ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Thief of Kanowal

    ลำดับตอนที่ #27 : ย้อนอดีต – ผู้ทรยศ!

    • อัปเดตล่าสุด 31 ก.ค. 48


    เสียงพูดคุยค่อยๆเงียบลงเมื่อร่างสูงของกษัตริย์แห่งสามดินแดนเดินเข้ามาพร้อมขอทานกิตติมศักดิ์ที่แยกตัวออกไปร่วมกับฝูงชนรอบด้านอย่างรู้ฐานะ นัยน์ตาสีฟ้ามองหาร่างบางของคนที่วิ่งเข้ามาก่อนแล้วก็ต้องถอนหายใจเฮือกอีกครั้งเมื่อเห็นแม่ตัวดีกำลังเริ่มจัดการอาหารบนโต๊ะอย่างไม่เกรงใจใคร...



    “เฟริน...”คาโลเอ่ยเรียกเบาๆด้วยน้ำเสียงหน่ายใจ



    “อีอะไออ๋อ?(มีอะไรหรอ?)”แม่ตัวยุ่งหันมาพร้อมขนมเต็มปาก



    “นายช่วยหยุดกินก่อนได้มั้ย?...งานเลี้ยงยังไม่เริ่มเลยนะ...”คาโลเอ่ยเสียงเข้ม นัยน์ตาสีฟ้ามีประกายดุๆ ที่ขู่คนได้แทบทั้งแผ่นดินแต่ไม่อาจทำให้หญิงสาวกลัวได้แม้แต่น้อย...



    “เออ...ก็ได้ๆ...”เฟรินเช็ดมือกับผ้าปูโต๊ะก่อนหันมายิ้มทักทายแขกอย่างอารมณ์ดี



    “ถ้านายทำแบบนั้นอีก...ชั้นจะส่งนายไปฝึก ‘1080วิธีกุลสตรีที่ดี’ใหม่อีกรอบ”คำขู่ของร่างสูงได้ผลชะงัด เฟรินส่ายหน้าพลางทำหน้าแหยๆเมื่อนึกถึงการฝึกนรกสุดโหดของพี่ผีสาวที่เธอเคยโดนไปเมื่อตอนเข้ามาเป็นพระชายาใหม่ๆ



    ราชาและราชินีแห่งสามดินแดนก้าวขึ้นไปบนแท่นพระทับ...ที่กลางแท่นมีเปลเด็กขนาดใหญ่บุด้วยผ้าสักหลาดสีแดงสดประดับด้วยด้ายสีทองดูหรูหรางดงาม...ที่ในเปลนั้น...ร่างเล็กของทารกน้อยทายาทแห่งสามดินแดนกำลังนอนหลับพริ้มอย่างน่ารักน่าเอ็นดูเป็นที่สุด



    ...เฟรินมองทารกน้อยในเปลก่อนจะหันมายิ้มให้คาโล...รอยยิ้มที่หวานที่สุดเท่าที่เคยมีมา...



    ...ท่านพ่อมาดัส...ท่านพ่อเอวิเดส...ท่านแม่อลิเชีย...



    ...วันนี้ผม...มีครอบครัวที่อบอุ่นแล้วนะฮะ...



    ...แม้อดีตจะเคยเป็นเช่นใด...แต่วันนี้...จะเริ่มต้นทุกอย่างใหม่...



    ...จะทำให้ดีกว่าเดิม...จะเติมเต็มส่วนที่หายไป...



    คาโลมองหญิงสาวพลางยิ้มตอบอย่างอ่อนโยนด้วยความรู้สึกที่ไม่ต่างกัน...



    “เรา...คาโล วาเนบลี เดอะ คิง ออฟ ไตรคิงดอม...ขอกล่าวขอบคุณพวกท่านทุกคนที่ให้เกียรติมาร่วมงานเลี้ยงฉลองครบรอบขวบเดือนของโอรสแห่งเรา...เคนิน วาเนบลี...และบัดนี้ ด้วยอำนาจแห่งเราขอประกาศให้โอรสของเรา เป็นรัชทายาทแห่งสามดินแดนผู้ครองสิทธิที่จะสืบทอดราชบัลลังก์ต่อจากเราโดยสมบูรณ์...”



    สิ้นคำตรัสของกษัตริย์หนุ่ม เสียงแตรมหาฤกษ์ก็ดังขึ้นพร้อมเสียงปรบมือและโห่ร้องอย่างยินดีที่ดังขึ้นโดยพร้อมเพรียง จากทั้งแขกผู้มาร่วมงานและข้าราชบริภารทุกคนในมหาราชวัง...



    ...เว้นแต่หนุ่มน้อย...เคนิน เดอเบอโรว์...ที่บัดนี้ยืนนิ่งด้วยความตกใจจนแถบจะแข็งเป็นหิน



    ...คำประกาศที่จบลงไปแล้วแต่กลับยังดังก้องอยู่ในหัวของเด็กหนุ่มซ้ำไปมาไม่หยุด...



    ...ตำแหน่งองค์รัชทายาทโดยสมบูรณ์???...



    แต่ก่อนที่งานเลี้ยงฉลองจะมีขึ้นต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น เสียงหัวเราะอย่างร้ายกาจก็ดังขึ้นจากทั่วทุกทิศทาง ฉับพลันบรรยากาศแสนสงบรอบด้านก็เปลี่ยนไป สายลมเริ่มพัดแรงขึ้นเรื่อยๆจนแทบจะเป็นลมพายุ...แขกผู้มาร่วมงานทั้งหลายต่างส่งเสียงร้องอย่างตกอกตกใจพลางมองหาต้นเหตุกันเป็นพัลวัน



    “คาโล! นี่มันเกิดอะไรขึ้น???”เฟรินหันมาหาบุรุษข้างกายเธอแต่ก็ต้องชะงักไป



    ...แววตาสีฟ้าที่แม้จะเย็นชาแต่ก็อบอุ่นบัดนี้เต็มไปด้วยโทสะ...คิ้วเรียวขมวดมุ่นแม้เจ้าตัวจะพยายามไม่แสดงออกใดๆแล้วก็ตาม...



    ...สร้างสายลมในเขตอาคมของพ่อมดแห่งคาโนวาลได้...ฝีมือคงไม่ใช่ระดับธรรมดา...



    “เฟริน...รีบพาเคนินไปยังที่ๆปลอดภัยเร็วๆ”คาโลสั่งเสียงเรียบ เฟรินอุ้มทารกน้อยขึ้นมาก่อนหันมองชายหนุ่มอีกครั้งอย่างกังวลใจ



    “แล้วแกคิดจะทำอะไร...คาโล?”เฟรินถาม หากแต่บุรุษตรงหน้าไม่เอ่ยคำตอบทำเอาคนถามใจเสีย



    “อารักขาราชินีกับองค์รัชทายาท!!!”เสียงหัวหน้ากองทหารดังขึ้นพร้อมร่างทหารนับสิบกรูกันเข้ามา



    เคนินอาศัยจังหวะที่กำลังวุ่นวายหลบซ่อนตัวอยู่ที่ข้างเสาต้นหนึ่งเพื่อคอยดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้น...



    ...หรือนี่จะเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องพลัดพรากจากพ่อแม่?...



    ลมพายุยังคงพัดแรงขึ้นเรื่อยๆจนทำให้ข้าวของในท้องพระโรงแตกหักเสียหายปลิวกระจัดกระจายไปทั่ว...



    “ท่าไม่ดีหวะคาโล...”คิลเอ่ยเสียงเข้มพลางเดินมาสมทบกับคาโลพร้อมด้วยเพื่อนร่วมป้อมคนอื่นๆ



    “นายคิดว่าใครจะเป็นคนทำเรื่องแบบนี้?...”โรถามเบาๆ



    “....................”



    ปัง!!!



    ทันใดนั้นประตูห้องโถงก็ถูกเปิดออกอย่างแรงโดยใครบางคน ทำให้ผู้ร่วมงานที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นผู้ร่วมรบหันมามองที่ต้นเหตุเป็นตาเดียว



    ร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มในชุดนักรบเต็มยศพร้อมดาบเล่มยาววาววับในมือ ร่างกายกำยำและบาดแผลมากมายแสดงให้เห็นถึงประสบการณ์

    ผ่านสนามรบมาอย่างโชกโชน เส้นผมสีดำกับใบหน้าคมเข้มเต็มไปด้วยหนวดเคราแต่ไม่ดูรกรุงรัง นัยน์ตาสีนิลของผู้มาเยือนกำลังฉายแววเป็นประกายอย่างกระหายสงคราม...



    “จะไม่ต้อนรับแขกหน่อยหรือ?...มหากษัตริย์คาโล วาเนบลี?...”เสียงเข้มเอ่ยขึ้น เรียกสายตาดุๆจากคนถูกถามได้ไม่น้อย



    “ท่านมีธุระอะไรกันแน่...กษัตริย์อาเธอร์แห่งซาเรส...”คาโลถามกลับด้วยน้ำเสียงเรียบสนิทแต่เจือความเยือกเย็น



    ...เมื่อครั้งหนึ่งในชีวิตนี้...คนตรงหน้าก็เคยเป็นรุ่นพี่ร่วมสถาบัน...



    ...คนเป็นผู้ร่วมเดินทางฝ่าความเป็นความตายในดินแดนอาถรรพ์เดมอสมาด้วยกัน...



    ...แต่ตอนนี้กลับเป็นศัตรูที่จ้องจะทำสงครามเอาชีวิตและบ้านเมือง...



    ...เป็นโชคชะตา...ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้งั้นหรือ?...



    “ข้ามานี่เพื่อสิ่งใดท่านก็รู้ดีคิงคาโล...”อาเธอร์เอ่ยตอบ



    “สงครามไม่เคยนำมาซึ่งความสุข...อำนาจไม่เคยนำมาซึ่งความสงบ...สงครามมีแต่จะสร้างความเดือดร้อนและหายนะให้แก่ประชาชนในบ้านเมืองของท่านเอง...แล้วท่านจะก่อสงครามไปเพื่ออะไรคิงอาเธอร์?”



    “ความปรารถนาของข้า...คือการได้เป็นเจ้าแห่งเอเดน...และเมื่อเวลานั้นมาถึงกองทัพของข้าจะบุกโจมตีและทำลายเดมอสให้สิ้นซาก...”คิงนักรบตอบพลางยิ้มเหยียดอย่างสะใจกับความฝันของตน



    “ดังนั้น...หากข้าเอาชนะท่านได้...ก็เท่ากับว่าข้าได้เป็นเจ้าของดินแดนทั้งสามที่มีท่านเป็นผู้ปกครอง...เพราะฉะนั้นข้าจะต้องโค่นท่านให้ได้มหากษัตริย์คาโล!!!



    “ท่านเพียงแต่หลงมัวเมาในอำนาจเท่านั้น...”คาโลตอบเบาๆ ทำให้แววตาของผู้ถูกหาว่ามัวเมาฉายแววแข็งกร้าวขึ้นมาทันที



    “เมื่อท่านเข้าใจวัตถุประสงค์ของข้าดีแล้ว...ก็ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก...”สิ้นเสียงของคิงอาเธอร์ สายลมแรงเมื่อครู่ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น หากแต่บุรุษผมเงินกับเพื่อนร่วมรบอีกกว่า10ชีวิตยังคงยืนอยู่เฉยราวกับไม่มีลมใดๆพัดผ่าน



    “เกราะเวทย์คุ้มครอง? ...พลังเวทย์แข็งแกร่งดีนี่...”เสียงเอ่ยที่เจือความชื่นชมเล็กน้อยไม่ทำให้คนถูกชมดีใจซักนิด



    “แต่ถ้าเจอแบบนี้แล้วอยากรู้นักว่าจะทำยังไง???...ดาบอัศวินดำ!!!” พูดจบคิงนักรบก็ฟาดดาบสีดำสนิทในมือตัดผ่านอากาศ เกิดเป็นร่างเงาของอัศวินในชุดเกราะสีดำมากมายนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากวิถีดาบ!!!



    “วิถีดาบแห่งจิต...”โรเอ่ยเบาๆ “ขนาดสร้างให้เป็นรูปร่างได้คงมีฝีมือไม่น้อยเลยทีเดียว...”



    “หึๆๆ...ทีนี้ท่านจะทำยังไง?...คิงคาโล...หากยอมมอบบัลลังก์ให้ข้าดีๆข้าอาจจะเมตตาไว้ชีวิตท่านก็ได้นะ”อาเธอร์เอ่ยพลางหัวเราะเบาๆอย่างเป็นต่อ



    ดวงตาสีฟ้าฉายแววโกรธขึงเมื่อถูกสบประมาท มือเรียวยื่นออกไปก่อนจะตะโกนเรียกอาวุธคู่กาย



    “คทาพิพากษา!!!”คทาปีศาจในมือพ่อมดปีศาจ...



    “งั้นไม่เกรงใจหละนะ!!!”คิลพูดพลางพุ่งเข้าใส่ร่างของอัศวินเกราะดำเบื้องหน้าพร้อมด้วยเพื่อนรักนักรบคนอื่นๆ



    เสียงคมดาบปะทะคมดาบ เสียงพลังเวทย์ปะทะร่างศัตรูดังไม่ขาดสาย ต่างฝ่ายต่างทุ่มกำลังสูงสุดในการต่อสู้...



    ...เพราะหากพ่ายแพ้...นั่นหมายถึงความตาย...



    **********

    เหอๆๆ...ขออภัยที่เราบรรยายฉากได้ไม่ค่อยดีอะ...ไม่ค่อยถนัดพวกฉากต่อสู้เท่าหร่าย

    บทนี้บางคนอ่านอาจจะสงสัยอะไรก็ถามได้น้าค้าบบบ แหะๆ เพราะรู้ตัวว่าผมอธิบายได้ไม่ดีอ่า

    แง่มๆ...จะถึงตอนสำคัญแย้ววว หุๆๆๆ รับรองอัพคราวหน้า ท่านๆจะได้รู้แน่นอนว่าเกิดอะหยังขึ้น

    หุๆๆ ยังไงก็ขอบพระคุณที่ติดตามอ่านฟิคเรื่องนี้ของป๋มน้าค้าบบบ o(_ _)o

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×