คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chain Of Heart 1
เมื่อความรักไม่อาจมาเหนือหน้าที่ เมื่อหน้าที่ไม่อาจอยู่เหนือบุญคุณ จุดเริ่มต้นแลจุดสิ้นสุดของความรักจะหยุดลงเมื่อไหร่ หรือเพียงแต่จะปล่อยให้บุญคุณและหน้าที่จองจำ พันธนาการหัวใจไปชั่วนิรันดร์
Imprison heart Part1
ปังๆๆ
เสียงปืนรัวยิงกระหน่ำ กระสุนสามนัดมุ่งตรงเข้าจุดสำคัญของประมุขใหญ่แห่งตระกูลคิม
“นายท่านๆ”ชายหนุ่มรูปงามวิ่งเข้าไปประคองร่างไร้เรี่ยวแรงในทันที
“ยุนโฮ....ฉัน....ฉันคงไม่มีชีวิตต่อแล้ว ฝากดูแลคุณนายกับแจจุงด้วย”สิ้นเสียง ลมหายใจสุดท้ายของประมุขใหญ่ก็ได้หายไป ยุนโฮอุ้มร่างไว้วิญญาณของประมุขด้วยน้ำตาที่นองหน้า
“ครับนายท่าน...ผมสัญญาว่าจะดูแลคุณนายกับคุณหนูอย่างดีหลับให้สบายนะคับนายท่าน”
ร่างของประมุขใหญ่ถูกนำกลับไปคฤหาสน์ตระกูลคิม คฤหาสนน์ที่บ่งบอกถึงอำนาจของมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่
“คิมโฮยอง”
เสียงรถยนต์คันหรูดังกระทบโสตประสาทของคนในบ้านให้ออกมาต้อนรับ
“อ๊า แม่นมจิน คุณพ่อมาแล้ว พี่ยุนโฮก็คงกลับมาแล้ว เราออกไปรับกันเถอะ”ร่างบางบนรถเข็นสีเงินวาวเรียกแม่นมเขย่าแขนของแม่นมให้ออกไปต้อนรับ
“ค่ะๆ เราออกไปกันนะ”เสียงแก่ๆของแม่นมพูดแล้วเข็นเอาร่างบางออกไปต้อนรับ
“ดึกแล้ว ทำไมยังไม่เข้านอนอีก คิมแจจุง”เสียงนายหญิงของบ้านดังออกมาเป็นเชิงดุ
“เอ่อ...คุณแม่...คุณแม่ออกมารับคุณพ่อเหมือนกันใช่มั้ยฮะ”แจจุงหลุบตาต่ำอย่างหวาดกลัว
“ฉันถาม ทำไมแกถึงไม่ตอบฮะแจจุง ...ชั้นถามแกว่าทำไมถึงยังไม่นอนไม่ได้ยินหรือไง”เสียงแข็งกร้าวบวกกับแววตาเย็นชาของผู้เป็นแม่ทำเอาร่างบางสั่นราวกับลุกนก
“คะ...คือ..แจจุงยังไม่ง่วงนะฮะ...แล้วคุณแม่ยังไม่เข้านอนอีกหรือ”แจจุงถามกลับด้วยน้ำเสียงสั่น
ร่างเพรียวของหญิงสาวที่ดูยังคงสพรั่ง ไม่เหมือนกับคนเป็นแม่สักนิดเดินปรี่เข้ามาอย่างรวดเร็ว
“ฉันจะนอนหรือไม่นอนก็ไม่เกี่ยวกับแก ทำไม เดี๋ยวนี้แกคิดจะมีปัญหากับฉันหรือไงแจจุง”มือเรียวกระชากมือบางของแจจุงขึ้นมา ส่วนมีอีกข้างที่เหลือก็ไม่ปล่อยเฉย บีบคางมนแล้วสะบัดให้เงยหน้าขึ้นมองตน
“คุณแม่...ฮึก...แจจุง...แจจุงเจ็บ”แจจุงกล่าวทั้งน้ำตา ร่างบอบบางสั่นตัวโยนอยู่บนรถเข็น
“เจ็บ.....เจ็บงั้นหรือ เจ็บแล้วทำไมถึงไม่เคยจำ...ฮะ”มือเรียวสะบัดใบหน้าหวานนั่นให้หลุดออกจากมือ
“นายหญิงขา พอเถอะ คุณก็รู้คุณหนูไม่ได้ตั้งใจจะยอกย้อนหรือขัดคำสั่งนะคะ แต่ว่าวันนี้มีคุณผู้ชายมีงานใหญ่ งานอันตรายคุณหนูก็เลยนอนไม่หลับ”แม่นมเอาตัวเข้ามาขวางกลัวว่านายหญิงของบ้านจะทำอะไรแจจุงเข้าอีก
“ก็เลยขัดคำสั่งฉันงั้นสิ..คำสั่งฉันไม่มีประกาศิตสำหรับแกเลยรึไงแจจุง”มือเรียวเงื้อขึ้นกลางอากาศเตรียที่จะฟาดลงบนใบหน้าหวานแต่ก็ต้องชะงัก เมื่อเสียงประตูรถปิดลงพร้อมกับบุรุษหนุ่มนามว่าชองยุนโฮ ลูกน้องคนสนิทของประมุขได้อุ้มร่างไร้วิญญาณของผู้เป็นสามีเข้ามาได้บ้าน
“คุณพี่”ทันทีที่เห็นดังนั้งก็รีบปรี่เข้าไปหา ยุนโฮวางร่างของท่านประมุขไว้บนโซฟาตัวยาวเพื่อให้นายหญิงได้ใกล้ชิด
“คุณพ่อ..”แจจุงร้องไห้อย่างหนัก มือบางปิดใบหน้าสวยเพื่อปิดบังความอ่อนแอทั้งหมด ทันทีที่เห็นดังนั้น ยุนโฮก็เดินเข้าไปหาร่างบางทันที
“แจจุงครับ อย่าร้องนะคนดี ไป พี่จะพาไปหาคุณพ่อนะ”ยุนโอกอดประโลมแจจุงแล้วเนรถเข็นเข้าไปใกล้ๆร่างของประมุข
“คุณพ่อ....คุณพ่ออย่าทิ้งแจจุงไปแบบนี้สิฮะ”แจจุงเอื้อมมือเข้าจับขาของผู้เป็นพ่อเอาไว้แล้วร้องไห้ออกมา
“แจจุงรักคุณพ่อนะฮะ คุณพ่อไม่รักแจจุงแล้วหรือฮะ ถึงทิ้งแจจุงไปแบบนี้”แจจุงได้เพียงแค่สัมผัสร่างไร้วิญญาณแลว้ลุบไปตามแผลที่มีเลือดซึมออกมา
“ตรงนี้คุณพ่อคงเจ็บมากสินะฮะ”น้ำตาสายยาวไหลออกมาอย่างไม่คิดจะหวนกลับ
การจากไปของผู้เป็นประมุขและกระแสข่าวที่แพร่ออกสร้างความโกลาหลและหวั่นวิตกไม่น้อย
หากยังไม่มีผู้สืบทอดพรรคเอาไว้ ผู้ที่เหมาะสมและแข็งแกร่งพอ พรรคมังกรที่อยู่มานานหลายร้อยปีคงต้องล่มสลาย
เช้าวันต่อมา ทนายประจำตระกูลอ่านพินัยกรรมของผู้ตาย ทรัพย์สมบัติที่ทิ้งไว้ทั้งหมด ให้ตกเป็นของนายหญิงของบ้าน ให้นายหญิงของบ้านจัดสรรปันส่วน ดูแลรักษาเอาไว้ รวมถึง พรรคมังกร
“ฉันควรจะทำอย่างไร คังอิน คุณพี่ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้อย่างกะทันหัน หน้าที่ของประมุขพรรค ฉันรับมันไม่ไหว พอๆกับที่จะให้ฉันเห็นมันล่มสลายไปกับตาตัวเอง”นายหญิงเอนตัวพิงกับเก้าอี้หนังตัวใหญ่ในห้องทำงานของประมุข
“แต่งงานใหม่ไงครับนายท่าน”คังอินโค้งให้เล็กน้อยแล้วตอบออกมา นายหญิงถึงกลับหันมามอง แววตาและสีหน้าบ่งบอกถึงความไม่เข้าใจ
“แต่งงาน...กับใคร...ฉันไม่ได้คิดจะแต่งงานกับใครหรอกนะ..อีกอย่างคุณพี่ก็เพิ่งจะเสีย”
“แต่ถ้านายหญิงไม่แต่งงาน ไม่มีใครดูแลพรรค ระหว่างนี้พรรคเสือขาวอาจจะโค่นความเป็นหนึ่ง ไม่เพียงแค่นั้น มันอาจย่ำเราจมดินก็ได้นะครับ” นายหญิงนิ่งฟังเล็กน้อยอย่างใช้ความคิด
“แล้วเธอคิด่าจะให้ฉันแต่งกับใคร”
“ชอง ยุนโฮครับ หมอนั่นน่ะเป็นหนึ่งในพรรคเราตอนนี้ และถ้าจะเทียบบารมีแล้ว ยุนโฮน่ะเป็นคนที่นับว่ามีอำนาจน่าเกรงขามรองจากท่านประมุขเลยทีเดียว”คังอินเอ่ยออกมาอย่างมั่นใจ
“ไม่ได้หรอกคังอิน เด็กคนนั้นน่ะอายุคราวลูกฉันเลยนะ อีกอย่างเธอดูไม่ออกหรือว่าเค้ากับแจจุงลูกชายฉันน่ะ มีความสัมพันธ์ที่มากเกินกว่าคำว่าเพื่อน”เชริมกล่าวออกมาอย่างระมัดระวัง
ถึงแม้ว่าการกระทำที่แสดงออกต่อแจจุงนั้นจะเกรี้ยวกราดเพียงใด หากแต่คนในกลับรู้ดีว่าเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้น เมื่อสิบห้าปีก่อน ครั้งที่เชริมอายุเพียง22ปี แต่เนื่องจากประเพณีเก่าแก่ที่ประมุขจะไม่สามารถขึ้นครองบัลลังค์แห่งพรรคได้หากไร้ภรรยาเธอจึงแต่งงานตั้งแต่อายุสิบเจ็ด ขณะที่เชริมอายุเพียง22 ปีแต่แจจุงลูกชายคนเดียวกลับอายุ4ขวบแล้ว
“คุณเชริมครับ เราเสียใจด้วย ลูกชายของคุณถึงแม้จะร่างกายแข็งภายนอกจะแข็งแรง แต่แรงกระทบกระเทือนจากการที่รถชนทำให้แจจุงเป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงขาลงไป”เสียงหมอหนุ่มกล่าวถึงอาการของลูกชายแล้วจากไปปล่อยให้แม่ได้อยู่กับลูกชาย
นับแต่นั้นมา เธอก็ไม่อยากที่จะมองแม้แต่หน้าของแจจุง เพราะเห็นหน้าทีไรชวนให้นึกถึงอุบัติเหตุที่เธอเป็นคนพลาด ทำให้แจจุงต้องเป็นแบบนี้ เชริมพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้แจจุงเกลียดตัวเอง เพื่อชดเชยความผิด และไม่ให้เธอรู้สึกผิดไปมากกกว่านี้
..............................
..................
เมื่อได้นั่งคิดสักพักความหวั่นวิตกก็เริ่มครอบคลุมจิตใจ นี่เรากำลังจะทำร้ายลูกเป็นครั้งที่สองหรือ
“ฉันทำไม่ได้ ฉันจะทำร้ายลูกอีกไม่ได้คังอิน”ร่างบางส่ายหน้าแล้วยกมือขึ้นกุมศีรษะอย่างใช้ความคิด
“นายหญิงต้องทำ แม้ว่านี่จะเป็นการทำร้ายคุณแจจุง แต่ก็ยังดีกว่าที่จะปล่อยให้พวกพรรคเสือขาวมันฆ่าคุณหนูไปต่อหน้าต่อตา ตอนนี้สายรายงานมาว่าเหยื่อรายแรกที่พวกมันต้องการคือคุณแจจุง ถ้านายหญิงไม่รีบแต่งงาน คุณแจจุงอาจจะต้องทรมาณมากกว่านี้ ผมให้เวลาคุณอีกสิบห้านาที ส่วนเรื่องนี้ผมจะไปคุยกับยุนโฮเอง นายหญิงแค่ประกาศเรื่องนี้ให้คนในพรรคทราบก็พอ หมดธุระแล้ว ผมขอตัวนะครับ”เมื่อพูดจบคังอินก็โค้งคำนับแล้วลาออกจากห้องไป
เมื่อถึงเวลาประชุมพรรค
เหล่าสาวกพรรคต่างออกมายืนพร้อมเพรียงที่หน้าบรรลังค์ประมุขพรรค แต่การชุมนุมครั้งนี้ดูจะเป็นพิเศษเพราะแม้แต่เครืองญาติที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารพรรคอย่างคิมจุนซูหลานชายเพียงคนเดียวของประมุขและแจจุงก็ถูกเรียกมาเหมือนกัน
นายหญิงของพรรคนั่งลงที่บรรลังค์ด้วยสีหน้าเรียบเฉย เมื่อเห็นว่าคังอินพยักหน้าบอกเป็นนัยว่าได้เวลาแล้ว นายหญิงก็ประกาศออกมาเสียงเย็น
“ฉันจะแต่งงานใหม่ บุคคลคนนั้นจะขึ้นมาทำหน้าที่หัวหน้าพรรคแทนคุณโฮยอง....ฉันจะแต่งงานกับชองยุนโฮ”
เสียงทรงอำนาจลั่นวาจาบอกกล่าวให้คนในพรรคได้รับรู้
แจจุงส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ตนได้ยิน ตาคู่สวยหันไปมองยุนโฮอย่างขอคำตอบแต่ก็ได้เพียงแค่สายตาว่างเปล่าของยุนโฮก่อนที่ยุนโฮจะหลบตาลงต่ำ
“ยุนโฮ เธอจะว่าอย่างไรเรื่องการแต่งงาน”เสียงคังอิน ผู้อาวุโสในพรรคกล่าวออกมา
“ผม...ยินดี”ยุนโฮน้อมรับบัญชาแล้วโค้งต่ำให้นายหญิง เมื่อเห็นดังนั้น แจจุงที่พยายามสะกดกลั้นน้ำตาไว้ก็ถึงกับต้องปล่อยมันออกมาอย่างห้ามไม่ได้
‘คนทรยศ’ในใจคิดได้เพียงเท่านั้นก็สั่งให้แม่นมพาตนกลับเข้าไปในห้อง
เชริมหันมามองลูกชาย และพยายามสะกดแววตาสั่นระริกด้วยความสงสาร เหลือเพียงสายตาอันเคว้างคว้าง ว่างเปล่าราวกับไม่รู้สึกอะไร
ยุนโฮสะบัดหน้าหนีน้ำตาของแจจุง น้ำตาที่ราวกับมีดกรีดลึกลงบนหัวใจ
ถึงแม้ว่าคำขอโทษจะมีไว้เมื่อสายแต่ชองยุนโฮก็อยากจะพูดออกไปให้คิมแจจุงได้รู้ว่า...ขอโทษ
จุนซูที่ยืนฟังนิ่งเห็นแจจุง ที่เป็นทั้งลูกพี่ลูกน้องทั้งเพื่อนร้องไห้ ก็อดไม่ได้
“นี่มันอะไรกันครับ ใครช่วยตอบผมที คุณอาเพิ่งจะเสียได้วันเดียวอาหญิงก็จะแต่งงานใหม่เลยหรือครับ”จุนซูกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด
“หยุดเดี๋ยวนี้นะจุนซู...ฉันเป็นอาสะใภ้เธอนะ ไม่ว่าฉันะตัดสินอะไร นั่นคือเรื่องและสิทธิของฉัน เธอไม่เกี่ยว ยูชอนพาจุนซูออกไปสงบสติอารมณ์ซะ”เชริมกดเสียงให้ต่ำแล้วมองจุนซูด้วยสายตาร้าย
“ครับนายหญิง”ยูชอนโค้งให้แล้วดึงจุนซูออกมาจากห้องประชุมพรรค
..........................................................
“ปล่อยนะไอ้บ้ายูชอน”เมื่อสะบัดแขนหลุดจุนซูก็ง้างมือแล้วทาบลงบนแก้มกร้านของยูชอนทันที
“นายมันเป็นใครยูชอน มีสิทธิอะไรมาแตะตัวฉัน”จุนซูเชิดใส่อย่างถือตัว
“จุนซูใจเย็นๆได้มั้ย นาคิดหรือว่ายุนโฮอย่ากให้เป็นแบบนี้”ยูชอนถอนหายใจออกมา
“ไม่อยาก แต่ก็รับคำ เฮอะ ไปบอกเด็กอนุบาลโน่นบางทีเด็กมันคงไม่เชื่อซะด้วยซ้ำ”จุนซูสะบัดหน้าหนี นายมันก็เพื่อนกันก็เข้าข้างกันสิ
“เคยได้ยินมั้ยว่าบุญคุณต้องทดแทน ที่ผ่านมานายหญิงก็ส่งเสียยุนโฮ เป็นคนรับยุนโฮเข้าพรรค ขอร้องสารพัดให้ยุนโฮได้เทียบเท่า จนเรียกว่าเหนือคนอื่นในพรรคด้วยเหตุผลที่นายหญิงเห็นความสามารถ และนี่คือคำขอร้องจากผู้มีพระคุณ ไอ้ยุนมันปฏิเสธไม่ได้หรอก”ยูชอนอธิบายออกมาอย่างใจเย็น
“อย่าทำเป็นเอาบุญคุณมาอ้างหน่อยเลย แล้วก็ไม่ต้องมาอธิบายฉันด้วย เพราะคนที่นายกับยุนโฮควรจะต้องอธิบายไม่ใช่ฉัน แต่เป็นแจจุงต่างหาก”พูดจบ จุนซูก็สะบัดออกไปทันที
......................ห้องของแจจุง.......................
“นมฮะ ออกไปเถอะ ขอแจจุงอยู่คนเดียวสักพักเถอะนะฮะ”แจจุงที่เอาแต่นั่งนิ่งมองออกนอกหน้าต่างปล่อยให้น้ำตาไหลตั้งแต่เข้ามาในห้อง ไล่ให้แม่นมออกไป
“แต่..”
“ออกไปเถอะฮะ....แจขอร้อง....แจสัญญาว่าแจจะไม่ทำร้ายตัวเอง”แม่นมพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเดินออกจากห้องไป
.....................
“อ้าวนมฮะ ออกมาข้างนอกทำไมแล้วแจจุงล่ะ”จุนซูคว้าแขนของแม่นมเอาไว้แล้วถามด้วยความสงสัย
“อยู่ในห้องน่ะค่ะ บอกว่าอยากอยู่คนเดียว”
“อยู่คนเดียว เฮ้ออออ คิมแจจุงหนอคิมแจจุง พ่อที่เคยปกป้องทุกอย่างก็มาตายเอาแบบนี้ คนที่ตัวเองรักก็ดั๊นนจะกลายไปเป็นพ่อเลี้ยงตัวเองอีก โอ้ยยยยยย ฉันล่ะกลุ้ม จะช่วยแจยังไงเนี่ย”จุนซูเขกหัวตัวเองไปมาแล้วยีหัวตัวเองเสียจนยุ่ง
“ไม่มีใครแก้อะไรได้หรอกพี่จุนซู ทุกอย่างต้องปล่อยให้มันเป็นไปด้วยตัวมันเอง”ชางมินที่ไม่รู้เดินดุ่มมาจากไหนเอ่ยเรียบๆ
“นี่ไอ้คุณน้อง ช่วยพอะไรที่มันฟังแล้วดูฉลาดน้อยลงกว่านี้นิดได้มั้ยฮะ คือพี่มันโง่อ่ะนะ”จุนซูเอ่ยกับน้องชายต่างมารดาที่ตอนนี้นับว่าเป็นมือขวาและมันสมองของพรรคเลยทีเดียว
“ง่ายๆเลยนะ ไม่มีสัจจะในหมู่โจรแต่ว่ากับในพรรค ลิ้นคนตัดคอคนได้นะพี่จุนซู ถ้าพูดอะไรไว้กับประมุขถ้าไม่ทำเช่นนั้น ก็เท่ากับฆ่าตัวเองทางอ้อม”ชางมินพูดจบก็เดินขึ้นบนบ้านอย่างไม่ใส่ใจ
“นมฮะ ผทมขอตัวไปดูก่อนนะฮะ ไม่รู้ป่านนี้ร้องไห้จนหลับตกรถเข็นไปรึยัง”พูดจบคนตัวเล็กก็รีบวิ่งไปยังห้องของแจจุง
ทั้งๆที่เป็นลูกของประมุขใหญ่ แต่กลับต้องอยู่ชั้นล่างสุดของคฤหาสน์ ทั้งๆที่เป็นลูกคนเดียว แต่แม่กลับเย็นชาและเฉยเมน ดูออกจะรังเกียจเสียด้วยซ้ำ ทั้งที่ควรจะได้ทุกสิ่งทุกอย่างรวมทั้งอิสรภาพ แต่แจจุงกลับไม่ได้มันเลยแม้สิ่งเดียว
คิมแจจุง ฉันล่ะสงสารนายจริงๆ
ความคิดเห็น