คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ดัลลาฮานและภูตม้าดำ ( Dullahan and Black horse)
เมืองซางตานีโอยังมีตำนานลึกลับอีกเรื่องหนึ่ง มันเป็นเรื่องเล่าที่ทำให้ผู้คนหวาดผวามานับพันๆปี ชาวเมืองทุกยุคทุกสมัยต่างลือกันว่า เคยพบเห็นนักรบปีศาจไร้หัว เที่ยวขี่ภูตม้าดำทมิฬออกตระเวนยามค่ำคืน
แก.....เห็นหัวของข้า.... บ้างมั้ยยยย
มันถามทุกคนไปทั่ว ถามหาศีรษะของมัน แต่แล้วเมื่อไม่กี่ปีมานี้ กลับไม่มีใครได้พบปีศาจไร้หัวตนนั้นอีกเลย บางทีมันอาจพบหัวของมันแล้วก็เป็นได้ ผู้คนต่างคิดเช่นนั้น จอมภูตดัลลาฮานได้หายไปจากเมืองซางตานีโอแล้ว
“นี่ฉันกำลังทำอะไรอยู่”
พนักงานสาวผมทองในชุดเมดสีแดงบ่นพึมพำกับตัวเอง ขณะกำลังปัดฝุ่นชั้นวางตำราเรียนและคำภีร์ทางศาสนาที่มีอยู่ในร้านสังฆภัณฑ์ประมาณสิบกว่าชั้น นอกนั้นยังมีทั้งคทากางเขนสำหรับนักบวชสายพิฆาตความมืดหลากรุ่น ตั้งแต่ที่ทำจากไม้ พลาสติก ไปจนถึงทำด้วยทองคำแท้ตั้งโชว์ให้เลือกนับพันด้าม ไม่ว่าจะเป็นของใหม่เอี่ยม ของมือสอง และยังมีที่กำลังรอซ่อมและปรับปรุงอีกมากในห้องซ่อมบำรุง เหล่านักบวช ทั้งหลายในเมืองมักจะนำคทามาซ่อมที่นี่ นอกนั้นยังมีของใช้สำหรับพิธีกรรมทางศาสนา และของที่ระลึกจากมูลนิธิในการปกครองของมหาวิหารซางตานีโอ ส่วนชั้นสองทั้งชั้นเต็มไปด้วยอาภรณ์ศักดิ์สิทธิ์สำหรับพิธีกรรม และชุดนักบวช มากมายหลายคณะ
“แล้วทำไมฉันต้องมาทำงานพวกนี้ด้วย !”
สาวเมดผมทองเริ่มร้องตะโกนขึ้นมาด้วยความโมโหถึงขีดสุด เธอปาไม้ถูพื้นไปกระแทกผนังห้องดังลั่น เมื่อแทบไม่คาดคิดเลยว่าจะต้องมาติดแหง็กอยู่ที่นี่ กับพวกมนุษย์เหม็นสาปพวกนั้น
มนุษย์งั้นหรือ? เปล่าหรอก พวกบริสตั้นก็แค่เสแสร้ง เป็นมนุษย์
ถ้าวันนั้นเธอไม่พลาดท่าหลงกลลวงง่ายๆ เธอก็คงจะไม่ต้องกลายเป็นปีศาจรับใช้ อยู่อย่างนี้หรอก
โครม ! โครม !
ภูตม้าดำเองก็เริ่มหงุดหงิด มันไม่ชอบทำตัวเป็นม้าในคอกหลังร้าน มันเป็นถึงม้าปีศาจ สร้างฝันร้ายให้เหยื่อที่มันต้องการและทำร้ายให้ถึงแก่ความตายได้จากในความฝัน ทั้งสามารถข้ามมิติ ข้ามเขตอาคมต่างๆได้เป็นอย่างดี ความเร็วในการวิ่งนั้นม้าทั่วไปไม่อาจเทียบได้ แต่ตอนนี้มันกลับถูกผูกไว้ในคอก
“ไนท์แมร์! เงียบนะ”
สาวเมดร้องออกมาอย่างหงุดหงิด เมื่อภูตม้าดำพยายามใช้เท้าของมันถีบผนังห้องที่อยู่ติดกับคอก มันน่าโมโหที่สุด ทั้งตัวเธอเองและแม้แต่ม้าปีศาจยังต้องมา ตก ระกำลำบากถึงเพียงนี้
ทันใดนั้นเองประตูหน้าร้านก็เปิดออก แล้วมนุษย์ต้นเหตุสองคนที่ทำให้เธอต้องกลายสภาพจากจอมภูตดัลลาฮานมาเป็นพนักงานเมดประจำร้านสังฆภัณฑ์ก็ปรากฎกายขึ้นตรงหน้า บุคคลสองคนจากตระกูลบริสตั้นโพล่พรวดเข้ามาในร้านพร้อมกับนักพรตผมทองอีกคนที่เธอจำได้ดีทีเดียวว่า เขาคือคนที่ถูกสับเป็นชิ้นๆในกระสอบเมื่อหัวค่ำวันก่อน
เละเป็นเย็นลี่ขนาดนั้นยังคืนชีพได้ไม่อยากจะเชื่อ
“แมรี่ ขอบคุณที่เฝ้าร้านนะ แล้ว......ไนท์แมร์เกิดคลั่งอะไรขึ้นมาหรือไง”
เคนิสผู้ดูแลร้านสังฆภัณฑ์อีกคนเอ่ยขึ้นถามทันที เมื่อได้ยินเสียงม้าปีศาจร้องลั่น พยายามถีบฝาผนังโครมครามมาได้พักใหญ่แล้ว ฝาผนังที่เป็นไม้เริ่มทำท่าจะพังอยู่รอมร่อ และทันใดนั้นก็มีไม้แผ่นหนึ่งแตกเปรี๊ยะออกมา ตะปูที่ตอกไว้หลุดพุ่งหวุดหวิดเฉียดปักกลางศีรษะเด็กหนุ่มผมขาวที่เดินเข้าไปดูใกล้ๆเพียงไม่กี่เสี้ยวมิลลิเมตรเท่านั้น
“มันแค่เบื่อ อยากออกไปวิ่งเล่นเท่านั้นค่ะ ท่านเคนิส”สาวเมดเจ้าของม้าว่า
อาร์กัสจำภูตม้าดำตนนี้ได้ มันเป็นตนเดียวกันกับที่พาพวกเขาเข้าไปในสุสารโบราณของวาเลเรียส ภูตม้าดำพาหนะของดัลลาฮาน ม้าฝันร้ายในตำนานที่เขาบังเอิญเห็นมันวิ่งเล่นหลายครั้งตามท้องนานอกเมือง เจ้าม้าปีศาจมีร่างสูงใหญ่ผิดจากม้าทั่วไปนัก ตัวของมันดำสนิทราวกับสีของยามค่ำคืน ดวงตาสีแดงฉานเรืองรองในความมืด การปรากฏตัวของมันในบางครั้งก็ทำเอาพวกชาวบ้านที่ออกมาล่าสัตว์ยามค่ำคืน ต้องขวัญผวาวิ่งทุ่งราบไปเลยทีเดียว
“นี่แนะ ไนท์แมร์เด็กดีนะ เงียบๆนะ ผมมีไอ้นี่มาให้”
เด็กหนุ่มผมขาวตาสีทอง ที่ดูๆไปแล้วน่าจะอายุราวๆสิบห้าเอ่ยปลอบภูตม้าดำ พลางเปิดกระเป๋าเอาผลไม้บางอย่างที่ดูคล้ายๆกับผลแก้วมังกรสีดำออกมายื่นให้ไนท์แมร์ ภูตม้าดำทำจมูกฟุดฟิดดมผลนั้นก่อนที่จะกัดงับเข้าปากทันทีแล้วเคี้ยวอย่างตะกละตะกลาม
“ดีมากไนท์แมร์ ถ้านายทำตัวดีๆ ผมจะเก็บมาให้กินบ่อยๆ”
ไนท์แมร์เบิกตากว้างมองแก้วมังกรสีดำนั่น น้ำลายของมันไหลเยิ้มด้วยความหิว ก่อนที่มันจะมุดหัวกลับไปในคอกอย่างว่าง่ายเมื่อฟีเดอาโก้เอาผลแก้วมังกรสีดำทั้งหมดยัดเข้าไปให้มันในคอก แล้วเอาไม้มาตอกด้วยตะปูปิดผนังที่แตก ก่อนที่อาร์กัส แมรี่ และ เคนิส จะช่วยกันดันตู้เก็บของอื่นๆมาปังไว้
ถ้าอาร์คบิชอปมาเห็นคงต้องถูกบ่นอีกเป็นแน่
เคนิสถอนหายใจ
“เจ้าให้มันไปวิ่งเล่นที่ป่าเดียวดาย ข้าก็ยินดีนะ”
อาร์กัสหันมาคุยกับสาวเมดชุดแดงคนนั้น สาวเมดผมทองดวงตาสีฟ้า งดงาม แต่เขารู้สึกถึงความเยือกเย็นพร้อมทั้งพลังมืดทมิฬของปีศาจออกจากตัวของเธอ
“ขอบใจ แต่ไนท์แมร์ของฉันไม่ชอบต้นไม้ในป่านั่น”
อาร์กัสเห็นเงาบางอย่างซ้อนทับร่างหญิงสาวผมทองคนนี้อย่างชัดเจนจนต้องขยี้ตา ตั้งแต่เขาได้รับการรักษาจาก ดร.ไลท์ วาเลเรียส ตัวเขาก็รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ร่างกายที่เคลื่อนไหวได้ดีขึ้นกว่าเดิม ทั้งญาณสัมผัสปีศาจ หรือแม้แต่ดวงตาที่มองเห็นเหล่าผู้อยู่ในความมืดได้อย่างชัดเจน
“มองฉันแบบนั้น ต้องการอะไร นักพรต!”
อยู่ๆเสียงของสาวเมดคนนั้นก็ดังขึ้นในหัวของเขาเสียเฉยๆ ไอปีศาจรุนแรงแผ่ซ่านออกมาราวกับประกาศสงคราม อาร์กัสเริ่มรับมือกับเรื่องแปลกๆพวกนี้ได้บ้างแล้ว ก่อนจะตอบกลับทางจิตกลับไป
“เจ้า........คือดัลลาฮานใช่มั้ย ข้าเห็นนะ”
พรตหนุ่มว่า เขามองเห็นหัวกะโหลกของยมทูตในชุดคลุมสีดำ ซ้อนทับกับใบหน้าของสาวน้อยคนนั้นอย่างเด่นชัด มันคือจอมภูตในตำนาน ที่ว่ากันว่ามักจะปรากฏตัวพร้อมกับภูตม้าดำและถือเคียวขนาดใหญ่ มันลากวิญญาณของผู้ที่ใช้คุณไสย ทำสัญญากับความมืด หรือผู้ที่มีวิญญาณเลวทรามมากๆลงนรก ด้วยการเรียกชื่อ จึงมีคำเตือนที่บอกเล่ากันต่อๆมาว่า อย่าขานรับ หากอยู่ๆได้ยินเสียงเรียกชื่อตนเองทั้งๆที่หาต้นตอของผู้เรียกไม่เจอ และยิ่งโดยเฉพาะยามคำคืน หรือในป่าลึก ถ้าหากเป็นโจรผู้ร้ายก็ยังพอมีทางรอดชีวิตได้ แต่ถ้ามันเป็นจอมภูตตนใดตนหนึ่ง การที่ขานรับมันออกไปก็หมายความว่าบุคคลผู้นั้นวิญญาณได้ตกเป็นของมันแล้ว
รูปลักษณ์ของดัลลาฮานไม่แน่นอนนัก บางแห่งกล่าวกันว่า มันคือนักรบปีศาจหัวขาด บางแห่งกล่าวกันว่ามันคือภูตในผ้าคลุมดำที่ลอยละลิ่วในความมืด ไม่มีรูปมีร่าง เพราะส่วนใหญ่ผู้ที่เห็นมันมักจะไม่มีชีวิตรอดแล้วกลับมาเล่าให้ใครๆฟังได้
“ถ้าใช่ ! แล้วจะทำไม” แมรี่ว่าแล้วยิ้มเหยียด
“เจ้ามาที่นี่ทำไม ดัลลาฮาน”
“ก็จะอะไรละ ก็ทำงานรับใช้พวกบริสตั้น”
คำตอบนั้นทำให้อาร์กัสตื่นตระหนกแวปหนึ่ง ก่อนที่จะขยับยิ้มออกมาเมื่อเห็นดัลลาฮานในชุดเมด
“เจ้าก็ทำได้ดีนี่ ”
แมรี่กัดฟันกรอดด้วยความโมโห เธอไม่เข้าใจว่าทำไมพวกบริสตั้นสองคนนี้ ทั้งที่เธอได้พยายามเรียกชื่อไม่รู้กี่ครั้งแล้วแต่ก็ไม่อาจพาวิญญาณลงนรกได้
บ้าบอคอแตก !
เธอร้องด่าออกมาในใจ แต่มือไม้ก็ยังต้องปัดกวาดอยู่อย่างนั้น เธอเก็บไม้ถูพื้นที่ปาทิ้งไปขึ้นมาก่อนที่จะรีบถูพื้นต่อ และจอมภูตดัลลาฮานตนนั้น ก็ทำหน้าที่ในฐานะเมดได้ดีกว่าการเป็นภูตปีศาจเป็นไหนๆ
END / Dullahan and Black horse
ความคิดเห็น