ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ปะทะ...
เสียงล้อไม้เก่าๆบดพื้นถนนหยุดลงอย่างกะทันหัน เสียงม้าที่เทียมเกวียนถูกกระตุกสายบังเหียนร้องดังขึ้น 
แรงกระตุกทำให้เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลที่นอนอยู่ในเกวียนกลิ้งตกลงมาดังแอ้ก! ก่อนเจ้าตัวจะโผล่หน้าออกมาโวยวาย
“โธ่ปู่! จะหยุดก็ร้องเตือนกันหน่อยไม่ได้รึ...ไง...”เสียงบ่นชะงักไปเมื่อเห็นใบหน้าซีดเผือดของผู้เป็นปู่ เบื้องหน้าต้นเหตุที่ทำให้เกวียนต้องหยุดชะงักคือร่างของบุรุษผู้มาเยือน2คน เด็กหนุ่มผมสีดำและชายหนุ่มผมสีทอง ที่มีดวงตาสีเขียวมรกตเหมือนกันไม่มีผิด
เคนินมองไปยังเด็กหนุ่มผมสีดำ ร่างบางช่างดูคุ้นตา แล้วเด็กหนุ่มก็นึกออก...
“เรมิล?...นายมาทำอะไรที่นี่?”เคนินร้องทัก
“ไงเคนิน...บอกแล้วไงว่าเราต้องได้เจอกันอีกแน่นอน...”เรมิลตอบพร้อมรอยยิ้มบางๆ
“พวกแก...หลบไปให้พ้น!!!”เสียงกราดเกรี้ยวของนายมาดัสดังขึ้นขัดจังหวะ ใบหน้าของชายชราดูหงุดหงิดอย่างถึงที่สุด
“ไม่ได้พบกันนานนะ...ท่านมาดัส...”ชายหนุ่มผมทองเอ่ยขึ้นพร้อมก้มศีรษะน้อยๆเป็นการทำความเคารพ
“แก...โร เซวาเรส” นายมาดัสกัดฟันกรอด
...คนตรงหน้านี่เก่งไม่ใช่เล่น...จะเอาตัวรอดผ่านไปได้รึเปล่าก็ไม่รู้...
...แต่ที่รู้คือ...ถึงต้องแลกด้วยชีวิต ก็จะไม่ยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีกเด็ดขาด...
“แกต้องการอะไร?”
“ท่านก็รู้ดี...ทายาทแห่งความมืด...เจ้าชายแห่ง3ดินแดน...”โรพูดพลางมองไปยังเคนินที่กำลังงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า
“ที่นี่ไม่มีทายาทแห่งความมืดที่ว่านั่น!! ไม่มีเจ้าชายบ้าบออะไร !!ไม่มีอะไรทั้งนั้น!!!”นายมาดัสตะโกนอย่างโมโห
“เรื่องทายาทแห่งความมืดนี้...ท่านรู้ดีที่สุดท่านมาดัส”โรตอบด้วยน้ำเสียงเรียบสงบเช่นเดิม
“แล้วยังไง?...แกจะให้ไอ้เคนินมันไปตายเหมือน...ไอ้เฟรินรึไง?”เสียงแหบต่ำของชายชราสะดุดกึกไปเล็กน้อยเมื่อนึกถึงบุคคลๆหนึ่ง ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นลูกชายของเขา...รึลูกสาวก็ไม่รู้...
“เราเป็นผู้รับใช้แห่งเดมอส...มีหน้าที่เพียงปกป้องเจ้านายเท่านั้น...”โรตอบ
“ปกป้อง?...ถ้าแกปกป้องดีๆแล้วไอ้เฟรินมันจะเป็นอย่างนี้หรอ?” นายมาดัสตะโกนตอบอย่างโมโหสุดขีด ใบหน้าเหี่ยวย่นตามวัยชราเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยโทสะ
“...นั่นเป็นความผิดของฉันเอง...ดังนั้นการปกป้องทายาทของเจ้าหญิงคงเป็นทางเลือกเดียวที่พอจะทำได้ในตอนนี้...”โรตอบอย่างแผ่วเบา ใบหน้าขาวของชายหนุ่มสลบวูบ ดวงตาสีเขียวสดฉายแววสำนึกผิด
“ปกป้อง?...แกยังมีหน้ามาพูดคำว่า ปกป้อง ได้อยู่อีกหรอ?”นายมาดัสโกรธจัด
“...นั่นคือสิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้...คืนเขาสู่บัลลังก์...”เสียงตอบของชายหนุ่มถูกขัดขึ้นด้วยเสียงตะโกนของชายชรา
“ผ่าอเวจี!!!” สิ้นเสียงตะโกน ดาบขึ้นสนิมที่เคนินจำได้ว่ามันเคยอยู่ในลังไม้เก่าๆของปู่ก็ปรากฏขึ้นในมือของชายชรา
ฉับพลันเสียงเจื้อยแจ้วในความทรงจำของชายชราก็ดังขึ้น
‘พ่อ แล้วดาบล่ะว่าไง’
‘หาซื้อเอาซักเล่ม บ๊ะ นี่มันชักจะเกินงบที่ตั้งไว้แล้วนะนี่’
‘ไม่เอาไอ้ดาบสนิมกินในลังพ่อให้ฉันหรอกเหรอ’
‘แกยังไม่คู่ควรกับดาบเล่มนั้นหรอกเจ้าหนู...’
“...ผ่าอเวจี...ดาบดีในตำนาน...”โรเอ่ยขึ้นเบาๆ
“หึ...รู้ก็ดีนี่...ถ้ายังไงแกก็จบชีวิตลงด้วยดาบนี้แหละ!!!” สิ้นเสียงตะโกนร่างของชายชราก็พุ่งเข้าใส่ชายหนุ่ม
แม้ฝีมือดาบจะเก่งเพียงใด แต่ร่างกายและสังขารก็ไม่อำนวยเท่าคนหนุ่ม  ดาบที่วาดไปจึงพลาดเป้า แม้จะพยายามเพียงใดก็ทำได้แค่ฟาดฟันตัดอากาศเท่านั้น
“ความผิดพลาดอย่างเดียวของชั้น...ก็คือการส่งให้มันไปเข้าโรงเรียนพระราชาและพบกับพวกแก!!! ”
“แฮ่ก...แฮ่ก...”เสียงหอบของชายชราดังเป็นระยะ ดวงตาสีเข้มของชายชราจ้องมองมาที่ชายหนุ่มอย่างโกรธแค้น แต่โรก็ยังคงสงบนิ่งเช่นเดิม
“ไม่อย่างงั้น...ตอนนี้มันก็คงยังอยู่กับชั้น เรื่องทุกอย่างก็ไม่ต้องจบลงอย่างนั้น!!!”
ทันใดนั้นนายมาดัสก็พุ่งตัวเข้าหมายโจมตีอีกครั้ง หากแต่โรร่ายเวทย์ให้ผ่าอเวจีหลุดออกจากมือของผู้ถือครองก่อนดาบเล่มยาวจะปักลงบนพื้นข้างกายของชายชรา
“ปู่!!!”เคนินถลาเข้ามาประคอง แต่นายมาดัสดันตัวเคนินออกพร้อมตะโกนสั่ง
“รีบหนีไป!!! วิ่งหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่แกทำได้เคนิน!!! อย่าไปกับคนพวกนี้!!!”
“อะ...อะไรกัน...”เคนินงง
“เคนิน...ไปกับฉันเถอะ...ชั้นจะพานายไปพบกับตัวตนที่แท้จริงของนาย”เรมิลเอ่ยแผ่วเบา
“ตัวตนที่แท้จริงของฉัน?...”
“เคนิน เดอเบอโรว์...เธอคือทายาทคนเดียวของธิดาแห่งความมืด...เจ้าชายผู้สืบทอดบัลลังก์...”โรเอ่ยต่อ
“ไอ้เคนินรีบหนีไปเร็วๆเข้าสิวะ!!!”เสียงนายมาดัสตะโกนไล่
ฉับพลันทุกสิ่งรอบข้างกลับเงียบสงบ ในหัวสมองของเด็กหนุ่มว่างเปล่า...เหตุการณ์ตรงหน้าที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่เด็กหนุ่มจะสามารถทำความเข้าใจได้แม้แต่น้อย...เจ้าชาย?...ทายาทแห่งความมืด?...อะไรกัน?....
มือเรียวของเด็กหนุ่มยื่นออกไปสัมผัสดาบผ่าอเวจีที่ปักอยู่ข้างกาย ก่อนจะคว้าขึ้นมากระชับไว้กับมือแน่น...
“เคนิน...แกจะทำอะไร?” นายมาดัสมองหลานชายที่ตอนนี้เดินไปพร้อมชี้ดาบไปที่บุรุษนัยน์ตาสีเขียวทั้งสอง
“ความจริงอะไรฉันไม่รู้...ตั้งแต่จำความได้ก็มีแต่ปู่ที่เลี้ยงชั้นมาเท่านั้น”
“แล้วนายไม่อยากรู้ความจริงรึไง?”เรมิลถามขึ้น
“ก็บอกว่าความจริงอะไรชั้นไม่รู้...ไม่สนด้วย...”เคนินตอบเสียงเข้ม
“ถึงมันจะเกี่ยวข้องกับชีวิตของนาย...”โรถาม เคนินชะงักไปน้อยๆก่อนจะยิ้มตอบ
“ชีวิตของฉันก็เป็นของฉันสิ จะเป็นหรือจะตายชั้นเป็นคนกำหนดเองได้ ถึงชีวิตของฉันมันจะยาวหรือสั้นก็ช่าง สำคัญที่ว่าอยู่แล้วจะทำอะไรให้ชีวิตนี้มันมีค่ามากกว่า” เสียงตอบของเด็กหนุ่มทำให้ชายหนุ่มชะงักกึก
ฉับพลันภาพของเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาล นัยน์ตาสีเดียวกับเส้นผมที่เขาเคยรู้จักก็ซ้อนทับกับภาพของเด็กหนุ่มนัยน์ตาสีฟ้าที่ยืนอยู่ตรงหน้า ถ้อยคำที่เหมือนจะเรียงร้อยออกมาจากคนๆเดียวกัน
“...เฟริน....”เสียงเรียกแผ่วเบาทำให้เคนินขมวดคิ้วสงสัย
“ใครคือเฟริน?...” เคนินถาม โรยิ้มก่อนจะตอบ
“เจ้านายคนสำคัญของฉัน...และก็เป็น...แม่ของเธอ...”
เคนินทำตาโตเบิ่งกว้าง เฟรินเป็นใคร เป็นแม่ของเขางั้นหรอ? ได้ยังไงกัน?
“ปู่...นี่มันอะไรกัน?...แม่ฉันหายสาบสูญไปในเดมอสไม่ใช่หรอ? แล้วทำไม?”เคนินหันไปถามปู่
“เฟรินเป็นแม่ของแก...แล้วก็เป็น...ลูกชายของชั้นเอง”นายมาดัสตอบ เคนินขมวดคิ้วมากขึ้นไปอีก
...ลูกชาย?...งั้นชั้นก็เป็นเด็กที่เกิดจากผู้ชายงั้นสิ? เป็นลูกชายของลูกชายหรอ???...
เคนินได้แต่ทำหน้างงๆ โรยิ้มเมื่อเห็นสภาพของเด็กหนุ่ม ทำให้อดคิดถึงเพื่อนเก่าเจ้าปัญหาที่ชอบทำท่าอวดดีไม่ได้
“คุณไม่เคยบอกอะไรกับเคนินเลยหรอ?”โรถาม
“แล้วจะให้ชั้นบอกอะไร?...”นายมาดัสตวัดสายตาขึ้นมามองชายหนุ่ม
“ถ้างั้นชั้นจะบอกให้เองเอาไหม?”โรหันไปถามเคนิน ที่บัดนี้หันมามองนายมาดัสอย่างขอคำแนะนำ
“ก็ได้...ชั้นให้เคนินไปกับพวกแก...แต่ถ้ามันเป็นอะไรไป...อย่าหวังว่าชั้นจะปล่อยแกไว้...”นายมาดัสตอบอย่างชั่งใจ
“ชั้นรับประกันความปลอดภัยของเคนิน...ด้วยชีวิตของชั้นเอง”โรเอ่ยขึ้น นายมาดัสมองลึกเข้าไปในดวงตาสีเขียวสดก่อนจะถอนหายใจพร้อมพยักหน้าเบาๆ แล้วหันกลับมาพูดกับหลานชาย
“แกก็อย่าก่อเรื่องนักละไอ้หนู”
“โธ่ปู่...ไว้ใจกันมั่งสิ...”เคนินบ่นอุบ พลางยื่นดาบส่งคืนให้นายมาดัสแต่กลับโดนส่งคืนให้เด็กหนุ่ม
“ชั้นยกให้แก...เอาไว้ป้องกันตัว...ใช้ดีๆนะเฟ้ยของมันแพง”
นายมาดัสนิ่งไปครู่หนึ่ง แววตาของชายชราจับจ้องที่เด็กหนุ่มอย่างอาวรณ์
“เคนิน...ถึงความจริงจะเป็นยังไง แกจะเป็นทายาทอะไรของใคร...แต่จำไว้ว่าไม่ว่ายังไง...แกก็เป็นหลานของชั้นนะ...”
เคนินมองนายมาดัสก่อนจะเอ่ยเบาๆ
“ขอบคุณสำหรับทุกๆอย่างนะปู่...ผมรักปู่ที่สุดเลย”เคนินยิ้มก่อนจะทำหน้าแหยเพราะถูกนายมาดัสเขกหัวให้
“รีบๆไปเลยแก...เดี๋ยวชั้นก็เปลี่ยนใจซะหรอก”
เคนินเดินไปหาเรมิลกับโร และหันมาโบกมือลานายมาดัส ก่อนที่โรจะใช้เวทย์เคลื่อนย้ายทำให้ทั้ง3คนหายตัวไปในพริบตา
“เฮ้อ...สงสัยต้องไปย้อมใจที่เกาะสวรรค์แดนใต้ซะดีกว่ามั้ง...”นายมาดัสบ่นเบาๆ พลางขึ้นเกวียนเล่มเก่าขับออกไป...
***********
โอ้~อัพคราวนี้เอายาวๆไปเลยคับ แต่มีข้อแม้ว่าผมคงไม่ได้มาอัพอีกซัก2-3วัน กี๊สสสส อย่าเพิ่งงอนน้า แหะๆๆ
ป.ล. ผมสิงอยู่ที่บอร์ดซันทรีอยู่แล้วครับ...เพียงแต่ท่านอาจยังไม่รู้ตัว...หึๆๆๆ(-_,-)
แรงกระตุกทำให้เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลที่นอนอยู่ในเกวียนกลิ้งตกลงมาดังแอ้ก! ก่อนเจ้าตัวจะโผล่หน้าออกมาโวยวาย
“โธ่ปู่! จะหยุดก็ร้องเตือนกันหน่อยไม่ได้รึ...ไง...”เสียงบ่นชะงักไปเมื่อเห็นใบหน้าซีดเผือดของผู้เป็นปู่ เบื้องหน้าต้นเหตุที่ทำให้เกวียนต้องหยุดชะงักคือร่างของบุรุษผู้มาเยือน2คน เด็กหนุ่มผมสีดำและชายหนุ่มผมสีทอง ที่มีดวงตาสีเขียวมรกตเหมือนกันไม่มีผิด
เคนินมองไปยังเด็กหนุ่มผมสีดำ ร่างบางช่างดูคุ้นตา แล้วเด็กหนุ่มก็นึกออก...
“เรมิล?...นายมาทำอะไรที่นี่?”เคนินร้องทัก
“ไงเคนิน...บอกแล้วไงว่าเราต้องได้เจอกันอีกแน่นอน...”เรมิลตอบพร้อมรอยยิ้มบางๆ
“พวกแก...หลบไปให้พ้น!!!”เสียงกราดเกรี้ยวของนายมาดัสดังขึ้นขัดจังหวะ ใบหน้าของชายชราดูหงุดหงิดอย่างถึงที่สุด
“ไม่ได้พบกันนานนะ...ท่านมาดัส...”ชายหนุ่มผมทองเอ่ยขึ้นพร้อมก้มศีรษะน้อยๆเป็นการทำความเคารพ
“แก...โร เซวาเรส” นายมาดัสกัดฟันกรอด
...คนตรงหน้านี่เก่งไม่ใช่เล่น...จะเอาตัวรอดผ่านไปได้รึเปล่าก็ไม่รู้...
...แต่ที่รู้คือ...ถึงต้องแลกด้วยชีวิต ก็จะไม่ยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีกเด็ดขาด...
“แกต้องการอะไร?”
“ท่านก็รู้ดี...ทายาทแห่งความมืด...เจ้าชายแห่ง3ดินแดน...”โรพูดพลางมองไปยังเคนินที่กำลังงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า
“ที่นี่ไม่มีทายาทแห่งความมืดที่ว่านั่น!! ไม่มีเจ้าชายบ้าบออะไร !!ไม่มีอะไรทั้งนั้น!!!”นายมาดัสตะโกนอย่างโมโห
“เรื่องทายาทแห่งความมืดนี้...ท่านรู้ดีที่สุดท่านมาดัส”โรตอบด้วยน้ำเสียงเรียบสงบเช่นเดิม
“แล้วยังไง?...แกจะให้ไอ้เคนินมันไปตายเหมือน...ไอ้เฟรินรึไง?”เสียงแหบต่ำของชายชราสะดุดกึกไปเล็กน้อยเมื่อนึกถึงบุคคลๆหนึ่ง ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นลูกชายของเขา...รึลูกสาวก็ไม่รู้...
“เราเป็นผู้รับใช้แห่งเดมอส...มีหน้าที่เพียงปกป้องเจ้านายเท่านั้น...”โรตอบ
“ปกป้อง?...ถ้าแกปกป้องดีๆแล้วไอ้เฟรินมันจะเป็นอย่างนี้หรอ?” นายมาดัสตะโกนตอบอย่างโมโหสุดขีด ใบหน้าเหี่ยวย่นตามวัยชราเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยโทสะ
“...นั่นเป็นความผิดของฉันเอง...ดังนั้นการปกป้องทายาทของเจ้าหญิงคงเป็นทางเลือกเดียวที่พอจะทำได้ในตอนนี้...”โรตอบอย่างแผ่วเบา ใบหน้าขาวของชายหนุ่มสลบวูบ ดวงตาสีเขียวสดฉายแววสำนึกผิด
“ปกป้อง?...แกยังมีหน้ามาพูดคำว่า ปกป้อง ได้อยู่อีกหรอ?”นายมาดัสโกรธจัด
“...นั่นคือสิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้...คืนเขาสู่บัลลังก์...”เสียงตอบของชายหนุ่มถูกขัดขึ้นด้วยเสียงตะโกนของชายชรา
“ผ่าอเวจี!!!” สิ้นเสียงตะโกน ดาบขึ้นสนิมที่เคนินจำได้ว่ามันเคยอยู่ในลังไม้เก่าๆของปู่ก็ปรากฏขึ้นในมือของชายชรา
ฉับพลันเสียงเจื้อยแจ้วในความทรงจำของชายชราก็ดังขึ้น
‘พ่อ แล้วดาบล่ะว่าไง’
‘หาซื้อเอาซักเล่ม บ๊ะ นี่มันชักจะเกินงบที่ตั้งไว้แล้วนะนี่’
‘ไม่เอาไอ้ดาบสนิมกินในลังพ่อให้ฉันหรอกเหรอ’
‘แกยังไม่คู่ควรกับดาบเล่มนั้นหรอกเจ้าหนู...’
“...ผ่าอเวจี...ดาบดีในตำนาน...”โรเอ่ยขึ้นเบาๆ
“หึ...รู้ก็ดีนี่...ถ้ายังไงแกก็จบชีวิตลงด้วยดาบนี้แหละ!!!” สิ้นเสียงตะโกนร่างของชายชราก็พุ่งเข้าใส่ชายหนุ่ม
แม้ฝีมือดาบจะเก่งเพียงใด แต่ร่างกายและสังขารก็ไม่อำนวยเท่าคนหนุ่ม  ดาบที่วาดไปจึงพลาดเป้า แม้จะพยายามเพียงใดก็ทำได้แค่ฟาดฟันตัดอากาศเท่านั้น
“ความผิดพลาดอย่างเดียวของชั้น...ก็คือการส่งให้มันไปเข้าโรงเรียนพระราชาและพบกับพวกแก!!! ”
“แฮ่ก...แฮ่ก...”เสียงหอบของชายชราดังเป็นระยะ ดวงตาสีเข้มของชายชราจ้องมองมาที่ชายหนุ่มอย่างโกรธแค้น แต่โรก็ยังคงสงบนิ่งเช่นเดิม
“ไม่อย่างงั้น...ตอนนี้มันก็คงยังอยู่กับชั้น เรื่องทุกอย่างก็ไม่ต้องจบลงอย่างนั้น!!!”
ทันใดนั้นนายมาดัสก็พุ่งตัวเข้าหมายโจมตีอีกครั้ง หากแต่โรร่ายเวทย์ให้ผ่าอเวจีหลุดออกจากมือของผู้ถือครองก่อนดาบเล่มยาวจะปักลงบนพื้นข้างกายของชายชรา
“ปู่!!!”เคนินถลาเข้ามาประคอง แต่นายมาดัสดันตัวเคนินออกพร้อมตะโกนสั่ง
“รีบหนีไป!!! วิ่งหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่แกทำได้เคนิน!!! อย่าไปกับคนพวกนี้!!!”
“อะ...อะไรกัน...”เคนินงง
“เคนิน...ไปกับฉันเถอะ...ชั้นจะพานายไปพบกับตัวตนที่แท้จริงของนาย”เรมิลเอ่ยแผ่วเบา
“ตัวตนที่แท้จริงของฉัน?...”
“เคนิน เดอเบอโรว์...เธอคือทายาทคนเดียวของธิดาแห่งความมืด...เจ้าชายผู้สืบทอดบัลลังก์...”โรเอ่ยต่อ
“ไอ้เคนินรีบหนีไปเร็วๆเข้าสิวะ!!!”เสียงนายมาดัสตะโกนไล่
ฉับพลันทุกสิ่งรอบข้างกลับเงียบสงบ ในหัวสมองของเด็กหนุ่มว่างเปล่า...เหตุการณ์ตรงหน้าที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่เด็กหนุ่มจะสามารถทำความเข้าใจได้แม้แต่น้อย...เจ้าชาย?...ทายาทแห่งความมืด?...อะไรกัน?....
มือเรียวของเด็กหนุ่มยื่นออกไปสัมผัสดาบผ่าอเวจีที่ปักอยู่ข้างกาย ก่อนจะคว้าขึ้นมากระชับไว้กับมือแน่น...
“เคนิน...แกจะทำอะไร?” นายมาดัสมองหลานชายที่ตอนนี้เดินไปพร้อมชี้ดาบไปที่บุรุษนัยน์ตาสีเขียวทั้งสอง
“ความจริงอะไรฉันไม่รู้...ตั้งแต่จำความได้ก็มีแต่ปู่ที่เลี้ยงชั้นมาเท่านั้น”
“แล้วนายไม่อยากรู้ความจริงรึไง?”เรมิลถามขึ้น
“ก็บอกว่าความจริงอะไรชั้นไม่รู้...ไม่สนด้วย...”เคนินตอบเสียงเข้ม
“ถึงมันจะเกี่ยวข้องกับชีวิตของนาย...”โรถาม เคนินชะงักไปน้อยๆก่อนจะยิ้มตอบ
“ชีวิตของฉันก็เป็นของฉันสิ จะเป็นหรือจะตายชั้นเป็นคนกำหนดเองได้ ถึงชีวิตของฉันมันจะยาวหรือสั้นก็ช่าง สำคัญที่ว่าอยู่แล้วจะทำอะไรให้ชีวิตนี้มันมีค่ามากกว่า” เสียงตอบของเด็กหนุ่มทำให้ชายหนุ่มชะงักกึก
ฉับพลันภาพของเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาล นัยน์ตาสีเดียวกับเส้นผมที่เขาเคยรู้จักก็ซ้อนทับกับภาพของเด็กหนุ่มนัยน์ตาสีฟ้าที่ยืนอยู่ตรงหน้า ถ้อยคำที่เหมือนจะเรียงร้อยออกมาจากคนๆเดียวกัน
“...เฟริน....”เสียงเรียกแผ่วเบาทำให้เคนินขมวดคิ้วสงสัย
“ใครคือเฟริน?...” เคนินถาม โรยิ้มก่อนจะตอบ
“เจ้านายคนสำคัญของฉัน...และก็เป็น...แม่ของเธอ...”
เคนินทำตาโตเบิ่งกว้าง เฟรินเป็นใคร เป็นแม่ของเขางั้นหรอ? ได้ยังไงกัน?
“ปู่...นี่มันอะไรกัน?...แม่ฉันหายสาบสูญไปในเดมอสไม่ใช่หรอ? แล้วทำไม?”เคนินหันไปถามปู่
“เฟรินเป็นแม่ของแก...แล้วก็เป็น...ลูกชายของชั้นเอง”นายมาดัสตอบ เคนินขมวดคิ้วมากขึ้นไปอีก
...ลูกชาย?...งั้นชั้นก็เป็นเด็กที่เกิดจากผู้ชายงั้นสิ? เป็นลูกชายของลูกชายหรอ???...
เคนินได้แต่ทำหน้างงๆ โรยิ้มเมื่อเห็นสภาพของเด็กหนุ่ม ทำให้อดคิดถึงเพื่อนเก่าเจ้าปัญหาที่ชอบทำท่าอวดดีไม่ได้
“คุณไม่เคยบอกอะไรกับเคนินเลยหรอ?”โรถาม
“แล้วจะให้ชั้นบอกอะไร?...”นายมาดัสตวัดสายตาขึ้นมามองชายหนุ่ม
“ถ้างั้นชั้นจะบอกให้เองเอาไหม?”โรหันไปถามเคนิน ที่บัดนี้หันมามองนายมาดัสอย่างขอคำแนะนำ
“ก็ได้...ชั้นให้เคนินไปกับพวกแก...แต่ถ้ามันเป็นอะไรไป...อย่าหวังว่าชั้นจะปล่อยแกไว้...”นายมาดัสตอบอย่างชั่งใจ
“ชั้นรับประกันความปลอดภัยของเคนิน...ด้วยชีวิตของชั้นเอง”โรเอ่ยขึ้น นายมาดัสมองลึกเข้าไปในดวงตาสีเขียวสดก่อนจะถอนหายใจพร้อมพยักหน้าเบาๆ แล้วหันกลับมาพูดกับหลานชาย
“แกก็อย่าก่อเรื่องนักละไอ้หนู”
“โธ่ปู่...ไว้ใจกันมั่งสิ...”เคนินบ่นอุบ พลางยื่นดาบส่งคืนให้นายมาดัสแต่กลับโดนส่งคืนให้เด็กหนุ่ม
“ชั้นยกให้แก...เอาไว้ป้องกันตัว...ใช้ดีๆนะเฟ้ยของมันแพง”
นายมาดัสนิ่งไปครู่หนึ่ง แววตาของชายชราจับจ้องที่เด็กหนุ่มอย่างอาวรณ์
“เคนิน...ถึงความจริงจะเป็นยังไง แกจะเป็นทายาทอะไรของใคร...แต่จำไว้ว่าไม่ว่ายังไง...แกก็เป็นหลานของชั้นนะ...”
เคนินมองนายมาดัสก่อนจะเอ่ยเบาๆ
“ขอบคุณสำหรับทุกๆอย่างนะปู่...ผมรักปู่ที่สุดเลย”เคนินยิ้มก่อนจะทำหน้าแหยเพราะถูกนายมาดัสเขกหัวให้
“รีบๆไปเลยแก...เดี๋ยวชั้นก็เปลี่ยนใจซะหรอก”
เคนินเดินไปหาเรมิลกับโร และหันมาโบกมือลานายมาดัส ก่อนที่โรจะใช้เวทย์เคลื่อนย้ายทำให้ทั้ง3คนหายตัวไปในพริบตา
“เฮ้อ...สงสัยต้องไปย้อมใจที่เกาะสวรรค์แดนใต้ซะดีกว่ามั้ง...”นายมาดัสบ่นเบาๆ พลางขึ้นเกวียนเล่มเก่าขับออกไป...
***********
โอ้~อัพคราวนี้เอายาวๆไปเลยคับ แต่มีข้อแม้ว่าผมคงไม่ได้มาอัพอีกซัก2-3วัน กี๊สสสส อย่าเพิ่งงอนน้า แหะๆๆ
ป.ล. ผมสิงอยู่ที่บอร์ดซันทรีอยู่แล้วครับ...เพียงแต่ท่านอาจยังไม่รู้ตัว...หึๆๆๆ(-_,-)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น