[fic เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้ว] เกิดใหม่ในต่างโลกด้วยความสามารถทั้งหมดของ ZORO - นิยาย [fic เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้ว] เกิดใหม่ในต่างโลกด้วยความสามารถทั้งหมดของ ZORO : Dek-D.com - Writer
×

    [fic เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ไปซะแล้ว] เกิดใหม่ในต่างโลกด้วยความสามารถทั้งหมดของ ZORO

    ในป่าแห่งหนึ่ง ได้มีร่างของชายคนหนึ่งที่มีทรงผมสีเขียวและมีเสื้อผ้าเป็นสีดำพร้อมกับดาบสามเล่มที่อยู่ข้างกาย

    ผู้เข้าชมรวม

    878

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    39

    ผู้เข้าชมรวม


    878

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    24
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  8 ก.ค. 66 / 20:27 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    แนะนำตัวและความสามารถของ ZORO


    ชื่อ โซโล


    อายุ 21


    ส่วนสูง 181


    สัญชาติ ญี่ปุ่น


    บุคคลิกและนิสัย โซโลเป็นคนจริงจัง ชอบดื่มเหล้า ไม่เชื่อในพระเจ้า และพูดตรงไปตรงมา เมื่อถึงเวลาต่อสู้จะจริงจังเสมอ แล้วยังเป็นคนชอบกินปลาและตกปลาอีก


    ดาบที่ถือครอง 1. ดาบสีขาว วาโด อิจิมอนจิ (ญี่ปุ่น: 和道一文字 Wado Ichimonji ) เป็นดาบเล่มสำคัญที่สุดของโซโร ซึ่งเป็นดาบของอดีตคู่แข่งคนสำคัญของเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว ปกติโซโรจะคาบเล่มนี้ไว้ที่ปากถ้าใช้ครบ 3 เล่ม และพกติดตัวเพื่อระลึกถึงเธอเสมอ


    2. ดาบสีแดง ซังได คิเทซึ (ญี่ปุ่น: 三代鬼彻 Kitetsu Sandai ) ดาบอาถรรพ์ ใครถือดาบนี้มีอันเป็นไปเป็นดาบที่เลือกผู้ใช้ โซโรทดสอบโดยการโยนขึ้นและปล่อยให้ดาบหมุนลงมาหาแขน ปรากฏว่าไม่เป็นไร ลุงเจ้าของร้านดาบในเมือง โลคทาวน์ ของร้านจึงยกให้ จะใช้มือซ้ายถือดาบเล่มนี้


    3. ดาบเอ็นมะ (ญี่ปุ่น: 閻魔刀 Enma ) ได้มาจาก ฮิโยริหลังจากคืนดาบชูซุยสู่แคว้นวาโนะเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเอ็นมะเป็นดาบที่สร้างบาดแผลกลางอกของไคโดได้ ฮิโยริได้ดาบมาจากโอเด้ง โอเด้งมอบดาบให้คนละเล่ม และดาบอาเมะ โนะ ฮาบาคิริอีกเล่มตกเป็นของโมโมโนะสุเกะ พี่ชายของฮิโยริ


    พลังและความสามารถ 1. วิชา 3 ดาบ 2. ฮาคิเกราะชั้นสูง 3. ฮาคิสังเกต 4. ฮาคิราชันย์ 5. พละกำลังสูง 6. กล้ามเนื้อแข็งแรง 7. วิชาไรดาบ  8. วิชา 2 ดาบ 9. กินเหล้า


    ท่าโจมตีต่างๆ


    วิชาไร้ดาบ (มุโทริว 無刀流)


    มังกรสลาตัน (龍巻き ทัตสึ มากิ, แปลตรงตัวว่า "มังกรหมุน"): การเคลื่อนไหวของวิชานี้ก็ไม่ต่างอะไรกับท่ามังกรสลาตันของวิชาสามดาบ เพียงแค่ใช้แขนของตัวเองแทนดาบซึ่งแน่นอนว่าไร้ซึ่งความคมแต่ก็ยังส่งคู่ต่อสู้ขึ้นกลางอากาศได้ และแทนที่ความคมนั้นด้วยแขนอันทื่อตรงที่สามารถสร้างคลื่นสะท้อนเข้าไปในร่างกายของศัตรูผู้โชคร้ายและสร้างอาการเจ็บช้ำได้ ใช้เป็นครั้งแรกในภาคเดวี่แบ็คไฟท์ตอนถูกริบดาบในการประลอง




    วิชาดาบเดียว (อิทโทริว 一刀流)


    「วิชาที่โซโลใช้ด้วยดาบเล่มเดียว เนื่องจากว่าโซโลนั้นถนัดซ้าย วิชาดาบเดียวของเขาเกือบทั้งหมดจึงถูกใช้ด้วยมือซ้าย เขามักจะใช้วาโด อิจิมอนจิกับวิชานี้ แต่อีกสองปีให้หลังเขาก็เชี่ยวชาญจนสามารถใช้ดาบใดก็ได้ในสามดาบของเขาเมื่อใช้ท่า เขามักจะสู้ด้วยวิชาดาบเดียวเมื่อไม่ได้สู้แบบจริงจังหรือต้องใช้วิชาตัดผ่าโดยเฉพาะ ในช่วงแรก ๆ ของวันพีซ โซโลนั้นกล่าวว่าเขา "ใช้วิชาดาบเดียวได้ไม่เก่งสักเท่าไหร่" แต่ทว่า เมื่อเวลาผ่านพ้นไป เขาก็ทำการอุดจุดอ่อนนี้ลงและใช้วิชานี้ได้อย่างคล่องแคล่ว ซึ่งในความจริงแล้ว วิชาดาบเดียวของเขาส่วนใหญ่มักเป็นวิชาเผด็จศึกที่ทรงพลังมาก」



    วิชาดาบเดียว อิไอ: ลำนำราชสีห์ (一刀流 「居合」 獅子歌歌 อิทโทริว อิไอ: ชิชิ ซงซง, แปลตรงตัวว่า "วิชาดาบเดียว ชักดาบกลับ: เพลงของสิงโต"):

    วางดาบในฝักให้ตั้งฉากกับพื้นและฟัง "ลมหายใจ" ของคู่ต่อสู้ ผู้โจมตีก็ชักดาบออก ฟัน และชักดาบของตนเข้าฝักด้วยความเร็วสูง จุดที่น่าสังเกตก็คือโซโลใช้วิชานี้ด้วยการจับดาบแบบกลับด้าน (หงายมือขึ้น) และเอาดาบไว้ด้านข้างและอยู่เหนือหัวซึ่งตรงกันข้ามกับแบบทั่วไปที่จับดาบแบบปกติ (คว่ำมือลง) และเอาดาบไว้ตรงระดับสะโพก เป็นวิชาดาบเดียวท่าแรกของโซโลและจะใช้ท่านี้ก็ต่อเมื่อต้องผ่าเหล็กให้ขาดอย่างร่างเหล็กของ Mr. 1 และกายาเหล็กของคาคุ ชิชิ ซงซง (子子孫孫, คันจิคนละตัวกับชื่อท่า) เป็นสุภาษิตสี่พยางค์ที่หมายถึง "ทายาท" หรือ "ความเจริญรุ่งเรือง"



    ตัณหาสามสิบหกประการ (三十六煩悩 (ポンド) 鳳 ซันจูโรคุ พนโดะ โฮ ตัวคันจิหมายถึง "หงส์เพลิงแห่งกิเลสสามสิบหกประการ", ตัวฟูริงะนะหมายถึง "ปอนด์หงส์เพลิง/ปืนใหญ่"):

    ท่าโจมตีนี้จะใช้คลื่นอากาศเพื่อผ่าศัตรูในระยะไกล เมื่อจะใช้มัน โซโลต้องถือดาบแนวนอนอยู่เหนือไหล่ข้างที่ถือดาบ และทำการฟันเป็นวงกลมที่ปล่อยกระสุนอากาศบีบอัดหมุนไปยังคู่ต่อสู้ โซโลอธิบายท่านี้เป็นท่า คมมีดอากาศ ที่ทรงพลังมาก ใช้เป็นครั้งแรกตอนสู้กับบราฮัมในภาคสกายเปีย ชื่อท่านี้นั้นจริง ๆ แล้วเป็นมุกตลก: มันถูกเขียนเป็น "หงส์เพลิงแห่งกิเลสสามสิบหกประการ" ในมังงะ ซึ่งเมื่ออ่านความหมายไม่ค่อยตรงตัวที่ติดมาด้วยแล้วออกเสียงก็จะกลายเป็น "ปืนใหญ่ 36 ปอนด์" แทน:



    •โฮ (ほう) เป็นได้ทั้ง "ปืนใหญ่" หรือ "หงส์เพลิง"; แต่ทว่าตัวคันจินั้นดันใช้แบบของหงส์เพลิง (鳳) ทำให้เป็นความหมายตรงตัวและมีมุกตลกที่อ่านเป็น "ปืนใหญ่" ก็ได้เช่นกัน ซึ่งก็หมายถึงได้ทั้งสองแบบ โฮ ก็เป็นคำอ่านภาษาญึ่ปุ่นของคำจีน เฟิง


    •พอนโดะ (ポンド) เป็นคำอ่านไม่ตรงตัวของ บอนโน (煩悩, กิเลส)* แล้วก็อ้างอิงถึงคาลิเบอร์ (อัตราส่วนระหว่าง ความกว้างปากลำกล้อง กับ ความยาวลำกล้อง) ของปืนใหญ่อีกด้วย (เช่นปืนใหญ่ 36 คาลิเบอร์ ก็ยิงลูกปืนใหญ่หนัก 36 ปอนด์ เป็นต้น)



    มังกรเหิน: เปลวเพลิงผลาญ (飛竜火焔 ฮิริว: คาเอน, แปลตรงตัวว่า "มังกรเหิน: เปลวเพลิง"):

    ใช้เพียงดาบเดียวถือในมือซ้ายและใช้มืออีกข้างจับข้อมือเพื่อประคองไว้ (หรือสลับข้างกัน) โซโลก็กระโดดสูงไปบนอากาศแล้วฟันคู่ต่อสู้ หลังจากถูกฟันแล้ว ศัตรูคนที่โดนก็จะมีไฟลุกไปทั่วร่างจากแผลถูกฟัน มันถูกใช้เป็นครั้งแรกตอนสู้กับซอมบี้ซามูไรริวมะ อสูรหรือสัตว์ที่มักจะปรากฏตัวในพื้นหลังเวลาโซโลใช้ท่าอานุภาพสูงก็คือมังกรตะวันตก ซึ่งมังกรตัวนี้มีรูปร่างคล้ายคลึงกับมังกรที่ถูกฆ่าโดยจักรพรรดิริวมะในผลงานก่อนของโอดะ มอนสเตอร์ อย่างมาก รวมถึงฉากที่โซโลใช้ท่านี้ฟันริวมะก็คล้ายกับฉากในมอนสเตอร์ที่ริวมะสังหารมังกรลง ตัวคันจิ "คาเอน" ก็สามารถเขียนเป็น 火炎 (เปลวเพลิง) ได้เช่นกัน



    วิหคอาภัพ (厄港鳥 ยัคโคโดริ, แปลตรงตัวว่า "นกชายฝั่งผู้อับโชค"):

    โซโรฟันดาบของตนเป็นคมมีดรูปทรงจันทร์เสี้ยวอัดอากาศไปยังศัตรูด้วยความเร็วสูง เช่นเดียวกับตัณหาสามสิบหกประการ "ยัคโค โอโดริ" เป็นการเต้นรำแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ใช้เป็นครั้งแรกตอนสู้กับโฮดี้ โจนส์ มันทรงพลังขนาดที่ทำให้ลูกน้องของโฮดี้บาดเจ็บอย่างหนักได้ตอนโฮดี้ใช้เขาเป็นโล่



    ตัณหาสามร้อยหกสิบประการ (三百六十煩悩鳳 ซันบยาคุโรคุจู พนโดะ โฮ, แปลตรงตัวว่า "หงส์เพลิงแห่งกิเลสสามร้อยหกสิบประการ" หรือ "ปืนใหญ่ 360 ปอนด์"):

    โซโลส่งท่าอัพเกรดของตัณหาสามสิบหกประการ ซึ่งน่าจะแข็งแกร่งกว่าอันเก่า 10 เท่าตัว ใช้เป็นครั้งแรกกับปลายักษ์ที่กลุ่มโจรสลัดจับได้ตอนเดินทางสู่โลกใหม่ มุกตลกของชื่อเก่าก็ใช้ได้กับท่าประเภทนี้ทุกท่าเช่นกัน



    วิชาดาบเดียว อิไอ: ลำนำราชสีห์มรณะ (一刀流 「居合」 死・獅子歌歌 อิทโทริว อิไอ: ชิ-ชิชิ ซงซง, แปลตรงตัวว่า "วิชาดาบเดียว ชักดาบกลับ: เพลงของสิงโตมรณะ"):

    ท่าอัพเกรดของ "ลำนำราชสีห์" อันเก่า เมื่อโซโลฟันดาบของตนด้วยความเร็วและความแรงมหาศาลในการชักดาบกลับเพื่อฟันคู่ต่อสู้ ท่านี้ยังคงใช้ท่าจับแบบกลับด้านอยู่ ทว่าโซโลไม่ได้ชักดาบจากด้านข้างและเหนือศรีษะอีกต่อไป เพียงแต่ชักดาบออกมาในระดับสะโพกตามปกติ การโจมตีนี้มันทรงพลังพอที่สามารถสังหารอสูรในตำนานอย่างมังกรได้อย่างง่ายดาย ถูกเห็นเป็นครั้งแรกตอนสังหารมังกรที่อยู่ในพังค์ ฮาซาร์ด ตอนโซโลใช้ท่านี้นั้นมักจะกระโดดขึ้นฟ้าด้วยกำลังขาเพียว ๆ (หรือเอาของภายนอกช่วยเหมือนคราวอุซป) แล้วก็ใช้ดาบในปากฟันคู่ต่อสู้ในลมกรด ท่าเวอร์ชั่นนี้จะถูกใช้กลางอากาศ (ตอนโซโลพุ่งกลางอากาศเป็นระยะ ๆ)



    มังกรยักษ์คำราม (大辰撼 ไดชินคัน, แปลตรงตัวว่า "คลื่นช็อคมังกรยักษ์"):

    ใช้เป็นครั้งแรกในแบบท่าเผด็จศึกกับโมเน็ต ท่านี้ประกอบไปด้วยโซโลวิ่งเข้าไปหาคู่ต่อสู้ด้วยถือ ชูซุย (秋水, แปลตรงตัวว่า "น้ำฤดูใบไม้ร่วง")

    ในแขนที่ยื่นออกมาข้างหนึ่ง จากนั้นเขาก็ฟันเหนือหัวผ่าแยกร่างของคู่ต่อสู้จากบนจรดล่าง พลังของท่านี้นั้นมันมากจนแม้ตัดร่างหิมะของโมเน็ตขาดครึ่งไปแล้ว การโจมตียังคงก่อให้เกิดช็อคเวฟที่แรงมากจนผ่าพื้นที่ห่างออกไปหลายเมตรได้ ชิน/ทัตสึ (辰) เป็นคำภาษาญี่ปุ่นในการเรียกราศีมะโรง ส่วนตัว (撼) แปลตามตรงก็คือ "ขยับ" เฉย ๆ ซึ่งในสองกรณีนี้ ชื่อท่านั้นน่าจะเป็นมุกมาจากคำว่า ชินคัน (震撼) ที่หมายถึงการ "เขย่า"



    อาชาปีศาจ (馬鬼 (バキ) บากิ, แปลตรงตัวว่า "ม้าปีศาจ"):

    หลังจากถือดาบมาอยู่เหนือศรีษะแล้ว โซโลก็ส่งท่าฟันแนวตั้งอานุภาพสูงไปยังคู่ต่อสู้ การโจมตีนี้สามารถผ่าผ่านหินได้อย่างง่ายดาย ใช้เป็นครั้งแรกเมื่อสวนท่าไบท์สโตนของพิก้า


    วิชาสองดาบ (นิโทริว 二刀流)


    「วิชาสองดาบนี้คือวิชาแรกและวิชาดั้งเดิมที่โซโลใช้เมื่อเริ่มเรียนรู้วิถีแห่งดาบ ก่อนที่จะรับดาบของคุอินะและฝึกฝนวิชาสามดาบ และเป็นวิชาที่โซโลใช้ถนัดที่สุดในบรรดาวิชาดาบต่าง ๆ


    (เกร็ดความรู้: วิชาสองดาบของโซโลนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากนิเท็น อิจิริว (วิชาสองนภารวมเป็นหนึ่ง) หนึ่งในวิชาดาบของซามูไรวิชาแรกที่มุ่งไปยังการถือดาบสองมือในการรบ (และถูกทำให้เป็นที่รู้จักโดยนักดาบบรรลือโลกอย่างมิยาโมโตะ มุซาชิ) และวิชาสองดาบนี้เป็นวิชาเดียวที่โซโลไม่เคยใช้ในการเผด็จศึกกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งเลย)」



    เกลียวคลื่นนขทารณ์ (鷹波 ทาคา นามิ, แปลตรงตัวว่า "คลื่นเหยี่ยว"):

    เมื่ออยู่กลางอากาศแล้ว โซโลก็สร้างลมแรงเพื่อทำให้คู่ต่อสู้กระเด็นไปทั่ว มันถูกใช้ครั้งแรกเพื่อกำจัดสายลับของบาร็อกเวิร์คส์หลายคนในวิสกี้ พีค ท่านี้ก็สามารถใช้ได้เมื่ออยู่บนดินเช่นเดียวกัน โซโลกล่าวว่าท่านี้ใช้ได้ดีในการกวาดกลุ่มพวกอ่อนแอ มุกตลกของชื่อนี้คือตรงที่ "ทาคานามิ" มันไปพ้องเสียงกับอีกคำที่แปลว่า "คลื่นสูง" ในภาษาญี่ปุ่น ท่านี้คือท่าแรกที่โซโลใช้ที่ไม่ใช่วิชาสามดาบในเรื่อง



    นอแรดควงสว่าน (犀回 ไซ คุรุ, แปลตรงตัวว่า "แรดหมุนตัว"):

    โซโลถือดาบของตนแล้วชี้ไปยังข้างหน้า เหมือนกับนอของแรด และหมุนด้วยความเร็วสูง มันถูกใช้เป็นครั้งแรกกับแฟรงกี้ แฟมิลี่เมื่อพวกเขา "ลอบโจมตี" โซโลบนโกอิ้ง เมอร์รี่ เป็นมุกจากการอ่านคำว่า "ไซเคิล" (วงจร) ของภาษาอังกฤษในภาษาญี่ปุ่น (ไซคุรุ)




    วิชาสองดาบ อิไอ: ประตูใยชีพ (二刀流 「居合」 羅生門 นิโทริว อิไอ: ราโชมอน, แปลตรงตัวว่า "วิชาสองดาบ ชักดาบกลับ: "ประตูใยชีวิต"):

    วิชาชักดาบกลับสองเล่มที่ทรงพลังพอที่จะตัดสิ่งกีดขวางขนาดใหญ่ให้ผ่าครึ่งได้ โซโลชักดาบของตนออก และชักดาบกลับเข้าฝักอย่างรวดเร็ว จนผ่าขบวนโดยสารรถไฟให้ขาดครึ่งได้ จากที่มันถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 789 ประตูเมืองราโชมอนนั้นเป็นประตูที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงมากที่สุดในเกียวโต ชื่อของท่านี้จึงน่าจะมาจากความหมายแฝงของสองประตู/สองดาบ และเป็นท่าที่ "โอ่อ่า" ที่สุดในบรรดาวิชาสองดาบ มันถูกเผยให้เห็นครั้งแรกตอนมันถูกใช้ผ่าสองขบวนรถโดยสารรถไฟเดินทะเลที่เต็มไปด้วยทหารเรือและสายลับของรัฐบาลโลก (ไม่มีใครในขบวนรถถูกผ่าครึ่งนะ)



    ตัณหาเจ็ดสิบสองประการ (七十二煩悩 (ポンド) 鳳 นานาจูนิ พอนโดะ โฮ, แปลตรงตัวว่า "หงส์เพลิงแห่งกิเลสเจ็ดสิบสองประการ" หรือ "ปืนใหญ่ 72 ปอนด์"):

    ในรูปแบบเดียวกับตัณหาสามสิบหกประการ ด้วยการถือดาบเหนือไหล่ในแนวนอน โซโลก็ทำการฟันวงดาบที่ส่งคมมีดอากาศสองอันพุ่งเข้าไปหาศัตรูแทนอันแค่เดียว ทำให้มีพลังมากกว่าท่าเดิมถึงสองเท่า ใช้เป็นครั้งแรกเพื่อโต้กลับท่า "เท้าวายุ: สายฟ้าขาว" ของคาคุ







    เฉือนสองคม (弐斬り นิกิริ, แปลตรงตัวว่า สองคม):

    ท่าเตรียมโจมตีที่ดาบสองเล่มถูกวางขนานกันให้ปลายดาบอยู่ด้านซ้ายหรือด้านขวาเหมือนกัน ท่านี้จะเป็นเหมือนท่าเตรียมสำหรับ: ไต่หอสูง ตกหอสูง ประกายแสง วาดทราย และหมีอสูร มุกตลกของชื่อนี้มาจากซูชิ ตัว "นิกิริ" ใน "นิกิริซูชิ" นั้นแปลคร่าว ๆ ได้เป็น "ห่อม้วนด้วยมือ" ถูกใช้เป็นครั้งแรกตอนสู้กับคาคุร่างยีราฟ




    ไต่หอสูง (登楼 โทโร่, แปลตรงตัวว่า "ปีนหอคอย"):

    กระสุนอากาศสองอันถูกฟาดเสยอากาศขณะที่โซโลกระโจนขึ้นและแกว่งดาบขึ้นไปข้างบน มุกตลกของชื่อนี้คือ "โทโร่" นั้นคือส่วนเนื้อทูน่าราคาแพงสำหรับทำซูชิ; เนื่องจากมีส่วนมันในเนื้อมากกว่าเนื้อทูน่าปกติ ขณะที่ตัวคันจิเป็นศัพท์เวลาปีนหอคอยจริง ๆ (หรือ "ปีนไปเยี่ยมซ่อง") จุดที่ต่างออกไปอีกอย่างคือตัว "โทโร่" ของทูน่านั้นจะไม่มีสระต่อท้าย ขณะที่ "โทวโร่ว" สำหรับปีนหอคอยนั้นจะมีสระ "อุ" สองสระต่อท้ายพยางค์เมื่อเขียนในโรมันจิ ถูกใช้เป็นครั้งแรกตอนสู้กับคาคุร่างยีราฟ




    ตกหอสูง (応登楼 โอโทโร่, แปลตรงตัวว่า "ตอบรับปีนหอคอย"):

    กระสุนอากาศสองอันถูกฟาดลงพื้นดินขณะที่โซโลตกลงมาและแกว่งดาบลงไปข้างล่าง โดยที่มีแรงโน้มถ่วงเสริมแรงโจมตีเพิ่มเข้าไปอีกด้วย มุกตลกในนี้ก็คือ "โอโทโร่" เป็นเนื้อทูน่าสำหรับทำซูชิที่แพงขึ้นไปอีก จากตรงส่วนท้องที่กล่าวว่าเป็นเนื้อที่อร่อยที่สุดของปลาทูน่า (ถึงแม้ว่าในโรมันจิ ตัวคันจิของ "ตอบกลับ" มันมีสระ "อุ" ต่อท้ายเป็น "โอว" แทน "โอ" ธรรมดา ทำให้อ่านเป็น "โอวโทวโร่ว") ถูกใช้เป็นครั้งแรกตอนสู้กับคาคุร่างยีราฟ




    ประกายแสง (閃 ฮิราเมคิ, แปลตรงตัวว่า "ประกายแสง"):

    กระสุนอากาศสองอันถูกฟาดไปข้างหน้าหลังจากแกว่งดาบทั้งสองเล่มไปทางซ้ายหรือทางขวา มุกตลกของชื่อนี้คือที่ "ฮิราเมคิ" เป็นบุฟเฟ่ต์ซูชิชนิดหนึ่ง ขณะที่ "ฮิราเมคิ" ก็เป็นคำอ่านคุนโยมิของตัวคันจิเช่นกัน




    วาดทราย (砂紋 ซามอน, แปลตรงตัวว่า "วาดทราย"):

    กระสุนอากาศสองอันถูกฟาดในแนวทแยงลงมาฝั่งซ้ายหรือขวาก็ได้จากทิศทางที่ฟันลงทั้งสองดาบ มุกตลกของชื่อนี้คือมันมีเสียงคล้ายกับปลาแซลมอน ซึ่งเป็นปลาที่เอามาทำซูชิอยู่ทั่วไป ถูกใช้เป็นครั้งแรกตอนสู้กับคาคุร่างยีราฟ




    หมีอสูร (魔熊 มากุมะ, แปลตรงตัวว่า "หมีปีศาจ"):

    ท่าฟันดาบลงมาด้วยดาบสองข้างลงไปยังคู่ต่อสู้ ถูกใช้เป็นครั้งแรกตอนสู้กับริวมะ ชื่อนี้อาจจะเป็นมุกตลกภาษาญี่ปุ่นของการอ่านออกเสียง "แมกม่า" (มากุมะ) ก็เป็นได้




    ฟันดาบยักษ์ (大撃剣 ไดเกกเคน, แปลตรงตัวว่า "ดาบฟันดาบยักษ์"):

    โซโลทิ่มดาบทั้งสองของเขาลงไปยังเฮฟวี่นันชัคของแฟรงกี้และฟาดคู่ต่อสู้ด้วยเสานั้น ถูกเห็นเป็นครั้งแรกตอนสู้กับออส "เกกเคน" แปลตรงตัวเป็น "ดาบพุ่ง/โจมตี" ซึ่งเกี่ยวข้องกับศัพท์เฉพาะของกีฬาฟันดาบในประเทศญี่ปุ่น



    วิชาสามดาบ (ซันโทริว 三刀流)


    「โซโลสามารถใช้ทั้งวิชาสาม สอง และหนึ่งดาบได้ทั้งหมด เมื่อเขาใช้สามดาบแล้ว ดาบเล่มที่สาม (ซึ่งปกติคือวาโด อิจิมอนจิ) จะถูกคาบเอาไว้ในปาก ชื่อท่าของเขาส่วนใหญ่นั้นเป็นมุกตลกจากการที่นำคำในภาษาญี่ปุ่นมาต่อกัน เมื่อเอาคำเหล่านั้นมาอ่านออกเสียงแล้ว พวกมันอาจจะมีเสียงพ้องกับคำภาษาญี่ปุ่นที่ความหมายต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยส่วยใหญ่มักจะกล่าวถึงการปรุงอาหาร และซูชิในหลาย ๆ กรณี อีกอย่าง ถึงแม้โซโลจะไม่นับถือศาสนาก็ตาม ชื่อของบางท่านั้นจะกล่าวถึงศาสนานั้น ๆ ด้วย ในหลายวโรกาสชื่อท่าของเขาก่อนและหลังสองปีมักจะใช้ธีมสัตว์ (กอริลล่า เสือ มังกร ฯลฯ)」


    ดาบปราบอสูร (鬼斬り โอนิ กิริ, แปลตรงตัวว่า "ผ่าอสูร"):

    ท่าเอกลักษณ์ของโซโล เป็นการฟันสามครั้งในครั้งเดียว โซโลทำการไขว้ดาบสองดาบข้างหน้าอกของตนและวางดาบในปากให้อยู่หลังสุด จากนั้นเขาก็พุ่งไปหาศัตรู (โดยปกติด้วยความเร็วสูง) และตัดผ่านโดยแกว่งดาบข้ามอกของตนไป ทำให้เกิดรอยฟันแนวขวางกากบาทลงล่างจากทั้งสองดาบขณะที่ดาบเล่มที่สามสร้างรอยฟันแนวนอนขึ้นในด้านที่โซโลวางดาบไว้


    มุกตลกในชื่อนี้คือ "โอนิกิริ" นั้นหมายถึงข้าวปั้นในภาษาญี่ปุ่น (ซึ่งเป็นอาหารโปรดของโซโลด้วย) ได้เช่นกัน ขณะที่ตัว "โอนิ" นั้นเป็นยักษ์/ปีศาจชนิดหนึ่งในตำนานญี่ปุ่น (สามารถอ่านเป็น "ผี" ชนิดหนึ่งในภาษาจีนที่ตรงกับคำอ่านคุนโยมิและคำอ่านพินอิน) ใช้เป็นครั้งแรกเพื่อสยบคาบาจิ และเป็นท่าแรกที่เขาใช้กับจูลาคิล มิฮอว์ค


    แต่ตอนที่สู้กันนั้นก็พบเจอจุดอ่อนหลักของท่านี้ นั่นคือมันจะมีชั่วขณะหนึ่งที่ทั้งสามดาบจะเรียงต่อกันไปข้างหลัง (จุดตัด) และถ้าสามารถหยุดการโจมตีในขณะนั้นสำเร็จ ท่าโจมตีนี้ก็จะหมดพลังในทันที มิฮอว์คทำมันได้โดยใช้มีดจี้ห้อยคอหยุดดาบข้างหน้าสุดเอาไว้ตอนที่โซโลใช้มัน ทว่าการทำแบบนี้จะต้องใช้แรงมหาศาล มากกว่าตัวโซโลเองหรือไม่งั้นเขาก็จะผลักการป้องกันออกไปแล้วโจมตีเข้าอยู่ดี เหมือนตอนที่โซโลสู้กับฮัจจัง ท่าโจมตีนี้มีพลังพอ ๆ กับบาซูก้ายางยืดของลูฟี่และท่าจมูกพิฆาตของคาคุ และเป็นท่าเดียวที่โซโลไม่พูดคำว่า "วิชาสามดาบ" ก่อนเอ่ยชื่อท่า




    ดาบเพลิงปราบอสูร (焼鬼斬り ยาคิ โอนิ กิริ, แปลตรงตัวว่า "ผ่าอสูรเผาไหม้"):

    ท่าโจมตีรูปแบบหนึ่งของดาบปราบอสูรที่ดาบของโซโลชโลมด้วยเปลวเพลิง หากโดนการโจมตีนี้เข้าไป คู่ต่อสู้ก็จะลุกเป็นไฟ เมื่อเอามาเชื่อมกันกับมุกตลกข้างบนเกี่ยวกับ "ข้าวปั้น" ก็จะเปลี่ยนความหมายเป็น "ข้าวปั้นย่าง" โซโลใช้ท่านี้ครั้งแรกเพื่อช่วยอุซปจากการระเบิดโดย Mr. 5 จุดด้อยของท่านี้คือโซโลจะถูกเผาด้วยเช่นกันเมื่อใช้ท่านี้




    ราตรีไร้นิทราปีศาจนงลักษณ์ดาบปราบอสูร (艶美魔夜不眠鬼斬り เอ็นบิมะ โยเนซุ โอนิ กิริ, แปลตรงตัวว่า "ผ่าอสูรคืนที่ปีศาจมีเสน่ห์ไม่หลับใหล"):

    รูปแบบที่แข็งแกร่งขึ้นของท่าดาบปราบอสูรเมื่อดาบทั้งหมดถูกหมุนควงระหว่างการฟันเพื่อเพิ่มแรงโจมตี ทำให้โดนคู่ต่อสู้หลายคนแทนโดนแค่คนเดียวเหมือนต้นตำรับ มุกตลกในชื่อนี้มันเชื่อมกับมุกข้าวปั้นของดาบปราบอสูรตรงที่เมื่อใส่ "เอบิ มาโยเนเอซุ" เข้าไป ชื่อของมันก็แปลออกเป็น "ข้าวปั้นกุ้งมายองเนส" ได้เช่นกัน ในภาษาญี่ปุ่นนั้น; "โยเนซุ" อย่างเดียวโดยไม่มีสระ "เอะ" ตามหลังก็เป็นศัพท์เรียกน้ำส้มสายชูหมักจากข้าว (เหมือนกับ "โคเมสุ/โคเมซุ") ถูกใช้เป็นครั้งแรกกับกองทหารเรือในศาลพิพากษาของเอนิเอส ล็อบบี้ เมื่อใช้ท่านี้ โซโลก็สร้างไอน้ำที่ทำให้ดาบของตนบิดเบี้ยวไปมา และเพื่อเพิ่มภาพลักษณ์ของท่านี้ก็จะมีปีศาจสวมผ้าคลุม (ในอนิเมะมีตาแดงเพิ่มเข้าไปด้วย) ปรากฏอยู่ข้างหลังเขาตอนใช้ท่า




    ดาบล่าพยัคฆ์ (虎狩り โทระ การิ, แปลตรงตัวว่า "ล่าเสือ"):

    โซโลถือดาบสองข้างของตนอยู่เหนือดาบในปากและฟันลงไปข้างหน้า เมื่ออยู่ในระยะเผาขนแล้ว ท่านี้ก็สามารถสยบคู่ต่อสู้ฝีมือธรรมดาสองคนได้ในทีเดียว เมื่อโซโลใช้ท่านี้แล้ว ออร่ารูปหัวเสือก็ถูกเห็นข้างหลังเขา มุกตลกของชื่อนี้คือ "โทราการิ" เป็นทรงตัดโมฮอว์กชนิดหนึ่งในญี่ปุ่น ใช้เป็นครั้งแรกเพื่อพิชิตพี่น้องเนียบัน




    วิชาสามดาบ เพลงดาบลับ: สามพันโลก (三刀流奥義 三・千・世・界 ซันโทริว โอกิ ซันเซ็น เซไค, แปลตรงตัวว่า "วิชาสามดาบ ท่าลับ: สามพันโลก"):

    โซโลถือดาบทั้งสองในมุมตรงข้ามกันและหมุนด้วยความเร็วสูงขณะที่พุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้เพื่อสร้างโมเมนตัม จากนั้นเขาก็ฟันศัตรูด้วยพลังและความเร็วทั้งหมดเข้าด้วยกัน ใช้เป็นครั้งแรกเพื่อเอาชนะจูลาคิล มิฮอว์ค จากชื่อท่านี้นั้น บ่งบอกได้ว่านี่คือท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของวิชาสามดาบ แต่กลับใช้แบบผลสำเร็จครั้งแรกตอนสู้กับออสหลังจากการปรากฏตัวครั้งแรกของท่านี้ถึง 429 ตอน เมื่อโซโลสร้างรอยฟันขนาดยักษ์สามอันประทับร่างของออสตอนใช้มัน





    โซโลใช้ท่านี้ได้คล่องขึ้นหลังจากสองปีให้หลัง ทำให้สามารถเตรียมใช้ท่านี้ขณะลอยกลางอากาศได้และใช้พร้อมกับที่ดาบของเขาถูกคลุมด้วยฮาคิเกราะอีกด้วย ซึ่งถูกใช้เป็นครั้งแรกหลังจากไทม์สคิปตอนเอาชนะพิก้า





    ความหมายของชื่อนี้มาจากความเชื่อของจักรวาลในพระพุทธศาสนา (เดี๋ยวอธิบายในภายหลัง) แต่ว่าตอนใช้กับมิฮอว์คโซโลกลับหมุนทั้งสองดาบคนละด้านกัน โดยหมุนดาบข้างขวาตามเข็มนาฬิกาและหมุนข้างซ้ายทวนเข็มนาฬิกา



    หมาป่าพลิ้วไหว (刀狼流し โทโร นางาชิ, แปลตรงตัวว่า "กระแสดาบหมาป่า"):

    ในระยะใกล้ โซโลเอนเข้ามาหาศัตรู ใช้ดาบทั้งสองของเขาปัดการโจมตีของตู่ต่อสู้พร้อมกับหมุนตัวไปมาขณะที่ขยับเข้าใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ และหลบการโจมตีอื่น ๆ (ถ้ามี) จนตัดเข้าท้องของคู่ต่อสู้ด้วยดาบเล่มที่สามในที่สุด มันถูกใช้ในการต่อสู้ระหว่างโซโลกับฮัจจัง โซโลเคยใช้ท่านี้แบบกลางอากาศกับบาร์โธโลมิว คุมะเพื่อหลบปืนแรงดันต่อเนื่องของเขาอย่างเชี่ยวชาญ และคงจะหลบการโจมตีทั้งหมดพ้นและโจมตีโดนถ้าไม่ถูกปัดป้องด้วย "ปุ่มเนื้อ" ของคุมะไปซะก่อน "โทโรนางาชิ" (灯籠流し, แปลตรงตัวว่า "กระแสโคมลอย") คือพิธีกรรมการลอยโคมไปสู่แม่น้ำหรือทะเลเพื่อแสดงความเสียใจกับการจากไปของบรรพบุรุษของชาวญี่ปุ่น




    มังกรสลาตัน (龍巻き ทัตสึ มากิ, แปลตรงตัวว่า "มังกรหมุน"):

    โซโลหมุนดาบของตนเพื่อสร้างพายุหมุนรูปร่างคล้ายมังกรที่ทั้งฟันและส่งคู่ต่อสู้กระเด็นขึ้นฟ้า ในช่วงศึกเอนิเอส ล็อบบี้นั้น โซโลมีพลังมากพอที่จะทำลายอาคารสูงทะลุเกินเพดานได้ด้วยท่านี้ และมันก็สามารถทะลวงกายาเหล็กได้อีกด้วย มันเป็นหนึ่งในท่าที่ทรงพลังที่สุดของโซโล มุกตลกของชื่อนี้คือ “ทัตสึมากิ” หมายถึง “ทอร์นาโด” ในภาษาญี่ปุ่นเมื่อใช้ตัวคันจิ “ทัตสึ” ของแดนอุทัย (竜) แทนตัวอักษรจีน (龍) *(สองตัวนี้แปลเป็นมังกรเหมือนกัน)* และยังหมายถึงชื่อชนิดหนึ่งของซูชิอีกด้วย ถูกใช้เป็นครั้งแรกเพื่อเอาชนะฮัจจัง ออร่ารูปมังกรจีนก็มักจะปรากฏตัวร่วมกับโซโลตอนใช้ท่า




    ฉลูทิ่มแทง (牛針 อูชิ บาริ, แปลตรงตัวว่า "เข็มวัว"):

    โซโลทำการโจมตีหลายครั้งในการวิ่งเข้าไปหาคู่ต่อสู้ด้วยการถือสองดาบเหมือนเขาวัว ใช้เป็นครั้งแรกกับ Mr.1 มุกตลกของชื่อนี้คือ "อูชิบาริ" นั้นคือคานไม้ที่บ้านญี่ปุ่นนำมาใช้กัน ออร่ารูปวัวก็มักจะปรากฏตัวร่วมกับโซโลตอนใช้ท่า




    ก้ามปูตะครุบเหยื่อ (蟹(ガザミ)獲り กาซามิ โดริ, แปลตรงตัวว่า "ปูฮุบ"):

    ทั้งสามดาบถูกวางเรียงกันในแนวนอนจากบนลงล่าง แล้วก็ฟันลงคู่ต่อสู้เหมือนกับก้ามปูในผลลัพธ์คล้ายกิโยตินที่ปกติตัดหัวคนขาดไปแล้ว ใช้เป็นครั้งแรกกับ Mr.1 ชื่อนี้มาจากมุกตลกของคำ "คาซามิโดริ" หรือ "ไก่หมุนบอกทิศทางลม" ถึงแม้ว่าตัวคันจิ 蟹 มักจะอ่านเป็น "คัง" หรือ "คานิ" ก็ตาม เมื่อโซโลใช้ท่านี้ ออร่ารูปปูก็ปรากฏตัวให้เห็นข้างหลังเขา




    ตัณหาหนึ่งร้อยแปดประการ (百八煩悩(ポンド)鳳 ฮยาคุฮาจิ พอนโดะ โฮ, แปลตรงตัวว่า “หงส์เพลิงแห่งกิเลสหนึ่งร้อยแปดประการ” หรือ “ปืนใหญ่ 108 ปอนด์"):

    ในรูปแบบเดียวกับอันสามสิบหกประการ ด้วยการถือดาบเหนือไหล่ในแนวนอนและอีกเล่มหนึ่งในปากในทางเดียวกัน และฟันวงดาบที่ส่งคมมีดอากาศสามอันควงสว่านไปหาคู่ต่อสู้แทนแค่อันเดียวหริอสองอัน ทำให้มีพลังมากกว่าเดิมสามเท่าตัว แต่เมื่อใช้กับชูซุยแล้ว เหล่าคมมีดอากาศกลับรวมตัวกันเป็นคมมีดอากาศที่ใหญ่กว่าเดิม ท่านี้นั้นทรงพลังพอ ๆ กับท่าหมัดยางยืดแคนนอนของลูฟี่ และใช้เป็นครั้งแรกเพื่อเผด็จศึกโอม




    ล่าอีกาอสูร (鴉魔狩り คาราสุมะ การิ, แปลตรงตัวว่า "ล่าปีศาจอีกา"):

    โซโลทำการฟันอย่างต่อเนื่องกลางอากาศ ท่านี้นั้นแข็งแกร่งพอที่จะตัดเหล็กได้ จากที่มันถูกใช้เป็นครั้งแรกเพื่อตัดลูกปืนใหญ่จากแฟรงกี้ แฟมิลี่ มุกตลกคือ "คาราสุมะการิ" เป็นศัพท์แสลงของตะคริวที่ขาในหลาย ๆ ภูมิภาคของญี่ปุ่น รวมถึงภูมิภาคที่อาจารย์โอดะจากมาด้วย




    กระทิงอสูร: เล็บอาจหาญ (牛鬼 勇爪 กิวคิ: ยูซุเมะ, แปลตรงตัวว่า "วัวปีศาจ: เล็บกล้าหาญ"):

    ด้วยการถือดาบทั้งสองชี้ไปข้างหน้าหาคู่ต่อสู้ จากนั้นโซโลก็พุ่งเข้าไปหาและแทงด้วยพลังมหาศาล ใช้เป็นครั้งแรกเพื่อทลายดาบของนาวาเอก ทีโบน และยังสามารถใช้กลางอากาศได้อีกด้วย เจ้าอูชิโอนิ หรือ กิวคินั้น เป็นปีศาจที่มีเขาเหมือนวัวและ ส่วนขาของมันคล้ายกับแมงมุม หรือไม่ก็เหมือนปูในตำนานญี่ปุ่น เมื่อโซโลใช้ท่านี้ ออร่ารูปกระทิงก็จะปรากฏตัวให้เห็นข้างหลังเขา


    กอริลล่าหนึ่ง (一剛力羅 (ゴリラ) อิชิ กอริลล่า, แปลตรงตัวว่า "หนึ่งกอริลล่า"):

    โซโลเบ่งกล้ามต้นแขนข้างซ้ายหรือขวาของตน ในการเตรียมท่าแรงฟันกอริลล่าคู่ ตัว "剛力" (กอริ) นั้นหมายถึง "กำลังมหาศาล" (อ่านตามตรงว่า "โกริคิ" และสามารถเขียนเป็น "強力" ในคันจิได้เช่นกัน) ขณะที่ตัวคันจิของ 羅 (แปลตรงตัวว่า "ใย, บาง, ตาข่าย") เป็นตัวคันจิที่ใช้ในชื่อปีศาจของญี่ปุ่น มุกตลกในชื่อนี้ก็แน่นอนว่าเป็น "หนึ่งกำลังมหาศาล" และกอริลล่า (แม้ว่าถ้าแปลตรงตัวขึ้นอีกจะเป็น "ตาข่ายกำลังมหาศาล" ก็ตาม) ใช้เป็นครั้งแรกกับคาคุ




    กอริลล่าสอง (二剛力羅 (ゴリラ) นิ กอริลล่า, แปลตรงตัวว่า "สองกอริลล่า"):

    โซโลเบ่งกล้ามต้นแขนอีกข้างหนึ่งในการเตรียมท่าแรงฟันกอริลล่าคู่ เช่นเดียวกับท่าข้างบน มุกตลกคือ "สองกำลังมหาศาล" และกอริลล่า ใช้เป็นครั้งแรกกับคาคุ




    แรงฟันกอริลล่าคู่ (二剛力斬 (ニゴリザケ) นิกอริ ซาเกะ, แปลตรงตัวว่า "ฟันสองกำลังมหาศาล"):

    หลังจากใช้กอริลล่าหนึ่งกับกอริลล่าสองแล้ว โซโลก็แกว่งดาบขึ้นเพื่อให้ปลายดาบมันโดนกันเมื่อโจมตีแล้ว ด้วยดาบในปากและในมือข้างซ้ายอยู่ในระนาบเดียวกันและดาบข้างขวาองศาตกลงมาเล็กน้อย เหมือนกับท่าประกายแสง มุกตลกในนี้คือนิกอริ ซาเคะ ก็หมายถึง 'สาเกสีขุ่น' (สาเก คือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่งของญี่ปุ่น) ได้เช่นกัน ใช้เป็นครั้งแรกกับคาคุ และสามารถเอาชนะท่าจมูกพิฆาตของคาคุในการประลองกำลังได้ เมื่อใช้ท่านี้แล้วกล้ามเนื้อต้นแขนของโซโลก็ใหญ่กว่าเดิมถึง 2-3 เท่า เหมือนกับวิชาเพิ่มมวลกล้ามเนื้อของอุรูจ แขนของเขาก็มีรูปร่างคล้าย ๆ ช็อปเปอร์ในร่างอาร์มพอยต์




    เสือดาวกลอกลูกปัด (豹琴玉 ฮโยคินดามะ, แปลตรงตัวว่า "ลูกปัดเสือดาวโคโตะ"):

    โซโลกระโดดไปข้างหน้าขณะหมุนตัวกลางอากาศ ก่อให้เกิดรูปทรงลูกบอลด้วยดาบของตน นี่เป็นเพียงแค่ท่าหลอกเท่านั้น ทำให้แม้ศัตรูจะอ่านรูปแบบการโจมตีของเขาออกและหลบห่างวิถีกระโดดของโซโล ก็ยังคงถูกฟันขณะที่โซโลลอยผ่านไปอยู่ดี ใช้เป็นครั้งแรกกับคาคุร่างยีราฟ ตัว "คิน" หรือ "โคโตะ" (琴 และ 箏) คือเครื่องสายโบราณของญี่ปุ่น ถึงแม้ชื่อท่าจะสามารถอ่านเป็น โคโตดามะ ("พลังแห่งภาษา") ได้ แต่มุกตลกของมันก็คือสามารถอ่านผิดเป็น "ฮโย คินทามะ" ที่แปลเป็น "อัณฑะเสือดาว" เช่นกัน เมื่อโซโลใช้ท่านี้ ออร่ารูปเสือดาวก็ปรากฏตัวให้เห็นข้างหลังตัวเขา




    ท่าเฉือนพระพุทธรูป (大仏斬り ไดบุทสึ กิริ, แปลตรงตัวว่า "ผ่าพระพุทธรูปยักษ์"):

    การโจมตีต่อเนื่องในรูปแบบฟันแนวนอนที่ทรงพลังพอจะตัดอาคารขนาดเล็กได้ นี่คือวิชาสามดาบท่าใหม่ที่โซโลใช้เป็นครั้งแรกหลังจากเสีย ยูบาชิริ (雪走, แปลตรงตัวว่า "หิมะกราก") ไป ท่านี้ก็สามารถใช้ในแนวตั้งได้เช่นกัน ถูกเห็นเป็นครั้งแรกเพื่อสร้าง "กระสุน" ให้กับซันจิในท่า "ปืนใหญ่เจนก้า" ชื่อนี้สามารถอ่านผิดเป็น ได ("ใหญ่") และ บุทสึ-กิริ (ผ่าแบบหยาบ ๆ) ได้




    อีการามสูร (夜叉鴉 ยาชา การาสุ, แปลตรงตัวว่า "อีกายักษ์"):

    โซโลหมุนตัวเหมือนล้อเคลื่อนไปหาคู่ต่อสู้ขณะที่พุ่งดาบไปยังศัตรูอย่างต่อเนื่อง การโจมตีจะทิ้งรอยตัดรูปเท้าอีกาเอาไว้ ถูกใช้ครั้งแรกในการเฉือนแขนของออส ตัว 'ยาชา' (夜叉) นั้นก็คือยักษ์ในพระพุทธศาสนา ในขณะที่หากแปลญี่ปุ่นให้ตรงตัวอีกก็จะกลายเป็น "ผ่ากลางคืน" (คันจิตัวหลัง 叉 นี้เป็นศัพท์ของ 'ส้อม' หรือทางสามแยกบนถนนนั่นเอง) มันก็ยังเชื่อมมุกกับชื่อของอีกาสามขา ยาตะการาสุ ซึ่งอ้างอิงถึงรอยตัดรูปเท้าอีกาที่โซโลก่อขึ้นสามอันเรียงต่อกันเป็นแถว เมื่อโซโลใช้ท่านี้ ออร่ารูปอีกาก็ปรากฏตัวให้เห็นข้างหลังตัวเขา




    วิชาสามดาบ เพลงดาบลับ: ทางแยกหกวิถี (三刀流奥義 六道の辻 ซันโทริว โอกิ โรคุโด โนะ ทสึจิ, แปลตรงตัวว่า "วิชาสามดาบ ท่าลับ: ทางแยกหกสาย"):

    เป็นเพลงดาบลับอีกท่าหนึ่งที่โซโลสร้างขึ้นหลังจากฝึกมาสองปีกับมิฮอว์ค โซโลจะทำการงอร่างของตน และแกว่งดาบในรูปทรงตัว S กลับด้านขณะที่หมุนดาบในแนวตั้ง และฟันคู่ต่อสู้ถึงหกครั้งในชั่วพริบตาจนเขาดูไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว ชื่อท่านี้นั้นมาจากความเชื่อของหกภพภูมิ (นรกภูมิ เปตติวิสยภูมิ อสุรกายภูมิ ติรัจฉานภูมิ มนุสสภูมิ และสวรรค์ภูมิ (สวรรค์หกชั้น รูปภูมิ ๑๖ และอรูปภูมิ ๔) ซึ่งจริง ๆ ก็คือ 31 ภพภูมิของเรานั่นแหละครับ) ตัวทสึจินั้นก็หมายถึงทางแยกเช่นกัน ซึ่งกลับตรงกับศัพท์อันลือลั่น "ทสึจิกิริ" (ผ่า/ฆ่าบนทางแพร่ง, มันคือศัพท์เวลาที่เมื่อซามูไรได้รับคาตานะเล่มใหม่แล้วหรือจะทดลองวิชา/อาวุธใหม่นั้น ก็จะทดสอบประสิทธิภาพของมันด้วยการโจมตีมนุษย์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนบริสุทธิ์ไร้ทางสู้ และมักจะทำมันในยามค่ำคืน) ถูกใช้เป็นครั้งแรกกับคราเคนเพื่อตัดหนึ่งในหนวดของมันให้แยกเป็นหกส่วน




    มหามังกรสลาตันทมิฬ (黒縄・大龍巻 โคคุโจ: โอ ทัตสึ มากิ, แปลตรงตัวว่า "กาฬสุตตนรก: มหามังกรหมุน"):

    ท่าที่แข็งแกร่งและทรงพลังขึ้นกว่าเดิมของ "มังกรสลาตัน" เมื่อโซโลทำการเตรียมท่าเหมือนกับท่าเดิม และหมุนตัวเพื่อสร้างวายุรูปคล้ายมังกรที่ทั้งฟันและส่งคู่ต่อสู้กระเด็นออกไป แต่ว่าการโจมตีจะยังต่อไปเรื่อย ๆ เหมือนกับพายุจริง ๆ และจะตัดผ่าใครก็ตามที่หลุดไปอยู่ในนั้น ขณะที่ท่าเก่าทำได้แค่สร้างรอยฟันเล็ก ๆ และทลายกายาเหล็ก (เหมือนของคาคุ) ได้ด้วยพลังสูงสุด ท่าใหม่อันนี้สามารถที่จะผ่าทะลุเหล็กหนาได้อย่างง่ายดาย มันถูกเห็นเป็นครั้งแรกเพื่อใช้กับกลุ่มโจรสลัดมนุษย์เงือกรุ่นใหม่ โซโลกล่าวไว้ว่าพายุหมุนจะไม่หยุดลงจนกว่าพวกที่โดนจะลงสู่นรก ซึ่งเป็นคำอธิบายที่ตรงกับชื่อท่ามาก เพราะ "โคคุโจ" คือชื่อภาษาญี่ปุ่นของกาฬสุตตนรก หนึ่งในมหานรก 8 ขุมของนรกภูมิในพระพุทธศาสนานั่นเอง (ชื่อของท่านี้ในภาษาอังกฤษมักจะแปลเป็น ด้ายทมิฬมหามังกรหมุน เพราะว่าตัวโคคุโจนั้นถ้าแปลให้ตรงตัวยิ่งขึ้นก็จะแปลเป็น "ด้ายดำ" ซึ่งเป็นอาวุธในการทรมานสัตว์นรกในกาฬสุตตนรก)




    ดาบปราบอสูรล้างมลทิน (煉獄鬼斬り เร็นโกคุ โอนิ กิริ, แปลตรงตัวว่า "ผ่าอสูรแดนชำระ"):

    ท่าเวอร์ชั่นที่แกร่งกว่าเดิมมากของ "ดาบปราบอสูร" โซโลจะหันหลังให้กับคู่ต่อสู้ และรอให้มันเข้ามาหา จากนั้นเขาก็หมุนตัวและพุ่งเข้าไปหาศัตรู นี่อาจจะเป็นวิธีเพื่อให้การฟันสามครั้งที่เร็วอยู่แล้วให้เร็วยิ่งขึ้นไปอีกก็เป็นได้ ผลลัพธ์ของการโจมตีนี้จะทำให้เกิดรอยเลือดรูปกากบาทกระเด็นออกมาจากร่างและสร้างคลื่นกระแทกที่ทรงพลังจนทำลายสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้ ขณะที่ท่าอันเก่านั้นสามารถทำลายดาบทั้งหกของฮัจจิได้ ท่าใหม่นี้กลับสามารถหักดาบทั้งแปดของเฮียวโซ (นักดาบที่ฮัจจิไม่เคยเอาชนะได้เลยตั้งแต่วัยเด็ก) ที่กินเอนเนอร์จีสเตียรอยด์จนเพิ่มพลังขึ้นอย่างมากได้อย่างง่ายดาย




    ดาบล่าโคตรพยัตฆ์ (極虎狩り(ウルトラがり) อุรุ โทระ การิ, แปลตรงตัวว่า "ล่าโคตรเสือ"):

    ท่าเวอร์ชั่นที่แกร่งกว่าเดิมมากของ "ดาบล่าพยัคฆ์" โซโลทำการเตรียมท่าเหมือนกับท่าเก่า คือถือดาบสองข้างของตนอยู่เหนือดาบในปากและฟันลงไปข้างหน้า ออร่าที่สร้างขึ้นจากโซโลขณะใช้ท่านี้ ก็ยังคงเป็นหัวพยัคฆ์อยู่ แม้ว่าท่าเดิมจะสามารถต่อกรกับคู่ต่อสู้ฝีมือดีอย่างพี่น้องเนียบันหรือ Mr.1 ก็ตาม ท่านี้ที่พัฒนาขึ้นมาก็สามารถพอฟัดพอเหวี่ยงกับพละกำลังของมังกรได้เลยทีเดียว มุกตลกของชื่อนี้คือเป็นคำผสมของ "อัลตร้า" (ออกเสียงเป็น อุรุโทระ ในภาษาญี่ปุ่น) ที่แปลว่าโคตร สุดขีด และ "โทระ" (เสือในภาษาญี่ปุ่น) ใช้เป็นครั้งแรกกับมังกรในพังค์ ฮาซาร์ด





    ตัณหาหนึ่งพันแปดสิบประการ (千八十煩悩(ポンド)鳳 เซ็นฮาชิจู พอนโดะ โฮ, แปลตรงตัวว่า "หงส์เพลิงแห่งกิเลสหนึ่งพันแปดสิบประการ" หรือ "ปืนใหญ่ 1080 ปอนด์"):

    ท่าเวอร์ชั่นที่แกร่งกว่าเดิมมากของ "ตัณหาหนึ่งร้อยแปดประการ" ด้วยการที่โซโลเตรียมท่าเหมือนแบบเดิมคือถือดาบเหนือไหล่ในแนวนอนและอีกเล่มหนึ่งในปากในทางเดียวกัน และฟันวงดาบที่ส่งคมมีดอากาศสามอันควงสว่านไปหาคู่ต่อสู้ จากชื่อของท่านี้อาจบอกได้ว่ามันมีพลังมากกว่าท่าต้นตำรับของมันถึงสิบเท่า และมีพลังพอที่จะตัดกำแพงหินขนาดมหึมา (พิก้า) ได้


    9ขุนเขา 8สีทันดร 1โลกธาตุ 1,000จักรวาลรวมเป็นสหัสโลกธาตุ ตรีสหัสโลกธาตุรวมกันไม่มีสิ่งใดที่ตัดไม่ได้ วิชาลับ3ดาบ สหัสตรี สหัสสมหาสหโลกธาตุ






    วิชาเก้าดาบ (คิวโทริว 九刀流)


    「วิชาที่เพิ่มขึ้นมาจากวิชาสามดาบของโซโล มันคือการแผ่จิตของตนออกมาและมีฐานเป็นภาพลวงตาที่ทำให้ศักยภาพในการเป็นนักดาบของโซโลเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่า และทำให้เขาทำลายท่าเท้าวายุที่ทรงพลังที่สุดของคาคุได้ ท่าเหล่านี้จะถูกใช้เมื่อโซโลใช้อาชูร่า เพื่อสร้างภาพลวงตาของเก้าดาบและเข้าถึงการใช้งานของท่าอื่น ๆ ต้นกำเนิดที่แท้จริงของมันคืออะไรก็ยังไม่ถูกไขให้กระจ่างมากนักเพราะมันถูกใช้กับแค่คาคุ อินดิโก้ (ตัวร้ายภาคสตรองเวิลด์) และแปซิฟิสต้าเท่านั้น」



    วิญญาณอสูร วิชาเก้าดาบ: อาชูร่า (鬼気 九刀流 阿修羅 คิคิ คิวโทริว: อาชูร่า, แปลตรงตัวว่า "วิญญาณมาร วิชาเก้าดาบ: อสุรา"):

    วิชาที่ทำให้โซโลใช้ท่าในวิชาเก้าดาบได้ หลังจากที่ถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง (และฟังที่คาคุเหยียดหยามโรบินในอนิเมะด้วย) ความโกรธและความหงุดหงิดที่สั่งสมมาก็เผยตัวขึ้นในออร่าร่างดำทมิฬที่มีสี่เศียรหกกรจากตัวเองที่มีชื่อว่า อาชูร่า ในอนิเมะนั้น การใช้งานท่านี้ทำให้พื้นที่รอบ ๆ โซโล ในรัศมีหลายเมตรมืดมัวลงและเป่าคมมีดอากาศจากการโจมตีของคาคุไป ครั้งแรกที่เขาใช้ท่านี้นั้นเป็นเพียงการจำแลงไม่สมบูรณ์อย่างไม่ได้ตั้งใจด้วยความรีบร้อนและปรากฏออกมาเพียงแค่ออร่าดำมืดที่มีลักษณะเด่นชัดแค่แขนหกแขนเท่านั้น


    แต่เมื่อโซโลจำแลงอีกเป็นครั้งที่สอง เขาก็สามารถควบคุมมันอย่างสัมบูรณ์และมีรูปลักษณ์เหมือนที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน ใช้เป็นครั้งแรกกับคาคุ ท่านี้มันทรงพลังพอที่จะทลายท่าสะบั้นวงรอบของคาคุได้อย่างง่ายดายและสวนกลับด้วยท่าเผด็จศึก แต่ว่าแท้จริงแล้วมันคืออะไรกันแน่ก็ยังเป็นปริศนา "อาชูร่า" เป็นการออกเสียงภาษาญี่ปุ่นของ "อสุรา" ขณะที่ตัวคันจิหากแปลตรงตัวก็จะเป็น "ผ้าพันแผลประจบวินัย"




    อาชูร่า: ดาบหมอกหิรัญ (阿修羅 弌霧銀 อาชูร่า: อิชิบุกิน, แปลตรงตัวว่า "อสุระ: หนึ่งหมอกเงิน"):

    ท่าแรกของโซโลในวิชานี้ ด้วยการถือดาบทั้งเก้าให้คมดาบชี้ไปหาศัตรู โซโลก็กระโจนเข้าไปหา และทำการฟันอย่างทรงพลังเก้าครั้งในทันทีและจบท่าในอิริยาบทยืนพร้อมกับกระพือดาบออกมา ใช้เป็นครั้งแรกเพื่อเผด็จศึกคาคุ




    อาชูร่า: นพมารจรัสแสง (阿修羅 魔九閃 อาชูร่า: มาคิวเซ็น, แปลตรงตัวว่า "อสุระ: เก้าแสงปีศาจ"):

    โซโลเข้าไปหาศัตรูและฟันมันด้วยดาบทั้งเก้าและจบการโจมตีในท่าที่ทั้งเก้าดาบอยู่ในรูปล้อหมุนโดยที่ตัวอาชูร่านั้นอยู่ห่างจากคู่ต่อสู้อยู่หลายเมตร รอยฟันที่โดนนั้นก็มีรูปร่างคล่ายกับท่าตอนจบ มันมีผลเหมือนกับท่าเอกลักษณ์ของบรูคตรงที่ว่าผลลัพธ์การโจมตีจะยังไม่ปรากฏจนกว่าจะผ่านไปหลายวินาทีแล้ว ใช้เป็นครั้งแรกกับ PX-4


    วิชาเก้าดาบ อาชูร่า ชักดาบ หัสนาฎกรรแห่งความตาย เมื่อใช้ถ้านี้ตัวของโซโลจะทำการหมุนตัวเพื่อเพิ่มความแรงในการโจมตีแล้วจากนั้นก็พุ่งเข้าไปฟันศัตรู 






    ถ้าขาดตกบกพร่องตรงไหนก็ขออภัยด้วยน่ะครับนี่คือนิยายเรื่องแรกของผม และถ้าเจ้าของกะทู้ของข้อมูลโซโลหลงเข้ามาอ่านผมขออนุญาตยืมข้อมูลหน่อยน่ะครับหรือถ้าเกิดไม่อนุญาตผมก็จะทำการลบให้ครับ ขอบคุณครับและเรื่องเกิดใหม่ทังทีก็เป็นสไลม์ซะแล้ว ผมก็ไม่ได้ตามนิยายของเรื่องนี้น่ะครับถ้าเกิดมีความผิดพลาดหรือไม่ตรงกับต้นฉบับเท่าไหร่ทางผมก็ขออภัยด้วยน่ะครับ

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น