คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : เครื่องแบบ และ นักบวช
แม้ภายนอกร้านสังฆภัณฑ์จะยังเป็นช่วงเวลากลางวันแสกๆที่แดดแรงสว่างจ้าจนแสบตา แต่ภายในร้านยามนี้กลับมืดสลัว เพราะการออกแบบร้านแบบเก่าที่มืดทึบ จนต้องเปิดไฟเพิ่มความสว่าง ไฟแต่ละดวงส่องแสงเหลืองนวลในครอบแก้วคล้ายคลึงกับตะเกียง ถูกแขวนเรียงรายตามผนัง ทั้งข้าวของและการตกแต่งร้าน ดูเคร่งขรึม ด้วยบรรยากาศโบราณเก่าแก่นี้ทำให้พรตผมทองยิ้มออกมา
เหมือนกับเมื่อพันปีก่อนไม่มีผิด
พรตอาร์กัสเดินไปมาบริเวณชั้นสองดูของในร้านสังฆภัณฑ์เก่าแก่ ที่อายุมากพอๆกับมหาวิหาร ทุกอย่างในร้าน ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด หรือของประดับร้าน ไม่ต่างอะไรกับที่เขาเคยมาเยือนเมื่อพันปีก่อนเพียงแต่ว่าเมื่อมองดีๆแล้ว ทุกอย่างกลับเป็นของใหม่ที่สร้างเลียนแบบ ตามนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวของเจ้าเมืองนัวร์ ที่พยายามรักษาของเก่าและบูรณะใหม่ให้ทุกอย่างในเมือง ใกล้เคียงกับของเดิมมากที่สุด
“ม่ายยยยย ”
เด็กหนุ่มผมขาวร้องลั่น เพราะทันทีที่เขาเปิดประตูห้องเล็กๆของตนออกมานั้น คทาจำนวนมากก็ทะลักล้นออกมานอกห้องทันที เด็กหนุ่มยืนค้างมองห้องทำงานเล็กๆที่เต็มไปด้วยคทากางเขนสำหรับนักบวชสายพิฆาตความมืด ถูกกองพะเนินเทินทึกรอการซ่อมและปรับแต่งเต็มไปหมด อาร์กัสเห็นที่นอนเล็กๆของเด็กหนุ่มโผล่ออกมาเล็กน้อยเท่านั้น เพราะมันถูกกองคทาทับกลบจนเกือบมิด เพียงช่วงเวลาไม่นานระหว่างที่เจ้าหนูแอบเอากล่องอีทูลัสออกไปนอกเมือง เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่า จะมีคนเอาคทามาซ่อมไม่รู้กี่พันด้ามขนาดนี้
“นั่นเจ้าต้องซ่อมทั้งหมดเลยเหรอ”
อาร์กัสถามเด็กหนุ่มผมขาวที่ขณะนี้เดินทำหน้าสลดไปที่กองคทา เขานั่งยองๆอย่างสิ้นหวังแล้วรีบแยกประเภท ทั้งรุ่นที่ทำจากไม้ ทองเหลือง ทองคำ เงิน และคทาชนิดพิเศษสุดหายาก
“ครับ ทั้งหมดนี้ต้องเสร็จภายในอาทิตย์หน้า”
เด็กหนุ่มตอบขณะกำลังทำหน้าอมทุกข์ พรตอาร์กัสมองเห็นคทากางเขนบางด้ามมีรอยไหม้เกรียม และเกือบทั้งหมดมีคราบเลือดเกรอะกรัง บางด้ามหัก งอ บิดเบี้ยว และทั้งหมดมีสีคล้ำหมองผิดปกติราวกับผ่านการใช้งานอย่างหนักหน่วงและผ่านการต่อสู้ที่ดุเดือดรุนแรง อีกทั้งพลังมืดทมิฬแผ่ซ่านออกมาอย่างเห็นได้ชัด พรตผมทองจำมันได้ดี มันคือความมืดที่เป็นพิษร้าย มันเป็นคำสาปแช่งมรณะ ของปีศาจระดับนายพลที่ชื่อ อิสซาเบลล่า
“คทาพวกนี้แปดเปื้อนความมืดหมดแล้ว ถ้ายังฝืนใช้จะเป็นอันตรายครับ”
ความมืดเป็นพิษรุนแรงต่อวิญญาณและสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ได้สิงสถิตอยู่ในคทาทุกด้าม การใช้คทาที่ยังแปดเปื้อนด้วยคำสาปแช่งนั้นถือเป็นเรื่องอันตรายเหลือแสนต่อผู้ใช้ เพราะร่างกายจะถูกความมืดกัดกิน เลือดจะแตกตัวเป็นพิษและตายในที่สุด แต่สิ่งที่อาร์กัสแปลกใจมากนั้น คือเจ้าหนูฟีเดอาโก้ กลับจับคทามือเปล่าโดยไม่สวมถุงมือป้องกันไอพิษ อีกทั้งพลังมืดเหล่านั้นก็ไม่อาจทำอะไรเจ้าหนูนั่นได้อีกตั้งหาก
“ทั้งหมดเป็นคทา ที่ผ่านการต่อสู้กับอิสซาเบลล่า พรตสายพิฆาตความมืดระดับแนวหน้าถูกมันฆ่าตายไปร่วมกว่าห้าสิบคน ตอนฉันเข้าไปร่วมพิธีศพที่มหาวิหาร ก็เห็นโลงศพมากมายตั้งเรียงรายอยู่ในนั้น แม้ชื่อพวกเขาจะถูกจารึกไว้ แต่ที่แน่ๆขวัญกำลังใจพวกเราแทบไม่เหลือ ตอนนี้มีนักพรตเป็นร้อย เริ่มพากันลาออกจากคณะแล้ว”
ดาร์ค เคนิส บริสตั้น เอ่ยขึ้นด้วยความหนักใจ เธอเริ่มจัดแจงชุดนักบวชที่มีมากมายมหาศาลในชั้นสอง ลากราวที่แขวนชุดแต่ละคณะออกมา เพื่อหาชุดใหม่ในอาร์กัส
ชุดนักบวชที่มีหลายแบบหลายสีสันต์ บ้างเรียบง่าย บ้างวิจิตบรรจง งดงาม ด้วยลวดลายตระการตา ทุกอย่างถูกสร้างขึ้นเพื่อถวายเกียรติแก่เบื้องบน เป็นเครื่องแบบที่แม้สง่างาม แต่ก็แฝงไปด้วยความหนักหนาสาหัสของภาระหน้าที่สำคัญ ที่ผู้สวมใส่แต่ละคนต้องแบกรับไว้นับตั้งแต่วันลั่นวาจาปฏิญาณตน จนกระทั่งสิ้นชีวิต
“อาร์กัส นายเป็นพรตจากคณะไหน ฉันจะได้หาชุดแบบใหม่ให้”
เคนีสถาม ขณะกำลังมองหาชุดนักพรตแบบเก่าสีน้ำตาลเข้ม ที่ตอนนี้ไม่มีสักตัวในร้าน
“คณะนักบวชแห่งซางตานีโอ ข้าเป็นนักพรตสายพิฆาตความมืดจากคณะนี้”
คณะนักบวชแห่งซางตานีโอ เป็นคณะนักบวชเก่าแก่ที่มีนักบวชอยู่หลายสาย ไม่ว่าจะเป็นสายเผยแพร่ธรรม นักบวชสายนี้มักออกเดินทางเผยแผ่คำสอนไปยังดินแดนต่างๆ นอกนั้นยังมีพวกที่อยู่สันโดษในป่าเขา บ้างรวมกลุ่มอยู่ในอารามมีหน้าที่หลักคือสวดภาวนา หรือมีแม้แต่นักบวชสายเยียวยา พวกนี้ส่วนใหญ่เป็นหมอหรือผู้เชี่ยวชาญในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ และยังมีอีกมากมายรวมไปถึงนักบวชสายพิฆาตความมืด หน้าที่หลักคือการขับไล่ปีศาจและต่อสู้กับจิตชั่วร้าย
“ฟีเดอาโก้ นายเจอรุ่นพี่เมื่อพันปีก่อนเข้าแล้ว”
เคนิสเอ่ยแซวฟีเดอาโก้ เด็กหนุ่มเอ็กซอซิสได้รับทุน เข้าเรียนคอสพิเศษคณะเดียวกันกับอาร์กัสได้ไม่นาน คณะนักบวชคณะนี้แค่สอบเข้าก็ยากเหลือแสน มีการทดสอบทั้งวิชาเทววิทยา ปีศาจวิทยา ความรู้ความจำในไบเบิล กฎหมายศาสนจักร วิชาภาษาลาตินโบราณ ซ้ำยังต้องทดสอบภาคปฏิบัติ ในวิชาพิธีกรรม และการขับไล่ปีศาจจารีตเดิม รวมถึงการพิฆาตความมืดแผนใหม่สุดโหดพวกนั้น มันไม่ใช่คณะนักบวชที่พวกหัวขี้เลื่อยจะเข้าไปได้แม้แต่น้อย
เด็กหนุ่มผมขาวหันมามองอาร์กัส ก่อนจะยิ้มแห้งๆ เขารู้สึกได้ทันทีว่าพวกนักบวชรุ่นหลังๆ ห่วยแตกขนาดไหนเมื่อต้องเทียบกับตัวอย่างของรุ่นพี่รุ่นแรกๆ ที่ยังหลงเหลือข้ามกาลเวลานับพันปีตรงหน้า และยิ่งพรตปีศาจคนนั้นยังบอกว่าตนเองไม่ได้เป็นนักพรตที่เก่งกาจอะไรในยุคก่อน เรียกว่ามีฝีมืออ่อนหัด เรียนห่วยแตกที่สุดในคณะ แค่สอบเข้าก็ตกไม่รู้กี่รอบ แล้วนี่ถ้าระดับพรตปีศาจอาร์กัสยังสอบตกแล้วตกอีก ถ้างั้นพวกนักบวชสายพิฆาตความมืดที่เก่งๆติดท็อปยุคนั้นจะเก่งมากมายขนาดไหน เขาเองก็ไม่อยากคิด ปีศาจในยุคนั้นเองก็ลือกันว่าโหดร้ายมากมายนัก แต่ในยุคนี้แค่อิสซาเบลล่าตนเดียวก็ถึงกับต้องเสียนักบวชสายพิฆาตความมืดระดับแนวหน้าไปถึงห้าสิบคน
“แล้ว เจ้าจะทำยังไงกับพลังมืดที่แปดเปื้อนในคทาพวกนั้น เจ้าไม่เป็นไรแน่นะ เจ้าหนู”
อาร์กัสถามเมื่อเห็นเด็กหนุ่มผมขาวเริ่มหน้าซีดแล้วนั่งพิงผนังห้องอย่างหมดแรง เขาคัดแยกคทาไม่ไหวแล้ว
“ไม่เป็นไรครับ ไอทมิฬพวกนี้แค่เอาน้ำเสกราดลงไปบนคทา พอสิ่งชั่วร้ายออกมา ก็ให้ไนท์แมร์กินครับ จากนั้นก็ส่งไปให้ท่านอาร์คบิชอปเสกใหม่ เอากลับมาใช้อีกครั้ง ”
พรตหนุ่มนั่งยองๆมองคทาพวกนั้น บางด้ามมีเลือดอาบไปทั้งด้าม เขาพอเดาออกว่าเจ้าของคทาเสียชีวิตอย่างสยดสยองขนาดไหน แต่พวกนั้นก็ไม่หนี ยืนหยัดสู้อยู่แบบนั้น จนร่างแหลกเหลว การเป็นนักบวชไม่ใช่แค่สวมชุด แต่ยังต้องมีความกล้าหาญ กล้าต่อกรกับสิ่งชั่วร้าย กล้าที่จะยืนหยัดแม้จะต้องสิ้นชีวิต
“เอาละ เจอแล้ว”
ดาร์ค เคนิส บริสตั้น โผล่มาข้างๆอาร์กัสพร้อมกับชุดคลุมของพรตสายพิฆาตความมืดคณะนักบวชแห่งซางตานีโอ เป็นเครื่องแบบสีดำขาว พร้อมกับผ้าคลุมอีกชิ้น ที่ต้องสวมเข้าชุดกัน นี่คือชุดของนักบวชสายพิฆาตความมืดที่เห็นได้ทั่วไปในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นนักพรตชั้นแนวหน้าที่ดูแลประตูเมืองอยู่ หรือที่ประจำการตามหมู่บ้านต่างๆ
แต่ดูเหมือนอาร์กัสจะมองตาปริบๆแล้วถอนใจ เขามองดูชุดในมือเคนิสก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“ไม่เอาดีกว่า ข้าว่ามันดูแพงเกินไป แล้วก็..........”
อาร์กัสว่าพร้อมกับมองไปยังชุดคลุมชั้นดี ที่ถูกตัดมาจากผ้าไหมราคาสูง มันดูงดงามก็จริง แต่เขากลับยังอาวรณ์เครื่องแบบนักพรตสีนำ้ตาลเข้มแบบเก่า ที่เขาและผองเพื่อนนักพรตเคยมานะพยายาม แทบตายเพื่อให้ได้สวมไส่ และสุดท้ายเมื่อพันปีก่อน นักพรตทั้งอารามรวมทั้งเพื่อนสนิทที่สุดก็ต่างสละชีพในสงครามทางเหนือเหลือเพียงแค่เขาเพียงลำพัง
“ไม่ต้องคิดมากเรื่องราคาเครื่องแบบหรอกนะ อาร์คบิชอปกาเปรียลคงไม่ใจดำ ส่งบิลมาเก็บค่าเครื่องแบบกับนายถึงป่าเดียวดายหรอก”
เคนิสว่าแล้วยื่นเสื้อคลุ่มชุดใหม่ให้เขา
“ไม่ใช่เรื่องนั้นขอรับ เคนิสเจ้าเอากลับไปเถอะ.... ” อาร์กัสพยายามปฏิเสธ
มันทำให้เคนิสเริ่มฉีกยิ้มกว้าง รอยยิ้มเยือกเย็นอำมหิต ปรากฏบนใบหน้าของผู้ที่มีฉายาว่า ดาร์ค บริสตั้น คนปัจจุบัน พลังมืดเริ่มแผ่ซ่านออกมา และนี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ ที่นักพรตปีศาจอย่างเขาจะชนะได้
"ขะ ข้าเข้าใจแล้ว! เจ้าอย่าปล่อยพลังมืดออกมาอย่างนั้นสิ"
อาร์กัสว่าพลางยิ้มแห้งๆ พร้อมกับยกมือปรามหญิงสาวผมดำตรงหน้าที่เริ่มโมโห เขาถอนหายใจก่อนที่ยืนขึ้น ถอดเสื้อคลุมสีน้ำตาลเข้มขาดรุ่งริ่งจนแทบไม่มีชิ้นดียื่นให้เคนิส
คิดว่าเกือบต้องใช้กำลังรุนแรงแล้วสิ
ฟีเดอาโก้ที่มองดูอยู่คิดในใจ เด็กหนุ่มทิ้งตัวเองนั่งพิงกับผนังเช่นเดิม เมื่อครู่ถ้าเพียงแค่เขาสั่งออกไปแค่คำเดียว แค่สั่งว่า “ใส่เสื่อใหม่ซะ” เท่านั้นทุกอย่างก็เรียบร้อยไปแล้ว เพียงแต่ต้องหลีกเลี่ยงที่จะใช้อำนาจนั้น มันเป็นอำนาจวาจาสิทธิ์ที่เขารู้ดีว่า มาจากผู้ใด เด็กหนุ่มหลีกเลี่ยงที่จะออกคำสั่ง เขารู้ดีว่าเพียงแค่ลั่นวาจาออกไปนั้นจะส่งผลกระทบต่อผู้อื่นมากมายขนาดไหน ความสามารถที่อันตราย สามารถคร่าชีวิตผู้คนได้เพียงแค่เอ่ยปากพูด เขาปฏิญาณกับตนเองแล้วว่า จะไม่ใช้ความสามารถนี้กับใครทั้งนั้น
“ขอบคุณสำหรับความร่วมมือ”
เคนิสเอ่ยขึ้น พร้อมกับรับชุดคลุมขาดๆจากเจ้าของที่ยังยืนมองชุดเดิมของตนด้วยสายตาหวงแหนสุดชีวิต แม้หญิงสาวผมดำสนิทที่เขาประเมินอายุไม่ออกนั่น ได้ยืนยันว่า เธอจะนำไปซ่อมและคืนให้ในภายหลังก็เถอะ
“เคนิส เจ้าอย่าทำอะไรชุดนั้นนะ นั่นเป็น....”
อาร์กัสขอร้องอีกครั้ง
“ฉันรู้แล้ว ! จริงสิ อาร์กัส ถ้านาย........ไม่รีบๆไปอาบน้ำให้เรียบร้อย รับรองว่า เสื้อนี่ถูกเอาไปประมูลขายแน่”
การกระทำนั้นทำให้พรตปีศาจตกใจทำตาเหลือก จนต้องรีบปฏิบัติตามคำขู่ทั้งที่ท่าทางจะไม่พอใจนัก
ฟีเดอาโก้เองก็หัวเราะขณะมองดูเหตุการณ์อยู่ เมื่อใครบางคนต้องปฏิบัติตามคำสั่งของดาร์ค บริสตั้นทั้งที่ไม่ได้มีความสามารถวาจาสิทธิ์แบบเขาแม้แต่น้อย เพียงแค่จับจุดอ่อนคู่ต่อสู้ให้ได้ก็เพียงพอแล้ว
เด็กหนุ่มผมขาวค่อยๆเดินมาหาเคนิส ที่ทำหน้าเบื่อหน่ายอยู่หน้าห้องนำ้
“เคนิส คุณบอกความลับของตระกูลเรากับคนคนนี้ คุณคงไม่คิดจะกินเขาหรอกนะ ”
ฟีเดอาโก้เอ่ยขึ้นอย่างสงสัย เคนิสหันขวับไปหาเด็กหนุ่มผมขาวที่อยู่ข้างๆ แล้วฉีกยิ้มชั่วร้ายออกมา
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทนได้แค่ใหน”
เคนิสเอามือปิดหน้าพร้อมกับแอบขยับยิ้มอำมหิต พลังมืดเยือกเย็นเริ่มก่อตัวขึ้นรอบๆกาย ทั้งคำพูดและพลังมืดนั้นเล่นเอาฟีเดอาโก้ตาเหลือก เรื่องนี้ตั้งหากที่อันตรายกว่าอะไรทั้งหมด
“ไม่ได้นะครับ! ห้ามกินเด็ดขาดเลย”
“ถ้างั้นเป็นวิญญาณของเด็กอย่างนายก็ได้”
“ไม่ว่าจะเด็ก จะผู้ใหญ่ ก็ห้ามกินวิญญาณมนุษย์เข้าไปเด็ดขาดนะครับ ไม่งั้น หมอนั่นที่อยู่ในวิญญาณคุณได้ตื่นขึ้นมาแน่”
ดาร์ค เคนิส บริสตั้น เอามือปิดหน้า แล้วนั่งพิงผนังอย่างเหนื่อยอ่อน พลังมืดที่ไหลทะลักออกมาจากร่างกายนั้นเริ่มจะคุมไม่ค่อยอยู่ แล้ว มันรั่วไหลออกมาจนทั้งห้องบรรยากาศกดดัน เงียบเหงาวังเวงไปหมด เธอเริ่มรู้ตัวแล้วว่าอีกไม่นานก็จะต้องถูกความมืดกลืนกินไปเหมือน กับดาร์ค อีทูลัสรุ่นแรก
“ฉันจะพยายามก็แล้วกัน เรื่องอะไรจะไปยอมแพ้ไอ้ขี้เก็ก ได้แต่นั่งหลับบนบัลลังก์นั่น”
สิ้นสุดคำพูดดวงตาสีดำคู่นั้นก็กลับมาสดใสอีกครั้ง พลังมืดรุนแรงของจอมซาตานลูซิเฟอร์ถูกวิญญาณดวงนั้นสูบเข้ากลับไปจนหมดสิ้นในพริบตา กลายเป็นกล่องอีทูลัสที่ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกครั้ง แต่เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าจะทนไปได้อีกนานเท่าใด
“ยอดไปเลยครับ เห็นคุณยังสามารถผนึกพลังมืดได้เหมือนเดิมแบบนี้ก็ค่อยสบายใจหน่อย เพราะดูท่าทางนอกจากอิสซาเบลล่าแล้ว ขุนพลปีศาจอีก 6 ตน ก็ขึ้นมาบนแผ่นดินของเราได้แล้วครับ”
คำพูดนั้นทำให้หญิงสาวผมดำตื่นตระหนก เธอหรี่ตาสีดำของเธอลงอย่างครุ่นคิด ทำไมขุนพลปีศาจทั้ง 7 ถึงได้ข้ามขอบเขตมาบนโลกได้ง่ายนัก มันผิดปกติเกินไป ที่จริงตั้งแต่อิสซาเบลล่าหนึ่งใน 7 ขุนพลปีศาจนั่นปรากฏตัวก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้แล้วแท้ๆ ตั้งแต่ที่พวกอัครเทวดาได้กางเขตอาคมเอาไว้
ท่าทางเหตุการณ์นี้ต้องมีไส้ศึกแน่ๆ
“ฟีเดอาโก้”
“ครับ”
“ทำไมนายถึงรู้เรื่องพวกนี้ เรื่องอิสซาเบลล่านั่นพอเข้าใจ แต่เรื่องขุนพลปีศาจที่เหลือนั่น บอกมานะนายรู้ได้ยังไง”
“.....................................”
เด็กหนุ่มหุบปากเงียบ เขาเลือกที่จะไม่พูดอะไร ก่อนที่จะลุกขึ้นทำตัวเนียนไปคัดแยกคทาต่อ
“ฟีเดอาโก้! ”
เคนิสตะคอก ก่อนที่จะดึงเด็กหนุ่มผมขาวคนนั้นขึ้นมาอย่างเอาเรื่อง
“ลูซิเฟอร์ เป็นคนบอกผม”
มันเป็นคำตอบที่ทำให้เคนิสพูดอะไรไม่ออก ก่อนที่จะทิ้งตัวเองนั่งลงกับพื้นอย่างสิ้นหวัง หมายความว่า วิญญาณของลูซิเฟอร์ตื่นขึ้นมาแล้ว แต่สิ่งที่ขวางกั้นมันนั้นมีเพียงวิญญาณของเด็กชายตัวเล็กๆตรงหน้านี้เท่านั้นเอง
“นายอย่าไปคุยอะไรกับเจ้านั่นอีกนะ ฟีเดอาโก้”
“ผมไม่ได้คุยเลยครับ แต่เขาพูดกรอกหัวผมอยู่แบบนี้ ไม่เหมือนเมื่อก่อนเลย บางทีผมเองก็เริ่มจะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน”
เค้าลางมรณะเริ่มปรากฏเด่นชัด เมื่อกล่องอีทูลัสทั้งสองใบเริ่มทำท่าจะต้านไม่อยู่แล้ว สองบริสตั้นมองหน้ากัน ก่อนที่จะเงียบไป พวกเขาจะทนได้อีกนานแค่ไหนนะ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พรตหนุ่มอาบน้ำเสร็จแล้ว เขาสวมชุดคลุมสีขาวดำแบบใหม่ของคณะ ชุดใหม่ยาวรุ่มร่าม ดูสง่างามก็จริง แต่เขาคงต้องใช้เวลานานโขกว่าจะคุ้น เขาเอาสายประคำแขวนไว้ที่สายคาดเอว ก่อนที่จะออกไปพบ สองบริสตั้น พวกนั้นโวยวายอะไรสักอย่างตอนเขาอาบน้ำอยู่ แต่ในทันทีที่เขาออกจากห้องน้ำ พวกนั้นก็พากันเงียบกริบ
“ทำไมพวกเจ้าพากันนั่งหมดอาลัยตายอยากกันแบบนั้น”
พรตอาร์กัสว่าขณะเช็ดผมสีทองซอยสั้นของเขา หญิงสาวผมดำค่อยๆเงยหน้ามองคนพูด ก่อนที่จะเปลี่ยนอารมณ์จากซึมเศร้าไปเป็นร่าเริงเบิกบานกลบเกลื่อนในเสี้ยววินาทีเสียเฉยๆ
“อาร์กัส! ชุดนี้เหมาะกับนายมากเลยนะ”เธอว่าเมื่อเห็นอาร์กัสสวมชุดใหม่นั้นออกมา
“จริงด้วยครับ ดูดีมากจริงๆ”
แม้แต่ฟีเดอาโก้ยังพูดแบบนั้นออกมา พรตอาร์กัสยิ้มน้อยๆได้แต่โค้งขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือหลายๆอย่างด้วยความถ่อมตน พรตปีศาจเมื่อเนื้อตัวสะอาด ไม่มอมแมมแบบเมื่อครู่ พอสวมชุดใหม่ก็เพิ่มระดับความดูดีขึ้นมาก ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ยังมองหาชุดเดิม
“เดี๋ยวฉันซักกับซ่อมแซมให้ทีหลัง ไม่เอาไปขายหรอกไว้ใจสิ”
เคนิสว่าแล้วชี้ไปที่กองเสื้อผ้าใกล้ห้องน้ำ
“ขอบใจเจ้ามาก เคนิส”
อาร์กัสบอกอีกครั้งก่อนที่จะไปหยิบคทาไม้ของตนมาถืออีกครั้ง
“ท่านนักพรต คทาของท่านก็ต้องซ่อมบำรุงด้วยครับ”
ฟีเดอาโก้ว่า เด็กหนุ่มเดินตรงไปที่คทาไม้ของพรตปีศาจ แล้วชี้ไปยังรอยถลอกมากมายบนตัวคทา อีกทั้งมีแมลงเจาะจนพรุนไปหลายแห่งแล้ว
“แกนข้างในเนื้อไม้เอง ก็เริ่มจะผุแล้วครับ แม้จะเป็นไม้เนื้อแข็งพิเศษแต่ใช้มาตั้งพันปีแล้วถ้าไม่ดูแลรักษา ก็มีโอกาสหักสูงครับ”เด็กหนุ่มช่างทำคทากล่าว
พรตอาร์กัสจึงฝากคทาไว้กับเด็กหนุ่มผมขาวคนนั้น เพื่อซ่อมบำรุง นี่ไม่ว่าจะเป็นทั้งเสื้อทั้งคทาหรือแม้แต่ ตัวเขาเองยังต้องได้รับกับซ่อมแซมจากพวกบริสตั้นทุกอย่างเลยเหรอนี่
“เอานี่ไปใช้แทนคทาของนายก่อนแล้วกัน”
หญิงสาวผมดำยื่นมีดปอกผลไม้เล็กๆให้เขา มันเป็นมีดลงอาคมพิเศษพลังโจมตีสูง เหมาะสำหรับพกติดตัวยามเมื่อปะทะกับผู้มาจากความมืด เป็นมีดเล็กๆที่เธอและพีเดอาโก้มีพกไว้ติดตัวเสมอ
“ดีไซน์มาให้เหมือนเป็นมีดปอกผลไม้ทั่วไป พกพาง่าย เอาเข้าเมืองก็ไม่ถูกริบ วางใจได้เลยถ้าจะต้องปะทะกับปีศาจระดับสูงๆ มันมีประสิทธิภาพเทียบเท่าดาบปราบปีศาจขนาดใหญ่ที่ใช้เมื่อพันปีก่อน”
ดาบปราบปีศาจใหญ่ยักษ์ในสมัยก่อน ถูกปรับปรุงให้เข้ายุคสมัยกลมกลืนกับผู้คน จนไม่มีใครสังเกตว่า มีดเล็กๆสำหรับปอกผลไม้ที่สองคนนี้พกไปมานั้น ที่จริงแล้วเป็นถึงอาวุธปราบปีศาจทรงพลัง สองเอ็กซอซิสแห่งตระกูลบริสตั้น ดูภายนอกแสนธรรมดาไม่ต่างกับคนทั่วไป แต่ความจริงแล้วพวกเขาเต็มไปด้วยความลับอันน่าทึ่งเต็มไปหมด
อาร์กัสรับมีดนั้นไว้แล้วซ่อนในเสื้อคลุม เขาเองก็ต้องรีบกลับไปป่าเดียวดาย การทิ้งป่านั่นไว้นานๆย่อมไม่ใช่เรื่องดีแน่ พรตอาร์กัสจึงบอกลาและรีบกลับป่าเดียวดายอีกครั้ง
“เอานี่ไปด้วยสิ”
เคนิสยื่นไฟประดิษฐ์ที่ทำมาเลียนแบบตะเกียงให้อาร์กัสที่หน้าประตูร้าน เมืองซางตานีโอยามค่ำในย่านนี้ ยังคงเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวหนาแน่นไม่ต่างจากยามกลางวันแม้แค่น้อย
“ขอบใจนะ เจ้าให้ข้ามากไปแล้ว เคนิส”
“เรื่องนั้นช่างเถอะ แต่ฉันแค่อยากจะบอกอีกเรื่อง นายดูแลป่านั่นให้ดีๆก็แล้วกัน ช่วงนี้ระมัดระวังตัวเป็นพิเศษด้วย”
“หมายความว่ายังไง”
อาร์กัสถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นเธอเดินตามออกมาส่งเขานอกร้าน
“พวกมันมากันแล้ว........”
“เจ้าหมายถึงอะไรกัน เคนิส”
หญิงสาวเงียบไปพักหนึ่งแต่ก็ตัดสินใจ บอกเรื่องที่เด็กหนุ่มผมขาวได้ยินมาจาก จอมปีศาจลูซิเฟอร์ มาหมาดๆ
“พวกขุนพลปีศาจทั้ง 7 อีก 6 ตน ขึ้นมาบนแผ่นดินของเราได้แล้ว”
แม้เสียงจากรอบกายนั้นจะเต็มไปด้วยเสียงการค้าขาย เสียงเพลง เสียงผู้คนจากแหล่งท่องเที่ยวที่ดังลั่น แต่สำหรับพวกเขาสองคนนั้นกลับเงียบสนิทไม่มีสรรพเสียงใดดังเข้ามาในความรู้สึก ความสิ้นหวังเข้ามาปกคลุมทั้งคู่ เมื่อหายนะเมื่อพันปีก่อนที่ทำให้โลกแทบล่มสลายนั่น หวนกลับมาอีกครั้ง พรตอาร์กัสค่อยๆเงยหน้าไปทางทิศเหนือ ทันใดนั้นสายลมก็พัดอย่างรุนแรงราวกับกำลังเรียกให้เขากลับไป มันคือสายลมบริสุทธิ์จากป่าเดียวดาย ที่ยังยืนหยัดสู้กับไอพิษทมิฬ อย่างน้อยก็ต้องมีความหวัง ต่อให้ต้องร่างแหลกเหลวอีกกี่ครั้ง
“เข้าใจแล้ว ข้าจะทำ เท่าที่ข้าจะทำได้”
พรตหนุ่มว่า แล้วรีบกลับไปที่ป่าเดียวดาย เคนิสยืนมองเขาเดินหายไปท่ามกลางฝูงชนหนาแน่นนั้นจนลับสายตา
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
END/ เครื่องแบบและนักบวช
ความคิดเห็น