ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Thief of Kanowal

    ลำดับตอนที่ #16 : อยู่ในสายเลือด...

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.ค. 48


    “โอย...เหนื่อยๆๆๆ...หิวน้ำจะตายอยู่แล้ว...”เคนินบ่นๆๆไปตลอดทาง



    “หนวกหูน่า...บ่นแล้วนายจะหายหิวน้ำรึไงเล่า?”คาร์สหันมาตวาดใส่เคนิน



    “โธ่...วิธีของน้าโรที่ว่า ไอ้เราก็นึกว่าจะใช้เวทย์หายตัวแว้บๆไปโผล่ถึงที่อย่างที่เคยทำ...ที่ไหนได้...ให้เดินเอาซะอย่างงั้น”เคนินบ่นต่อ



    “แหม...ชั้นก็เคยบอกให้นายฟังแล้วนี่ว่าวิธีนั้นมันเปลืองพลังเวทย์”เรมิลพูดยิ้มๆ



    “แต่มันเหนื่อยนะ! เพิ่งสู้มาเหนื่อยๆยังต้องมาเดินมาราธอนอีก!”เคนินยังบ่นไม่เลิก



    “นายนี่น่ารำคาญจริง!...บ่นเป็นผู้หญิงไปได้!!!”คาร์สตวาด



    “นายว่าใครเป็นผู้หญิงหา??? ชั้นผู้ชายทั้งแท่งนะเฟ้ย!!!...ไม่เชื่อจะเปิดให้ดูก็ได้ เอ้า!!!”เคนินย้อน



    “ใจเย็นๆน่าทั้งสองคน...ทะเลาะกันไปเสียพลังงานเปล่า”เรมิลห้ามทัพ



    “อืม...ว่าแต่เคนิน...เธอบอกว่าแผลมันหายเองหรอ?”โรหันมาถามหัวขโมยตัวดีที่บ่นเป็นชุดๆ



    “ช่ายแล้วน้าโร...มันมีแสงวาบๆแล้วมันก็หายเจ็บไปเฉยๆเลย”เคนินอธิบาย



    “นี่แกเป็นคนรึตัวอะไรกันแน่เนี่ย?”คาร์สประชดเล็กๆ เป็นการเปิดสงครามอีกรอบ



    “อืม...คงเป็นเพราะความสามารถในสายเลือดสินะ...”โรมองเด็กหนุ่มทั้งสองพร้อมยิ้มเศร้าๆเมื่อหวนนึกถึงผู้ที่เป็นเจ้าของสายเลือดนี้...



    ...หนึ่งคือคนที่รักที่สุด...แต่ก็รักไม่ได้...



    ...อีกหนึ่งคือคนที่เกลียดที่สุด...แต่ก็เกลียดไม่ลง...



    “ความสามารถอะไรหรอน้าโร? ผมไม่เห็นเคยรู้”เคนินสงบศึกชั่วครู่



    “ชั้นว่าอาจจะเป็นความสามารถทางสายเลือดของเธอน่ะ...เคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าพ่อเธอเป็นพ่อมดที่เก่งมากคนหนึ่ง” โรยิ้มให้เคนินพลางนึกถึงคนหัวเงินๆที่ชอบแช่แข็งคนอื่น



    “คาโล...เอ่อ...พ่อของเธอ...เชี่ยวชาญด้านเวทย์รักษาขั้นสูงที่ขนาดจอมเวทย์ยังอาย...”โรยิ้มพลางนึกถึงเจ้าหญิงตัวดีที่ชอบก่อเรื่องให้เจ้าชายน้ำแข็งต้องมาร่ายเวทย์รักษาให้บ่อยๆ...



    “แล้วมันเกี่ยวกันยังไงหรอน้าโร?”เคนินทำหน้างง



    “เธอก็คงได้รับตกทอดความสามารถในการรักษามา แต่ดีไม่ดีเธออาจมีพรสวรรค์มากกว่าพ่อเธอก็ได้...”



    “หา?...อย่างผมเนี่ยนะ? ไม่มีทางหรอกน้าโร...อย่ามาอำผมเล่นดีกว่าน่า”เคนินยักไหล่เป็นเชิงไม่เชื่อ



    “...คนเราไม่ควรตัดสินตัวเองจากสิ่งที่เป็นอยู่ โดยยังไม่ได้ลองทำสิ่งใหม่ๆให้เกิดขึ้นมา...ถึงความเป็นไปได้ที่จะสำเร็จมันจะน้อยจนอาจจะไม่มี...แต่อย่างน้อยพูดได้ว่าก็ได้ทำอย่างเต็มที่...ผลออกมาเป็นอย่างไรนั้นไม่สำคัญเท่าการที่เราได้ค้นพบตัวตนและความสามารถที่แท้จริงของเราเอง...”โรกล่าวเรียบๆ ขณะที่เคนินยังคงทำหน้างงอยู่



    “วันนี้เธออาจยังไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันพูด...แต่ซักวัน...เมื่อถึงเวลานั้น...เธอจะเข้าใจมันเองแหละ”โรยิ้มให้เด็กหนุ่มที่พยักหน้าหงึกๆเป็นเชิงรับรู้ก่อนหันไปก่อสงครามกับนักรบหนุ่มต่อ...



    **********



    คณะเดินทางที่บัดนี้เปลี่ยนมาเดินเท้าทำให้เดินทางได้ช้ากว่าที่ควรจะเป็น...



    “โอยๆๆ...ไหนว่าครึ่งวันไงน้าโร???...เดินมานานจนเหนื่อยม้ามจะแลบแล้วนะ...”เสียงบ่นจากหัวขโมยตัวดีเจ้าเก่าดังเป็นระยะ ท่ามกลางความเงียบและบรรยากาศอับชื้นของป่าดงดิบรอบข้าง...



    “แล้วแกเคยสงสารคนที่ต้องมาทนฟังแกบ่นบ้างมั้ย???”คาร์สประชดกลับ



    “ก็มันร้อน...เหนื่อย...และที่สำคัญ...หิวไส้แทบขาดแล้ว~~”เคนินบ่นโอดครวญอย่างที่เจ้าตัวคิดว่าน่าเห็นใจ แต่กลายเป็นน่ากระทืบซ้ำในสายตาของเด็กหนุ่มผมทอง



    “เมื่อเช้าตอนที่แกไปบ้านชั้น แกก็เพิ่งซัดอาหารในครัวซะเกือบหมดไม่ใช่เรอะ???”คาร์สตวาดกลับ



    “โธ่...แค่นั้นมันจะไปพอยาไส้ชั้นเรอะ???”เคนินบ่น



    “กระเพาะแกทำด้วยอะไรฟะ???”คาร์สบ่นอย่างหงุดหงิด



    เรมิลมองเพื่อนทั้งสองเปิดศึกปะทะคารมกันเป็นระยะๆมากว่า2ชั่วโมง โดยไม่มีทีท่าว่าใครจะยอมใครแม้แต่น้อย...



    ...สงสัยจริงว่าเอาพลังงานที่ไหนมาทะเลาะกันไม่มีพักยกได้ขนาดนี้...



    ...ทำอย่างกะโกรธแค้นอะไรกันมาแต่ชาติปางไหน...



    ...ทั้งๆที่ตอนต่อสู้เมื่อกี้ยังเข้าขากันได้ดี(?)อยู่แท้ๆ...



    แต่ภาพการโต้วาทีอย่างไม่ลดละของเด็กหนุ่มทั้งสองตรงหน้าก็เรียกรอยยิ้มให้ลืมความเหนื่อยล้าจากการเดินทางไปได้ไม่น้อย



    “โธ่...อากาศร้อนอย่างงี้ อย่างน้อยฝนตกลงมามั่งก็ดี...”เคนินบ่นเบาๆ



    ฉับพลัน...ราวกับมีใครเล่นตลกกับคำร้องขอจากเด็กหนุ่ม...ท้องฟ้าก็เริ่มมืดครึ้มและปกคลุมด้วยเมฆดำ ก่อนสายฝนจะทิ้งตัวลงมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย...



    “ไง...สะใจมั้ยล่ะแก...แล้วทีนี้จะไปหาที่หลบฝนที่ไหน???”คาร์สได้ทีร่ายบ่น



    “อะไรกัน...พูดอย่างกะเป็นความผิดชั้นงั้นแหละ?”เคนินแย้ง



    “ก็เออสิ...ใครมันบ้าไปร้องขอฝนปาวๆเมื่อกี้ละฟะ?”คาร์สเถียงไม่ลดละ



    “ใจเย็นๆกันทั้งสองคน...เรารีบเดินทางไปข้างหน้าดีกว่า...ตรงนั้นรู้สึกจะมีบ้านอยู่นะ?”เรมิลชี้ไปที่เงาทะมึนเป็นอาคารหลังเล็กที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนัก...



    “นั่นสิ...ไปขอหลบฝนที่นั่นก่อนดีกว่านะ”โรพูดพลางมุ่งหน้าไปยังสถานที่นั้น



    “เอาสิ...ใครไปถึงก่อนเป็นคนฉลาด!!!”หัวขโมยตัวดีหันมาท้าทายนักรบหนุ่มก่อนออกวิ่งไปอย่างสนุกสนาน



    สองพ่อลูกเซวาเรส ได้แต่มองตามเด็กหนุ่มสองคนที่วิ่งฝ่าฝนแข่งกันอย่างเอาเป็นเอาตาย



    รอยยิ้มน้อยๆปรากฏบนใบหน้าของชายหนุ่ม...



    ...ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดแค่ไหนก็สามารถอารมณ์ดีได้เสมอ...



    ...เหมือนนายเลยนะ...เฟริน...



    **********

    แถมๆๆอีกซักตอน...เง้อ...อัพที4ตอนรวดจะเยอะไปป่าวอ่า?...

    ยังไงก็ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์นะครับ...เป็นเหมือนกำลังใจให้ผมแต่งต่อได้ต่อไปเรื่อยๆ...หุๆๆ



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×