ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Thief of Kanowal

    ลำดับตอนที่ #6 : ปะทะ...

    • อัปเดตล่าสุด 29 มิ.ย. 48


    เสียงล้อไม้เก่าๆบดพื้นถนนหยุดลงอย่างกะทันหัน เสียงม้าที่เทียมเกวียนถูกกระตุกสายบังเหียนร้องดังขึ้น  



    แรงกระตุกทำให้เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลที่นอนอยู่ในเกวียนกลิ้งตกลงมาดังแอ้ก! ก่อนเจ้าตัวจะโผล่หน้าออกมาโวยวาย



    “โธ่ปู่! จะหยุดก็ร้องเตือนกันหน่อยไม่ได้รึ...ไง...”เสียงบ่นชะงักไปเมื่อเห็นใบหน้าซีดเผือดของผู้เป็นปู่ เบื้องหน้าต้นเหตุที่ทำให้เกวียนต้องหยุดชะงักคือร่างของบุรุษผู้มาเยือน2คน เด็กหนุ่มผมสีดำและชายหนุ่มผมสีทอง ที่มีดวงตาสีเขียวมรกตเหมือนกันไม่มีผิด



    เคนินมองไปยังเด็กหนุ่มผมสีดำ ร่างบางช่างดูคุ้นตา แล้วเด็กหนุ่มก็นึกออก...



    “เรมิล?...นายมาทำอะไรที่นี่?”เคนินร้องทัก



    “ไงเคนิน...บอกแล้วไงว่าเราต้องได้เจอกันอีกแน่นอน...”เรมิลตอบพร้อมรอยยิ้มบางๆ



    “พวกแก...หลบไปให้พ้น!!!”เสียงกราดเกรี้ยวของนายมาดัสดังขึ้นขัดจังหวะ ใบหน้าของชายชราดูหงุดหงิดอย่างถึงที่สุด



    “ไม่ได้พบกันนานนะ...ท่านมาดัส...”ชายหนุ่มผมทองเอ่ยขึ้นพร้อมก้มศีรษะน้อยๆเป็นการทำความเคารพ



    “แก...โร เซวาเรส” นายมาดัสกัดฟันกรอด



    ...คนตรงหน้านี่เก่งไม่ใช่เล่น...จะเอาตัวรอดผ่านไปได้รึเปล่าก็ไม่รู้...



    ...แต่ที่รู้คือ...ถึงต้องแลกด้วยชีวิต ก็จะไม่ยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีกเด็ดขาด...



    “แกต้องการอะไร?”



    “ท่านก็รู้ดี...ทายาทแห่งความมืด...เจ้าชายแห่ง3ดินแดน...”โรพูดพลางมองไปยังเคนินที่กำลังงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า



    “ที่นี่ไม่มีทายาทแห่งความมืดที่ว่านั่น!! ไม่มีเจ้าชายบ้าบออะไร !!ไม่มีอะไรทั้งนั้น!!!”นายมาดัสตะโกนอย่างโมโห



    “เรื่องทายาทแห่งความมืดนี้...ท่านรู้ดีที่สุดท่านมาดัส”โรตอบด้วยน้ำเสียงเรียบสงบเช่นเดิม



    “แล้วยังไง?...แกจะให้ไอ้เคนินมันไปตายเหมือน...ไอ้เฟรินรึไง?”เสียงแหบต่ำของชายชราสะดุดกึกไปเล็กน้อยเมื่อนึกถึงบุคคลๆหนึ่ง ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นลูกชายของเขา...รึลูกสาวก็ไม่รู้...



    “เราเป็นผู้รับใช้แห่งเดมอส...มีหน้าที่เพียงปกป้องเจ้านายเท่านั้น...”โรตอบ



    “ปกป้อง?...ถ้าแกปกป้องดีๆแล้วไอ้เฟรินมันจะเป็นอย่างนี้หรอ?” นายมาดัสตะโกนตอบอย่างโมโหสุดขีด ใบหน้าเหี่ยวย่นตามวัยชราเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยโทสะ



    “...นั่นเป็นความผิดของฉันเอง...ดังนั้นการปกป้องทายาทของเจ้าหญิงคงเป็นทางเลือกเดียวที่พอจะทำได้ในตอนนี้...”โรตอบอย่างแผ่วเบา ใบหน้าขาวของชายหนุ่มสลบวูบ ดวงตาสีเขียวสดฉายแววสำนึกผิด



    “ปกป้อง?...แกยังมีหน้ามาพูดคำว่า ปกป้อง ได้อยู่อีกหรอ?”นายมาดัสโกรธจัด



    “...นั่นคือสิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้...คืนเขาสู่บัลลังก์...”เสียงตอบของชายหนุ่มถูกขัดขึ้นด้วยเสียงตะโกนของชายชรา



    “ผ่าอเวจี!!!” สิ้นเสียงตะโกน ดาบขึ้นสนิมที่เคนินจำได้ว่ามันเคยอยู่ในลังไม้เก่าๆของปู่ก็ปรากฏขึ้นในมือของชายชรา



    ฉับพลันเสียงเจื้อยแจ้วในความทรงจำของชายชราก็ดังขึ้น



    ‘พ่อ แล้วดาบล่ะว่าไง’



    ‘หาซื้อเอาซักเล่ม บ๊ะ นี่มันชักจะเกินงบที่ตั้งไว้แล้วนะนี่’



    ‘ไม่เอาไอ้ดาบสนิมกินในลังพ่อให้ฉันหรอกเหรอ’



    ‘แกยังไม่คู่ควรกับดาบเล่มนั้นหรอกเจ้าหนู...’



    “...ผ่าอเวจี...ดาบดีในตำนาน...”โรเอ่ยขึ้นเบาๆ



    “หึ...รู้ก็ดีนี่...ถ้ายังไงแกก็จบชีวิตลงด้วยดาบนี้แหละ!!!” สิ้นเสียงตะโกนร่างของชายชราก็พุ่งเข้าใส่ชายหนุ่ม



    แม้ฝีมือดาบจะเก่งเพียงใด แต่ร่างกายและสังขารก็ไม่อำนวยเท่าคนหนุ่ม  ดาบที่วาดไปจึงพลาดเป้า แม้จะพยายามเพียงใดก็ทำได้แค่ฟาดฟันตัดอากาศเท่านั้น



    “ความผิดพลาดอย่างเดียวของชั้น...ก็คือการส่งให้มันไปเข้าโรงเรียนพระราชาและพบกับพวกแก!!!…”



    “แฮ่ก...แฮ่ก...”เสียงหอบของชายชราดังเป็นระยะ ดวงตาสีเข้มของชายชราจ้องมองมาที่ชายหนุ่มอย่างโกรธแค้น แต่โรก็ยังคงสงบนิ่งเช่นเดิม



    “ไม่อย่างงั้น...ตอนนี้มันก็คงยังอยู่กับชั้น เรื่องทุกอย่างก็ไม่ต้องจบลงอย่างนั้น!!!”



    ทันใดนั้นนายมาดัสก็พุ่งตัวเข้าหมายโจมตีอีกครั้ง หากแต่โรร่ายเวทย์ให้ผ่าอเวจีหลุดออกจากมือของผู้ถือครองก่อนดาบเล่มยาวจะปักลงบนพื้นข้างกายของชายชรา



    “ปู่!!!”เคนินถลาเข้ามาประคอง แต่นายมาดัสดันตัวเคนินออกพร้อมตะโกนสั่ง



    “รีบหนีไป!!! วิ่งหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่แกทำได้เคนิน!!! อย่าไปกับคนพวกนี้!!!”



    “อะ...อะไรกัน...”เคนินงง



    “เคนิน...ไปกับฉันเถอะ...ชั้นจะพานายไปพบกับตัวตนที่แท้จริงของนาย”เรมิลเอ่ยแผ่วเบา



    “ตัวตนที่แท้จริงของฉัน?...”



    “เคนิน เดอเบอโรว์...เธอคือทายาทคนเดียวของธิดาแห่งความมืด...เจ้าชายผู้สืบทอดบัลลังก์...”โรเอ่ยต่อ



    “ไอ้เคนินรีบหนีไปเร็วๆเข้าสิวะ!!!”เสียงนายมาดัสตะโกนไล่



    ฉับพลันทุกสิ่งรอบข้างกลับเงียบสงบ ในหัวสมองของเด็กหนุ่มว่างเปล่า...เหตุการณ์ตรงหน้าที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่เด็กหนุ่มจะสามารถทำความเข้าใจได้แม้แต่น้อย...เจ้าชาย?...ทายาทแห่งความมืด?...อะไรกัน?....



    มือเรียวของเด็กหนุ่มยื่นออกไปสัมผัสดาบผ่าอเวจีที่ปักอยู่ข้างกาย ก่อนจะคว้าขึ้นมากระชับไว้กับมือแน่น...



    “เคนิน...แกจะทำอะไร?” นายมาดัสมองหลานชายที่ตอนนี้เดินไปพร้อมชี้ดาบไปที่บุรุษนัยน์ตาสีเขียวทั้งสอง



    “ความจริงอะไรฉันไม่รู้...ตั้งแต่จำความได้ก็มีแต่ปู่ที่เลี้ยงชั้นมาเท่านั้น”



    “แล้วนายไม่อยากรู้ความจริงรึไง?”เรมิลถามขึ้น



    “ก็บอกว่าความจริงอะไรชั้นไม่รู้...ไม่สนด้วย...”เคนินตอบเสียงเข้ม



    “ถึงมันจะเกี่ยวข้องกับชีวิตของนาย...”โรถาม เคนินชะงักไปน้อยๆก่อนจะยิ้มตอบ



    “ชีวิตของฉันก็เป็นของฉันสิ จะเป็นหรือจะตายชั้นเป็นคนกำหนดเองได้ ถึงชีวิตของฉันมันจะยาวหรือสั้นก็ช่าง สำคัญที่ว่าอยู่แล้วจะทำอะไรให้ชีวิตนี้มันมีค่ามากกว่า” เสียงตอบของเด็กหนุ่มทำให้ชายหนุ่มชะงักกึก



    ฉับพลันภาพของเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาล นัยน์ตาสีเดียวกับเส้นผมที่เขาเคยรู้จักก็ซ้อนทับกับภาพของเด็กหนุ่มนัยน์ตาสีฟ้าที่ยืนอยู่ตรงหน้า ถ้อยคำที่เหมือนจะเรียงร้อยออกมาจากคนๆเดียวกัน



    “...เฟริน....”เสียงเรียกแผ่วเบาทำให้เคนินขมวดคิ้วสงสัย



    “ใครคือเฟริน?...” เคนินถาม โรยิ้มก่อนจะตอบ



    “เจ้านายคนสำคัญของฉัน...และก็เป็น...แม่ของเธอ...”



    เคนินทำตาโตเบิ่งกว้าง เฟรินเป็นใคร เป็นแม่ของเขางั้นหรอ? ได้ยังไงกัน?



    “ปู่...นี่มันอะไรกัน?...แม่ฉันหายสาบสูญไปในเดมอสไม่ใช่หรอ? แล้วทำไม?”เคนินหันไปถามปู่



    “เฟรินเป็นแม่ของแก...แล้วก็เป็น...ลูกชายของชั้นเอง”นายมาดัสตอบ เคนินขมวดคิ้วมากขึ้นไปอีก



    ...ลูกชาย?...งั้นชั้นก็เป็นเด็กที่เกิดจากผู้ชายงั้นสิ? เป็นลูกชายของลูกชายหรอ???...



    เคนินได้แต่ทำหน้างงๆ โรยิ้มเมื่อเห็นสภาพของเด็กหนุ่ม ทำให้อดคิดถึงเพื่อนเก่าเจ้าปัญหาที่ชอบทำท่าอวดดีไม่ได้



    “คุณไม่เคยบอกอะไรกับเคนินเลยหรอ?”โรถาม



    “แล้วจะให้ชั้นบอกอะไร?...”นายมาดัสตวัดสายตาขึ้นมามองชายหนุ่ม



    “ถ้างั้นชั้นจะบอกให้เองเอาไหม?”โรหันไปถามเคนิน ที่บัดนี้หันมามองนายมาดัสอย่างขอคำแนะนำ



    “ก็ได้...ชั้นให้เคนินไปกับพวกแก...แต่ถ้ามันเป็นอะไรไป...อย่าหวังว่าชั้นจะปล่อยแกไว้...”นายมาดัสตอบอย่างชั่งใจ



    “ชั้นรับประกันความปลอดภัยของเคนิน...ด้วยชีวิตของชั้นเอง”โรเอ่ยขึ้น นายมาดัสมองลึกเข้าไปในดวงตาสีเขียวสดก่อนจะถอนหายใจพร้อมพยักหน้าเบาๆ แล้วหันกลับมาพูดกับหลานชาย



    “แกก็อย่าก่อเรื่องนักละไอ้หนู”



    “โธ่ปู่...ไว้ใจกันมั่งสิ...”เคนินบ่นอุบ พลางยื่นดาบส่งคืนให้นายมาดัสแต่กลับโดนส่งคืนให้เด็กหนุ่ม



    “ชั้นยกให้แก...เอาไว้ป้องกันตัว...ใช้ดีๆนะเฟ้ยของมันแพง”



    นายมาดัสนิ่งไปครู่หนึ่ง แววตาของชายชราจับจ้องที่เด็กหนุ่มอย่างอาวรณ์



    “เคนิน...ถึงความจริงจะเป็นยังไง แกจะเป็นทายาทอะไรของใคร...แต่จำไว้ว่าไม่ว่ายังไง...แกก็เป็นหลานของชั้นนะ...”



    เคนินมองนายมาดัสก่อนจะเอ่ยเบาๆ



    “ขอบคุณสำหรับทุกๆอย่างนะปู่...ผมรักปู่ที่สุดเลย”เคนินยิ้มก่อนจะทำหน้าแหยเพราะถูกนายมาดัสเขกหัวให้



    “รีบๆไปเลยแก...เดี๋ยวชั้นก็เปลี่ยนใจซะหรอก”



    เคนินเดินไปหาเรมิลกับโร และหันมาโบกมือลานายมาดัส ก่อนที่โรจะใช้เวทย์เคลื่อนย้ายทำให้ทั้ง3คนหายตัวไปในพริบตา



    “เฮ้อ...สงสัยต้องไปย้อมใจที่เกาะสวรรค์แดนใต้ซะดีกว่ามั้ง...”นายมาดัสบ่นเบาๆ พลางขึ้นเกวียนเล่มเก่าขับออกไป...

    ***********

    โอ้~อัพคราวนี้เอายาวๆไปเลยคับ แต่มีข้อแม้ว่าผมคงไม่ได้มาอัพอีกซัก2-3วัน กี๊สสสส อย่าเพิ่งงอนน้า แหะๆๆ

    ป.ล. ผมสิงอยู่ที่บอร์ดซันทรีอยู่แล้วครับ...เพียงแต่ท่านอาจยังไม่รู้ตัว...หึๆๆๆ(-_,-)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×