ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chain Of Love 3
ฮันเชริมหันกลับมามองอย่างรวดเร็ว
แต่ภาพที่เห็นกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด ข้อมือบางของลูกชายที่มีเลือดโชก ปืนกระบอกนั้นที่เคยจ่ออยู่ที่กะโหลกศีรษะหล่นลงไปอยู่ใกล้ๆกับฝ่าเท้าของแจจุง เชริมหันไปมองยังที่มาของเสียงปืน
ชองยุนโฮ ยุนโฮยังคงถือกระบอกปืนค้าง ร่างหนากอหายใจถี่ๆตาคมยังคงจ้องมองไปยังแจจุงที่มีเลือดสีแดงสดโชกอยู่ที่ข้อมือ ข้อมือที่เคยถือปืนกระบอกนั้น
เมื่อตั้งสติได้คังอินก็รีบอุ้มแจจุงออกจากรถแล้วพาเข้าไปในบ้านทันที หลังจากที่แจจุงหาบลับเข้าไปในตัวบ้าน ยุนโฮก็พรูลมออกจากปากอย่างโล่งอก เชริมมองยุนโฮด้วยสีหน้าเรียบเฉยแล้วสะบัดเดินขึ้นไปยังชั้นบนของบ้าน
“ตามหมอมาทีนะพี่ยูชอนผมขอตัวเข้าไปดูพี่แจจุงก่อน”ชางมินเอ่ยออกมาเรียบๆแล้วเดินกลับตรงเข้าไปยังห้องนอนของแจจุง
“ไม่ได้รักเขาแล้วรั้งเขาไว้อีกทำไมชองยุนโฮ เสียแรงทีฉันเคยไว้ใจนาย เชอะ จงใจจะให้แจจุงเห็นภาพทรมาณตา ทรมาณใจไปชั่วชีวิตงั้นสิ นายมันเลือดเย็น ฉันอยากจะแหกอกนายออกมาดูจริงๆว่านายยังมีหัวใจอยู่หรือเปล่า”พูดจบจุนซูก็ประคองร่างของแม่นมให้เข้าไปในบ้านโดยไม่ลืมที่จะส่งสายตาอาฆาตใส่ยุนโฮ
ร่างสูงยกมือขึ้นกุมขมับ เปลือกตาหนาปิดลงอย่างอ่อนล้าแล้วเดินแยกไปอีกทาง
ห้องของแจจุง
ร่างบางร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่เลิกอยู่บนเตียงสีขาวสะอาด มือบางยังคงมีเลือดไหลไม่หยุด ผ้าเช็ดหน้าสีฟ้าอ่อนถูกหยิบออกมาจากลิ้นชักแล้วพันลงบนข้อมืออย่างแผ่วเบา
“ไม่ต้องมายุ่งกับแจจุง ออกไปเถอะฮะอาคังอิน”แจจุงสะบัดข้อมือหนี
“เฮ้ออ...อยู่นิ่งๆสิครับคุณหนู เดี๋ยวผมผูกให้ เสร็จแล้วผมจะรีบออกไปทันทีเลย”คังอินดึงข้อมือบางที่ยังมีเลือดสีแดงสดไหลหยดลงบนที่นอนมาแล้วผูกผ้าเช็ดหน้าอย่างแน่นหนาเพื่อห้ามเลือด
“หมอมาแล้วครับคุณคังอิน”ยูชอนเปิดประตูให้หมอหนุ่มเดินเขามายังห้องนอนกว้างสีสว่างของแจจุง
“ฝากด้วยนะคยูฮยอน”คังอินเอ่ยออกมาสั้นๆแล้วปลีกตัวออกไปจากห้องทันที
“ว่าไงคุณหนูตัวแสบ คยูฮยอนนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียงแล้วคว้าข้อมือมาดู
“พี่หมอ”แจจุงกล่าวสั้นๆแล้วใช้มือข้างที่เหลือค้าเอาหมอนอีกใบมาเกยไว้ที่คาง ร่างบางลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง
“อืมม โชคดีนะที่กระสุนไม่ได้ฝังลงไป แค่เฉียดๆน่ะ เดี๋ยวพี่ทำแผลให้นะแล้วก็จะจดยาไว้ให้ เพราะว่าเดี๋ยวคงจะปวดแผลหน่อยน่ะ” คยูฮยอนหยิบอุปกรณ์ทำแผลออกมาแล้วจัดการทำแผลสีแดงสดที่ตัดกับข้อมือขาวนวลให้เรียบร้อย
“อย่าให้แผลโดนน้ำล่ะ”คยูฮยอนสั่งเสียงเข้ม แจจุงพยักหน้าแต่ก็เอื้อมมืออีกข้างที่เหลือไปหยิบแก้วน้ำบนโต๊ะเล๊กๆข้างเตียง
“จะทำอะไรแจจุง คิดหรือว่าพี่จะไม่ทันเรา”คยูฮยอนคว้ามือบางที่ทำท่าจะราดน้ำลงบนแผลสดแล้วหัวเราะในลำคอ แจจุงยู่หน้าลงอย่างไม่พอใจ
“หยุดร้องไห้ได้แล้ว ถ้าอยากร้องล่ะก็ พี่ให้ยืมอกซบเอามั้ย”คยูฮยอนคว้าเอาร่างสวยเขามาซบแนบอก
ทันทีที่ได้สัมผัสไออุ่นของคยูฮยอนที่เหมือนพี่ชายของเขา แจจุงก็สะอึกสะอื้นหนักกว่าเก่า ตาคู่สวยไม่คิดจะปิดบังความอ่อนแออีกต่อไปกลับปล่อยโฮออกมาราวกับเด็กน้อยที่ร้องไห้เมื่อตื่นนอนแล้วพบว่าไม่เจอแม่
แม้ว่าอ้อมกอดนี้ของพี่หมอจะอบอุ่นเพียงใด แต่ก็ไม่มีอ้อมกอดไหนอบอุ่นเท่าอ้อมกอดนั้น...อ้อมกอดของพี่ยุนโฮ
“ฮึก...พี่หมอฮะ..แจจุงมีค่าสำหรับพี่หมอมั้ยฮะ”แจจุงเงยหน้าถามทั้งที่ใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยคราบน้ำตา
“ฮึ.....เด็กโง่....แจจุงเป็นน้องพี่นะ ถึงเราจะไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ...แต่พี่ก็รักเราเหมือนน้องแท้ๆนั่นแหละ แล้วทำไมแจจุงจะไม่มีค่าสำหรับพี่เล่า”คยูฮยอนเลื่อนนิ้วโป้งใหญ่เช็ดคราบน้ำตาบนดวงหน้าสวยแล้วยีกลุ่มเส้นไหมสีดำสนิทอย่างเอ็นดู แจจุงยิ้มออกมาอย่างอ่อนล้า ด้วยจิตใจที่บอบช้ำเกินกว่าจะรับเรื่องราวต่างๆไหว
“พักผ่อนซะนะ นอนหลับเยอะๆ พรุ่งนี้ไปโรงพยาบาลตามนัดด้วย....ตอนนี้น่ะแจจุงมีโอกาสที่จะเป็นอิสระจากรถวิลล์แชร์แล้วนะ”คยูฮยอนประคองร่างบางให้นอนลงแล้วห่มผ้าให้แจจุงที่ยังคงเป็นน้องน้อยในสายตาของเขาเสมอ
“หมายความว่า....แจจุงจะเดินได้หรือฮะ”แจจุงถามออกมาอย่างตื่นเต้น
“อื้มใช่แล้ว...แล้วรื่องนี้แจจุงคงอยากที่จะให้มันเป็นความลับใช่ไหม...ความลับที่มีแค่แจจุง พี่ แม่นมจิน แล้วก็เจ้าโลมาจุนซูรู้ เราจะรู้กันแค่นี้ใช่มั้ย”คยูฮยอนลูบหัวแจจุงอย่างเอ็นดู
“ขอบคุณนะฮะที่รู้ใจแจจุงเสมอ”
“พักผ่อนซะ พี่ขอตัวกลับก่อนนะ”คยูฮยอนเอ่ยลา จัดการเก็บอุปกรณ์การรักษาทั้งหมดแล้วเดินออกจากห้องโดยไม่ลืมที่จะปิดประตูห้อง
“เรียบร้อยแล้วนะครับ แล้วนี่ก็ยา ให้แจจุงทานยาให้ครบสามเวลาหลังอาหารนะครับ”คยูฮยอนยิ้มอ่อนๆให้แม่นมจินพลางยื่ซองยาที่มีลิสต์รายการบอกเอาไว้อย่างเรียบร้อย
“จุนซูพรุ่งนี้พาแจจุงไปตรวจตามนัดนะ บางทีแจจุงอาจจะกลับมาเดินได้อีกครั้ง...ที่สำคัญเรื่องนี้มีแค่พวกเราที่รู้แล้วแจจุงก็หวังว่ามันจะเป็นความลับนะครับ อย่าบอกใครล่ะ”คยูฮยอนจัดการบอกจุนซูและป้าจินแล้วเดินออกจากคฤหาสน์ไปยังรถที่ยูชอนยืนรอพาเขากลับอยู่
“เจ็บ .....เจ็บเหลือเกิน”ยุนโฮกล่าวออกมาด้วยแววตาเศร้าสร้อย มือหนาลูบไปตามกระจกห้องที่สะท้อนภาพร่างบางที่แสนรักใคร่กำลังหลับสนิทด้วยความเหนื่อย
แจจุงชอบห้องนี้ที่สุดเพราะห้องนอนของแจจุงติดกับสวนดอกไม้ ห้องที่คุณพ่อจงใจทำให้เขาเพื่อปลอบขวัญที่เขาป่วย ประมุขใหญ่จัดการรื้อผนังแล้วจัดการเปลี่ยนผนังห้องทั้งห้องให้กลายเป็นกระจก เพื่อจะได้เห็นสีสันและความสวยงามของหมู่ดอกไม้
ที่ตรงนี้ที่ยุนโฮยืน ริมกระจกบานนี้ ที่ๆเขามักจะแอบมาหาแจจุงบ่อยๆตั้งแต่เด็กจนโต การกระทำที่แสนโรแมนติกและน่ารักมักจะทำให้จ้าของห้องที่นั่งอยู่บนวิลล์แชร์ภายในห้องยิ้มและหัวเราะได้ รวมถึงจูบแรกของเขากับแจจุง จูบที่ผ่านกระจกบานนี้ เขายังจำได้ดี ไออุ่นที่ส่งผ่านทางกระจกบานนี้ทำให้เขารักมันที่สุด
แต่กระจกแสนรักที่ยุนโฮชอบมันไม่แพ้กับแจจุงกลับส่องผ่านให้เห็นภาพบาดใจเมื่อกี้ ภาพของคิมแจจุงที่กำลังร้องไห้อยู่ในอ้อมอกของหมอหนุ่ม ไม่บอกก็คงรู้ว่าแจจุงร้องไห้เรื่องอะไร ถ้าไม่ใช่เรื่องของเขา ยุนโฮไล้นิ้วไปตามโครงหน้าเรียวผ่านกระจกบานใสที่กลายเป็นกำแพงกั้นระหว่างเขากับแจจุงตลอดไปจนหยุดอยู่ที่ริมฝีปากแดงสดได้รูป แล้วมือหนาก็ต้องชักออก ตาคมกระพรับถี่ๆและเชิดขึ้นเพื่อซ่อนน้ำตาแห่งความเจ็บปวดเอาไว้
เมื่อได้ยืนมองคนที่รักที่สุดนอนหลับสนิทอยู่สักพักราวกับจะจดจำรายละเอียดครั้งสุดท้าย แล้วก็เดินหันหลังจากไป โดยไม่รู้เลยว่ามีคนอีกคนเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างทั้งหมดอยู่บนระเบียงชั้นสอง
“เฮ้อ พวกพี่ทำไมถึงได้เกิดมารันทดแบบนี้นะ”ชางมินที่ยืนเอามือไขว้หลังมองทุกอิริยาบถของยุนโฮ ตั้งแต่แอบมายืนมองแจจุง จนกระทั่งจากไปก็ถอนหายใจออกมาแล้วยกแก้วบรั่นดีรสเลิศขึ้นมาดื่มแก้กลุ้ม
“ลิขิตสวรรค์ที่แก้ไม่ได้งั้นหรือ....ขนาดผมที่เป็นมันสมองของพรรคมังกรยิ่งคิดแก้ให้พวกพี่ไม่ได้..งั้นก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามลิขิตของสววค์แล้วสินะ”ชางมินพยักหน้ายอมรับในความคิดของตนออกมาน้อยๆ
................................
“อ้าวจุนซู วันนี้นึกครึ้มอะไรมาซ้อมยิงปืนล่ะ”ยูชอนที่เพิ่งจะเข้ามาในสนามซ้อมยิงปืนของพรรคทักคนที่กำลังเล็งปืนอยู่
จุนซูเปลี่ยนเป้าหมายกะทันหัน ร่างเล็กหันมามองยูชอนพร้อมกับกระบอกปืนที่เล็งไปยังยูชอน ริมฝีปากสวยได้รูปแสยะยิ้มชวนสยองให้ยูชอน ตาเรียวที่ถูกบดบังด้วยแว่นกันแดดสีชามองมายังยูชอนอย่างมาดมั่น
“ไม่ได้นึกครึ้มอะไรหนอก...แค่รู้สึกอยากยิง....แต่ว่าเล่นกับเป้านิ่งมันน่าเบื่อแล้วล่ะ เปลี่ยนมาเล่นกับเป้าที่มีชีวิตดีกว่า”จุนซูขึ้นนกเตรียมยิงยูชอนแล้วก็..
“ปัง”กระบอกปืนเปลี่ยนเป้าหมายหันกลับไปยิงเป้านิ่งดังเดิม
“ขอบคุณนะ ที่ยังไว้ชีวิตผม”ยูชอนกลั้วหัวเราะแล้วหยิบกระบอกปืนมานั่งขัดที่โต๊ะของจุนซู
“คุณหนูเล็ก คุณรู้อะไรมั้ย รสนิยมและความคิดของคนเราน่ะต่างกัน ถึงยุนโฮกับผมจะเป็นเพื่อนรักกัน ถูกเลี้ยงให้เลือดเย็นมาเหมือนกัน แต่สิ่งที่ต่างคงจะเป็นรสนิยม ...ยุนโฮน่ะชอบคนอ่อนโยน อ่อนหวาน น่าทะนุถนอม น่าปกป้อง แต่ผมน่ะชอบแบบคุณ”คำสุดท้ายยูชอนจงใจลุกขึ้นแล้วกระซิบข้างหูบางที่ของจุนซู ถึงแม้ว่าจุนซูทำท่าจะยิ่งปืนอยู่ก็จริง แต่ก็ตั้งใจฟังเขาอย่างใจจดใจจ่อ ทำไมเขาถึงรู้น่ะหรือ....ก็ตั้งแต่เขาพูด จุนซูก็เอาแต่เล็งเป้า แต่ก็ไม่ได้เหนี่ยวไกปืนเลยน่ะสิ
“ขอบใจนะปาร์คยูชอน”จุนซูวางกระบอกปืนลงบนโต๊ะแล้วเขยิบร่างเข้าเบียดร่างของยูชอน มือเรียวไล้ตามใบหน้าของยูชอน
“แต่อย่างนายน่ะ เป็นได้อย่างมาก ก็แค่คู่นอนของฉันเท่านั้นแหละ”แขนเรียวโอบรอบลำคอแกร่ง จงใจกระซิบได้เสียงยั่วยวน ก่อนจะขบเบาๆที่ใบหูแล้วผละออก
ริมฝีปากสวยยิ้มอย่างผู้ชนะ พร้อมกับยักคิ้วให้อย่างผู้ชนะ
“ถ้าไม่รบกวน ฝากเก็บของให้ฉันที คุณว่าที่คู่นอน”
จุนซู ดื่มน้ำอึกสุดท้ายแล้วคว้ากระบอกปืนไปทิ้งกระเป๋าไว้ให้ยูชอนถือไปให้ ถึงปากจะบอกว่าว่าที่คู่นอน แต่การกระทำที่แสดงออกแล้วยูชอนดูจะไม่ต่างอะไรกับคำว่าคนใช้
ยูชอนมองร่างเล็กที่เดินสะบัดไปแล้วก็ต้องหัวเราะเยาะตัวเองอย่างสมเพส ให้ตายเถอะ ทำไมผมถึงต้องหลงรักคุณหนูตัวแสบอย่างคุณด้วยนะ มือหนาหยิบกระเป๋าหลุยส์อย่างดีของจุนซูแล้วเดินตามไป
“จุ๊ๆ ผมเพิ่งรู้นะฮะอาคังอิน ว่าพู่ชอนเค้าชอบแบบเผ็ดร้อนอย่างไอ้พี่โลมาของผม”ชางมินที่ดูเหมือนจะเป็นผู้โชคดีที่กำลังเหน็ดเหนื่อยออกมาจากการประชุมเรื่องการสร้างบ่อนแห่งใหม่ ทำตาเจ้าเล่ห์ ทำเอาคังอินที่เดินออกมาพร้อมๆกันต้องหัวเราะให้
“เดี๋ยวก็เข็ดเองล่ะคุณชางมิน ยูชอนน่ะเจอคุณหนูเล็กแกล้งเอาบ่อยๆเดี๋ยวก็คงถอดใจไปเอง”คังอินเอ่ยออกมายิ้มๆ
“ไม่ล่ะมั้งอาคังอิน...พนันกันมั้ยล่ะว่าคราวนี้น่ะ พี่จุนซูต้องตกหลุมพรางที่ตัวเองขุดเอามาแกล้งพี่ยูชอนเสียเอง”ชางมินพูดติดตลก
“งั้นเราก็เตรียมดูความหฤหรรส์กันได้เลยคุณชางมิน”คังอินพูดจบก็โคงลาออกไป
“ต่อให้พี่ไม่ตกลงไป ผมจะถีบพี่ให้ตกลงไปในหลมที่พี่ขุดเองแหละพี่จุนซู ไอ้โลมาเตี้ย”ชางมินพูดคนเดียว ตาคมฉายแววเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างเห็นได้ชัด
To Be Con
ถ้าอยากอ่านสบายๆตา ก็ซื้อ่านได้ที่ร้าน มดดำนะคะ ราคาเล่มละ330 บาทค่ะ
แต่ภาพที่เห็นกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด ข้อมือบางของลูกชายที่มีเลือดโชก ปืนกระบอกนั้นที่เคยจ่ออยู่ที่กะโหลกศีรษะหล่นลงไปอยู่ใกล้ๆกับฝ่าเท้าของแจจุง เชริมหันไปมองยังที่มาของเสียงปืน
ชองยุนโฮ ยุนโฮยังคงถือกระบอกปืนค้าง ร่างหนากอหายใจถี่ๆตาคมยังคงจ้องมองไปยังแจจุงที่มีเลือดสีแดงสดโชกอยู่ที่ข้อมือ ข้อมือที่เคยถือปืนกระบอกนั้น
เมื่อตั้งสติได้คังอินก็รีบอุ้มแจจุงออกจากรถแล้วพาเข้าไปในบ้านทันที หลังจากที่แจจุงหาบลับเข้าไปในตัวบ้าน ยุนโฮก็พรูลมออกจากปากอย่างโล่งอก เชริมมองยุนโฮด้วยสีหน้าเรียบเฉยแล้วสะบัดเดินขึ้นไปยังชั้นบนของบ้าน
“ตามหมอมาทีนะพี่ยูชอนผมขอตัวเข้าไปดูพี่แจจุงก่อน”ชางมินเอ่ยออกมาเรียบๆแล้วเดินกลับตรงเข้าไปยังห้องนอนของแจจุง
“ไม่ได้รักเขาแล้วรั้งเขาไว้อีกทำไมชองยุนโฮ เสียแรงทีฉันเคยไว้ใจนาย เชอะ จงใจจะให้แจจุงเห็นภาพทรมาณตา ทรมาณใจไปชั่วชีวิตงั้นสิ นายมันเลือดเย็น ฉันอยากจะแหกอกนายออกมาดูจริงๆว่านายยังมีหัวใจอยู่หรือเปล่า”พูดจบจุนซูก็ประคองร่างของแม่นมให้เข้าไปในบ้านโดยไม่ลืมที่จะส่งสายตาอาฆาตใส่ยุนโฮ
ร่างสูงยกมือขึ้นกุมขมับ เปลือกตาหนาปิดลงอย่างอ่อนล้าแล้วเดินแยกไปอีกทาง
ห้องของแจจุง
ร่างบางร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่เลิกอยู่บนเตียงสีขาวสะอาด มือบางยังคงมีเลือดไหลไม่หยุด ผ้าเช็ดหน้าสีฟ้าอ่อนถูกหยิบออกมาจากลิ้นชักแล้วพันลงบนข้อมืออย่างแผ่วเบา
“ไม่ต้องมายุ่งกับแจจุง ออกไปเถอะฮะอาคังอิน”แจจุงสะบัดข้อมือหนี
“เฮ้ออ...อยู่นิ่งๆสิครับคุณหนู เดี๋ยวผมผูกให้ เสร็จแล้วผมจะรีบออกไปทันทีเลย”คังอินดึงข้อมือบางที่ยังมีเลือดสีแดงสดไหลหยดลงบนที่นอนมาแล้วผูกผ้าเช็ดหน้าอย่างแน่นหนาเพื่อห้ามเลือด
“หมอมาแล้วครับคุณคังอิน”ยูชอนเปิดประตูให้หมอหนุ่มเดินเขามายังห้องนอนกว้างสีสว่างของแจจุง
“ฝากด้วยนะคยูฮยอน”คังอินเอ่ยออกมาสั้นๆแล้วปลีกตัวออกไปจากห้องทันที
“ว่าไงคุณหนูตัวแสบ คยูฮยอนนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียงแล้วคว้าข้อมือมาดู
“พี่หมอ”แจจุงกล่าวสั้นๆแล้วใช้มือข้างที่เหลือค้าเอาหมอนอีกใบมาเกยไว้ที่คาง ร่างบางลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง
“อืมม โชคดีนะที่กระสุนไม่ได้ฝังลงไป แค่เฉียดๆน่ะ เดี๋ยวพี่ทำแผลให้นะแล้วก็จะจดยาไว้ให้ เพราะว่าเดี๋ยวคงจะปวดแผลหน่อยน่ะ” คยูฮยอนหยิบอุปกรณ์ทำแผลออกมาแล้วจัดการทำแผลสีแดงสดที่ตัดกับข้อมือขาวนวลให้เรียบร้อย
“อย่าให้แผลโดนน้ำล่ะ”คยูฮยอนสั่งเสียงเข้ม แจจุงพยักหน้าแต่ก็เอื้อมมืออีกข้างที่เหลือไปหยิบแก้วน้ำบนโต๊ะเล๊กๆข้างเตียง
“จะทำอะไรแจจุง คิดหรือว่าพี่จะไม่ทันเรา”คยูฮยอนคว้ามือบางที่ทำท่าจะราดน้ำลงบนแผลสดแล้วหัวเราะในลำคอ แจจุงยู่หน้าลงอย่างไม่พอใจ
“หยุดร้องไห้ได้แล้ว ถ้าอยากร้องล่ะก็ พี่ให้ยืมอกซบเอามั้ย”คยูฮยอนคว้าเอาร่างสวยเขามาซบแนบอก
ทันทีที่ได้สัมผัสไออุ่นของคยูฮยอนที่เหมือนพี่ชายของเขา แจจุงก็สะอึกสะอื้นหนักกว่าเก่า ตาคู่สวยไม่คิดจะปิดบังความอ่อนแออีกต่อไปกลับปล่อยโฮออกมาราวกับเด็กน้อยที่ร้องไห้เมื่อตื่นนอนแล้วพบว่าไม่เจอแม่
แม้ว่าอ้อมกอดนี้ของพี่หมอจะอบอุ่นเพียงใด แต่ก็ไม่มีอ้อมกอดไหนอบอุ่นเท่าอ้อมกอดนั้น...อ้อมกอดของพี่ยุนโฮ
“ฮึก...พี่หมอฮะ..แจจุงมีค่าสำหรับพี่หมอมั้ยฮะ”แจจุงเงยหน้าถามทั้งที่ใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยคราบน้ำตา
“ฮึ.....เด็กโง่....แจจุงเป็นน้องพี่นะ ถึงเราจะไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ...แต่พี่ก็รักเราเหมือนน้องแท้ๆนั่นแหละ แล้วทำไมแจจุงจะไม่มีค่าสำหรับพี่เล่า”คยูฮยอนเลื่อนนิ้วโป้งใหญ่เช็ดคราบน้ำตาบนดวงหน้าสวยแล้วยีกลุ่มเส้นไหมสีดำสนิทอย่างเอ็นดู แจจุงยิ้มออกมาอย่างอ่อนล้า ด้วยจิตใจที่บอบช้ำเกินกว่าจะรับเรื่องราวต่างๆไหว
“พักผ่อนซะนะ นอนหลับเยอะๆ พรุ่งนี้ไปโรงพยาบาลตามนัดด้วย....ตอนนี้น่ะแจจุงมีโอกาสที่จะเป็นอิสระจากรถวิลล์แชร์แล้วนะ”คยูฮยอนประคองร่างบางให้นอนลงแล้วห่มผ้าให้แจจุงที่ยังคงเป็นน้องน้อยในสายตาของเขาเสมอ
“หมายความว่า....แจจุงจะเดินได้หรือฮะ”แจจุงถามออกมาอย่างตื่นเต้น
“อื้มใช่แล้ว...แล้วรื่องนี้แจจุงคงอยากที่จะให้มันเป็นความลับใช่ไหม...ความลับที่มีแค่แจจุง พี่ แม่นมจิน แล้วก็เจ้าโลมาจุนซูรู้ เราจะรู้กันแค่นี้ใช่มั้ย”คยูฮยอนลูบหัวแจจุงอย่างเอ็นดู
“ขอบคุณนะฮะที่รู้ใจแจจุงเสมอ”
“พักผ่อนซะ พี่ขอตัวกลับก่อนนะ”คยูฮยอนเอ่ยลา จัดการเก็บอุปกรณ์การรักษาทั้งหมดแล้วเดินออกจากห้องโดยไม่ลืมที่จะปิดประตูห้อง
“เรียบร้อยแล้วนะครับ แล้วนี่ก็ยา ให้แจจุงทานยาให้ครบสามเวลาหลังอาหารนะครับ”คยูฮยอนยิ้มอ่อนๆให้แม่นมจินพลางยื่ซองยาที่มีลิสต์รายการบอกเอาไว้อย่างเรียบร้อย
“จุนซูพรุ่งนี้พาแจจุงไปตรวจตามนัดนะ บางทีแจจุงอาจจะกลับมาเดินได้อีกครั้ง...ที่สำคัญเรื่องนี้มีแค่พวกเราที่รู้แล้วแจจุงก็หวังว่ามันจะเป็นความลับนะครับ อย่าบอกใครล่ะ”คยูฮยอนจัดการบอกจุนซูและป้าจินแล้วเดินออกจากคฤหาสน์ไปยังรถที่ยูชอนยืนรอพาเขากลับอยู่
“เจ็บ .....เจ็บเหลือเกิน”ยุนโฮกล่าวออกมาด้วยแววตาเศร้าสร้อย มือหนาลูบไปตามกระจกห้องที่สะท้อนภาพร่างบางที่แสนรักใคร่กำลังหลับสนิทด้วยความเหนื่อย
แจจุงชอบห้องนี้ที่สุดเพราะห้องนอนของแจจุงติดกับสวนดอกไม้ ห้องที่คุณพ่อจงใจทำให้เขาเพื่อปลอบขวัญที่เขาป่วย ประมุขใหญ่จัดการรื้อผนังแล้วจัดการเปลี่ยนผนังห้องทั้งห้องให้กลายเป็นกระจก เพื่อจะได้เห็นสีสันและความสวยงามของหมู่ดอกไม้
ที่ตรงนี้ที่ยุนโฮยืน ริมกระจกบานนี้ ที่ๆเขามักจะแอบมาหาแจจุงบ่อยๆตั้งแต่เด็กจนโต การกระทำที่แสนโรแมนติกและน่ารักมักจะทำให้จ้าของห้องที่นั่งอยู่บนวิลล์แชร์ภายในห้องยิ้มและหัวเราะได้ รวมถึงจูบแรกของเขากับแจจุง จูบที่ผ่านกระจกบานนี้ เขายังจำได้ดี ไออุ่นที่ส่งผ่านทางกระจกบานนี้ทำให้เขารักมันที่สุด
แต่กระจกแสนรักที่ยุนโฮชอบมันไม่แพ้กับแจจุงกลับส่องผ่านให้เห็นภาพบาดใจเมื่อกี้ ภาพของคิมแจจุงที่กำลังร้องไห้อยู่ในอ้อมอกของหมอหนุ่ม ไม่บอกก็คงรู้ว่าแจจุงร้องไห้เรื่องอะไร ถ้าไม่ใช่เรื่องของเขา ยุนโฮไล้นิ้วไปตามโครงหน้าเรียวผ่านกระจกบานใสที่กลายเป็นกำแพงกั้นระหว่างเขากับแจจุงตลอดไปจนหยุดอยู่ที่ริมฝีปากแดงสดได้รูป แล้วมือหนาก็ต้องชักออก ตาคมกระพรับถี่ๆและเชิดขึ้นเพื่อซ่อนน้ำตาแห่งความเจ็บปวดเอาไว้
เมื่อได้ยืนมองคนที่รักที่สุดนอนหลับสนิทอยู่สักพักราวกับจะจดจำรายละเอียดครั้งสุดท้าย แล้วก็เดินหันหลังจากไป โดยไม่รู้เลยว่ามีคนอีกคนเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างทั้งหมดอยู่บนระเบียงชั้นสอง
“เฮ้อ พวกพี่ทำไมถึงได้เกิดมารันทดแบบนี้นะ”ชางมินที่ยืนเอามือไขว้หลังมองทุกอิริยาบถของยุนโฮ ตั้งแต่แอบมายืนมองแจจุง จนกระทั่งจากไปก็ถอนหายใจออกมาแล้วยกแก้วบรั่นดีรสเลิศขึ้นมาดื่มแก้กลุ้ม
“ลิขิตสวรรค์ที่แก้ไม่ได้งั้นหรือ....ขนาดผมที่เป็นมันสมองของพรรคมังกรยิ่งคิดแก้ให้พวกพี่ไม่ได้..งั้นก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามลิขิตของสววค์แล้วสินะ”ชางมินพยักหน้ายอมรับในความคิดของตนออกมาน้อยๆ
................................
“อ้าวจุนซู วันนี้นึกครึ้มอะไรมาซ้อมยิงปืนล่ะ”ยูชอนที่เพิ่งจะเข้ามาในสนามซ้อมยิงปืนของพรรคทักคนที่กำลังเล็งปืนอยู่
จุนซูเปลี่ยนเป้าหมายกะทันหัน ร่างเล็กหันมามองยูชอนพร้อมกับกระบอกปืนที่เล็งไปยังยูชอน ริมฝีปากสวยได้รูปแสยะยิ้มชวนสยองให้ยูชอน ตาเรียวที่ถูกบดบังด้วยแว่นกันแดดสีชามองมายังยูชอนอย่างมาดมั่น
“ไม่ได้นึกครึ้มอะไรหนอก...แค่รู้สึกอยากยิง....แต่ว่าเล่นกับเป้านิ่งมันน่าเบื่อแล้วล่ะ เปลี่ยนมาเล่นกับเป้าที่มีชีวิตดีกว่า”จุนซูขึ้นนกเตรียมยิงยูชอนแล้วก็..
“ปัง”กระบอกปืนเปลี่ยนเป้าหมายหันกลับไปยิงเป้านิ่งดังเดิม
“ขอบคุณนะ ที่ยังไว้ชีวิตผม”ยูชอนกลั้วหัวเราะแล้วหยิบกระบอกปืนมานั่งขัดที่โต๊ะของจุนซู
“คุณหนูเล็ก คุณรู้อะไรมั้ย รสนิยมและความคิดของคนเราน่ะต่างกัน ถึงยุนโฮกับผมจะเป็นเพื่อนรักกัน ถูกเลี้ยงให้เลือดเย็นมาเหมือนกัน แต่สิ่งที่ต่างคงจะเป็นรสนิยม ...ยุนโฮน่ะชอบคนอ่อนโยน อ่อนหวาน น่าทะนุถนอม น่าปกป้อง แต่ผมน่ะชอบแบบคุณ”คำสุดท้ายยูชอนจงใจลุกขึ้นแล้วกระซิบข้างหูบางที่ของจุนซู ถึงแม้ว่าจุนซูทำท่าจะยิ่งปืนอยู่ก็จริง แต่ก็ตั้งใจฟังเขาอย่างใจจดใจจ่อ ทำไมเขาถึงรู้น่ะหรือ....ก็ตั้งแต่เขาพูด จุนซูก็เอาแต่เล็งเป้า แต่ก็ไม่ได้เหนี่ยวไกปืนเลยน่ะสิ
“ขอบใจนะปาร์คยูชอน”จุนซูวางกระบอกปืนลงบนโต๊ะแล้วเขยิบร่างเข้าเบียดร่างของยูชอน มือเรียวไล้ตามใบหน้าของยูชอน
“แต่อย่างนายน่ะ เป็นได้อย่างมาก ก็แค่คู่นอนของฉันเท่านั้นแหละ”แขนเรียวโอบรอบลำคอแกร่ง จงใจกระซิบได้เสียงยั่วยวน ก่อนจะขบเบาๆที่ใบหูแล้วผละออก
ริมฝีปากสวยยิ้มอย่างผู้ชนะ พร้อมกับยักคิ้วให้อย่างผู้ชนะ
“ถ้าไม่รบกวน ฝากเก็บของให้ฉันที คุณว่าที่คู่นอน”
จุนซู ดื่มน้ำอึกสุดท้ายแล้วคว้ากระบอกปืนไปทิ้งกระเป๋าไว้ให้ยูชอนถือไปให้ ถึงปากจะบอกว่าว่าที่คู่นอน แต่การกระทำที่แสดงออกแล้วยูชอนดูจะไม่ต่างอะไรกับคำว่าคนใช้
ยูชอนมองร่างเล็กที่เดินสะบัดไปแล้วก็ต้องหัวเราะเยาะตัวเองอย่างสมเพส ให้ตายเถอะ ทำไมผมถึงต้องหลงรักคุณหนูตัวแสบอย่างคุณด้วยนะ มือหนาหยิบกระเป๋าหลุยส์อย่างดีของจุนซูแล้วเดินตามไป
“จุ๊ๆ ผมเพิ่งรู้นะฮะอาคังอิน ว่าพู่ชอนเค้าชอบแบบเผ็ดร้อนอย่างไอ้พี่โลมาของผม”ชางมินที่ดูเหมือนจะเป็นผู้โชคดีที่กำลังเหน็ดเหนื่อยออกมาจากการประชุมเรื่องการสร้างบ่อนแห่งใหม่ ทำตาเจ้าเล่ห์ ทำเอาคังอินที่เดินออกมาพร้อมๆกันต้องหัวเราะให้
“เดี๋ยวก็เข็ดเองล่ะคุณชางมิน ยูชอนน่ะเจอคุณหนูเล็กแกล้งเอาบ่อยๆเดี๋ยวก็คงถอดใจไปเอง”คังอินเอ่ยออกมายิ้มๆ
“ไม่ล่ะมั้งอาคังอิน...พนันกันมั้ยล่ะว่าคราวนี้น่ะ พี่จุนซูต้องตกหลุมพรางที่ตัวเองขุดเอามาแกล้งพี่ยูชอนเสียเอง”ชางมินพูดติดตลก
“งั้นเราก็เตรียมดูความหฤหรรส์กันได้เลยคุณชางมิน”คังอินพูดจบก็โคงลาออกไป
“ต่อให้พี่ไม่ตกลงไป ผมจะถีบพี่ให้ตกลงไปในหลมที่พี่ขุดเองแหละพี่จุนซู ไอ้โลมาเตี้ย”ชางมินพูดคนเดียว ตาคมฉายแววเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างเห็นได้ชัด
To Be Con
ถ้าอยากอ่านสบายๆตา ก็ซื้อ่านได้ที่ร้าน มดดำนะคะ ราคาเล่มละ330 บาทค่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น