ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Horror Story

    ลำดับตอนที่ #2 : เสียงเรียกของแม่น้ำ

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.ย. 49


    เสียงเรียกจากแม่น้ำ

     

              สายลมยามค่ำอันเย็นเฉียบพัดผ่านมาทางแม่น้ำพร้อมกับเศษใบไม้จำนวนหนึ่ง ผิวน้ำสีน้ำเงินเข้มจนออกดำ กระเพื่อมขึ้นลงไปเรื่อยๆเป็นจังหวะ เสียงของต้นไม้ที่เอนไหวไปตามความแรงลมที่พัดผ่านดังขึ้นเป็นระยะๆ เส้นผมของชั้นก็ปลิวไปตามสายลมเช่นกันกับที่ใบไม้ปลิวไปสิ่งเหล่านี้ล่ะ คือการแสดงออกถึงความเศร้าสร้อยของแม่น้ำที่ขาดคนอยู่ข้างตน

     

     

              นี่ คาโอริเย็นนี้ไปร้องคาราโอเกะกับพวกเรามั้ยที่หลังสถานีรถไฟน่ะริโอะเปิดบทพูดขึ้นมาด้านหน้าพลางเอามือทั้งสองค้ำเหนือโต๊ะเรียนของชั้น ขณะที่ชั้นกำลังเก็บข้าวของเตรียมตัวกลับบ้าน

              โทษทีนะ วันนี้ชั้นไม่ว่างน่ะต้องช่วยแม่ทำงานที่ร้านชั้นตอบกลับออกไปโดยที่ไม่ต้องคิด แล้วหยิบสมุดโน้ตวิชาคณิตศาสตร์ที่วางอยู่บนโต๊ะเก็บลงกระเป๋า

              แย่จังแต่ก็ไม่เป็นไร งั้นพวกชั้นไปกันแค่นี้ก็ได้ ไปนะริโอะพูดพลางพลางยิ้มให้ แล้วเอามือทั้งสองข้างออกจากโต๊ะของชั้น แล้วหันไปคว้ากระเป๋านักเรียนของตนแทน แล้วพุ่งไปที่ประตูหน้าห้องเรียนโดยมีกลุ่มเพื่อนในห้องประมาณสามถึงสี่คนรออยู่

              บายจ้ะริโอะหันกลับมากล่าวลาอีกครั้งแล้วหายไปพร้อมกับเพื่อนๆของเธอ

              ในบรรดาเพื่อนร่วมชั้นที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน คนที่สนิทกับชั้นที่สุดก็เป็นริโอะนี่ละ เราแทบจะเข้ากันได้ทุกเรื่อง ทุกครั้งที่เราเปิดบทสนทนาขึ้น การพูดคุยครั้งนั้นต้องกินเวลาร่วมชั่วโมงเป็นแน่พอมานึกเอาตอนนี้ ชั้นก็เสียใจเหมือนกันที่ปฏิเสธเธอไปอย่างนั้น โดยที่ไม่รักษาน้ำใจเธอเลย อย่างน้อย น่าจะพูดว่า -จริงอ่ะ อยากไปจัง แต่ติดธุระ ไว้วันหลังนะ- ซึ่งน่าจะดีกว่าการขอโทษที่สั้นๆห้วนๆอย่างนั้นที่เราพูดออกไปเรานี่แย่จริง

     

     

              ทางเดินกลับบ้านของชั้นต้องอ้อมไปทางหลังโรงเรียน แล้วลัดไปทางแม่น้ำคะซึ แม่น้ำขนาดใหญ่ประจำเมืองที่ตัดผ่านเขต1กับ2 ซึ่งตรงนั้นก็จะมีสะพานไม้เก่าๆอยู่แห่งหนึ่ง มันถูกสร้างมานานแล้ว ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ แต่ที่รู้ก็คือ มันแก่กว่าชั้นละกัน

              มันถูกสร้างด้วยไม้สนเก่าๆที่มีรอยรั่วมากมาย ดูเหมือนว่าจะพังลงมาไม่รู้ตอนไหน แต่มันก็ยังมีผู้คนใช้มันอยู่ถึงปัจจุบัน แต่ถ้าหากมีพายุพัดมาทีล่ะก็ แค่ลมบ้าหมูก็พอ มันคงพังลงมาเป็นแน่ และที่ใต้สะพานไม้นั่น ก็จะมีหลุมทิ้งขยะขนาดใหญ่ตั้งอยู่ มันใหญ่ประมาณเส้นผ่านศูนย์กลางสองเมตร ส่วนความลึกนั้นชั้นไม่แน่ใจ แต่ก็คงจะลึกน่าดู ที่หลุมนั้น เมื่อก่อนเคยเป็นที่เผาขยะหมู่บ้าน แต่ตอนนี้ไม่มีใครใช้งานมันอีกแล้ว เพราะเมื่อสองปีก่อนมีคนไปได้กลิ่นที่เหม็นสุดๆของซากอะไรสักอย่างในนั้นตอนเอาขยะไปทิ้ง ซึ่งคนๆนั้นก็บอกอีกว่าเป็นซากศพของคนที่ถูกฆาตกรรมนำมาทิ้งไว้ ตอนนั้นผู้คนเกือบทุกครอบครัวจากละแวกนั้นก็แห่กันไปดู บ้างก็บอกว่าเป็นซากสัตว์ บ้างก็เชื่อว่าเป็นตามที่ข่าวลือ จนต้องพาตำรวจมาตรวจดู จากนั้นเค้าก็ส่งคนลงไปสำรวจด้านล่าง แต่ก็ไม่พบซากอะไรอย่างที่ข่าวลือไว้เลย ตำรวจจึงสันนิฐานว่าเกิดจากกลิ่นขยะจำนวนมากผสมกัน แต่ชาวบ้านก็ไม่เชื่ออยู่ดี เพราะกลิ่นมันเหม็นสุดๆ แต่แล้วเมื่อข่าวเริ่มจางลง หลุมนั่นก็ถูกทิ้งร้างเอาไว้

              ตึง!!!” เสียงวัตถุขนาดใหญ่ซักอย่างชนเข้ากับราวเหล็กของสะพานด้านหลังชั้น เมื่อหันหลังไปดูก็พบชายคนหนึ่งนั่งกุมหัวเข่าอยู่ด้วยอาการเจ็บปวด เขาสวมหมวกปีกกว้าง แว่นตาดำและผ้าปิดปากปกปิดหน้าตาไว้ เขาคงเผลอเดินไปชนราวเหล็กนั่นมั้งชั้นเผลอหัวเราะออกมาเล็กน้อยกับอาการของเขาแล้วเริ่มเดินต่อไป แต่แล้ว เมื่อชั้นเดินไปได้ซักพัก ชั้นก็รู้สึกเหมือนมีใครซักคนเดินตามชั้นมา เพียงแต่ชั้นไม่กล้าที่จะหันกลับไปดู

              ชั้นเริ่มเดินเท้าถี่มากขึ้นด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่รู้สึกว่าฝีเท้านั่นก็ตามชั้นมาติดๆ พอถึงหัวมุมถนนชั้นก็ออกวิ่งทันทีจริงๆด้วย ชายคนนั้นนั่นเอง มันวิ่งตามชั้นมาจากข้างหลัง ชั้นแทบจะร้องไห้ออกมาทันที แต่แล้วเมื่อใกล้ถึงอีกหัวมุมของถนนแห่งหนึ่ง ชั้นก็เริ่มวิ่งให้ห่างกับมันเพื่อที่จะไปหลบอยู่ในตู้โทรศัพท์เก่าเก็บตรงหัวมุมที่ไม่มีใครใช้แล้ว

              ชึ่บ…” ชั้นปิดประตู้ตู้โทรศัพท์เบาๆก่อนที่มันจะมาแล้วมันก็วิ่งมาหยุดอยู่ที่ด้านหน้าตู้โทรศัพท์ที่ชั้นแอบอยู่ มันเอามือท้าวหัวเข่าแล้วพักหายใจ ก่อนที่จะหันซ้ายทีขวาที แล้วยืนขึ้นตรงเหมือนทำท่าจะวิ่งต่อ

              ชิ!!!” ชั้นจามออกมาเบาๆเพราะสูดฝุ่นเข้าไปในจมูกเมื่อตอนเข้ามา เพราะตู้นี้มันเก่ามาก แล้วมันก็หันมามองที่ตู้โทรศัพท์มันค่อยๆเอื้อมมือมาจับที่ประตูตู้ ขณะที่ชั้นเริ่มกอดกระเป๋าแน่นแล้วหยุดหายใจ ฝ่ามือของชั้นเริ่มชุ่มไปด้วยเหงื่อจำนวนมาก ทำให้กระเป๋าแทบหลุดออกจากแขน แต่มันก็อยู่ได้ด้วยการจิกเล็บจากแรงของชั้นลงบนกระเป๋า ขาของชั้นแทบจะหมดแรงเมื่อมันทำท่าว่าจะเปิดประตูออก ปลายนิ้วของชั้นสั่นระริกทันทีที่มันเริ่มเปิดประตูออกทีละนิด ทีละนิด ในที่สุด มันก็

              กริ๊งงงงงงงงงงง!!!” เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าของมันดังขึ้นจากกระเป๋าเสื้อ จากนั้นมันก็ผละมือออกจากประตูแล้วคว้าโทรศัพท์ออกมา มันพยักหน้าสองสามทีแล้วย้อนกลับไปทางเดิมชั้นทรุดลงนั่งกับพื้นของตู้โทรศัพท์แล้วหายใจหอบแฮ่กๆ จากนั้นก็คิดได้ว่ามันอาจกลับมาอีกจึงรีบออกมาจากตู้แล้วดิ่งกลับบ้านทันที

     

     

              “…จากรายงานที่ได้รับจากทางสถานีตำรวจท้องถิ่น มีเด็กสาวนักเรียนม.ต้นสูญหายไปอีกราย เมื่อเวลา22.37.ของค่ำวานนี้ เธอเป็นนักเรียนชั้นม.3/A ของโรเรียนโอซากิ มีนามว่าอาคาซาโตะ เรนะ นับตั้งแต่วันที่14กันยายน ตอนนี้ มีผู้สูญหายในลักษณะเดียวกันจำนวน5ราย ตอนนี้ความคืบ…” เสียงข่าวจากทีวีในตอนเที่ยงขณะที่พักทางอาหารกลางวันดังขึ้น

              ประโยคเมื่อครู่นั้น แก้ไขทุกข้อสงสัยให้กระจ่างได้ถึงการหายตัวไปไม่มาโรงเรียนของเรนะ เพื่อนร่วมห้องของชั้น ตั้งแต่สามวันก่อนนี่ล่ะ หัวข้อพิพาทของชั้นในวันนี้

              ก็ตอนนั้นเราแยกกันกลับบ้านแล้วอ่ะ เรนะเค้าก็เดินกลับบ้านทางเดิมน่ะแหล่ะ สะพานผีสิงไงแล้วก็หายไปเลยริโอะ เล่าให้ฟังถึงเรื่องที่ไปร้องคาราโอเกะกับเรนะตอนนั้นให้ชั้นฟังแสดงว่าไม่มีใครอยู่กับเธอตอนเธอหายไปบริเวณสะพานไม้ข้ามแม่น้ำคะซึ

              นี่ๆ วันนี้ไปร้องคาราโอเกะมั้ย ชั้นเลี้ยงเองชั้นโพล่งออกไปโดยหวังที่จะดูร่องรอยของเรนะ ริโอะตอบตาเป็นประกายว่า

              แน่ใจนะชั้นไปแน่ อิอิเธอเริ่มเอามือสางผมแล้วยิ้มเล็กน้อย

     

     

              สายลมยามค่ำอันเย็นเฉียบพัดผ่านมาทางแม่น้ำพร้อมกับเศษใบไม้จำนวนหนึ่ง ผิวน้ำสีน้ำเงินเข้มจนออกดำ กระเพื่อมขึ้นลงไปเรื่อยๆเป็นจังหวะ เสียงของต้นไม้ที่เอนไหวไปตามความแรงลมที่พัดผ่านดังขึ้นเป็นระยะๆ เส้นผมของชั้นก็ปลิวไปตามสายลมเช่นกันกับที่ใบไม้ปลิวไปสิ่งเหล่านี้ล่ะ คือการแสดงออกถึงความเศร้าสร้อยของแม่น้ำที่ขาดคนอยู่ข้างตน

              เป็นไง ริโอะได้ยินเสียงที่แม่น้ำร้องเรียกมั้ยชั้นเอามือทั้งสองกอดเข่าทั้งสองข้างเข้าไว้ด้วยความหนาวเหน็บ มันมีพลังดึงดูดนะ แม่น้ำน่ะมันจะคอยหลอกล่อให้เราเข้าไปหามัน เข้าไปใกล้มัน เข้าไปเล่นกับมัน ทีละน้อย ทีละน้อยแล้วเมื่อเราเผลอ มันก็จะดูดกลืนเราให้จมหายไปภายใต้ร่างของมันน่ากลัวมั้ย คิกชั้นพูดด้วยเสียงแผ่วเบา

              เธอทำอย่างนี้ทำไม!!!” ริโอะร้องพลางดิ้นอยู่บนพื้นหญ้าหวังที่จะให้เชือกที่รัดข้อมืออยู่ให้หลุดออก ทำไม!!!” เธอร้องอีกครั้ง

              เงียบซะถ้ายังไม่อยากตายชั้นพูด้วยน้ำเสียงนิ่งเงียบที่ฟังแล้วเยียบเย็น แล้วริโอะก็หยุดร้อง เธอเคยได้ยินข่าวครั้งที่มีคนพบกลิ่นเหม็นเน่าที่หลุมตรงนั้นมั้ยชั้นหันหน้าไปที่ใต้สะพานไม้ที่อยู่ห่างออกไปแล้วชี้ไปที่ใต้หลุมนั้น

              เคย…” เธอตอบอย่างเบาๆเหมือนระวังอะไรสักอย่าง

              ยูจะ หมาของชั้นที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก มันเลี้ยงชั้นมาพร้อมกับพ่อและแม่ เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของชั้นด้วยแต่แล้ว ตอนที่พามันมาเดินเล่นแถวนี้ ชั้นโยนลูกบอลให้มันคาบเล่น แต่แล้ว จู่ๆ มันก็กระโจนลงแม่น้ำทันทที่ชั้นนั่งพัก จากนั้น มันก็ค่อยๆจมหายไปโดยที่ไม่ได้ยินเสียงที่ชั้นร้องเรียกอยู่เลย

              โง่เอง ชิ…” ริโอะสบถเบาๆ

              หุบ-ปากชั้นพูดขึ้น แล้วเอามีดปอกผลไม้ในมือปักลงบนขาของริโอะอย่างแรง

              กรี๊ดดดดดดดดดดด---อุบเธอร้องเสียงดังมากจนชั้นเอาโบว์ที่อยู่บนคอเสื้อของริโอะยัดเข้าปากของเธอ

              ชั้นหาศพของเค้าเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ จนเวลาผ่านไปนานหลายวัน ชั้นแทบเป็นบ้าแต่แล้ว เมื่อมีข่าวที่พบกลิ่นเหม็นเน่าที่หลุมนั่น คืนนั้น ชั้นโดดลงไปดูกับตาตัวเองยูจะถูกกองขยะมากมายทับถมอยู่ด้านล่าง ร่างของเขาเหม็นเน่าพอสมควรชั้นพูดจบแล้วหันไปดูริโอะที่นอนอยู่ข้าง เธอร้องไห้น้ำตาไหลออกมาเป็นทางขณะที่เลือดตรงขาของเธอไหลออกมาไม่หยุด

              กระแสน้ำพัดพาเธอมาจากแม่น้ำจนตกลงไปในหลุมแปลกใช่มั้ยชั้นพูดขึ้นพลางลุกขึ้นยืนแล้วจับขาทั้งสองข้างของริโอะขึ้น เขาน่าสงสารนะที่ต้องอยู่กับแม่น้ำคนเดียวชั้นเริ่มลงมือลากเธอมาจากพื้นให้เข้าใกล้แม่น้ำเรื่อยๆ ชั้นจึงสัญญากับเขาไว้ว่าจะหาคนมาอยู่เป็นเพื่อนกับเขา เท่าที่จะหาได้ตอนนี้รองเท้านักเรียนของชั้นเริ่มมีน้ำซึมเข้ามาแสดงว่าชั้นถึงริมแม่น้ำแล้ว

              เธอคือคนที่6” ชั้นพูดพลางปล่อยเธอลงกับน้ำ น้ำตาของเธอไหลออกมาไม่หยุดเหมือนเดิม แต่แล้วเมื่อชั้นดึงมีดเล่มเดิมออกเธอเริ่มแสดงหน้าตาที่บูดเบี้ยวไม่ได้รูปออกมา จากนั้นชั้นจึงเอามือดึงโบว์จากปากของเธอออก

              ยูจะชอบเสียงร้องของคนนะชั้นพูดแล้วง้างแขนขึ้น

              อีบ้าาาาาาาาาาาาาาาาา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” ริโอะร้องดังลากเสียงยาวก่อนที่จะโดนมีดที่สองปักลงบนท้องของเธอ ชั้นแสยะยิ้มออกมาอย่างพอใจแล้วค่อยๆง้างแขนขึ้นเหนือหัวด้วยความสุขอีกครั้ง

              ริโอะสั่นสะเทือนรุนแรงตามจังหวะการแทงมีดทำให้น้ำรอบข้างกระเพื่อมไปหมด ทุกครั้งที่มีดลงบนร่างของเธอ จะมีเลือดสีแดงสดน่าขยะแขยงพุ่งออกมาเป็นระยะๆ พร้อมกับเสียงร้องของเธอที่ดังออกมาอย่างน่าเกลียดพอๆกัน แต่แล้วเมื่อร่างของเธอเริ่มแน่นิ่งไม่กระดุกกระดิกอีก ชั้นก็เอามีดที่เพิ่งแทงลงไปออกมาจากท้องของเธอ ยูจะเธอได้เพื่อนใหม่แล้วนะชั้นแหงนหน้ามองฟ้าแล้วโยนมีดลงแม่น้ำ

              ชั้นเริ่มถอยออกมาจากร่างของริโอะ มายืนด้านบนของร่างเธอแล้วผลักร่างของเธอให้ไหลไปตามกระแสน้ำไม่ช้า ร่างของเธอก็ค่อยๆจมหายไป

     

     

              เป็นไง คิตะโอเห็นว่าไล่ทันแล้วนี่นายตำรวจอ้วนพูดขึ้นขณะที่มือยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาจิบในร้านกาแฟ

              เอาสิวะ อุตส่าห์ไล่มันเกือบจะจับได้แล้วแท้ๆ แต่ถ้าหัวหน้าไม่โทรมาก่อนนะปานนี้อีกเด็กรายที่หกคงไม่หายไปอีกหรอกคิตะโอตำรวจหนุ่มไฟแรงประจำเมืองพูดขึ้นพลางวางถ้วยกาแฟลงอย่างแรง

              เอาน่า ตำรวจอย่างเราน่ะนะ ทำงานไม่ดีก็ไม่โดนไล่ออกหรอกยกเว้นทำผิดซะเองนะ

              เอา! เงียบได้แล้ว จะกินกาแฟโว้ยย!” คิตะโอพูดก่อนที่จะหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่าน

              “…เด็กหญิงมัธยมต้นหายสาบสูญ6ราย…” หัวข้อข่าวขนาดใหญ่พาดหนังสือพิมพ์รายวันพร้อมรูปของหญิงสาวทั้งหกที่หายไป

              ขอให้อีหนูคาโอริโดนจับไวๆเถอะ จะได้ปิดคดีซะที…”

              ถ้าหาหลักฐานให้ได้ก่อนนะนายตำรวจอ้วยสวนทันควัน

     

    จบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×