ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Etolus boxes (กล่องอีทูลัส)

    ลำดับตอนที่ #6 : ดัลลาฮานและภูตม้าดำ ( Dullahan and Black horse)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 150
      2
      29 พ.ย. 61

                            เมืองซางตานีโอยังมีตำนานลึกลับอีกเรื่องหนึ่ง  มันเป็นเรื่องเล่าที่ทำให้ผู้คนหวาดผวามานับพันๆปี   ชาวเมืองทุกยุคทุกสมัยต่างลือกันว่า   เคยพบเห็นนักรบปีศาจไร้หัว เที่ยวขี่ภูตม้าดำทมิฬออกตระเวนยามค่ำคืน

                             แก.....เห็นหัวของข้า.... บ้างมั้ยยยย

      มันถามทุกคนไปทั่ว  ถามหาศีรษะของมัน   แต่แล้วเมื่อไม่กี่ปีมานี้  กลับไม่มีใครได้พบปีศาจไร้หัวตนนั้นอีกเลย    บางทีมันอาจพบหัวของมันแล้วก็เป็นได้   ผู้คนต่างคิดเช่นนั้น   จอมภูตดัลลาฮานได้หายไปจากเมืองซางตานีโอแล้ว

     

                                    “นี่ฉันกำลังทำอะไรอยู่”

    พนักงานสาวผมทองในชุดเมดสีแดงบ่นพึมพำกับตัวเอง ขณะกำลังปัดฝุ่นชั้นวางตำราเรียนและคำภีร์ทางศาสนาที่มีอยู่ในร้านสังฆภัณฑ์ประมาณสิบกว่าชั้น  นอกนั้นยังมีทั้งคทากางเขนสำหรับนักบวชสายพิฆาตความมืดหลากรุ่น ตั้งแต่ที่ทำจากไม้ พลาสติก ไปจนถึงทำด้วยทองคำแท้ตั้งโชว์ให้เลือกนับพันด้าม ไม่ว่าจะเป็นของใหม่เอี่ยม  ของมือสอง และยังมีที่กำลังรอซ่อมและปรับปรุงอีกมากในห้องซ่อมบำรุง เหล่านักบวช ทั้งหลายในเมืองมักจะนำคทามาซ่อมที่นี่  นอกนั้นยังมีของใช้สำหรับพิธีกรรมทางศาสนา และของที่ระลึกจากมูลนิธิในการปกครองของมหาวิหารซางตานีโอ  ส่วนชั้นสองทั้งชั้นเต็มไปด้วยอาภรณ์ศักดิ์สิทธิ์สำหรับพิธีกรรม  และชุดนักบวช มากมายหลายคณะ

     

                           “แล้วทำไมฉันต้องมาทำงานพวกนี้ด้วย !
     

    สาวเมดผมทองเริ่มร้องตะโกนขึ้นมาด้วยความโมโหถึงขีดสุด  เธอปาไม้ถูพื้นไปกระแทกผนังห้องดังลั่น   เมื่อแทบไม่คาดคิดเลยว่าจะต้องมาติดแหง็กอยู่ที่นี่  กับพวกมนุษย์เหม็นสาปพวกนั้น

                             มนุษย์งั้นหรือ?   เปล่าหรอก  พวกบริสตั้นก็แค่เสแสร้ง เป็นมนุษย์

    ถ้าวันนั้นเธอไม่พลาดท่าหลงกลลวงง่ายๆ   เธอก็คงจะไม่ต้องกลายเป็นปีศาจรับใช้  อยู่อย่างนี้หรอก    

                             โครม ! โครม !  

                     ภูตม้าดำเองก็เริ่มหงุดหงิด มันไม่ชอบทำตัวเป็นม้าในคอกหลังร้าน  มันเป็นถึงม้าปีศาจ สร้างฝันร้ายให้เหยื่อที่มันต้องการและทำร้ายให้ถึงแก่ความตายได้จากในความฝัน  ทั้งสามารถข้ามมิติ ข้ามเขตอาคมต่างๆได้เป็นอย่างดี ความเร็วในการวิ่งนั้นม้าทั่วไปไม่อาจเทียบได้  แต่ตอนนี้มันกลับถูกผูกไว้ในคอก 
     

                             “ไนท์แมร์! เงียบนะ”

    สาวเมดร้องออกมาอย่างหงุดหงิด เมื่อภูตม้าดำพยายามใช้เท้าของมันถีบผนังห้องที่อยู่ติดกับคอก  มันน่าโมโหที่สุด ทั้งตัวเธอเองและแม้แต่ม้าปีศาจยังต้องมา ตก ระกำลำบากถึงเพียงนี้ 

                        ทันใดนั้นเองประตูหน้าร้านก็เปิดออก  แล้วมนุษย์ต้นเหตุสองคนที่ทำให้เธอต้องกลายสภาพจากจอมภูตดัลลาฮานมาเป็นพนักงานเมดประจำร้านสังฆภัณฑ์ก็ปรากฎกายขึ้นตรงหน้า  บุคคลสองคนจากตระกูลบริสตั้นโพล่พรวดเข้ามาในร้านพร้อมกับนักพรตผมทองอีกคนที่เธอจำได้ดีทีเดียวว่า เขาคือคนที่ถูกสับเป็นชิ้นๆในกระสอบเมื่อหัวค่ำวันก่อน 

                                                    เละเป็นเย็นลี่ขนาดนั้นยังคืนชีพได้ไม่อยากจะเชื่อ

     

                                    “แมรี่ ขอบคุณที่เฝ้าร้านนะ  แล้ว......ไนท์แมร์เกิดคลั่งอะไรขึ้นมาหรือไง”

    เคนิสผู้ดูแลร้านสังฆภัณฑ์อีกคนเอ่ยขึ้นถามทันที เมื่อได้ยินเสียงม้าปีศาจร้องลั่น พยายามถีบฝาผนังโครมครามมาได้พักใหญ่แล้ว ฝาผนังที่เป็นไม้เริ่มทำท่าจะพังอยู่รอมร่อ และทันใดนั้นก็มีไม้แผ่นหนึ่งแตกเปรี๊ยะออกมา  ตะปูที่ตอกไว้หลุดพุ่งหวุดหวิดเฉียดปักกลางศีรษะเด็กหนุ่มผมขาวที่เดินเข้าไปดูใกล้ๆเพียงไม่กี่เสี้ยวมิลลิเมตรเท่านั้น 

                                    “มันแค่เบื่อ อยากออกไปวิ่งเล่นเท่านั้นค่ะ  ท่านเคนิส”สาวเมดเจ้าของม้าว่า

                    อาร์กัสจำภูตม้าดำตนนี้ได้ มันเป็นตนเดียวกันกับที่พาพวกเขาเข้าไปในสุสารโบราณของวาเลเรียส ภูตม้าดำพาหนะของดัลลาฮาน ม้าฝันร้ายในตำนานที่เขาบังเอิญเห็นมันวิ่งเล่นหลายครั้งตามท้องนานอกเมือง  เจ้าม้าปีศาจมีร่างสูงใหญ่ผิดจากม้าทั่วไปนัก  ตัวของมันดำสนิทราวกับสีของยามค่ำคืน ดวงตาสีแดงฉานเรืองรองในความมืด  การปรากฏตัวของมันในบางครั้งก็ทำเอาพวกชาวบ้านที่ออกมาล่าสัตว์ยามค่ำคืน  ต้องขวัญผวาวิ่งทุ่งราบไปเลยทีเดียว 
     

                                “นี่แนะ ไนท์แมร์เด็กดีนะ  เงียบๆนะ ผมมีไอ้นี่มาให้”
     

    เด็กหนุ่มผมขาวตาสีทอง ที่ดูๆไปแล้วน่าจะอายุราวๆสิบห้าเอ่ยปลอบภูตม้าดำ พลางเปิดกระเป๋าเอาผลไม้บางอย่างที่ดูคล้ายๆกับผลแก้วมังกรสีดำออกมายื่นให้ไนท์แมร์  ภูตม้าดำทำจมูกฟุดฟิดดมผลนั้นก่อนที่จะกัดงับเข้าปากทันทีแล้วเคี้ยวอย่างตะกละตะกลาม
     

    “ดีมากไนท์แมร์   ถ้านายทำตัวดีๆ ผมจะเก็บมาให้กินบ่อยๆ”
     

    ไนท์แมร์เบิกตากว้างมองแก้วมังกรสีดำนั่น น้ำลายของมันไหลเยิ้มด้วยความหิว   ก่อนที่มันจะมุดหัวกลับไปในคอกอย่างว่าง่ายเมื่อฟีเดอาโก้เอาผลแก้วมังกรสีดำทั้งหมดยัดเข้าไปให้มันในคอก  แล้วเอาไม้มาตอกด้วยตะปูปิดผนังที่แตก   ก่อนที่อาร์กัส   แมรี่ และ เคนิส จะช่วยกันดันตู้เก็บของอื่นๆมาปังไว้
     

                                             ถ้าอาร์คบิชอปมาเห็นคงต้องถูกบ่นอีกเป็นแน่ 

    เคนิสถอนหายใจ


     

                                    “เจ้าให้มันไปวิ่งเล่นที่ป่าเดียวดาย ข้าก็ยินดีนะ”

    อาร์กัสหันมาคุยกับสาวเมดชุดแดงคนนั้น สาวเมดผมทองดวงตาสีฟ้า งดงาม  แต่เขารู้สึกถึงความเยือกเย็นพร้อมทั้งพลังมืดทมิฬของปีศาจออกจากตัวของเธอ 
     

    “ขอบใจ แต่ไนท์แมร์ของฉันไม่ชอบต้นไม้ในป่านั่น”

     

    อาร์กัสเห็นเงาบางอย่างซ้อนทับร่างหญิงสาวผมทองคนนี้อย่างชัดเจนจนต้องขยี้ตา  ตั้งแต่เขาได้รับการรักษาจาก ดร.ไลท์ วาเลเรียส ตัวเขาก็รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง   ร่างกายที่เคลื่อนไหวได้ดีขึ้นกว่าเดิม  ทั้งญาณสัมผัสปีศาจ หรือแม้แต่ดวงตาที่มองเห็นเหล่าผู้อยู่ในความมืดได้อย่างชัดเจน

                                               “มองฉันแบบนั้น ต้องการอะไร นักพรต!

    อยู่ๆเสียงของสาวเมดคนนั้นก็ดังขึ้นในหัวของเขาเสียเฉยๆ  ไอปีศาจรุนแรงแผ่ซ่านออกมาราวกับประกาศสงคราม    อาร์กัสเริ่มรับมือกับเรื่องแปลกๆพวกนี้ได้บ้างแล้ว ก่อนจะตอบกลับทางจิตกลับไป

                                                    “เจ้า........คือดัลลาฮานใช่มั้ย  ข้าเห็นนะ”

    พรตหนุ่มว่า เขามองเห็นหัวกะโหลกของยมทูตในชุดคลุมสีดำ  ซ้อนทับกับใบหน้าของสาวน้อยคนนั้นอย่างเด่นชัด   มันคือจอมภูตในตำนาน ที่ว่ากันว่ามักจะปรากฏตัวพร้อมกับภูตม้าดำและถือเคียวขนาดใหญ่ มันลากวิญญาณของผู้ที่ใช้คุณไสย ทำสัญญากับความมืด หรือผู้ที่มีวิญญาณเลวทรามมากๆลงนรก  ด้วยการเรียกชื่อ  จึงมีคำเตือนที่บอกเล่ากันต่อๆมาว่า อย่าขานรับ หากอยู่ๆได้ยินเสียงเรียกชื่อตนเองทั้งๆที่หาต้นตอของผู้เรียกไม่เจอ และยิ่งโดยเฉพาะยามคำคืน  หรือในป่าลึก  ถ้าหากเป็นโจรผู้ร้ายก็ยังพอมีทางรอดชีวิตได้ แต่ถ้ามันเป็นจอมภูตตนใดตนหนึ่ง การที่ขานรับมันออกไปก็หมายความว่าบุคคลผู้นั้นวิญญาณได้ตกเป็นของมันแล้ว

                      รูปลักษณ์ของดัลลาฮานไม่แน่นอนนัก บางแห่งกล่าวกันว่า มันคือนักรบปีศาจหัวขาด  บางแห่งกล่าวกันว่ามันคือภูตในผ้าคลุมดำที่ลอยละลิ่วในความมืด ไม่มีรูปมีร่าง เพราะส่วนใหญ่ผู้ที่เห็นมันมักจะไม่มีชีวิตรอดแล้วกลับมาเล่าให้ใครๆฟังได้

                                                    “ถ้าใช่ ! แล้วจะทำไม” แมรี่ว่าแล้วยิ้มเหยียด

                                                    “เจ้ามาที่นี่ทำไม ดัลลาฮาน”

                                                    “ก็จะอะไรละ  ก็ทำงานรับใช้พวกบริสตั้น”

                   คำตอบนั้นทำให้อาร์กัสตื่นตระหนกแวปหนึ่ง  ก่อนที่จะขยับยิ้มออกมาเมื่อเห็นดัลลาฮานในชุดเมด

                                                    “เจ้าก็ทำได้ดีนี่ ”

     

                    แมรี่กัดฟันกรอดด้วยความโมโห เธอไม่เข้าใจว่าทำไมพวกบริสตั้นสองคนนี้ ทั้งที่เธอได้พยายามเรียกชื่อไม่รู้กี่ครั้งแล้วแต่ก็ไม่อาจพาวิญญาณลงนรกได้  

                                                                    บ้าบอคอแตก !

    เธอร้องด่าออกมาในใจ  แต่มือไม้ก็ยังต้องปัดกวาดอยู่อย่างนั้น  เธอเก็บไม้ถูพื้นที่ปาทิ้งไปขึ้นมาก่อนที่จะรีบถูพื้นต่อ  และจอมภูตดัลลาฮานตนนั้น  ก็ทำหน้าที่ในฐานะเมดได้ดีกว่าการเป็นภูตปีศาจเป็นไหนๆ

     

     

     

     

    END / Dullahan and Black horse

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×