ลำดับตอนที่ #17
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : นักบวชแห่งแอเรียส...
ร่างของเด็กหนุ่มสองคนที่เปียกโชกไปด้วยน้ำฝนยืนหอบอยู่หน้าอาคารไม้เล็กๆที่ตั้งอยู่กลางป่า พื้นที่รอบด้านเป็นป่ามืดทึบ เส้นเถาวัลย์เลื้อยพันไปตามเสาของตัวอาคารไม้ดูที่เก่าแก่เสียจนไม่น่าจะมีสิ่งมีชีวิตใดๆอาศัยอยู่...
ที่ยอดสูงสุดของตัวอาคารมีไม้กางเขนที่ทำจากไม้ตั้งไว้เป็นเครื่องหมายบอกให้รู้ว่ามันคือ...โบสถ์...
เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลยืนพิงเสาที่หน้าอาคารพลางหอบอย่างเหนื่อยล้า เช่นเดียวกับเด็กหนุ่มผมทองที่มีสภาพไม่ต่างกันนัก
“ไงล่ะ?...ชั้นมาถึงก่อนนะ...ฉันเป็นคนฉลาด ฮ่าๆๆๆ”เสียงหัวเราะจากหัวขโมยตัวดีที่อาศัยวิชาตีนเบาของตนวิ่งเอาชนะนักรบหนุ่มตรงหน้าไปได้อย่างเฉียดฉิว
“เออๆ...แกฉลาด...”คาร์สตอบอย่างปลงๆ...ขี้เกียจเถียงกะมัน...
“ช่ายม้า?...ชั้นน่ะออกจะไบรท์(Bright)นะจะบอกให้”ได้ทีเคนินก็ชมตัวเองเป็นฉากๆ
“เหอะ...เออ...แกหน้าไบร์ทมากเคนิน”คาร์สตอบ เรียกสีหน้างงๆจากเคนินได้ไม่น้อย
...ทำไมคราวนี้มันบ้าจี้มาร่วมด้วยช่วยชมเราล่ะเนี่ย?...
“แต่เป็นไบซิเคิล (Bicycle) นะเฟ้ย”คาร์สต่อพลางยิ้มแหย่น้อยๆ
“หา?...หน้าไบซิเคิล?...หมายความว่าไงฟะ?”เคนินถามงงๆ...มันเกี่ยวตรงไหนเนี่ย?
“แล้วจักรยาน(Bicycle)มันมีไว้ทำอะไรล่ะ?”คาร์สถามกลับ
“ก็มีไว้ ‘ถีบ’ น่ะสิถามได้”เคนินตอบขณะที่คาร์สเริ่มขำน้อยๆ เคนินมองงงๆอย่างไม่เข้าใจนัก
แล้วสมองอันน้อยนิดของหัวขโมยตัวแสบก็เริ่มประมวลผลออกมาเป็นคำตอบ...
หน้าไบซิเคิล สมการที่1
ไบซิเคิลมีไว้ถีบ สมการที่2
เพราะฉะนั้น...หน้าไบร์ท = น่าถีบ...
และแล้วหัวขโมยหน้าไบร์ทก็ถึงบางอ้อทันทีเมื่อรู้ความหมายแอบแฝง(หลอกด่า)ของนักรบหนุ่มที่บัดนี้เริ่มเก็บอาการขำไม่อยู่
“ตลกมากนะแก...”เคนินพูดเสียงเข้ม...เป็นหัวขโมยมาร้อยวันพันปีมีแต่เคยหลอกด่าคนอื่น...วันนี้ดันโดนหลอกด่าซะได้...
“ช่าย...ฮ่าๆๆๆๆ”แล้วเด็กหนุ่มผมทองก็ปล่อยก๊ากออกมาเต็มที่พร้อมกับหัวขโมยน่าไบซิเคิลกระโจนเข้าไปบีบคอเปิดสงครามทันที...
“อ้าว...พวกนาย...ทะเลาะอะไรกันอีกหละเนี่ย?”เด็กหนุ่มผมดำกับชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนที่เดินมาตามกำลังตนอำนวยจึงทำให้เพิ่งมาถึง...
พอดีได้เจอกับสงครามสดระหว่างนักรบกับหัวขโมย...
แต่ก่อนที่จะได้รับคำตอบใดๆ...เสียงวัตถุบางอย่างพุ่งผ่านอากาศมาปักทะลุคาอยู่ที่ประตูไม้...ปลายโลหะวาววับส่องประกายเมื่อต้องสายฝน
ตำแหน่งของมันอยู่ตรงกับศีรษะของเคนินซึ่งบอกให้รู้ว่ามันคงปักอยู่คาหัวเด็กหนุ่มแน่นอนถ้าหากไม่มีประตูไม้มาขวางกั้นเอาไว้ก่อน...
แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากข้างในของอาคาร...
“หนวกหูเป็นบ้า!...ใครมาทะเลาะกันแถวนี้หา?”เสียงเจือความหงุดหงิดลอดออกมา
“แหม...อาจจะเป็นหนูก็ได้น่าลอรี่...”เสียงสบายๆอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นตามมาด้วยเสียงวัตถุบางอย่างพุ่งผ่านอากาศไป
“หนูบ้านแกตัวใหญ่ขนาดทะเลาะกันดังขนาดนี้เรอะ? ลูคัส?”เสียงหงุดหงิดของคนเดิมดังขึ้น
“แหม...ลอรี่...บ้านชั้นกะบ้านนายมันก็บ้านเดียวกันนี่นา...”อีกเสียงตอบก่อนจะมีเสียงข้าวของแตกกระจายเป็นระยะ
เด็กหนุ่มสองคนหยุดทะเลาะกันทันที่ก่อนหันมามองหน้ากันโดยมิได้นัดหมาย ก่อนหันไปหาโรกับเรมิล...
โรยิ้มน้อยๆพลางเอื้อมมือไปเคาะประตูไม้
ก๊อกๆๆ...
“ใคร?”เสียงเกรี้ยวกราดชวนหวาดเสียวถามขึ้น
“อยากจะขอพักหลบฝนซักคืนจะได้ไหมครับ?”โรตอบ
“พวกนายเป็นใคร?...”เสียงเดิมยังคงถามต่อ
“แหม...ลอรี่...ให้พวกเขาเข้ามาเถอะนะ...ยังไงเราก็เป็นนักบวชผู้เมตตานี่นา”เสียงสบายๆอย่างอารมณ์ดีดังขึ้น
“แกเลิกเรียกชั้นด้วยชื่อบ้านั่นซะที...ไม่งั้นชั้นฆ่าแกแน่ลูคัส!!!”
“นายก็พูดงี้มากี่ปีแล้วน้า?...แต่ก็ทำไม่ลงซะที”
แล้วเสียงวัตถุบางอย่างพุ่งผ่านอากาศพร้อมเสียงข้าวของแตกกระจายก็ดังขึ้นอีกระรอก...
“เอ่อ...น้าโร...ผมว่าเราออกเดินทางต่อเหอะ”เคนินหันมากระซิบกับโรเบาๆ ชายหนุ่มเพียงแค่ยิ้มตอบ
ทันใดนั้นประตูไม้ก็เปิดออกพร้อมด้วยร่างของชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะเป็นนักบวชสองคน
...คนหนึ่งสวมเสื้อคลุมสีดำสนิทเช่นเดียวกับเส้นผม สวมแว่นตากรอบบาง ใบหน้ามีรอยยิ้มอยู่เสมอ...
...อีกคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมสีขาวบริสุทธิ์ เส้นผมสีทอง ดวงตาสีม่วงอาธีมิสฉายกำลังแววหงุดหงิดสุดๆ...
“อ้าว...เธอ?...โรรี่นี่นา?”เสียงชายหนุ่มผมดำทักขึ้น
“รุ่นพี่ลูคัส?...รุ่นพี่ลอเรนซ์?...มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันครับ?”โรถามแต่สีหน้าดูไม่แปลกใจซะเท่าไหร่
“พวกชั้นย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วยกันตั้งนานแล้วหละ...เนอะลอรี่?...”ลูคัสหันไปถามลอเรนซ์ที่ยืนหน้าบูดอยู่ข้างๆ
“ชั้นไล่นายเท่าไหร่ก็ไม่ยอมไปซะทีตะหาก!!!”ลอเรนซ์ตะโกนตอบ
“แล้วพวกพี่มาทำอะไรกันที่นี่หละครับ?”โรถามต่อ
“ชั้นตัดสินใจมาเป็นนักบวชอยู่ที่นี่กับลอเรนซ์น่ะ”ลูคัสยิ้มน้อยๆ
“.......เหอะ.......”นักบวชหนุ่มยังคงหน้าบูดสนิท
“เอ่อ...ไม่ได้อยากขัดจังหวะหรอกนะครับ...แต่เข้าไปข้างในก่อนได้ไหมอ่ะ?...หนาวจะตายอยู่แล้ว...”เสียงหัวขโมยตัวดีที่ตอนนี้สั่นเป็นลูกนกตกน้ำดังขึ้น ทำให้ลูคัสหันมายิ้มให้แล้วเชิญทั้งหมดเข้าไปข้างใน...
*********
โอ้จอร์จ!!! ขอบคุณสำหรับคอมเม้นมั่กๆเยยค้าบบบ หุๆๆๆ >/|\\<
วันนี้บังเอิญมาสำรวจความเปลี่ยนแปลงเล่นๆ ได้เห็นคนเม้นเยอะๆมันมีกำลังใจโพสต่อ (>w<)
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นน้าค้าบบบ ขอบคุณจิงๆๆๆ 0(_ _)0
บอกใบ้ให้นิดนึงว่า...คาโลจะมาแล้ว...เฟรินจะมาแล้ว...หุๆๆๆ (-_,-)
ที่ยอดสูงสุดของตัวอาคารมีไม้กางเขนที่ทำจากไม้ตั้งไว้เป็นเครื่องหมายบอกให้รู้ว่ามันคือ...โบสถ์...
เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลยืนพิงเสาที่หน้าอาคารพลางหอบอย่างเหนื่อยล้า เช่นเดียวกับเด็กหนุ่มผมทองที่มีสภาพไม่ต่างกันนัก
“ไงล่ะ?...ชั้นมาถึงก่อนนะ...ฉันเป็นคนฉลาด ฮ่าๆๆๆ”เสียงหัวเราะจากหัวขโมยตัวดีที่อาศัยวิชาตีนเบาของตนวิ่งเอาชนะนักรบหนุ่มตรงหน้าไปได้อย่างเฉียดฉิว
“เออๆ...แกฉลาด...”คาร์สตอบอย่างปลงๆ...ขี้เกียจเถียงกะมัน...
“ช่ายม้า?...ชั้นน่ะออกจะไบรท์(Bright)นะจะบอกให้”ได้ทีเคนินก็ชมตัวเองเป็นฉากๆ
“เหอะ...เออ...แกหน้าไบร์ทมากเคนิน”คาร์สตอบ เรียกสีหน้างงๆจากเคนินได้ไม่น้อย
...ทำไมคราวนี้มันบ้าจี้มาร่วมด้วยช่วยชมเราล่ะเนี่ย?...
“แต่เป็นไบซิเคิล (Bicycle) นะเฟ้ย”คาร์สต่อพลางยิ้มแหย่น้อยๆ
“หา?...หน้าไบซิเคิล?...หมายความว่าไงฟะ?”เคนินถามงงๆ...มันเกี่ยวตรงไหนเนี่ย?
“แล้วจักรยาน(Bicycle)มันมีไว้ทำอะไรล่ะ?”คาร์สถามกลับ
“ก็มีไว้ ‘ถีบ’ น่ะสิถามได้”เคนินตอบขณะที่คาร์สเริ่มขำน้อยๆ เคนินมองงงๆอย่างไม่เข้าใจนัก
แล้วสมองอันน้อยนิดของหัวขโมยตัวแสบก็เริ่มประมวลผลออกมาเป็นคำตอบ...
หน้าไบซิเคิล สมการที่1
ไบซิเคิลมีไว้ถีบ สมการที่2
เพราะฉะนั้น...หน้าไบร์ท = น่าถีบ...
และแล้วหัวขโมยหน้าไบร์ทก็ถึงบางอ้อทันทีเมื่อรู้ความหมายแอบแฝง(หลอกด่า)ของนักรบหนุ่มที่บัดนี้เริ่มเก็บอาการขำไม่อยู่
“ตลกมากนะแก...”เคนินพูดเสียงเข้ม...เป็นหัวขโมยมาร้อยวันพันปีมีแต่เคยหลอกด่าคนอื่น...วันนี้ดันโดนหลอกด่าซะได้...
“ช่าย...ฮ่าๆๆๆๆ”แล้วเด็กหนุ่มผมทองก็ปล่อยก๊ากออกมาเต็มที่พร้อมกับหัวขโมยน่าไบซิเคิลกระโจนเข้าไปบีบคอเปิดสงครามทันที...
“อ้าว...พวกนาย...ทะเลาะอะไรกันอีกหละเนี่ย?”เด็กหนุ่มผมดำกับชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนที่เดินมาตามกำลังตนอำนวยจึงทำให้เพิ่งมาถึง...
พอดีได้เจอกับสงครามสดระหว่างนักรบกับหัวขโมย...
แต่ก่อนที่จะได้รับคำตอบใดๆ...เสียงวัตถุบางอย่างพุ่งผ่านอากาศมาปักทะลุคาอยู่ที่ประตูไม้...ปลายโลหะวาววับส่องประกายเมื่อต้องสายฝน
ตำแหน่งของมันอยู่ตรงกับศีรษะของเคนินซึ่งบอกให้รู้ว่ามันคงปักอยู่คาหัวเด็กหนุ่มแน่นอนถ้าหากไม่มีประตูไม้มาขวางกั้นเอาไว้ก่อน...
แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากข้างในของอาคาร...
“หนวกหูเป็นบ้า!...ใครมาทะเลาะกันแถวนี้หา?”เสียงเจือความหงุดหงิดลอดออกมา
“แหม...อาจจะเป็นหนูก็ได้น่าลอรี่...”เสียงสบายๆอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นตามมาด้วยเสียงวัตถุบางอย่างพุ่งผ่านอากาศไป
“หนูบ้านแกตัวใหญ่ขนาดทะเลาะกันดังขนาดนี้เรอะ? ลูคัส?”เสียงหงุดหงิดของคนเดิมดังขึ้น
“แหม...ลอรี่...บ้านชั้นกะบ้านนายมันก็บ้านเดียวกันนี่นา...”อีกเสียงตอบก่อนจะมีเสียงข้าวของแตกกระจายเป็นระยะ
เด็กหนุ่มสองคนหยุดทะเลาะกันทันที่ก่อนหันมามองหน้ากันโดยมิได้นัดหมาย ก่อนหันไปหาโรกับเรมิล...
โรยิ้มน้อยๆพลางเอื้อมมือไปเคาะประตูไม้
ก๊อกๆๆ...
“ใคร?”เสียงเกรี้ยวกราดชวนหวาดเสียวถามขึ้น
“อยากจะขอพักหลบฝนซักคืนจะได้ไหมครับ?”โรตอบ
“พวกนายเป็นใคร?...”เสียงเดิมยังคงถามต่อ
“แหม...ลอรี่...ให้พวกเขาเข้ามาเถอะนะ...ยังไงเราก็เป็นนักบวชผู้เมตตานี่นา”เสียงสบายๆอย่างอารมณ์ดีดังขึ้น
“แกเลิกเรียกชั้นด้วยชื่อบ้านั่นซะที...ไม่งั้นชั้นฆ่าแกแน่ลูคัส!!!”
“นายก็พูดงี้มากี่ปีแล้วน้า?...แต่ก็ทำไม่ลงซะที”
แล้วเสียงวัตถุบางอย่างพุ่งผ่านอากาศพร้อมเสียงข้าวของแตกกระจายก็ดังขึ้นอีกระรอก...
“เอ่อ...น้าโร...ผมว่าเราออกเดินทางต่อเหอะ”เคนินหันมากระซิบกับโรเบาๆ ชายหนุ่มเพียงแค่ยิ้มตอบ
ทันใดนั้นประตูไม้ก็เปิดออกพร้อมด้วยร่างของชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะเป็นนักบวชสองคน
...คนหนึ่งสวมเสื้อคลุมสีดำสนิทเช่นเดียวกับเส้นผม สวมแว่นตากรอบบาง ใบหน้ามีรอยยิ้มอยู่เสมอ...
...อีกคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมสีขาวบริสุทธิ์ เส้นผมสีทอง ดวงตาสีม่วงอาธีมิสฉายกำลังแววหงุดหงิดสุดๆ...
“อ้าว...เธอ?...โรรี่นี่นา?”เสียงชายหนุ่มผมดำทักขึ้น
“รุ่นพี่ลูคัส?...รุ่นพี่ลอเรนซ์?...มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันครับ?”โรถามแต่สีหน้าดูไม่แปลกใจซะเท่าไหร่
“พวกชั้นย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วยกันตั้งนานแล้วหละ...เนอะลอรี่?...”ลูคัสหันไปถามลอเรนซ์ที่ยืนหน้าบูดอยู่ข้างๆ
“ชั้นไล่นายเท่าไหร่ก็ไม่ยอมไปซะทีตะหาก!!!”ลอเรนซ์ตะโกนตอบ
“แล้วพวกพี่มาทำอะไรกันที่นี่หละครับ?”โรถามต่อ
“ชั้นตัดสินใจมาเป็นนักบวชอยู่ที่นี่กับลอเรนซ์น่ะ”ลูคัสยิ้มน้อยๆ
“.......เหอะ.......”นักบวชหนุ่มยังคงหน้าบูดสนิท
“เอ่อ...ไม่ได้อยากขัดจังหวะหรอกนะครับ...แต่เข้าไปข้างในก่อนได้ไหมอ่ะ?...หนาวจะตายอยู่แล้ว...”เสียงหัวขโมยตัวดีที่ตอนนี้สั่นเป็นลูกนกตกน้ำดังขึ้น ทำให้ลูคัสหันมายิ้มให้แล้วเชิญทั้งหมดเข้าไปข้างใน...
*********
โอ้จอร์จ!!! ขอบคุณสำหรับคอมเม้นมั่กๆเยยค้าบบบ หุๆๆๆ >/|\\<
วันนี้บังเอิญมาสำรวจความเปลี่ยนแปลงเล่นๆ ได้เห็นคนเม้นเยอะๆมันมีกำลังใจโพสต่อ (>w<)
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นน้าค้าบบบ ขอบคุณจิงๆๆๆ 0(_ _)0
บอกใบ้ให้นิดนึงว่า...คาโลจะมาแล้ว...เฟรินจะมาแล้ว...หุๆๆๆ (-_,-)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น