คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 1 กรกฎาของคิมฮาวอน
วันอังคารที่ 1 กรกฎาคม 2003
คิมฮาวอน
“นากึม! เสร็จรึยังลูก!” ผมร้องเสียงดังผ่านห้องครัวไปถึงข้างบนบ้าน พลางยกกาแฟในมือขึ้นมาจิบต่อ แล้วส่องสายตากลับไปยังหนังสือพิมพ์ของเช้าวันนี้ ที่มีพาดหัวข่าวเรื่องการปล้นธนาคารที่กรุงโซล แล้วก็ได้ยินเสียงตอบกลับมาจากข้างบน
“เสร็จแล้วค่ะคุณพ่อ!” เสียงร้องใสแจ๋วดังมาจากบริเวณบันไดพร้อมกับการปรากฏตัวของนากึมและพี่เลี้ยงของเธอ ผมเหลียวตามทันที่แล้วยิ้มให้ พลางมองไปที่นาฬิกาตรงหัวบันได {06.47น.} นาฬิกาบอกผมอย่างนั้น
“คุณพ่อคะ อาทิตย์หน้ามีวันเกิดของเพื่อนที่ห้องนากึมค่ะ เขาชวนนากึมไปที่บ้านเขาด้วย คุณพ่อพานากึมไปหน่อยนะคะ” นากึมพูดเสียงแจ๋วแล้วอ้าปากเอาขนมปังที่พี่เลี้ยงยื่นให้เข้าปาก
“ไม่รู้สิคะ คุณพ่อยังไม่รู้เลยว่าวันนั้นพ่อจะว่างมั้ย” ผมพูดแล้ววางหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะ “แล้วอีกอย่างนะนากึม ให้พี่ซารองไปเป็นเพื่อนก็ได้นี่คะ ไม่เห็นต้องให้คุณพ่อไปเลยนี่นา” ผมพูดอีกครั้งแล้วยื่นมือไปลูบหัวของนากึม
“ถ้าคุณพ่อไม่ไปนากึมก็ไม่ไป” นากึมพูดเสียงแข็งแล้วทำหน้าบูดบึ้งแล้วเม้มปากแน่นไม่ยอมกินขนมปัง
“พี่ซารองไปเป็นเพื่อนนากึมก็ได้นะจ๊ะ คุณพ่อเขาคงไม่ว่างหรอกนะค่ะ” พี่เลี้ยงของนากึมพูดขึ้นแล้วพยายามจะยื่นขนมปังให้นากึมอีกคำ
“คุณพ่อไม่ไป นากึมก็ไม่กิน” นากึมร้องเสียงดัง
“อืม งั้นเอางี้มั้ยนากึม คุณพ่อจะพานากึมไปก็ได้นะคะ แต่นากึมต้องเป็นเด็กดีก่อนนะ” ผมพูดออกไปอย่างนั้นโดยไม่ทันคิดว่านากึมจะรู้ตัวทันไหมว่าผมโกหก
“ค่ะ คุณพ่อ อิอิ” นากึมหัวเราะแล้วกินขนมปังต่ออย่างร่าเริง ผมถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วคิดถึงอนาคตว่าถ้าอาทิตย์หน้าผมไม่ว่างขึ้นมาจะเป็นยังไง เฮ้อ พูดอะไรไม่ระวังตัวเลยเรา
“พ่อมาส่งแค่นี้นะ แล้วตอนเย็นจะมารับอีกที” ผมจับบริเวณข้อมือทั้งสองข้างของนากึมแล้วยิ้มน้อยๆเผยลักยิ้มที่ติดตัวผมมาแต่เกิด
“ค่ะ แล้วซื้อคุกกี้มาให้อีกนะคะ” นากึมพูดเสียงใสแล้วยิ้มตอบพลางก้มหน้าลงมาจูบผมที่แก้ม
“อย่าดื้อกับคุณครูล่ะนากึม” ผมพูดเสียงเบาด้วยประโยคเดิมๆที่เคยพูดทุกเช้าพลางปล่อยมือจากนากึม แล้วลุกขึ้นยืนทันที
“ค่ะ” นากึมพูดพลางหัวเราะร่าแล้วโบกมือลาผมพลางวิ่งเข้าไปในโรงเรียนด้วยท่าทางร่าเริง
ความจริงแล้วนากึมไม่ใช่ลูกของผมหรอก แต่ว่าเป็นลูกของพี่ชายกับพี่สะใภ้ผมที่เสียชีวิตโดยอุบัติเหตุไปนานหลายปีแล้ว ตอนแรก นากึมก็ไม่ยอมรับผมหรอกนะ เอาแต่ร้องไห้หาพี่ชายผมตลอดเวลา แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผมก็กลายเป็นพ่อของนากึมไปทันที แต่ก็ไม่เป็นไร อยู่ดีๆมีลูกสาวน่ารักๆผุดขึ้นมาหนึ่งคนก็น่าสนุกดีเหมือนกัน
- กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
“สวัสดีครับ” ผมหยิบโทรศัพท์มือถือจากในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาพูดด้วยท่าทางเบื่อหน่าย
“ครับ นี่ผมเองฮาวอน คิมฮาวอน” เสียงนิ่งเรียบเฉยของผมดังผ่านไมค์โทรศัพท์ไปยังปลายสาย โดยไม่เหลือร่องรอยของเสียงที่ดูร่าเริงตอนผมพูดกับนากึมสักนิด “ว่าไงจีเร”
“ท่านประธานคะ เราติดต่อนัดคนของทางแมกซ์ฟีล เรื่องเปิดตัวในตลาดหุ้นโลกได้แล้วค่ะ เป็นอันว่านัดพบที่ร้านดาลูฟ วันพฤหัสนี้สิบเอ็ดโมงค่ะ” เสียงปลายสายดังตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“อืม ชั้นรู้แล้ว แล้วเจอกันที่บริษัท แค่นี้นะ” ผมตอบกลับไป แล้วปิดฝาพับมือถือพลางยัดลงกระเป๋ากางเกง หลังจากนั้นก็เดินขึ้นรถพลางสตาร์ทเครื่องเพื่อเดินทางไปยังบริษัทที่ทำงานของผมเอง
“นี่จีเร ช่วยจัดตารางวันอาทิตย์ตอนเย็นๆของผมให้ว่างๆหน่อยนะ ผมมีนัดกับนากึม” ผมพูดพลางเก้าเท้ายาวๆไปข้างหน้าแล้วสอดส่องสายตาไปทางพนักงานบริษัทรอบตัวที่พากันโค้งตัวให้ “แล้วก็วันนั้นช่วยเตรียมของขวัญให้ผมด้วยกล่องหนึ่ง อ้อ สำหรับเด็กผู้หญิงห้าขวบนะ” ผมพูดขณะที่ก้มหัวตอบพวกพนักงาน
“ค่ะท่าน วันนี้ตอนเที่ยงว่างถึงบ่ายโมงครึ่ง หลังจากนั้นถึงบ่ายสามท่านมีนัดประชุมกับคุณนากายา หุ้นส่วนใหญ่ของเราค่ะ” จีเรพูดด้วยท่าทางกระฉับกระเฉง
“ทำไมผมต้องมาเจอนากายาด้วยนะ” ผมสบถออกไปเบาๆพลางก้าวเท้าไปข้างหน้าต่ออย่างรวดเร็ว
“นี่ ฮาวอนคะ นานแล้วนะที่เราไม่ได้ไปดินเนอร์กัน เย็นนี้เราไปกันเลยมั้ยคะ” หญิงสาวในชุดรัดรูปสีแดงส่งเสียงหวานมาทางผม
“กายาครับ ตอนนี้เรายังอยู่ในเวลางานนะครับ” ผมพูดออกไปแล้วยื่นเอกสารไปให้เธอหนึ่งชุด
“คุณพ่อน่ะ ไว้ใจคุณนะคะ เชิญคุณจัดการได้เลย แล้วอีกอย่างฉันแค่มาดูงานเฉยๆไม่ได้มาทำงาน และอีกอย่างนะคะ กายามานี่เพราะคิดถึงคุณด้วยนะคะ” กายาพูดเสียงหวานอีกครั้งแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้เชิงจะจูบผม แต่ดีที่ผมเอามือกันไว้ทันก่อนจนกายาทำหน้าขุ่นเคือง
“ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้ว ผมขอตัวไปรับนากึมก่อนนะครับ ได้เวลาเลิกเรียนแล้ว” ผมลุกขึ้นยืนพลางปิดโน้ตบุ๊กของตัวเอง แล้วมองไปที่กายา “หวังว่าเราคงไม่เจอกันอีกนะครับ” ผมพูดเบาๆแล้วทำท่าว่าจะออกจากห้อง
“ให้กายาไปรับน้องนากึมด้วยคนนะคะ คิดถึงจะแย่แล้ว ไม่เจอตั้งนาน” กายาทำเสียงอ่อยแล้วเอามือค้ำโต๊ะทำงานผมพลางยื่นหน้าสวยๆของเธอเข้ามาใกล้มากขึ้น “นะคะฮาวอน”
“แล้วแต่สิครับ ถ้าไม่กลัวโดนนากึมกระโดดใส่อีกรอบนะครับ” ผมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะพลางนึกถึงวีรกรรมที่นากึมเคยทำไว้กับกายาเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อกายาพยายามดึงดันจะเล่นกับนากึมเพื่อเอาใจผมโดยที่ไม่ดูความสมัครใจของนากึม แน่นอน หากเธอยังจำวันนั้นได้ กายาเธอต้องตอบปฏิเสธเป็นแน่
“ค่ะ กายาไม่กลัวค่ะ”
กรรมของเวร
“นากึมต้องดีใจและประหลาดใจมากๆแน่เลยค่ะที่กายามารับวันนี้ เราสนิทเหมือนแม่ลูกกันเลยนะคะ คิก” กายาพูดด้วยน้ำเสียงใส่จริตน้อยๆพลางปั้นหน้ามีความสุขมาที่ผม ผู้นั่งอยู่ที่คนขับด้านข้างของเธอ
“ครับ ผมก็หวังว่าเธอคงจะไม่ตกใจและประหลาด มากนัก” ผมพูดออกไปโดยมองไปที่ด้านหน้าของรถ ปล่อยให้กายาทำสีหน้าเคืองๆต่อไป เลยหัวมุมนี้ก็จะถึงแล้ว โรงเรียนของนากึม
ทันทีที่ผมดับเครื่องรถเมื่ออยู่ที่ถนนหน้าโรงเรียน สายตาของผมก็ไปเจอกับนากึมที่กำลังเล่นชิงช้าอยู่กับใครอีกคนหนึ่ง
เธอเป็นหญิงสาวผมยาวสีน้ำตาลประบ่า ดวงตากลมโตเปล่งประกาย คิ้วเข้ารูปสวยงามเหมาะกับใบหน้าทรงไข่ ริมฝีปากสีชมพูอ่อนๆน้อยๆ ผิวดูขาวสะอาดและนวลเนียน สีหน้าที่แสดงออกตอนนี้ดูมีความสุขและอบอุ่น ดูน่าเข้าใกล้แก่บุคคลรอบข้าง รอยยิ้มดูมีเสน่ห์น่าค้นหา เสียงพูดคงจะเพราะเหมือน
เฮ้ย!!!!!! นี่เราจะมามัวคิดไปถึงไหนต่อไหนเรื่องหน้าตาของผู้หญิงคนอื่น ใครก็ไม่รู้จักที่เพิ่งเคยเห็นหน้าเนี่ยนะ แล้วเธอเป็นใครกันมาเล่นอยู่กับนากึมได้
“ผู้หญิงนั้นเป็นครูของนากึมเหรอคะ ” กายาร้องบอก อืม คงจะงั้นมั้ง แต่ทำไมเราไม่เคยเห็นหน้าเธอล่ะ แปลก “บีบแตรเรียกสิคะ” กายาพูดอีกครั้ง
- ปี๊น! มือของผมกดแตรไปโดยอัตโนมัติ แล้วหลังจากนั้น นากึมกับผู้หญิงคนนั้นก็ทำท่าว่าจะได้ยินเสียงแตร ไม่ช้า นากึมก็โบกมือมาทางผมแล้วลาเธอคนนั้นพร้อมกับวิ่งตรงมาที่ผม
“สวัสดีค่ะคุณพะ พ่อ” นากึมพูดด้วยเสียงร่าเริงในตอนเริ่มแล้วออกอาการตกใจเล็กน้อยในตอนปลาย
“ว่าไงจ๊ะนากึม” กายาร้องทักข้างกายผมด้วยสีหน้าตลกๆ
“สวัสดีน้ากายาเขาสิคะ” ผมพูดออกไปยังนากึมแล้วหันไปมองที่โรงเรียนบริเวณชิงช้าอีกครั้ง เธอหายไปแล้ว ไม่ได้อยู่ตรงชิงช้าแล้ว “ขึ้นรถมาสิ” ผมบอกนากึมอีกครั้งแล้วกดปลดล็อกประตูหลัง
เอาเถอะๆ เธอคนนั้นจะไปไหนก็ช่าง ไม่เกี่ยวกับเรา เฮ้อ กลับบ้านไปคงวุ่นอีกนานแน่ๆ
จบวันที่1
ความคิดเห็น