..ครู... คนดีที่(เคย)โดนเกลียด
ผู้เข้าชมรวม
303
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“ใครไม่ทำการบ้าน ยืนขึ้น” แล้วเราก็ยืนเรียนกันทั้งคาบ
“เขกโต๊ะคนละสองที” แล้วเราก็เขกโต๊ะทุกครั้งที่ตอบคำถามไม่ได้
“ถ้าเธอเป็นแบบนี้ เธอก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์เดรัจฉาน” แล้วเราก็ก้มหน้าพลางขบฟันด้วยความโกรธ
“คำถามง่ายๆ ทำไมถึงตอบไม่ได้” แล้วเราก็ทำใจรับคำตินั้นทั้งๆที่ยังไม่เข้าใจอะไร
“บอกให้มองบนกระดาน ไม่ใช่ในชีท” แล้วเราก็เงยหน้าด้วยความรำคาญในความเรื่องมาก
“ครูว่าหนูไม่ติดแผนวิทย์หรอก” แล้วเราก็เงียบไว้ ทั้งที่ใจกำลังเดือดดาล
นี่ไม่ใช่เรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงของใคร ไม่ใช่เรื่องที่แต่งเพื่อให้เด่นดัง ได้ตีพิมพ์ แต่สิ่งที่ผมกำลังจะบรรยายให้ผู้อ่านทุกคนได้เห็น คือ เรื่องจริง ที่เกิดขึ้นมาแล้ว และสำหรับผม มันกำลังจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีก
ครั้งแรกที่ผมได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 ใจก็คิดไว้แล้วว่า ครูที่พวกรุ่นพี่เขาร่ำลือกันนักกันหนานั้น จะเป็นอย่างไร จะโหดมากมั้ย จะน่ารำคาญหรือเปล่า หรือจะเป็นคนเพี้ยนๆคนหนึ่งที่คอยหาเรื่องเด็กนักเรียนไปวันๆ และเมื่อได้เจอกับประสบการณ์นั้นด้วยตัวเอง ผมถึงได้รู้ว่า นั้นคือเรื่องจริงที่ไม่สามารถหาอะไรมาปฏิเสธได้เลยทีเดียว
สิ่งที่ผมและเพื่อนคนอื่นๆเจอในทุกๆวันที่เป็นวันเรียน ช่างไม่น่าอภิรมย์เลยในสายตาของเรา บางวัน เราก็โดนยืนกันทั้งคาบ เหตุเพราะอาจจะไม่ทำการบ้าน หรือแม้แต่บางครั้ง การตอบคำถามของครูไมได้ หากดวงไม่ดีหน่อย ก็จะโดนสั่งให้ยืนเหมือนกัน หรือถ้าแย่กว่านั้นก็โดนสั่งให้เขกโต๊ะ ตลอดเวลานั้น เราไม่รู้เลย ว่าเหตุผลของการทำสิ่งเหล่านี้ คือ อะไร
เรายืน เพราะครูสั่งให้ยืน
เราเขกโต๊ะ เพราะครูสั่งให้เขกโต๊ะ
เราทำการบ้าน เพราะครูสั่งให้ทำการบ้าน
เราคิดเสมอ ว่าหากวันหนึ่ง ช่วงเวลานี้ผ่านไป เราคงได้พบกับอะไรๆที่ดีกว่านี้
และไม่ใช่เพียงเท่านั้น บางวัน เราก็จะโดนครูตำหนิเช่นกัน หากแต่เป็นครูอีกท่านหนึ่ง ซึ่งผมไม่ขอเอ่ยนาม ทุกๆครั้งที่ครูเริ่มตำหนิ ใจของพวกเราจะคิดถึงความไม่มีเหตุผลของครู คิดแต่เพียงว่า ครูคงด่าเรา คงว่าเราเพราะเขาชอบในการกระทำเหล่านี้เท่านั้น ณ เวลานั้น สิ่งที่เราประเมินครูออกมาด้วยวัยวุฒิที่ยังเป็นเด็ก ช่างดูโง่เง่าเหลือเกิน เราสอบตกในวิชาของครูมากมายหลายครั้ง และเราโดนว่าทุกครั้งที่เหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้น เรารำคาญทุกครั้งที่ครูคอยย้ำ คอยเตือนเรา จนเราคิดว่านั้นคือการเหยียบย่ำ
เรา มีความสุข กับการนินทาครูลับหลัง
เรา สนุก กับการเห็นความผิดพลาดของครู
เรา จะไม่เชื่อฟัง คำสั่งสอนของครูทุกครั้งที่มีโอกาส
เรา เกลียดขี้หน้าครู ทุกครั้งที่เห็นหน้า
เรา เบื่อ ที่ต้องทนนั่งในห้องเป็นเวลาห้าสิบนาทีทุกๆวัน
เรายังคงคิดเสมอ ว่าหากวันหนึ่ง ช่วงเวลานี้ผ่านไป เราคงได้พบกับอะไรๆที่ดีกว่านี้
แล้วเวลานั้นก็มาถึง เวลาที่รอคอยมาตลอด เวลาแห่งการจากลาจากสิ่งที่เราเคยเกลียด กำลังยืนอยู่ตรงหน้า โบกมือทักทายพวกเรา เวลาตรงนี้ เวลาที่เราเพิ่งจะมาสำนึกได้ว่าเราอยากจะค้างมันไว้ให้นานที่สุด
มันเป็นวันสุดท้ายที่ผมและเพื่อนๆกำลังจะได้เรียนกับครู ช่วงเวลานานแรมปีที่ผ่านมาทำให้เราเริ่มตระหนักได้ว่ามันมีค่ามากมายแค่ไหน วันนั้น เราทุกคนถือดอกไม้กันคนละดอก ใช้เวลาปลายคาบที่เหลืออยู่น้อยนิดร้องเพลงให้ครูฟัง ก่อนจะนั่งลงพลางพนมมือ เพื่อนตัวแทนคนหนึ่งถือพวกมาลัยไปกราบแทบเท้าครู เราหลายคนร้องไห้ เสียใจกับความโง่เขลาของตัวเอง เสียใจที่ไม่เคยเห็นค่าของเวลาเหล่านั้น เสียใจที่ตลอดมาไม่เคยเข้าใจเลยว่าครูพยายามให้อะไรแก่เรา เสียใจ ที่อยากจะเป็นลูกศิษย์ที่ดีให้ครู ให้มากกว่านี้ แต่เราคงทำอะไรได้ไม่มาไปกว่านี้ เวลาที่ครั้งหนึ่งเราเคยอยากได้กำลังจูงมือเราออกไป เหลือไว้แค่เรือจ้างที่จอดรอเราอยู่ข้างหลัง
ตั้งแต่วันนี้ต่อไป คำว่ากล่าวเหล่านั้น คงไม่ได้สร้างความรำคาญให้แก่เราอีกแล้ว เราไม่ต้องทนนั่งเรียนห้าสิบนาทีเหมือนทุกๆวัน เราไม่ต้องเขกโต๊ะ ไม่ต้องทำการบ้าน ไม่ต้องเงยหน้ามามองกระดาน ไม่ต้องพยายามตอบคำถาม ไม่ต้องคอยฟังคำสั่งใครอีกแล้ว เราดีใจที่จะไม่ได้เจอสิ่งเหล่านั้นอีก แต่เหนือสิ่งอื่นใด เราเสียใจ และกราบขอโทษครูทุกคน ในความโง่ของพวกเราทุกๆคน ที่ไม่เคยเห็นสิ่งครูพยายามหยิบยื่นให้เลย ไม่เคยเห็นคุณค่าของเวลาเหล่านั้น ไม่เคยแยแสกับคำด่า ไม่เคยสนใจว่าครูเคยแอบร้องไห้ ไม่เคยสนใจว่าครูต้องเหนื่อยแค่ไหน สิ่งเหล่านั้น ที่อยู่กับเรามานานแรมปี หลังจากนี้ คงไม่มีอีก
ผลงานอื่นๆ ของ เด็กNurd ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ เด็กNurd
ความคิดเห็น