คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 1 กรกฎาของเซนกิมจุน
วันอังคารที่ 1 กรกฎาคม 2003
เซนกิมจุน
“กิมจุน! เสร็จหรือยังลูก!” เสียงร้องของแม่ดังมาจากข้างล่างอย่างคุ้นเคยในทุกวัน ชั้นจึงเอาหวีที่ค้างอยู่บนผมเมื่อครู่วางลงบนโต๊ะ แล้วหันไปคว้ากระเป๋าด้านข้างแทนแล้วร้องตอบแม่ออกไปว่า
“เสร็จแล้วค่ะ!” ทันทีที่ฉันลุกขึ้นพร้อมกระเป๋าสีขาวในมือ และพร้อมที่จะเปิดประตูห้องนอนลงไปสู่ชั้นล่าง สายตาของฉันก็สาดส่องไปที่นาฬิกาตั้งโต๊ะบนหัวนอนอันน้อยของฉัน {06.47น.} นาฬิกาบอกฉันอย่างนั้น
“ว่าแต่ว่า พี่น่ะได้สอนวิชาอะไรเหรอ” อารองน้องสาวของชั้นถามเสียงใสมาจากด้านข้างของโต๊ะกินข้าว
“ยัยอารอง ครูสอนอนุบาลทั่วๆไปเขาก็สอนหมดทุกอย่างน่ะแหละ ไม่เลือกหรอกว่าวิชาอะไร” ฉันตอบออกไปพลางเอาข้าวที่ติดอยู่ตรงตะเกียบเข้าปาก “แล้วอีกอย่าง พี่น่ะไม่ได้ไปเป็นครู เป็นแค่ครูฝึกงาน” ฉันพูดอีกครั้งก่อนที่จะใช้ช้อนตักสาหร่ายเข้าปากอีกคำ
“นี่อารอง อย่าไปยุ่งเรื่องของพี่เขานักเลย ห่วงเรื่องของตัวเองก่อนเหอะ ผลการสอบกลางปีได้ไม่ดีไม่ใช่เรอะ แม่บอกให้ตั้งใจเรียนก็ไม่ฟัง” เสียงของแม่บ่นดังมาจากในครัวพร้อมกับร่างของแม่ที่ถือถ้วยซุบกับจานกิมจิเดินออกมา
“พี่ก็ว่างั้น” ฉันเสริมแล้วหันไปยิ้มเย้ยๆใส่อารองแล้วรับจานกิมจิจากแม่มาวางลงบนโต๊ะ
“ว่าแต่คนอื่น ตัวเองก็เหมือนกันน่ะแหละ งานที่ทำตอนนี้จะได้เงินหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย” อารองย้อนพลางคีบข้าวเข้าปากคำใหญ่ แล้วยิ้มเย้ยๆเหมือนที่ฉันเคยยิ้มใส่ฉัน
“บนโต๊ะอาหารอย่าเถียงกันได้ไหม” เสียงพ่อจากหัวโต๊ะดังขึ้น แล้วพ่อก็ละสายตาจากหนังสือพิมพ์บนมือมามองที่ฉันและอารองด้วยการชำเรือง “เสียมารยาท” พ่อบ่นอีกคำ ก่อนที่จะเอากาแฟขึ้นมาจิบ
“คุณคะ ยังไม่ชินอีกเรอะ ตั้งสิบกว่าปีแล้วนะ” แม่พูดแล้วก็นั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆพ่อ “เห็นเป็นอย่างนี้ทุกเช้า คุณก็พูดอย่างนี้ทุกเช้า แล้วก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง” แม่เอาช้อนตักซุบขึ้นซดทันทีที่พูดเสร็จพลางทำหน้าเอือมระอาฉันและอารอง
“ใช่ค่ะ พ่อน่าจะชินได้แล้วนะ” อารองเสริม
“หุบปาก!” พ่อตวาดจนอารองสะดุ้ง จากนั้นแม่ก็หัวเราะพร้อมกับชั้นเบาๆเพราะท่าทางของอารองเหมือนลูกหมาเพิ่งตกน้ำก็ไม่ปาน
“หยุดสั่นแล้วกินข้าวได้แล้ว” ฉันเอามือวางบนไหล่ของอารองแล้วหัวเราะเบาๆอีกครั้งโดยไม่สนใจหน้าตาอาฆาตที่อารองหันมาใส่ฉัน ช่วยไม่ได้ ก็มันขำนี่นา
“งานเริ่มตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงสี่โมงเย็น ทำงานตั้งแต่ดูแลเด็ก ทำความสะอาดและช่วยเหลืองานครูประจำ หากว่าเธอทำงานอยู่ในเกณฑ์ดีจนทางเราพอใจ เราจะรับเธอเป็นพนักงานประจำ และถ้าหากว่าเธอทำได้ดีเกินเท่าที่เราคาดหวัง ตำแหน่งครูประจำอาจเป็นของเธอ มีอะไรสงสัยมั้ย” เสียงแหบพร่าออกแนวหนักแน่นของผู้อำนวยการนาดาส่งผ่านมาที่ฉันผู้นั่งอยู่อีกฝั่งของโต๊ะ
“ไม่ค่ะ แล้วเรื่อง เรื่อง เอ่อ” ชั้นพูดตะกุกตะกักออกไปส่อแววพิรุธอย่างที่จับได้ง่ายดาย
“เรื่องเงินเดือนให้เธอเป็นวันละสองหมื่นวอน พอใจมั้ย” เสียงแหบพร่าดังอีกครั้ง
“ค่ะ ค่ะ” ฉันตอบออกไปอย่างตะกุกตะกักเช่นเคย
“ตอนนี้ก็ถึงเวลาทำงานของเธอแล้ว พร้อมรึยัง” เจ้าของเสียงแหบพร่าพูดอีกครั้งพลางเอามือที่ประสานกันอยู่บนโต๊ะเมื่อครู่มากอดอก แล้วมองมาทางชั้นที่นั่งสั่นน้อยๆอยู่อีกฝั่งของโต๊ะเพื่อรอคำตอบจากฉัน “ว่าไง”
“ค่ะ!” ฉันรวบรวมความกล้าพูดออกไปเสียงดังจนผอ.ผละเล็กน้อย
“โทษทีนะคุณกิมจุน ที่นี่ห้องผอ. ไม่ใช่โรงฝึกยูโด” ผอ.พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยเช่นเคย
“ค่ะ” ฉันพูดอย่างทะล่ำทะลักตามเคย แล้วเงยหน้ายิ้มน้อยๆไปที่ผอ.ผู้มีสีหน้าเรียบเฉย
“หนูอยากให้พี่กิมจิไปเป็นพี่เลี้ยงที่บ้านหนูจังเลย พี่เลี้ยงของหนูน่ะนะ เอาแต่ทำตามคำสั่งของคุณพ่ออย่างเดียวเลย หนูล่ะเบื่อ” เสียงเด็กน้อยใสแจ๋วร้องขึ้นต่อหน้าขณะที่ในมือยังมีบล็อคไม้สี่เหลี่ยมอยู่ในท่านั่น ด้วยท่าทางจริงจังในการต่อตึกด้วยบล็อคไม้
“ไม่ดีมั้งคะ คุณพ่อของหนูคงไม่ยอมแน่ๆ หากว่าจู่ๆหนูจะเอาเด็กฝึกงานที่เพิ่งรู้จักกันแค่วันเดียวอย่างพี่เข้าบ้านน่ะนะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงขบขันพลางยื่นบล็อคไม้อีกชิ้นส่งให้เธอ “แล้วก็พี่น่ะนะ ชื่อกิมจุน ไม่ใช่กิมจิ”
“หนูรู้ค่ะ แต่ชื่อกิมจิก็น่ารักดีนะคะ หนูชอบ” เด็กสาวพูดด้วยน้ำเสียงสนุกสนานแล้วหันไปสนใจบล็อคไม้ต่อ “อ้อ แล้วอีกอย่างนะคะ หนูชอบพี่กิมจิม้ากมากค่ะ คุณพ่อต้องยอมแน่ๆ” เด็กสาวพูดต่อไปโดยไม่สนใจคำทัดทานของฉัน
“จ๊ะๆ” ชั้นตอบแบบพลางขอไปทีแล้วยิ้มแหยๆส่งให้นากึม สาวน้อยที่เพิ่งรู้จักกันไม่นานแล้วหันไปมองทางเด็กคนอื่นที่กำลังเล่นอยู่เหมือนกันแทน
“ตอนเย็นอยู่เล่นกับหนูจนกว่าคูณพ่อจะมารับนะคะ” นากึมร้องเสียงใส
“จ๊ะ ได้จ๊ะ” ชั้นตอบออกไปโดยอัตโนมัติขณะที่สายตายังอยู่ที่เด็กคนอื่น ตายแล้ว! นี่ถ้าพ่อของนากึมมารับช้าละ ชั้นก็ต้องทำงานล่วงเวลาโดยไม่ได้ค่าตอบแทนน่ะสิ เวรของกรรม
“สัญญานะคะ” นากึมยื่นนิ้วก้อยน้อยๆมาที่ฉันพร้อมแววตาสุกสะกาย
“จ๊ะ พี่กิมจิสัญญา” ฉันพูดออกไปพลางเอานิ้วก้อยเกี่ยวเข้ากับนิ้วก้อยของนากึมแล้วยิ้มเล็กน้อย กิมจิก็น่ารักดีนะชื่อเนี้ย เอาไว้ตอนมีแฟนแล้วให้แฟนเรียกดีกว่า อิอิ
“นากึมน่ะเหรอ ที่เป็นลูกสาวบุญธรรมของท่านประธานบริษัทจีซอก บริษัทผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ของโซลน่ะ” ฉันถามออกไปด้วยน้ำเสียงใคร่รู้ด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย
“อ้าว นี่กิมจุน เธอไม่เห็นผู้ชายใส่สูทสีดำหน้าตาหล่อๆที่มาส่งนากึมเมื่อเช้าหรอกเหรอ นั่นล่ะ คุณคิมฮาวอน ประธานจีซอกที่รับช่วงต่อจากพ่อของนากึมผู้เป็นพี่ชายตัวเองที่เสียไปนานแล้วน่ะ” เด็กฝึกงานเหมือนฉันอีกคนที่มาก่อนสัปดาห์หนึ่งชื่อนาเรเล่าให้ฟังด้วยท่าทางมีกระตือรือล้น ขณะที่เราทั้งคู่กำลังซักผ้าม่านอยู่ที่อ่างน้ำของโรงเรียน
“ไม่เห็นอ่ะ เมื่อเช้าฉันคุยกับผอ.อยู่” ฉันตอบออกไปตามความจริงแล้วนึกสงสารนากึมเล็กน้อยที่เสียพ่อแม่ไป หลังจากนั้นก็ลงมือซักผ้าม่านต่อ
“คุณฮาวอนน่ะนะ หล่ออย่างกับดารามาเองเชียวนะ” นาเรพูดด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้มแล้วซักผ้าต่อ
“อืม ท่าทางจะเจ้าชู้นะน่ะ” ชั้นพูดออกไปโดยไม่คิด
“แหงล่ะ เขาน่ะนะ มีข่าวกับพวกผู้หญิงไฮโซในสังคมเกือบจะทุกคนแล้วนะ มันไม่แปลกหรอก หล่อขนาดนั้น” นาเรพูดแล้วส่งยิ้มมาทางชั้น “ให้ได้ดินเนอร์กับเขามื้อเดียว จะเอาอะไรก็ยอม” นาเรหัวเราะร่ากับความฝันของตน
“ฉันไม่เอาด้วยหรอกนะ เจ้าชู้อย่างนั้นน่ะ หล่อแค่ไหนก็ไม่เอา” ฉันค้อนแล้วบิดผ้าม่านในมือพลางโยนมันลงตะกร้าเพื่อนำไปตาก “รู้อย่างนี้นะนาเร ฉันยิ่งไม่อยากไปเป็นพี่เลี้ยงของนากึมใหญ่เลย กลัวโดนตาฮาวอนอะไรนั่นเขมือบเข้า” ฉันพูดเสียงชัดแล้วยกตะกร้าขึ้นเดินไปข้างหน้าปล่อยให้นาเรงงอยู่คนเดียว
“เธอว่าไงนะกิมจุน พี่เลี้ยงนากึมเหรอ ว้าย! เธอไม่ไปให้ฉันไปแทนก็ได้นะ” นาเรร้องเสียงดังแล้วส่งสายตาหวานปิ๊งๆมาที่ฉัน
ฝันไปเถอะนาเร ฉันไม่ส่งใครไปให้ตาฮาวอนจอมเจ้าชู้นั่นเขมือบเอาง่ายๆหรอกนะ เสียใจ
“นี่นากึม คุณพ่อของหนูจะมาเมื่อไรคะเนี่ย” ฉันถามออกไปด้วยน้ำเสียงไร้ความหวังขณะที่มือยังคงแกว่งชิงช้าให้เธออยู่
“ไม่มาน่ะแหละดีแล้วค่ะ นากึมจะได้อยู่กับพี่กิมจินานๆ” นากึมร้องร่าแล้วฮัมเพลงเด็กอนุบาลเบาๆ โดยไม่สนใจรอบข้างตัวเองว่าไม่มีเด็กคนไหนอยู่ที่โรงเรียนแล้ว นอกจากเธอ
- ปี๊น! เสียงแตรรถคันหนึ่งดังมาจากด้านหน้า มันดังมาจากรถยนต์สีบลอนด์ขนาดครอบครัวตรงหัวมุมถนน เมื่อนากึมได้ยินเสียงแตรรถ ก็หันไปมองพลางโบกมือให้กับรถคันนั้น ถ้าเดาไม่ผิด นั่นล่ะ รถของพ่อนากึม ด้านในรถคันนั้น มีหญิงสาวแสนสวยในชุดรัดรูปสีแดง ผมเป็นลอนด์นั่งอยู่ด้านข้างคนขับ ในขณะที่ที่นั่งคนขับมีชายคนหนึ่งนั่งอยู่
ชายหนุ่มคนนั้นมีตากลมโตส่องประกายอยู่บนหน้า ผมสีดำเข้ากับใบหน้าทรงไข่ชี้ไปมาอย่างสวยงาม ริมฝีปากเล็กน้อยดูนุ่มนิ่มสีชมพู จมูกปานกลางเข้ากับใบหน้าโดยรวม ผิวขาวเนียนเหมือนผู้หญิง ผู้ชายอะไรนะ หล่อเหมือนเทพบุตร ว่าไปก็เหมือนที่นาเรพูดเลย ให้ได้ทานข้าวด้วยหนึ่งครั้ง แลกกับอะไรก็ยอม แล้วก็นะ
ตายแล้ว!!!!!! นี่ชั้นมานั่งละเมอกับหน้าตาของตาหน้านี่อยู่ทำไมเนี่ย! ไม่ได้ๆ ใจจะลังเลไปกับหน้าตาของเสือผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เด็ดขาด!
“ไปก่อนนะคะพี่กิมจิ!” นากึมร้องบอกลาแล้วโบกมือน้อยๆพลางวิ่งไปที่รถยนต์คันนั้น จริงด้วย นั่นล่ะคิมฮาวอน ชายที่มีผู้หญิงอยู่ข้างๆเสมอๆเหมือนที่นาเรพูดไว้ไม่มีผิด นี่เราไปหลงเสน่ห์ตานี่ได้ยังไงนะ
“ลาก่อนจ๊ะนากึม” ฉันโบกมือตอบแล้วลุกขึ้นยืน ในมือถือกระเป๋าสะพายพลางเดินไปที่ถนนฝั่งตรงกันข้ามของรถยนต์และโรงเรียนเพื่อกลับบ้าน
สองหมื่นวอนเป็นของฉันแล้ว เย้! กลับบ้านดีกว่า
จบวันที่1
ความคิดเห็น