ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The July's month:กรกฎาคมที่รัก

    ลำดับตอนที่ #1 : 1 กรกฎาของเซนกิมจุน

    • อัปเดตล่าสุด 31 ธ.ค. 49


    วันอังคารที่ 1 กรกฎาคม 2003

    เซนกิมจุน

              กิมจุน! เสร็จหรือยังลูก!” เสียงร้องของแม่ดังมาจากข้างล่างอย่างคุ้นเคยในทุกวัน ชั้นจึงเอาหวีที่ค้างอยู่บนผมเมื่อครู่วางลงบนโต๊ะ แล้วหันไปคว้ากระเป๋าด้านข้างแทนแล้วร้องตอบแม่ออกไปว่า

              เสร็จแล้วค่ะ!” ทันทีที่ฉันลุกขึ้นพร้อมกระเป๋าสีขาวในมือ และพร้อมที่จะเปิดประตูห้องนอนลงไปสู่ชั้นล่าง สายตาของฉันก็สาดส่องไปที่นาฬิกาตั้งโต๊ะบนหัวนอนอันน้อยของฉัน {06.47.} นาฬิกาบอกฉันอย่างนั้น

     

     

              ว่าแต่ว่า พี่น่ะได้สอนวิชาอะไรเหรออารองน้องสาวของชั้นถามเสียงใสมาจากด้านข้างของโต๊ะกินข้าว

              ยัยอารอง ครูสอนอนุบาลทั่วๆไปเขาก็สอนหมดทุกอย่างน่ะแหละ ไม่เลือกหรอกว่าวิชาอะไรฉันตอบออกไปพลางเอาข้าวที่ติดอยู่ตรงตะเกียบเข้าปาก แล้วอีกอย่าง พี่น่ะไม่ได้ไปเป็นครูเป็นแค่ครูฝึกงานฉันพูดอีกครั้งก่อนที่จะใช้ช้อนตักสาหร่ายเข้าปากอีกคำ

              นี่อารองอย่าไปยุ่งเรื่องของพี่เขานักเลย ห่วงเรื่องของตัวเองก่อนเหอะ ผลการสอบกลางปีได้ไม่ดีไม่ใช่เรอะแม่บอกให้ตั้งใจเรียนก็ไม่ฟังเสียงของแม่บ่นดังมาจากในครัวพร้อมกับร่างของแม่ที่ถือถ้วยซุบกับจานกิมจิเดินออกมา

              พี่ก็ว่างั้นฉันเสริมแล้วหันไปยิ้มเย้ยๆใส่อารองแล้วรับจานกิมจิจากแม่มาวางลงบนโต๊ะ

              ว่าแต่คนอื่น ตัวเองก็เหมือนกันน่ะแหละ  งานที่ทำตอนนี้จะได้เงินหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลยอารองย้อนพลางคีบข้าวเข้าปากคำใหญ่ แล้วยิ้มเย้ยๆเหมือนที่ฉันเคยยิ้มใส่ฉัน

              บนโต๊ะอาหารอย่าเถียงกันได้ไหมเสียงพ่อจากหัวโต๊ะดังขึ้น แล้วพ่อก็ละสายตาจากหนังสือพิมพ์บนมือมามองที่ฉันและอารองด้วยการชำเรือง เสียมารยาทพ่อบ่นอีกคำ ก่อนที่จะเอากาแฟขึ้นมาจิบ

              คุณคะ ยังไม่ชินอีกเรอะ ตั้งสิบกว่าปีแล้วนะแม่พูดแล้วก็นั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆพ่อ เห็นเป็นอย่างนี้ทุกเช้า คุณก็พูดอย่างนี้ทุกเช้า แล้วก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแม่เอาช้อนตักซุบขึ้นซดทันทีที่พูดเสร็จพลางทำหน้าเอือมระอาฉันและอารอง

              ใช่ค่ะ พ่อน่าจะชินได้แล้วนะอารองเสริม

              หุบปาก!” พ่อตวาดจนอารองสะดุ้ง จากนั้นแม่ก็หัวเราะพร้อมกับชั้นเบาๆเพราะท่าทางของอารองเหมือนลูกหมาเพิ่งตกน้ำก็ไม่ปาน

              หยุดสั่นแล้วกินข้าวได้แล้วฉันเอามือวางบนไหล่ของอารองแล้วหัวเราะเบาๆอีกครั้งโดยไม่สนใจหน้าตาอาฆาตที่อารองหันมาใส่ฉันช่วยไม่ได้ ก็มันขำนี่นา

     

     

              งานเริ่มตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงสี่โมงเย็น ทำงานตั้งแต่ดูแลเด็ก ทำความสะอาดและช่วยเหลืองานครูประจำ หากว่าเธอทำงานอยู่ในเกณฑ์ดีจนทางเราพอใจ เราจะรับเธอเป็นพนักงานประจำ และถ้าหากว่าเธอทำได้ดีเกินเท่าที่เราคาดหวัง ตำแหน่งครูประจำอาจเป็นของเธอมีอะไรสงสัยมั้ยเสียงแหบพร่าออกแนวหนักแน่นของผู้อำนวยการนาดาส่งผ่านมาที่ฉันผู้นั่งอยู่อีกฝั่งของโต๊ะ

              ไม่ค่ะแล้วเรื่องเรื่องเอ่อชั้นพูดตะกุกตะกักออกไปส่อแววพิรุธอย่างที่จับได้ง่ายดาย

              เรื่องเงินเดือนให้เธอเป็นวันละสองหมื่นวอน พอใจมั้ยเสียงแหบพร่าดังอีกครั้ง

              ค่ะ ค่ะฉันตอบออกไปอย่างตะกุกตะกักเช่นเคย

              ตอนนี้ก็ถึงเวลาทำงานของเธอแล้ว พร้อมรึยังเจ้าของเสียงแหบพร่าพูดอีกครั้งพลางเอามือที่ประสานกันอยู่บนโต๊ะเมื่อครู่มากอดอก แล้วมองมาทางชั้นที่นั่งสั่นน้อยๆอยู่อีกฝั่งของโต๊ะเพื่อรอคำตอบจากฉัน ว่าไง

              ค่ะ!” ฉันรวบรวมความกล้าพูดออกไปเสียงดังจนผอ.ผละเล็กน้อย

              โทษทีนะคุณกิมจุนที่นี่ห้องผอ. ไม่ใช่โรงฝึกยูโดผอ.พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเช่นเคย

              ค่ะฉันพูดอย่างทะล่ำทะลักตามเคย แล้วเงยหน้ายิ้มน้อยๆไปที่ผอ.ผู้มีสีหน้าเรียบเฉย

     

     

              หนูอยากให้พี่กิมจิไปเป็นพี่เลี้ยงที่บ้านหนูจังเลย พี่เลี้ยงของหนูน่ะนะ เอาแต่ทำตามคำสั่งของคุณพ่ออย่างเดียวเลย หนูล่ะเบื่อเสียงเด็กน้อยใสแจ๋วร้องขึ้นต่อหน้าขณะที่ในมือยังมีบล็อคไม้สี่เหลี่ยมอยู่ในท่านั่น ด้วยท่าทางจริงจังในการต่อตึกด้วยบล็อคไม้

              ไม่ดีมั้งคะ คุณพ่อของหนูคงไม่ยอมแน่ๆ หากว่าจู่ๆหนูจะเอาเด็กฝึกงานที่เพิ่งรู้จักกันแค่วันเดียวอย่างพี่เข้าบ้านน่ะนะฉันพูดด้วยน้ำเสียงขบขันพลางยื่นบล็อคไม้อีกชิ้นส่งให้เธอ แล้วก็พี่น่ะนะ ชื่อกิมจุน ไม่ใช่กิมจิ

              หนูรู้ค่ะ แต่ชื่อกิมจิก็น่ารักดีนะคะ หนูชอบเด็กสาวพูดด้วยน้ำเสียงสนุกสนานแล้วหันไปสนใจบล็อคไม้ต่อ อ้อ แล้วอีกอย่างนะคะ หนูชอบพี่กิมจิม้ากมากค่ะ คุณพ่อต้องยอมแน่ๆเด็กสาวพูดต่อไปโดยไม่สนใจคำทัดทานของฉัน

              จ๊ะๆชั้นตอบแบบพลางขอไปทีแล้วยิ้มแหยๆส่งให้นากึม สาวน้อยที่เพิ่งรู้จักกันไม่นานแล้วหันไปมองทางเด็กคนอื่นที่กำลังเล่นอยู่เหมือนกันแทน

              ตอนเย็นอยู่เล่นกับหนูจนกว่าคูณพ่อจะมารับนะคะนากึมร้องเสียงใส

              จ๊ะ ได้จ๊ะชั้นตอบออกไปโดยอัตโนมัติขณะที่สายตายังอยู่ที่เด็กคนอื่นตายแล้ว! นี่ถ้าพ่อของนากึมมารับช้าละ ชั้นก็ต้องทำงานล่วงเวลาโดยไม่ได้ค่าตอบแทนน่ะสิ เวรของกรรม

              สัญญานะคะนากึมยื่นนิ้วก้อยน้อยๆมาที่ฉันพร้อมแววตาสุกสะกาย

              จ๊ะ พี่กิมจิสัญญาฉันพูดออกไปพลางเอานิ้วก้อยเกี่ยวเข้ากับนิ้วก้อยของนากึมแล้วยิ้มเล็กน้อยกิมจิก็น่ารักดีนะชื่อเนี้ย เอาไว้ตอนมีแฟนแล้วให้แฟนเรียกดีกว่า อิอิ

     

     

              นากึมน่ะเหรอ ที่เป็นลูกสาวบุญธรรมของท่านประธานบริษัทจีซอก บริษัทผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ของโซลน่ะฉันถามออกไปด้วยน้ำเสียงใคร่รู้ด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย

              อ้าว นี่กิมจุน เธอไม่เห็นผู้ชายใส่สูทสีดำหน้าตาหล่อๆที่มาส่งนากึมเมื่อเช้าหรอกเหรอ นั่นล่ะ คุณคิมฮาวอน ประธานจีซอกที่รับช่วงต่อจากพ่อของนากึมผู้เป็นพี่ชายตัวเองที่เสียไปนานแล้วน่ะเด็กฝึกงานเหมือนฉันอีกคนที่มาก่อนสัปดาห์หนึ่งชื่อนาเรเล่าให้ฟังด้วยท่าทางมีกระตือรือล้น ขณะที่เราทั้งคู่กำลังซักผ้าม่านอยู่ที่อ่างน้ำของโรงเรียน

              ไม่เห็นอ่ะ เมื่อเช้าฉันคุยกับผอ.อยู่ฉันตอบออกไปตามความจริงแล้วนึกสงสารนากึมเล็กน้อยที่เสียพ่อแม่ไป หลังจากนั้นก็ลงมือซักผ้าม่านต่อ

              คุณฮาวอนน่ะนะ หล่ออย่างกับดารามาเองเชียวนะนาเรพูดด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้มแล้วซักผ้าต่อ

              อืม ท่าทางจะเจ้าชู้นะน่ะชั้นพูดออกไปโดยไม่คิด

              แหงล่ะ เขาน่ะนะ มีข่าวกับพวกผู้หญิงไฮโซในสังคมเกือบจะทุกคนแล้วนะ มันไม่แปลกหรอก หล่อขนาดนั้นนาเรพูดแล้วส่งยิ้มมาทางชั้น ให้ได้ดินเนอร์กับเขามื้อเดียว จะเอาอะไรก็ยอมนาเรหัวเราะร่ากับความฝันของตน

              ฉันไม่เอาด้วยหรอกนะ เจ้าชู้อย่างนั้นน่ะ หล่อแค่ไหนก็ไม่เอาฉันค้อนแล้วบิดผ้าม่านในมือพลางโยนมันลงตะกร้าเพื่อนำไปตาก รู้อย่างนี้นะนาเร ฉันยิ่งไม่อยากไปเป็นพี่เลี้ยงของนากึมใหญ่เลย กลัวโดนตาฮาวอนอะไรนั่นเขมือบเข้าฉันพูดเสียงชัดแล้วยกตะกร้าขึ้นเดินไปข้างหน้าปล่อยให้นาเรงงอยู่คนเดียว

              เธอว่าไงนะกิมจุน พี่เลี้ยงนากึมเหรอว้าย! เธอไม่ไปให้ฉันไปแทนก็ได้นะนาเรร้องเสียงดังแล้วส่งสายตาหวานปิ๊งๆมาที่ฉัน

              ฝันไปเถอะนาเร ฉันไม่ส่งใครไปให้ตาฮาวอนจอมเจ้าชู้นั่นเขมือบเอาง่ายๆหรอกนะ เสียใจ

     

     

              นี่นากึม คุณพ่อของหนูจะมาเมื่อไรคะเนี่ยฉันถามออกไปด้วยน้ำเสียงไร้ความหวังขณะที่มือยังคงแกว่งชิงช้าให้เธออยู่

              ไม่มาน่ะแหละดีแล้วค่ะ นากึมจะได้อยู่กับพี่กิมจินานๆนากึมร้องร่าแล้วฮัมเพลงเด็กอนุบาลเบาๆ โดยไม่สนใจรอบข้างตัวเองว่าไม่มีเด็กคนไหนอยู่ที่โรงเรียนแล้ว นอกจากเธอ

              - ปี๊น! – เสียงแตรรถคันหนึ่งดังมาจากด้านหน้า มันดังมาจากรถยนต์สีบลอนด์ขนาดครอบครัวตรงหัวมุมถนน เมื่อนากึมได้ยินเสียงแตรรถ ก็หันไปมองพลางโบกมือให้กับรถคันนั้น ถ้าเดาไม่ผิด นั่นล่ะ รถของพ่อนากึมด้านในรถคันนั้น มีหญิงสาวแสนสวยในชุดรัดรูปสีแดง ผมเป็นลอนด์นั่งอยู่ด้านข้างคนขับ ในขณะที่ที่นั่งคนขับมีชายคนหนึ่งนั่งอยู่

              ชายหนุ่มคนนั้นมีตากลมโตส่องประกายอยู่บนหน้า ผมสีดำเข้ากับใบหน้าทรงไข่ชี้ไปมาอย่างสวยงาม ริมฝีปากเล็กน้อยดูนุ่มนิ่มสีชมพู จมูกปานกลางเข้ากับใบหน้าโดยรวม ผิวขาวเนียนเหมือนผู้หญิง ผู้ชายอะไรนะ หล่อเหมือนเทพบุตร ว่าไปก็เหมือนที่นาเรพูดเลย ให้ได้ทานข้าวด้วยหนึ่งครั้ง แลกกับอะไรก็ยอม แล้วก็นะ

              ตายแล้ว!!!!!! นี่ชั้นมานั่งละเมอกับหน้าตาของตาหน้านี่อยู่ทำไมเนี่ย! ไม่ได้ๆ ใจจะลังเลไปกับหน้าตาของเสือผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เด็ดขาด!

              ไปก่อนนะคะพี่กิมจิ!” นากึมร้องบอกลาแล้วโบกมือน้อยๆพลางวิ่งไปที่รถยนต์คันนั้นจริงด้วย นั่นล่ะคิมฮาวอน ชายที่มีผู้หญิงอยู่ข้างๆเสมอๆเหมือนที่นาเรพูดไว้ไม่มีผิดนี่เราไปหลงเสน่ห์ตานี่ได้ยังไงนะ

              ลาก่อนจ๊ะนากึมฉันโบกมือตอบแล้วลุกขึ้นยืน ในมือถือกระเป๋าสะพายพลางเดินไปที่ถนนฝั่งตรงกันข้ามของรถยนต์และโรงเรียนเพื่อกลับบ้าน

              สองหมื่นวอนเป็นของฉันแล้ว เย้!… กลับบ้านดีกว่า

     

    จบวันที่1

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×