ตอนที่ 6 : #TempoInverso VI

Tempo Inverso เรื่องราวในอดีตกาล
VI

ดวงตาสีทองไร้ประกายจับจ้องมองกระจกหลากสีด้วยความเรียบเฉย
วันนี้เป็นวันที่เขาได้ตัดสินใจตามอรุณแห่งวองโกเล่ออกมาสูดอากาศข้างนอกปราสาทเสียบ้าง ร่างเล็กนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ชั้นดีแถวหน้าในขณะที่ร่างสูงโปร่งของชายประกอบอาชีพบาทหลวงกำลังคุกเข่าลงขอพรจากพระผู้เป็นเจ้าในโบสถ์นวลสะอาดตา มันเป็นโบสถ์แห่งหนึ่งที่ต้องอยู่ในเมืองแห่งนี้
เด็กชายจับจ้องมองนัคเคิลที่ส่งเสียงสวดมนต์ภาวนาแก่พระผู้เป็นเจ้า
นั้นช่างทำให้เขานั้นนึกถึงตัวเองยามที่ยังคงอยู่มิลฟีโอเล่...
เขาที่มองเบียคุรันเป็นดังพระเจ้า...
เด็กน้อยอดีตชายหนุ่มได้แต่เพียงหรี่ตาลงอย่างครุ่นคิด ความภักดีที่แสนบริสุทธิ์ของเขานั้นกลับถูกนายเหนือหัวของเขาผลักไสทิ้งอย่างไม่ใยดี...แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น มุมหนึ่งในใจของเขานั้นยังคงเชื่อมั่นว่าชายที่ดึงเข้าออกมาจากสุดขอบความสิ้นหวังคนนั้นไม่มีทางสั่งฆ่าเขาอย่างแน่นอน...
'อ๋อ เป็นคำสั่งของท่านเบียคุรันน่ะ'
เสียงของเมฆาแห่งบุบผาอาลัยตัวจริงนั้นยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเขาราวกับเปิดเทปเล่นวีดีโอซ้ำ
เก็นคิชิได้แต่เพียงกัดริมฝีปากของตนด้วยความคับแค้นที่อยู่ในใจ เขาถูกฆ่าโดยคิเคียวโดยการซ่อนเมล็ดแห่งเมฆาเอาไว้ในชุดเกราะของเขา...ความทรงจำที่ไม่มีวันเลือนหายไปตราบที่เขานั้นยังไม่ตายอีกครั้ง
แม้มันจะดูโง่งมหรือเป็นความคิดที่ดูบริสุทธิ์เพียงใด...ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่านิสัยของเบียคุรันแท้จริงแล้วเป็นเช่นไร...ความโหดร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ในใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม...น้ำเสียงอ่อนหวานที่ทำให้ผู้ฟังคล้อยตามอย่างง่ายดาย...
'จะเชื่อหรือไม่ก็ตามใจ แต่ความจริงคือนายไม่ได้เป็นอะไรมากกว่าเครื่องที่ใช้แล้วทิ้งสำหรับท่านเบียคุรัน'
ใช่...ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เขาคงไม่เชื่อ...
แต่พอได้ตกอยู่ในช่วงเวลาแห่งความตาย...เขาก็เชื่อว่าท่านเบียคุรันได้สั่ง ฆ่า เขาจริงๆ...
ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี...ว่าทำไมถึงต้องกำจัดเขาทิ้ง...
...แต่ถึงแบบนั้น...เขาจำได้ว่าเขาได้ลั่นวาจาบางอย่างเอาไว้ก่อนที่จะตาย...
'ฉันจะยืนอยู่เคียงข้างท่านเบียคุรัน!!'
แต่ตอนนี้มันกลับทำให้เขาต้องเลือก ระหว่าง 'วองโกเล่' และ 'เบียคุรัน'
"เก็นจัง ข้าสวดมนต์เสร็จแล้ว เจ้าอยากไปที่ใดต่อหรือไม่?"
เสียงทุ้มแสนอ่อนโยนดังมาพร้อมร่างของบาทหลวงหนุ่มที่เดินมาทางเขาด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มที่แสนคุ้นเคย มือแกร่งยื่นให้เด็กชายได้กุมเอาไว้หลวมๆในนขณะที่เดินออกไปจากโบสถ์แห่งนี้ ใบหน้าเล็กเพียงส่ายเล็กน้อยคล้ายบอกว่าตนไม่มีที่อยากไปเยือนเป็นพิเศษ
"งั้นไปซื้อขนมปังก่อนกลับนะ"
เด็กชายเพียงพยักหน้ารับไป ก่อนที่จะเดินตามแรงจูงมือของชายตัวสูงกว่า ดวงตาสีทองเพียงปรายตามองรอบกายราวหาใครบางคนที่อาจอยู่ในกลุ่มผู้คนที่เดินผ่านไปมาอยู่...
เขากำลังหาชายผมสีดำที่หน้าตาคล้ายอดีตผู้เป็นนายเหนือหัว...
เขาอยากคุยด้วยสักครั้งหนึ่ง...
นัคเคิลเดินมาหยุดหน้าร้านขายขนมปังที่เขานั้นรู้จัก มือแกร่งปล่อยให้เด็กชายเป็นอิสระในขณะพูดคุยกับเจ้าของร้านด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนทั้งยังอวยพรให้แก่คู่สนทนาตามประสาของบาทหลวง เก็นคิชิเพียงเงยหน้ามองก่อนที่จะเมินมองไปทางอื่นต่อ
แต่อยู่ๆดวงตาของเขากลับเบลอจนมองเห็นทุกสิ่งเลือนราง ร่างกายเริ่มออกเดินไปในทิศทางอื่นออกห่างจากร่างของผู้ปกครองคล้ายถูกเชิดจากใครบางคน สติของเด็กชายนั้นหลุดไปแล้วแต่ขาเล็กกลับขยับพากายของตนเดินเข้าไปในตรอกมืดระหว่างบ้านสองหลัง
และถ้าถามว่าทำไมนัคเคิลถึงไม่รู้ตัวว่าเก็นคิชิเดินออกห่างตนไปเสียแล้ว...
เพราะมีภาพมายาของใครสักคนแทนที่อยู่ยังไงล่ะ...
"หึหึ~ พอมามองใกล้ๆแบบนี้เก็นจังน่ารักจังเลยนะ~"
สุรเสียงนุ่มนวลอ่อนหวานดังออกมาจากร่างของชายหนุ่มที่กำลังยืนพิงกำแพงอยู่ ดวงตาสีทองประกายจับจ้องมองร่างเล็กที่กำลังเดินมาหาตนด้วยรอยยิ้มกว้าง มือแกร่งยกมือขึ้นมาสัมผัสดวงหน้าเล็กในขณะที่ขยับตัวนั่งยองๆ
ชายนาม 'โคคุรัน' หรี่ตามองเก็นคิชิที่กำลังตกอยู่ให้ห้วงการล้างสมองจากระยะไกลของเขา นิ้วยาวเกลี่ยแก้มนิ่มไปมาอย่างเบามือคล้ายเด็กน้อยตรงหน้าของเขานั้นเป็นตุ๊กตาเคลือบกระเบื้องชั้นดีที่ถูกวางขายอยู่ในร้านสุดหรู
"อยู่ในร่างนี้คงลำบากมากสินะ~ คิดถึงร่างตอนโตของเธอไหม~?"
"หว่า~ เธอตอนนี้คงตอบคำถามของฉันไม่ได้สินะ?"
มือแกร่งลูบใบหน้าของเด็กชายอย่างเบามือ ก่อนที่จะค่อยๆเอื้อมมืออุ้มร่างของเก็นคิชิขึ้นมาในอ้อมแขนของตน ดวงตาคู่คมสีทองประกายความขี้เล่นเบนสายตากลับไปมองชายร่างสูงสองคนที่กำลังยืนรอตนอยู่ข้างหลัง
"ขอบใจพวกเธอสองคนมากเลยนะ~ ซาคุโร่~ คิเคียว~"
ชายผมยาวสีเขียวค่อยๆคุกเข่าลงราวกับทำความเคารพชายที่เป็นดังนายเหนือหัวของตน ส่วนชายอีกคนกลับยกมือขึ้นป้องปากหาวแล้วทิ้งตัวคุกเข่าแล้วนอนราบไปกับพื้นเย็นเฉียบด้วยความเบื่อหน่าย แต่ดวงตากลับช้อนมองเด็กชายที่อยู่ในอ้อมแขนของผู้เป็นนายเหนือหัว
"อาฮ่ะ~ ไม่เป็นไรครับ"
"ท่านเบียคุรันจะเอาเด็กคนนี้ไปทำอะไรหรอครับ? หาว~"
ดวงตาสีทองปรายสายตามองชายผมแดงนามซาคุโร่ที่กำลังนอนหาวอยู่บนพื้นด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างไม่ถือสาอะไรที่เห็นว่าอีกฝ่ายนั้นดูเบื่อหน่ายกับสิ่งที่ตนทำ
"เด็กคนนี้จะมีประโยชน์แก่พวกเรา เฮลริงค์มายากระดูกจะมอบพลังให้เด็กคนนี้เท่านั้น...และเด็กคนนี้...เป็นของฉันมาตั้งแต่แรก พวกเธอก็น่าจะรู้ดีไม่ใช่หรือไงล่ะ?~ ความภักดีของเด็กคนนี้ยังคงมีนะ~"
มือแกร่งสัมผัสอย่างแผ่วเบาที่ดวงตาคู่กลมไร้ประกายเพื่อให้เด็กชายหลับตาลงและเข้าสู่ห้วงนิทรา
"เรากลับแฟมมิลี่กันเถอะ"
ขายาวก้าวเดินผ่านร่างทั้งสองของลูกน้องตนไป เสียงฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีดังมาจากลำคอของโคคุรัน ตอนนี้เขาได้ตุ๊กตาตัวน้อยของเขาคืนแล้ว...และเขาก็ได้สร้างระเบิดลูกให้ไว้ให้เหล่าวองโกเล่พรีโม่เสียด้วยสิ~ อืม~ ช่างเป็นของขวัญในการเปิดสงครามขนาดเล็กที่ดีจริงๆเลยนะ~
เอาล่ะ...
เรามาฟังเรื่องราวของ 'โคคุรัน' หรืออดีตชายนาม 'เบียคุรัน' กันเถอะ~
เขาคือชายหนุ่มอดีตบอสแห่งมิลฟีโอเล่ในอนาคตอีกสี่ร้อยปีข้างหน้าที่ถูกซาวะดะ สึนะโยชิใช้เอ็กซ์-เบิร์นเนอร์ปลิดชีวิตไปอย่างง่ายดาย แต่ว่า...เพราะเหตุใดถึงไม่อาจรู้ได้เขาถึงมาปรากฏตัวในช่วงเวลาในอดีตเมื่อสี่ร้อยปีที่แล้วและสิ่งที่เขาต้องการในตอนนี้ก็คือการครอบครองวองโกเล่แฟมมิลี่
เขาอยากที่จะครอบครองวงการมาเฟีย...
เพื่อสร้างโลกที่เขาจะสามารถทำให้พวกเขาสามารถอยู่ได้อย่างมีความสุขที่สุด...
ดีที่เหล่าหกบุบผาอาลัยตัวจริงอย่างซาคุโร่และคิเคียวก็ถูกส่งมาที่โลกอดีตกาลแห่งนี้เช่นเดียวกับเขา เขาเลยสามารถที่จะวางแผนได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แม้ว่าเขาอาจจะต้องหาสมาชิกใหม่เพิ่มมาด้วยเช่นกัน...
เมื่อเขามาลองนึกย้อนกลับไปดีๆ ชายนามอัศวินมายาที่เป็นดั่งเงามือขวาของเขานั้นเคยลั่นวาจาไว้ว่าจะอยู่เคียงข้างเขา นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ดูดีหากเขาจะขอรับตัวเด็กชายตัวน้อยคืนมาจากอ้อมแขนของวายุแห่งวองโกเล่พรีโม่
และ...
เมื่อมองเข้าไปในดวงตาสีทองไร้ประกายคู่นั้น...กลับทำให้เขารู้สึกราวถูกต้องมนต์สะกดให้หลงไหลโดยไม่รู้ตัว เขาอยากจะได้มัน...เขาอยากจะได้สายหมอกแสนภักดีของเขาคืนมา เขาอยากจะได้ชายร่างผอมบางที่ซื่อตรงต่อเขามากที่สุดคืนมา
เขาอยากได้อะไรเขาก็ต้องได้
ก่อนหน้านี้เขานั้นรู้สึกเบื่อหน่ายความภักดีที่แสนเถรตรงนั้น แต่พอกลับมาคิดอีกทีความภักดีนี้นั้นช่างแสนล้ำค่าเสียจนไม่อยากเอาไว้ให้ห่างกาย...และเมื่อได้นึกถึงเรือนร่างนั้นที่สวมชุดเกราะ หัวใจในทรวงอกกลับเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวังราวมีกลองอยู่ข้างในนั้น เหมือนเป็นดังความลุ่มหลงที่เกิดขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ใบหน้าเรียวสวย...
ดวงตาสีทองไร้ประกาย...
คิ้วที่เป็นทรงดูน่ารัก...
เรือนร่างบอบบาง...
ช่างเพอร์เฟคเสียทุกอย่าง
"ฉันรอเธอตื่นไม่ไหวแล้วสิเก็นจัง~"
สุรเสียงขี้เล่นดังออกมาในขณะที่ก้าวเข้าไปในความมืดมิด เด็กชายที่ตอนนี้มีวัยเก้าขวบขยับซุกใบหน้าลงที่แผ่นอกแกร่งคล้ายกำลังต้องการอ้อมกอดอบอุ่นแสนคุ้นเคยเหมือนดังเช่นปกติที่ถูกชายที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อบุญธรรมของตนอุ้ม...ลมหายใจที่สม่ำเสมอนั้นบ่งบอกว่าเด็กชายคนนี้กำลังผ่อนคลายอยู่
โดยไม่รู้ว่าตนกำลังถูกลักพาตัว...
จากเหล่าวองโกเล่แฟมมิลี่ที่ตนอาศัยอยู่มาเป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม...

นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

น้องโดนลักพาตัวไปแย้ววววว พรีโม่รีบหาน้องเร็ว
//จะเดินไปบีบคอ