้องสวมหมวกตลอดเวลาเพราะเป็นผลค้างเคียงของยาละมั้งทำให้เราสองคนผมร่วง
“ ..”จินไม่ตอบอะไร
“ฉันนะถ้าตายไปแล้วฉันอยากจะเกิดเป็นดาวทำไมนะเหรอก็เพราะว่าฉันจะได้ส่องแสงให้กับคนที่ฉันรักตลอดไปไง”แล้วฉันก็หันหน้าไปหอมแก้มจินทีนึงเพราะอะไรไม่รู้เหมือนกันมันเหมือนกับว่าฉันกับจินเคยรู้จักกันมาก่อนแล้วฉันก็รู้สึกว่าฉันตกหลุมรักจนเข้าแล้วละอิอิ
“ฉันรักนายนะแม้เราจะรู้จักกันตอนบั้นปลายชีวิตก็ตามแต่ฉันก็มีความรู้สึกว่า ครั้งหนึ่งนานมาแล้วเราเคยรักกันมาก่อน”
วันสุดท้ายของชีวิต ตอน 2ทุ่มใต้ต้นไม้หน้าอาคาร
“จิน วันนี้คงเป็นวันสุดท้ายที่เราจะพบกันแล้วละ”ฉันเริ่มพูดขึ้นมาลมหนาวพัดผ่านเราตลอดเวลาแต่แค่มีผ้าพันคอนี้ที่พันรอบคอฉันกับจินแล้วก็จินแค่นี้มันก็อุ่นมากสำหรับฉันแล้วละ
“ยูมิ ฉันรักเธอนะแม้ว่าเราจะรู้จักกันเพียงไม่นานแต่ก็เหมือนกับว่าเราเคยรู้จักกันมานานแล้วฉันรักเธอนะยูมิ”จินพูดจบแล้วก็ซบไหล่ฉัน------o-------เราเงียบกันอยู่สักพักจินก็เริ่มพูดขึ้นมาว่า
“ยูมิเราจะตายพร้อมกันใช่ไหม”
“อย่าพูดอย่างนั้นเลยฉันว่านายควรจะพูดว่าฉันจะจากไปพร้อมกับเธออย่างสงบใช่ไหมมากกว่า”
“ยูมิ/จิน”เราสองคนต่างเรียกชื่อของกันและกัน
“ฉันรักเธอนะ/ฉันรักนายนะ”------o------ได้เท่านั้นแหละความเงียบก็เริ่มคืบคลานเข้ามาเหลือแต่เสียงของลมหนาวเท่านั้นที่พัดผ่านร่างทั้งสองซึ่งเข้าทั้งสองได้จากไปพ้อมกันอย่างสงบ
นานมาแล้ว
“ยูมิฉันให้”เด็กผู้ชายคนนึงกำลังยื่นแหวนให้เด็กหญิง
“ขอบใจนะจิน”แต่แล้วแหวนกับหล่นกลิ้งไปกลางถนนทำให้เด็กหญิงคนนั้นต้องเดินไปเก็บโดยไม่รู้เลยว่ารถที่วิ่งเร็วคันนึงกำลังพุ่งมาหาเธอ
“ยูมิระวัง”เด็กผู้ชายวิ่งเข้าไปหาเด็กหญิงแต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรทำให้ทั้งเด็กหญิงและเด็กชายต่างก็ถูกรถชน
“คุณหมอคะเด็กสองคนนั้นเป็นยังไงบ้างค่ะ”
“ดูเหมือนว่าเด็กสองคนนั้นจะสูญเสียความทรงจำทั้งคู่เลยนะครับ........”
ผลงานอื่นๆ ของ perfume ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ perfume
ความคิดเห็น