ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชาด ภาคสารภาพ

    ลำดับตอนที่ #3 : ผลัดเวียนเปลี่ยนอำนาจ

    • อัปเดตล่าสุด 7 มิ.ย. 67


    บ้านเมืองมิอาจว่างเว้นผู้ปกครองได้แม้เพียงวันเดียว รัชทายาทถูกยกขึ้นเป็นอ๋องครองเมืองอย่างรีบร้อน

    แต่งตั้งอ๋ององค์ใหม่แล้วบ้านเมืองก็ยังไม่สิ้นความโกลาหล ในช่วงเวลาไว้ทุกข์เช่นนี้ อู๋อ๋องกลับประกาศทำศึกยกทัพบุกแคว้นเย่ว์อย่างไม่เกรงคำครหา ด้วยหมายจะตีเอาโดยง่ายในช่วงเวลาที่ทั้งแคว้นต่างระส่ำระสายเช่นนี้ ประหนึ่งปล้นชิงตามไฟ

    จวนเสนาบดีเหวินจ้งกลายเป็นประหนึ่งที่ประชุมแม่ทัพและขุนนางน้อยใหญ่ ด้วยว่าท่านเสนาบดีเป็นที่ไว้วางพระทัยมาตั้งแต่เย่ว์อ๋ององค์ก่อน นั่นทำให้ตัวข้าเองได้มีโอกาสแสดงฝีมืออยู่บ้าง

    ตัวข้าถือว่าได้สมองทางการค้าจากท่านตามาไม่น้อย ตั้งแต่อายุสิบสามก็เริ่มทำการค้าข้าวแป้งอาหาร และแน่นอนว่าตลอดมาการค้าขายของข้าล้วนถูกขัดขวางโดยท่านเสนาบดี ท่านว่าเป็นสตรีไม่ประพฤติเยี่ยงสตรี มาตะลอนตะลอนทำฉลาดอวดดีอยู่ในเมือง มีแต่จะทำให้เขาต้องเสียหน้า กระนั้นข้าก็ยังกระเสือกกระสนทำมาจนได้

    บัดนี้ผ่านมาหลายปีข้าก็พอมีสมบัติอยู่บ้าง ทั้งข้าวสารในโกดังก็มีอยู่ไม่น้อย จึงได้มีโอกาสช่วยเหลือกองทัพ

    “ขอบคุณคุณหนูใหญ่ที่ยื่นมือช่วยเหลือ” ท่านอาหลี่กล่าวด้วยความซาบซึ้ง

    ชายร่างกำยำองอาจผู้นี้ก็คือรองแม่ทัพหลี่ที่ชาวเมืองล้วนรู้จักเป็นอย่างดี ชายผู้อายุล่วงเข้าวัยสี่สิบต้นแล้ว ทว่ายังคงสง่างามน่าเกรงขาม ฉายให้เห็นแววของผู้กรำศึกมาตั้งแต่วัยเยาว์ ยามนี้รับหน้าที่ดูแลทรัพย์เสบียงของกองทัพ ข้ารู้จักสนิทสนมกับท่านอาหลี่มาตั้งแต่ยังเยาว์ เนื่องด้วยท่านเสนาบดีและท่านอาหลี่เป็นสหายกันมาแต่ก่อน ทำราชการร่วมกันอยู่บ่อยครั้ง ท่านจึงแวะมาที่จวนอยู่บ่อยๆ

    “ท่านอาอย่ากล่าวเช่นนี้เลยเจ้าค่ะ บ้านเมืองกำลังมีภัยสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าพึงกระทำ” ข้าโค้งคารวะต่อท่านอาหลี่เล็กน้อย แล้วจึงเอ่ยถาม “ว่าแต่วันนี้ดูสีหน้าทุกท่านเคร่งเครียด เกิดเรื่องใดขึ้นหรือเจ้าคะ”

    “เรื่องนี้…” ท่านอาหลี่หลบเลี่ยงสายตาท่าทางอ้ำอึ้ง

    “ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าเองเป็นเพียงสตรีมิควรก้าวล่วงกิจการงานเมือง จะทำให้บ้านเมืองต้องเสียหาย” ข้ากล่าวด้วยน้ำเสียงถ่อมตน ทว่าก็เจือด้วยความน้อยใจอยู่เล็กน้อย

    ท่านอาหลี่เป็นคนใจอ่อน โดยเฉพาะกับข้าที่ท่านเอ็นดูเป็นอย่างยิ่ง รักข้าประหนึ่งบุตรสาวของตน อย่างไรท่านก็คงมิอาจให้ขุ่นข้องใจได้เป็นแน่

    “เหลียนเออร์ อาไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังเจ้า เพียงแต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่น่าเอ่ยถึงนัก” ท่านยังคงอ้ำอึ้งทอดถอนใจ “ศึกครานี้เห็นว่าจะยืดเยื้อยาวนาน คราแรกพ่อเจ้าและท่านอ๋องเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะเข้าห้ำหั่นหักเอาชัยแต่โดยเร็ว ด้วยกองทัพอู๋ถูกฝึกและจัดระเบียบมาโดยซุนวูล้วนแต่ชำนาญในการศึก หากปล่อยให้ยืดเยื้อจะยิ่งเสียเปรียบได้ จึงจัดเอาทหารฝีมือดีออกรบ ภายในหนึ่งเดือนออกตีถึงสามครั้งสามคราแต่ก็มิอาจได้ชัย เป็นเหตุให้ท่านอ๋องไม่พอพระทัยเป็นอันมาก ทั้งยามนี้ขวัญทหารระส่ำระสาย ท่านเจ้ากรมฟ่านจึงแนะนำคนผู้หนึ่งนามว่าฟ่านหลี ผู้เป็นญาติซึ่งเดินทางมาจากแคว้นฉู่ ท่านอ๋องต้องอัธยาศัยกับคนผู้นี้เป็นอันมาก ถึงขั้นออกปากว่าหากสามารถออกอุบายนำทัพเอาชนะอู๋อ๋องได้ในครั้งนี้ จะแต่งตั้งเป็นเสนาบดีทัดเทียมกับพ่อเจ้า นี่จึงเป็นเหตุว่าทำไมทุกท่านที่มาหารือกับพ่อเจ้าวันนี้จึงหน้าดำคร่ำเครียดกันไปเสียหมด”

    ข้าได้ฟังดังนั้นก็เห็นแจ้งแทงตลอดมิได้สอบถามสิ่งใดอีก เพียงส่งท่านอาหลี่กลับค่ายทหารไป

    ท่านเจ้ากรมฟ่านผู้นี้เป็นปรปักษ์กับท่านเสนาบดีมาโดยตลอด ช่วงชิงผลงานความดีความชอบ ทั้งความรู้ความสามารถ พรรคพวก และอำนาจต่างทัดเทียมกับท่านเสนาบดี ทว่าท่านอ๋ององค์ก่อนไว้วางพระทัยท่านเสนาบดีเป็นอย่างมาก ท่านเจ้ากรมฟ่านจึงทำได้เพียงเป็นเสือหมอบมังกรซ่อนเฝ้ารอจังหวะเวลา

    ยามนี้มังกรเปลี่ยนหัว ตำแหน่งความสำคัญของท่านเสนาบดีในใจท่านอ๋องคนใหม่ย่อมไม่เหมือนเดิม ท่านเจ้ากรมก็เพียงโยนหินลงบ่อก็เท่านั้น และฟ่านหลีผู้นี้ก็คือหินที่ท่านเจ้ากรมฟ่านโยนลงไปนั่นเอง

    ตรองดูแล้วนี่มิใช่โอกาสดีของข้าหรอกหรือ หากสามารถทำให้ฟ่านหลีผู้นี้เอาชัยต่ออู๋อ๋องได้สำเร็จก็จะสามารถลดทอนอำนาจของท่านเสนาบดีได้กว่าครึ่ง หนึ่งได้ชำระแค้น สองได้ช่วยเหลือบ้านเมือง คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม เพียงแต่ฟ่านหลีผู้นี้ข้าไม่เคยรู้จักอัธยาศัยมาก่อน จะเป็นคนดีหรือชั่วมิรู้ได้ การครั้งนี้ผูกพันถึงชะตาบ้านเมือง จำต้องตรองดูอย่างรอบคอบ

    ที่ผ่านมาท่านเจ้ากรมผู้นี้ซื่อสัตย์ภักดีเป็นอันมาก แม้มิได้รับความโปรดปรานจากท่านอ๋ององค์ก่อนก็ปฏิบัติงานอย่างเต็มความสามารถเสมอมา เมื่อท่านเจ้ากรมแนะนำคนผู้นี้ให้ท่านอ๋อง คิดว่าฟ่านหลีผู้นี้ก็คงมิใช่คนเลวร้ายแน่ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็นับว่าข้าสามารถยื่นมือช่วยได้อย่างสบายใจอยู่หลายส่วน

    ข้าแม้เป็นสตรี แต่ชื่นชอบการศึกษาอ่านตำรามาตั้งแต่ยังเล็ก เชี่ยวชาญทั้งตำราประวัติศาสตร์ รัฐศาสตร์ นิติธรรมเนียม รวมถึงตำราพิชัยสงคราม เมื่อครั้งนี้ต้องรบกับทัพที่ถูกฝึกโดยซุนวู ถึงแม้ว่ามิได้มีซุนวูเป็นผู้นำทัพอีกแล้ว กระนั้นก็ยังรับมือได้ยาก

    ข่าวการศึกยิ่งโรมรันรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เสบียงทัพร่อยหรอ ข้าวในโกดังข้าก็แทบจะไม่เหลือพอจะส่งไปสนามรบอีกแล้ว ยามนี้ความตั้งใจแรกเลือนราง หวังเพียงสามารถหากลศึกลึกล้ำช่วยเหลือบ้านเมืองได้

    หลังตรองดูคิดวนไปเวียนมาอยู่หลายวัน ในที่สุดก็สามารถกลั่นสมองคิดกลยุทธ์ออกมาได้วิธีหนึ่ง เมื่อการเข้าโรมรันซึ่งหน้าไม่เป็นผล ลอบสังหารก็ใช้มิได้ เช่นนั้นก็คงมีเพียงวิธีเช่นนี้แล้ว

    ข้าวาดกลศึกของตนซ้อนลงในภาพยวนยางคู่หนึ่ง สาวงามเปลือยกายท่อนบนกับชายแก่ที่จ้องมองอย่างหลงใหล พับภาพวาดนั้นแอบซ่อนไปในกล่องขนมห่อผ้าไหมอย่างมิดชิด แอบจ้างวานทหารนายหนึ่งส่งไปยังค่ายทหารพร้อมกับเสบียงอาหารรอบนี้ กำชับว่าต้องมอบให้ฟ่านหลีกับมือให้จงได้และห้ามบอกเป็นอันขาดว่าใครเป็นผู้ส่ง หากเขารู้ว่ามาจากจวนเสนาบดีคงไม่กล้าแม้แต่จะเปิดดูแน่

    ภาวนาให้ฟ่านหลีเข้าใจอุบายที่ข้าวาดขึ้น ข้าเองก็เพียงแค่ชำนาญการค้าเท่านั้น เรื่องรบทัพจับศึกพวกนี้ก็เพียงวางแผนรบบนกระดาษ หวังเพียงฟ่านหลีแปลงกลศึกนี้ใช้ในสนามรบได้ ย่อมต้องเป็นประโยชน์เป็นแน่ เช่นนี้ก็จะสามารถช่วยชาวเมืองทั้งปวงพ้นเภทภัย ส่วนเรื่องลดทอนอำนาจท่านเสนาบดีนั้นหากทำได้จริงก็เพียงผลพลอยได้เท่านั้น

    ข่าวการศึกเงียบเชียบหลายวัน นับตั้งแต่ส่งขนมกล่องนั้นไป ข้าเฝ้าภาวนาใจจดใจจ่อ หากแม้ฟ่านหลีเข้าใจความที่ส่งให้ แต่มิได้ใช้ก็ไม่เป็นไร ยามนี้หวังเพียงสามารถชนะศึกเหนือแคว้นอู๋ก็เพียงพอ

    ยามนี้ชาวเมืองต้องเผชิญความลำบากทุกข์ยากแสนสาหัส ข้าและท่านแม่ทุกวันทำหมั่นโถวหลายร้อยลูกออกแจกจ่าย แม้กระนั้นก็ยังไม่เพียงพอ ยังคงมีเด็กน้อยที่ต้องหิวโหย คนชราที่ไร้ที่พึ่ง หากศึกยืดเยื้อกว่านี้อีกครึ่งเดือนเกรงว่าคงต้องมีผู้ล้มตายเพราะความหิวโหยอดอยากเป็นแน่

    กระทั่งวันที่เจ็ดนับแต่วันที่ส่งขนมไป ในที่สุดก็มีม้าเร็ววิ่งผ่านเข้าประตูเมือง ประกาศชัยชนะเหนือทัพแคว้นอู๋ แจ้งว่าฟ่านหลีสร้างผลงานใช้กลศึกแยบยล อู๋อ๋องบาดเจ็บสาหัสเร่งยกทัพกลับทันที ในใจข้าปีติยินดียิ่ง อกที่หนักอึ้งมาหลายวันยามนี้รู้สึกดังว่าสามารถหายใจได้อีกครั้ง เหมือนปลาขาดน้ำได้พบความชุ่มชื้นอีกครา

    ผู้คนทั้งเมืองต่างโห่ร้องยินดี ออกมากระโดดโลดเต้นกันทั่วทุกมุมถนนทุกบ้านเรือน เป็นภาพที่ทำให้ข้าต้องร่ำไห้ออกมาอย่างห้ามไว้มิได้ ข้ากอดท่านแม่ที่เสียน้ำตาแห่งความปีติยินดีออกมาเช่นกัน คืนนี้คงเป็นคืนที่ข้าจะนอนหลับได้สักที หลังจากที่ไม่สามารถข่มตาหลับสนิทได้เลยนับตั้งแต่สงครามได้เริ่มขึ้น

    วันรุ่งขึ้นเหล่าทหารผู้กล้าทยอยเดินทัพกลับเข้าเมือง ชาวเมืองต่างออกมาต้อนรับเนืองแน่นตลอดทาง ข่าวกลศึกของฟ่านหลีแพร่สะพัดไปทั่วกล่าวว่า ฟ่านหลีออกอุบายให้เย่ว์อ๋องแสร้งยอมจำนนกล่าวต่อหน้าทัพทั้งสองว่า ตนเป็นเพียงผู้น้อยจะอาจหาญเทียบเคียงบารมีอู๋อ๋องได้อย่างไร จึงจัดเอาทหารที่หนีทัพทั้งลอบทำร้ายอู๋อ๋องมามอบให้ จากนั้นให้ชายฉกรรจ์ที่มีโทษประหารติดตัวรวมถึงทหารที่เคยลอบสังหารอู๋อ๋องจำนวนสามร้อยคนตั้งเป็นสามแถวหน้ากระดาน แต่ละคนปลดเกราะ กายท่อนบนเปลือยเปล่า โพกหัวด้วยผ้าดำใบหน้ายิ้มแย้ม มือถือดาบพาดไว้ที่คอ เดินก้าวไปข้างหน้าสู่ทัพอู๋ทีละก้าวอย่างสง่างาม ทุกย่างก้าวตะโกนเสียงหัวเราะเยาะเย้ยต่อทัพอู๋

    ชายฉกรรจ์สามร้อยคนเดินเข้าใกล้ทัพอู๋ทีละก้าว ยิ่งเข้าใกล้มากขึ้น คำเยาะเย้ยยิ่งปรากฏชัดบนใบหน้าคมของทหารเหล่านั้น กระทั่งพวกเขาหยุดยืนมั่นคงดั่งเหล็กกล้าห่างจากรถศึกของอู๋อ๋องเพียงห้าสิบจั้ง ผู้นำกองทหารหัวเราะขึ้นดังกังวานราวเสียงนกฮูกต่อเนื่องไม่สิ้นสุด ใบมีดคมสามร้อยเล่มลากตัดผ่านลำคอของพวกเขาทั้งหมดพร้อมกัน เลือดพุ่งกระจายย้อมสีทุ่งหญ้าให้กลายเป็นสีแดงฉาน รอยหยดเลือดเหล่านั้นสาดกระเซ็นเหมือนประหนึ่งกลีบดอกบ๊วยร่วงหล่น ร่างไร้วิญญาณสามร้อยศพล้มลงต่อหน้าอู๋อ๋อง

    นี่คือสิ่งที่อู๋อ๋องแม้กรำศึกอยู่ในสนามรบมานานปีแต่ก็ไม่เคยประสบพบมาก่อน จิตใจจดจ่อตะลึงงัน กองทัพเย่ว์ฉวยโอกาสวิ่งพุ่งไปดั่งกระแสน้ำโจมตีทัพอู๋แตกพ่ายกระจัดกระจายไม่เหลือรูปขบวน ทั้งอู๋อ๋องบาดเจ็บสาหัสจึงถอนทัพกลับแคว้นอู๋อย่างเลี่ยงไม่ได้

    ได้ฟังเช่นนี้ข้านึกชื่นชมฟ่านหลีผู้นี้ยิ่งนัก ไม่เพียงเข้าใจอุบายที่ข้าซ่อนไว้ในภาพวาดนั้นได้อย่างถ่องแท้ กระทั่งสามารถต่อเติมเสริมแต่งให้วิปลาสเหนือคาดการณ์ได้ถึงเพียงนี้ นับว่าเป็นผู้มีปัญญาเป็นเลิศโดยแท้

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×