คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ความหลังและคำว่าเพื่อน...
“อย่าเพิ่งลุกขึ้นมาสิลอเรนซ์ นายบาดเจ็บอยู่นะ”เสียงห้ามดังขึ้นก่อนจะถูกขัดด้วยเสียงหงุดหงิดของอีกคน
“หนวกหู!!! อย่ามาเกะกะ ชั้นจะทำยา”
“เดี๋ยวชั้นทำเองน่า นายไปนอนเหอะนะ”ลูคัสพูดพลางดันตัวคนเจ็บที่พยายามลุกขึ้นมาให้นอนลง
“กินยาที่นายทำ ชั้นมีหวังได้ตายเพราะแผลมดกัดแน่”ลอเรนซ์ปัดมือคนที่พยายามดันเขาออก
“เมื่อกี้พลาดไปหน่อยเดียวเองน่า คราวนี้เอาใหม่นะ”ลูคัสตอบพลางยิ้มแหะๆ
“จะบ้าหรอ??? ชั้นไม่ใช่หนูลองยาของแกนะ!!!”เสียงตวาดอย่างหงุดหงิด
“น่า...เชื่อมือชั้นเหอะ”ลูคัสยังคงยิ้ม
“ชั้นไม่บ้าเอาชีวิตไปฝากกับไว้แกหรอก” สิ้นเสียงลอเรนซ์ ห้องทั้งห้องพลันเงียบสงบ มีเพียงเสียงหอบหายใจของคนฝืนสังขารตะโกนดังเป็นระยะ
“นั่นสินะ...”เสียงแผ่วเบาราวเสียงกระซิบ ก่อนเจ้าตัวจะละมือที่พยายามยื้อคนตรงหน้าไว้
...ใครจะบ้าเอาชีวิตไปฝากไว้กับซาตาน...สิ้นคิดจริงๆ...
“.........................”
และแล้วความเงียบสงบก็ถูกขัดขึ้นด้วยเสียงไม่สบอารมณ์ของนักบวชผมทอง
“ไม่ต้องมาทำซึมงี่เง่า...ไปหยิบตำรากับเครื่องปรุงยาแล้วมานั่งนี่”
ดวงตาสีดำที่ทำท่าจะสร้างกำแพงเข้าใส่เมื่อครู่ตวัดขึ้นมองใบหน้าบูดๆของคนออกคำสั่งก่อนจะถาม
“ทำไมให้ชั้นหยิบมาไว้ตรงนี้ล่ะ?”
“แล้วนายคิดว่าสังขารชั้นตอนนี้มันพอให้ลุกไปหยิบมาเองรึไง?”เสียงประชดของคนที่เมื่อครู่พยายามจะลุกไปเองแทบเป็นแทบตายทำให้ลูคัสกระตุกยิ้มน้อยๆ
“ยิ้มอะไรของแกอยู่ได้! รีบๆไปหยิบมาสิ!!!”เสียงออกคำสั่งรอบ2ทำให้ลูคัสยิ้มกว้างขึ้นก่อนจะเดินไปหยิบของตามสั่ง ก่อนที่คนสั่งจะหน้าบูดระดับแม็กซ์
“ครับๆ...รับบัญชา”
*************
“ส่งน้ำตามังกรมา...”เสียงเข้มๆที่เจือความหงุดหงิดตลอดเวลาดังท่ามกลางความเงียบ ตามด้วยเสียงส่งของจากผู้รับคำสั่งที่นั่งส่งของอยู่ข้าง
นักบวชหนุ่มคนยาที่ส่งกลิ่นเอียนๆ พร้อมกับควันสีเทาอมม่วง(?)ไปมาเบาๆ ก่อนจะรินใส่แก้วที่เตรียมไว้
“เสร็จแล้วหรอ? ลอเรนซ์” ดวงตาสีนิลฉายแววอยากรู้อยากเห็นพลางมองคนเจ็บ(ที่ต้องมานั่งปรุงยาเอง)ยกแก้วนั่นขึ้นมาจิบก่อนจะดื่มรวดเดียวแล้วทำหน้าแหวะๆ
“เป็นไงมั่ง?”ลูคัสยิงคำถามขณะที่ลอเรนซ์สำรวจอาการบาดเจ็บของตน
“แผลปิดแล้ว พักอีก2-3ช.ม.คงดีขึ้นกว่านี้”เสียงหงุดหงิดเอ่ยก่อนยื่นแก้วยาที่ยังเหลือยาอยู่เล็กน้อยให้ลูคัสที่ทำหน้างง
“กินซะ...แผลนายที่เกิดจากความงี่เง่านั่นจะได้หายเร็วขึ้น”
ลูคัสก้มมองแผลของตนที่ไม่ได้ใส่ใจ เลือดแห้งกรังเปื้อนเต็มข้อมือ
“ไม่เป็นไรหรอก...เดี๋ยวมันก็หายเอง นายดื่มให้หมดเถอะ”ลูคัสหันมายิ้มให้ก่อนจะดันแก้วคืนให้ลอเรนซ์
“นาย...มาจากทริสทอร์ใช่ไหม?...”เสียงเข้มเอ่ยขึ้นลอยๆ
“เอ่อ...ใช่...ทำไมหรอ?”ลูคัสมองนักบวชหนุ่ม นัยน์ตาสีม่วงฉายแววครุ่นคิดไม่หงุดหงิดอย่างเคย
“...สายเลือดปีศาจสินะ...”
ประโยคคำตอบจากนักบวชทำเอาลูคัสสะดุ้ง ดวงตาสีนิลสบกับดวงตาสีม่วงนิ่ง
“...ใช่...ชั้นเป็นลูกครึ่งเดมอส”ลูคัสตอบเบาๆ รอยยิ้มดูแคลนปรากฏขึ้นราวกับเยาะเย้ยความจริงนั่น
“นายถึงมีพลังแบบนั้น...”ลอเรนซ์ยังคงเอ่ยต่อไปด้วยเสียงเรียบง่ายที่หาได้ยาก
“...............”ลูคัสก้มหน้าหลบสายตาที่จ้องมาจากนักบวชหนุ่ม ในหัวเริ่มขาวโพลนด้วยความกลัว
...กลัว...ที่จะต้องสูญเสียความเป็นเพื่อนกับคนตรงหน้า...
...เพื่อนหรอ?...คนๆนั้นไม่เคยยอมรับเขาเป็นเพื่อนซักหน่อย...
...เป็นเพื่อนกับปีศาจ...ใครจะอยากเป็น...
รอยยิ้มบางๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าขาว ที่เหมือนจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
“ใช่...พลังนั่นเป็นพลังของปีศาจที่ได้มาจากการแลกอิสรภาพของพวกทริสทอร์”
“.......................”
“ไม่ต้องห่วง...ชั้นจะพยายามไม่เข้าใกล้นายอีก...ถ้านายรังเกียจ....”
“...งี่เง่า...”
เสียงขัดจังหวะที่แสดงถึงอารมณ์บูดสนิทของคนพูด ทำให้ดวงตาสีดำตวัดกลับไปมอง
“นายจะบอกว่าชั้นกลัวพลังบ้าๆนั่นของนายรึไง?”
“...หรือนายไม่กลัว?...”
“ชั้น...เป็น...นัก...บวช”เสียงกัดฟันย้ำฉายาเดอะพรีสต์ที่ไม่เหมาะกับตัว
“เรื่องอะไรต้องไปกลัวปีศาจงี่เง่าอย่างนาย?”
“หมายความว่านาย...ไม่รังเกียจชั้น?”เสียงสั่นๆด้วยความประหลาดใจระคนดีใจถามกลับ
ดวงตาสีอาธีมิสตวัดมองคนถามก่อนจะถอนหายใจเบาๆอย่างรำคาญใจ
“
ไม่
”
เสียงตอบปลงๆเรียกรอยยิ้มยินดีบนใบหน้าของคนที่เป็นลูกครึ่งปีศาจก่อนจะกลับมาร่าเริงอย่างเคย
“งั้นแปลว่าเราเป็นเพื่อนกันนะ...เป็นเพื่อนกันมันก็ต้องเรียกกันอย่างสนิทสนมหน่อย”
สายตาดุๆจากนักบวชที่ดูจะหงุดหงิดกับการเปลี่ยนอารมณ์รวดเร็วของคนตรงหน้า
“งั้นชั้นจะเรียกนายว่า....”ลูคัสเงียบไปครู่หนึ่งพลางทำท่าใช้ความคิด ก่อนจะยิ้มแย้มร่าเริง
“ชั้นจะเรียกนายว่าลอรี่~~” คำประกาศชื่อใหม่ทำเอาเจ้าของชื่อที่ถูกเรียกสำลักยาที่กำลังซดก่อนหันมาจ้องอย่างอารมณ์เสีย
“แก...เมื่อกี้เรียกชั้นว่าอะไรนะ?...”เสียงหงุดหงิดระดับสุดยอดถามก่อนหันมามองคนตั้งชื่อ
“ก็ลอเรนซ์มันเรียกยากนี่นา เพราะงั้นชั้นจะเรียกนายว่าลอรี่ละกัน น่ารักดี.......”ก่อนจะจบคำอธิบายหลักการตั้งชื่อ เส้นขันติของนักบวชหนุ่มที่เพิ่งถูกเปลี่ยนชื่อไปหมาดๆก็ขาดผึง ก่อนหันไปหยิบมีดบินส่งไปสรรเสริญคนตั้งชื่อที่วิ่งหลบด้วยความสนุกสนาน (?)
“แหม...ลอรี่...นายจะเรียกชั้นว่าลูคี่ก็ได้นะ”เด็กหนุ่มผมดำบอกพลางวิ่งหลบมีดบินที่เฉี่ยวไปนิดเดียว
“ไม่เอาโว้ยย !!!แล้วแกเลิกเรียกชั้นด้วยชื่อบ้าๆนั่นด้วย!!!”
“ลอรี่~~~”
“ย้ากกกกกก~~~”
...และแล้วพายุมีดบินครั้งแรกก็บังเกิดขึ้น...
*************
ความคิดเห็น