ลำดับตอนที่ #19
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : ห้องแห่งความลับ...
เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเดินทอดน่องไปเรื่อยๆท่ามกลางความมืดมิดอย่างไม่นึกกลัวอะไรใดๆทั้งสิ้น นัยน์ตาสีฟ้าใสที่บัดนี้เริ่มชินกับที่มืดสอดส่องไปตามเส้นทางที่มืดทึบและอับชื้น...
เสียงหัวใจที่กำลังร่ำร้องอย่างตื่นเต้นทำให้เด็กหนุ่มยิ้มสบายอารมณ์พร้อมเดินไปข้างหน้าอย่างไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย...
เหตุการณ์เฉียดเป็นเหยื่อคมมีดเมื่อครู่ทำเอาระบบการย่อยอาหารของเด็กหนุ่มหยุดทำงานซะดื้อๆ เจ้าตัวดีจึงคิดจะออกมาเดินเล่นรับลมซักหน่อย...
แต่สายตาอยู่ไม่สุขดันเหลือบไปเห็นประตูทางเข้าที่แง้มอยู่ ความอยากรู้อยากเห็นจึงถีบส่งให้เด็กหนุ่มเดินเข้ามาอย่างไม่ลังเล...
เสียงฝีเท้าดังก้องสะท้อนกับกำแพงสีดำทะมึนที่มีตะไคร่น้ำจับเป็นหย่อมๆบ่งบอกความอับชื้นได้เป็นอย่างดี...
ทางเดินที่ลาดเอียงราวกับจะลึกลงไปเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุดบรรยากาศรอบด้านมีแต่ความมืดมิด แต่สายตาหัวขโมยที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีก็พอมองเห็นทางที่จะเดินได้แม้จะเพียงแค่ลางๆ
เสียงฝีเท้าของเด็กหนุ่มหยุดลงเมื่อเจ้าตัวเดินมาถึงสุดทางของพื้นลาด สถานที่ที่เพิ่งมาถึงดูเหมือนจะเป็นห้องสี่เหลี่ยมที่แบ่งออกเป็นห้องย่อยๆสามห้อง บานประตูสามบานตั้งเรียงกันประจันหน้ากับหัวขโมยหนุ่มที่บัดนี้เริ่มคันไม้คันมือขึ้นมาตงิดๆ...
...คงได้อะไรติดไม้ติดมือไปบ้างหละน่า...
เร็วเท่าความคิดขาทั้งสองก็พาร่างของหัวขโมยหนุ่มตรงไปที่ประตูทางซ้ายสุดทันที
แอ้ด...
เสียงประตูไม้ที่ทั้งเก่าทั้งหนักถูกดันเปิดออก ภายในห้องเล็กๆที่มืดทึบ สายตาของเด็กหนุ่มก็กวาดมองไปรอบๆ
ท่ามกลางความมืดมิด สิ่งที่ดูเหมือนชั้นวางหนังสือที่ทำจากไม้เรียง+รายอยู่ทุกมุมของห้อง พร้อมทั้งกองหนังสือเก่าๆจำนวนมากกองระเกะระกะมากมายแทบจะเรียกได้ว่าล้นห้อง...
เสียงถอนหายใจแผ่วเบาบ่งบอกความผิดหวัง
...ฉันเป็นหัวขโมยนะ...ไม่ใช่พวกขายข้อมูล...จะได้บ้าอยากได้หนังสือพวกนี้...
เด็กหนุ่มปิดประตูลงตามเดิม พร้อมทิ้งให้หนังสือเหล่านั้นอยู่เป็นอาหารปลวกต่อไป...
ผิดหวังจากห้องแรก เคนินก็ยังไม่ละความพยายาม นัยน์ตาสีฟ้ากวาดมองผ่านความมืดก่อนจะตรงไปที่ประตูด้านขวาสุด...
แอ้ด...
เสียงประตูเปิดออกตามแรงผลักของผู้มาเยือน...บรรยากาศภายในห้องมืดสนิทเช่นเดียวกับห้องที่แล้ว...แต่ดูเหมือนมันจะมืดกว่า?...เด็กหนุ่มหยีตาพลางเพ่งมองไปรอบๆห้อง...
ทันใดนั้นดวงตาสีฟ้าก็สบกับดวงตาสีนิลที่เป็นประกายแวววาวอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง!!!
เคนินยืนตัวแข็งไม่กล้าขยับไปไหน...ดวงตาทั้งสองจ้องกันไม่วาง มือของเด็กหนุ่มกำแน่น...
...หากถูกโจมตีมา...ก็คงจำเป็นต้องต่อสู้...
บรรยากาศตึงเครียดระหว่างหัวขโมยหนุ่มกับบุคคลปริศนาในห้องดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด...จนในที่สุดเคนินก็ตัดสินใจเป็นฝ่ายเริ่มบุกก่อน!...
วิชาตีนเบาที่สืบทอดกันมาในตระกูลหัวขโมยพาร่างของเด็กหนุ่มให้เคลื่อนไปหาเหยื่อได้อย่างรวดเร็วและเงียบสนิท...
ดวงตาสีฟ้าฉายประกายตื่นตัวพร้อมสู้เต็มที่...หากแต่ร่างที่จ้องอยู่นั้นกลับไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย...
...เคนินเพ่งมองผ่านความมืดมากขึ้นก่อนตัดสินใจเดินเข้าไปหา...
“นี่...นายเป็นใคร?...มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงน่ะ?”เคนินถามขึ้น แต่สิ่งที่ได้รับเป็นคำตอบมีแต่ความเงียบเท่านั้น...
“เฮ้ย...ตอบหน่อยสิ...”เคนินคว้าหมับเข้าที่ข้อมือของร่างนั้นก่อนที่จะชักมือกลับอย่างสงสัย...
...ทำมันมันนิ่มจัง...แถมขนดกด้วย...
เด็กหนุ่มยืนนิ่งดูปฏิกิริยาซักพักก่อนตัดสินใจเอื้อมมือเข้าไปคลำร่างนั้น...
...นิ่มจริงๆ...แถมยังเย็นเฉียบอย่างกะไม่มีชีวิต...
แล้วมือเรียวก็คลำไปเจออะไรบางอย่างที่ดูเหมือน...หู???...
เคนินขมวดคิ้วมุ่นตัดสินใจยกร่างนั้นขึ้นมาดูใกล้ๆ...
...ตุ๊กตาหมีเก่าๆ...
เพร้ง!!!...
“.......................”เสียงหน้าของเด็กหนุ่มแตกกระจายดังขึ้นในใจพร้อมอาการอึ้งจนพูดไม่ออก...
...ให้ตายสิ...นี่เขาพยายามจะโจมตีหมีแล้วคิดว่ามันจะโจมตีกลับ...
...แถมยังพยายามคุยกับตุ๊กตาหมีด้วยหรอเนี่ย?...
...อับอายขายขี้หน้าชะมัดยาด...
สภาพของตุ๊กตาหมีตรงหน้าช่างยับเยินเต็มไปด้วยรอยฉีกขาดจนน่าจะเอาไปโยนทิ้งได้แล้ว
...สงสัยที่นี่คงจะเป็นห้องเก็บของ...
เด็กหนุ่มวางตุ๊กตาหมีลงที่เดิม ดวงตาสีนิลของมันจับจ้องมาที่เขาราวกับจะเยาะเย้ย
“อ่านะ...ขอโทษที่รบกวน...”เคนินเดินออกจากห้องนั้นด้วยอย่างหมดความรู้สึกอยากที่จะหยิบฉวยอะไรใดๆติดมือออกมาด้วยแม้แต่น้อย...
เสียงปิดประตูตามด้วยเสียงถอนหายใจดังๆ...
...ห้องนี้ได้คุยกะตุ๊กตาหมี...ห้องหน้าจะได้คุยกับบาร์บี้หรือเปล่านะ?...
คิดพลางก้าวเท้าไปยืนอยู่ที่หน้าประตูบานสุดท้าย...
แม่กุญแจอันใหญ่คล้องปิดแน่นหนา...สนิมจับเขรอะราวกับว่าห้องนี้ถูกปิดตายและไม่เคยมีใครมาเปิดมันอีก...
ฉับพลันรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ผุดขึ้นมาบนใบหน้าของเด็กหนุ่ม...
...สัญชาติญาณบ่งบอกให้รู้ว่าที่แบบนี้ต้องซ่อนสมบัติมีค่าอะไรไว้ซักอย่างแน่นอน...
**********
เง้อ...หุๆๆ...ขอบคุณสำหรับคอมเม้นน้าค้าบบบ
เสียงหัวใจที่กำลังร่ำร้องอย่างตื่นเต้นทำให้เด็กหนุ่มยิ้มสบายอารมณ์พร้อมเดินไปข้างหน้าอย่างไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย...
เหตุการณ์เฉียดเป็นเหยื่อคมมีดเมื่อครู่ทำเอาระบบการย่อยอาหารของเด็กหนุ่มหยุดทำงานซะดื้อๆ เจ้าตัวดีจึงคิดจะออกมาเดินเล่นรับลมซักหน่อย...
แต่สายตาอยู่ไม่สุขดันเหลือบไปเห็นประตูทางเข้าที่แง้มอยู่ ความอยากรู้อยากเห็นจึงถีบส่งให้เด็กหนุ่มเดินเข้ามาอย่างไม่ลังเล...
เสียงฝีเท้าดังก้องสะท้อนกับกำแพงสีดำทะมึนที่มีตะไคร่น้ำจับเป็นหย่อมๆบ่งบอกความอับชื้นได้เป็นอย่างดี...
ทางเดินที่ลาดเอียงราวกับจะลึกลงไปเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุดบรรยากาศรอบด้านมีแต่ความมืดมิด แต่สายตาหัวขโมยที่ได้รับการฝึกมาอย่างดีก็พอมองเห็นทางที่จะเดินได้แม้จะเพียงแค่ลางๆ
เสียงฝีเท้าของเด็กหนุ่มหยุดลงเมื่อเจ้าตัวเดินมาถึงสุดทางของพื้นลาด สถานที่ที่เพิ่งมาถึงดูเหมือนจะเป็นห้องสี่เหลี่ยมที่แบ่งออกเป็นห้องย่อยๆสามห้อง บานประตูสามบานตั้งเรียงกันประจันหน้ากับหัวขโมยหนุ่มที่บัดนี้เริ่มคันไม้คันมือขึ้นมาตงิดๆ...
...คงได้อะไรติดไม้ติดมือไปบ้างหละน่า...
เร็วเท่าความคิดขาทั้งสองก็พาร่างของหัวขโมยหนุ่มตรงไปที่ประตูทางซ้ายสุดทันที
แอ้ด...
เสียงประตูไม้ที่ทั้งเก่าทั้งหนักถูกดันเปิดออก ภายในห้องเล็กๆที่มืดทึบ สายตาของเด็กหนุ่มก็กวาดมองไปรอบๆ
ท่ามกลางความมืดมิด สิ่งที่ดูเหมือนชั้นวางหนังสือที่ทำจากไม้เรียง+รายอยู่ทุกมุมของห้อง พร้อมทั้งกองหนังสือเก่าๆจำนวนมากกองระเกะระกะมากมายแทบจะเรียกได้ว่าล้นห้อง...
เสียงถอนหายใจแผ่วเบาบ่งบอกความผิดหวัง
...ฉันเป็นหัวขโมยนะ...ไม่ใช่พวกขายข้อมูล...จะได้บ้าอยากได้หนังสือพวกนี้...
เด็กหนุ่มปิดประตูลงตามเดิม พร้อมทิ้งให้หนังสือเหล่านั้นอยู่เป็นอาหารปลวกต่อไป...
ผิดหวังจากห้องแรก เคนินก็ยังไม่ละความพยายาม นัยน์ตาสีฟ้ากวาดมองผ่านความมืดก่อนจะตรงไปที่ประตูด้านขวาสุด...
แอ้ด...
เสียงประตูเปิดออกตามแรงผลักของผู้มาเยือน...บรรยากาศภายในห้องมืดสนิทเช่นเดียวกับห้องที่แล้ว...แต่ดูเหมือนมันจะมืดกว่า?...เด็กหนุ่มหยีตาพลางเพ่งมองไปรอบๆห้อง...
ทันใดนั้นดวงตาสีฟ้าก็สบกับดวงตาสีนิลที่เป็นประกายแวววาวอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง!!!
เคนินยืนตัวแข็งไม่กล้าขยับไปไหน...ดวงตาทั้งสองจ้องกันไม่วาง มือของเด็กหนุ่มกำแน่น...
...หากถูกโจมตีมา...ก็คงจำเป็นต้องต่อสู้...
บรรยากาศตึงเครียดระหว่างหัวขโมยหนุ่มกับบุคคลปริศนาในห้องดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด...จนในที่สุดเคนินก็ตัดสินใจเป็นฝ่ายเริ่มบุกก่อน!...
วิชาตีนเบาที่สืบทอดกันมาในตระกูลหัวขโมยพาร่างของเด็กหนุ่มให้เคลื่อนไปหาเหยื่อได้อย่างรวดเร็วและเงียบสนิท...
ดวงตาสีฟ้าฉายประกายตื่นตัวพร้อมสู้เต็มที่...หากแต่ร่างที่จ้องอยู่นั้นกลับไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย...
...เคนินเพ่งมองผ่านความมืดมากขึ้นก่อนตัดสินใจเดินเข้าไปหา...
“นี่...นายเป็นใคร?...มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงน่ะ?”เคนินถามขึ้น แต่สิ่งที่ได้รับเป็นคำตอบมีแต่ความเงียบเท่านั้น...
“เฮ้ย...ตอบหน่อยสิ...”เคนินคว้าหมับเข้าที่ข้อมือของร่างนั้นก่อนที่จะชักมือกลับอย่างสงสัย...
...ทำมันมันนิ่มจัง...แถมขนดกด้วย...
เด็กหนุ่มยืนนิ่งดูปฏิกิริยาซักพักก่อนตัดสินใจเอื้อมมือเข้าไปคลำร่างนั้น...
...นิ่มจริงๆ...แถมยังเย็นเฉียบอย่างกะไม่มีชีวิต...
แล้วมือเรียวก็คลำไปเจออะไรบางอย่างที่ดูเหมือน...หู???...
เคนินขมวดคิ้วมุ่นตัดสินใจยกร่างนั้นขึ้นมาดูใกล้ๆ...
...ตุ๊กตาหมีเก่าๆ...
เพร้ง!!!...
“.......................”เสียงหน้าของเด็กหนุ่มแตกกระจายดังขึ้นในใจพร้อมอาการอึ้งจนพูดไม่ออก...
...ให้ตายสิ...นี่เขาพยายามจะโจมตีหมีแล้วคิดว่ามันจะโจมตีกลับ...
...แถมยังพยายามคุยกับตุ๊กตาหมีด้วยหรอเนี่ย?...
...อับอายขายขี้หน้าชะมัดยาด...
สภาพของตุ๊กตาหมีตรงหน้าช่างยับเยินเต็มไปด้วยรอยฉีกขาดจนน่าจะเอาไปโยนทิ้งได้แล้ว
...สงสัยที่นี่คงจะเป็นห้องเก็บของ...
เด็กหนุ่มวางตุ๊กตาหมีลงที่เดิม ดวงตาสีนิลของมันจับจ้องมาที่เขาราวกับจะเยาะเย้ย
“อ่านะ...ขอโทษที่รบกวน...”เคนินเดินออกจากห้องนั้นด้วยอย่างหมดความรู้สึกอยากที่จะหยิบฉวยอะไรใดๆติดมือออกมาด้วยแม้แต่น้อย...
เสียงปิดประตูตามด้วยเสียงถอนหายใจดังๆ...
...ห้องนี้ได้คุยกะตุ๊กตาหมี...ห้องหน้าจะได้คุยกับบาร์บี้หรือเปล่านะ?...
คิดพลางก้าวเท้าไปยืนอยู่ที่หน้าประตูบานสุดท้าย...
แม่กุญแจอันใหญ่คล้องปิดแน่นหนา...สนิมจับเขรอะราวกับว่าห้องนี้ถูกปิดตายและไม่เคยมีใครมาเปิดมันอีก...
ฉับพลันรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ผุดขึ้นมาบนใบหน้าของเด็กหนุ่ม...
...สัญชาติญาณบ่งบอกให้รู้ว่าที่แบบนี้ต้องซ่อนสมบัติมีค่าอะไรไว้ซักอย่างแน่นอน...
**********
เง้อ...หุๆๆ...ขอบคุณสำหรับคอมเม้นน้าค้าบบบ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น