ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรียกข้าว่า สการ์เล็ต

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4 : แผนการหลบหนี 1/2

    • อัปเดตล่าสุด 13 ธ.ค. 66


    'กุก กัก กุก กัก'

    เสียงรถม้าแล่นผ่านพื้นถนนดินที่ขรุขระ และตกหลุมบ้างเป็นบางครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นรถม้าก็ยังคงวิ่งต่อไปโดยไม่หยุดนานเป็นเวลาหลายวัน

    "มันจะไม่เป็นไร"

    ฉันหันไปบอกโรเซ่และเอรีน่าที่กำลังสั่นกลัวอยู่ภายในรถม้า แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่พวกเราสามคน แต่มีผู้หญิงอยู่ในรถม้ากันตั้งหลายคน

    "เห็นมั้ยว่ามันไม่มีอะไรน่ากลัวเลย มันก็แค่เสียงรถม้าที่ขับเคลื่อนไปตามถนนดินเท่านั้นเอง"

    "แต่โจรที่อยู่นั่นน่ากลัวมากกว่าเสียงรถม้าอีกนะวิวา" โรเซ่ตอบกลับ

    ฉันไม่ได้พูดอะไรต่อ ทำเพียงแค่ก้มหน้ามองไปที่โซ่ในมือ แล้วมองออกไปข้างนอกรถม้า

    .

    .

    หลังจากผ่านไปหลายวัน ฉันก็เริ่มมองเห็นเมืองได้ตั้งแต่ไกลๆ แต่รถม้ากลับเลี้ยวไปอีกทาง ไม่ได้ตรงเข้าไปยังเมือง แต่เลี้ยวเข้าไปยังค่ายของโจรที่ตั้งอยู่ในป่าแทน

    .

    รถม้าได้หยุดลง พร้อมๆกับมีเสียงเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ พร้อมกับผ้าคลุมหลังรถม้าที่ถูกเปิดออก ปรากฏเป็นหัวหน้าโจรที่ยืนอยู่

    "ลงมาได้แล้ว!!" หัวหน้าโจรพูดขึ้นพร้อมกระชากข้อมือหญิงสาวที่อยู่ใกล้ๆลงมา

    "เร็วๆสิว่ะ!! ชักช้ายืดยาดอืดอาดอยู่ได้!!" 

    มันพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน พร้อมกับกระชากหญิงสาวคนอื่นๆลงมา

    ทำให้พวกเราที่ถูกล่ามโซ่ติดไว้ด้วย ต้องลงมาตามๆกัน
    หัวหน้าโจรได้หันไปพยักหน้าให้กับลูกน้องของมัน แล้วลูกน้องของมันก็พยักหน้าเข้าใจ จากนั้นเจ้าลูกน้องคนนั้นก็เดินมาจับปลายของโซ่กุญแจมือ แล้วเดินนำทางพวกเราเข้าไปในโกดัง แล้วตรงลงไปในชั้นใต้ดิน และหยุดลงเมื่อมาถึงกรงขังขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยผู้หญิงที่ถูกลักพาตัวมาก่อนหน้า

    มันเดินเข้าไปปลดกุญแจกรงขัง ก่อนจะหันมาสั่งกับพวกเรา
    “เข้าไปซะ!!”

     

    พวกเราไม่มีทางเลือก นอกจากทำตามที่มันสั่ง

    หลังจากที่พวกเราเข้าไปในกลงจนหมด ประตูก็ได้ถูกปิดลง

    "เฮ้ย!! แกหน่ะ" ลูกน้องโจรหันไปหาเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนอยู่ที่ประตูทางเข้าห้องใต้ดิน แล้วพูดต่อ

     

    "เฝ้าให้ดีหล่ะ แล้วถ้าเกิดใครคิดหนีก็จัดการ" มันทำท่าปาดคอ "ฆ่ามันทิ้งซะ!!"

     

    เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายแล้วพยักหน้า จากนั้นลูกน้องโจรคนนั้นก็เดินออกไป เหลือเพียงเด็กหนุ่มคนนั้นที่ยืนอยู่เพียงคนเดียว

     

    เด็กหนุ่มผู้มีผมสั้นสีน้ำตาลและนัยตาสีแดงคมกริบ ดูเผินๆก็เหมือนกับปีศาจ ถึงจะไม่ใช่ก็ตาม

    แต่เรื่องที่น่าแปลกใจก็คือ ทำไมเด็กหนุ่มที่ดูรุ่นราวคราวเดียวกันกับคาริสถึงมาอยู่กับพวกกองโจรได้กันน่ะ

     

    ฉันจ้องมองไปที่เด็กหนุ่มคนนั้นได้สักพักก่อนที่จะมีมือมาสะกิดที่ใหล่ของฉัน พอฉันหันไปก็พบว่าเจ้าของมือนั้นก็คือโรเซ่

    "มีอะไรงั้นหรอโรเซ่?"

    ฉันถามเธอไป เธอจึงตอบว่า

    "เราจะทำยังไงกันดีเอวา"

     

    หลังจากที่โรเซ่ถามมาแบบนั้น ฉันก็เงียบไปสักพักแล้วหันไปมองเอรีน่าที่นอนอยู่บนตักของโรเซ่ จากนั้นก็หันกลับมามองกุญแจมือที่ข้อมือของฉัน

     

    "ถ้าไม่ใช่เพราะกุญแจมือนี่ ฉันคงจะใช้เวทย์ทำลายกลไกมันไปแล้ว"

     

    ใช่แล้ว กุญแจที่สวมอยู่ที่ข้อมือของนักโทษแต่ละคน เป็นชนิดที่สามารถผนึกเวทมนตร์ไม่ให้ใช้งานได้

     

    "เจ้าพวกนี้มันรอบคอบกันจริงๆ ตอนนี้อย่างมากฉันก็ทำได้แค่สื่อสารทางจิตในระยะใกล้ๆ ก็เพียงเท่า-"

    "เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ?"

    โรเซ่ที่เห็นฉันหยุดพูดไปซะดื้อๆ ก็ได้ถามขึ้น ฉันจึงยิ้มอย่างมี เลศนัย

    "ฉันว่าฉันมีแผนแล้วหล่ะ"

    ฉันพูดพลางมองไปทางเด็กหนุ่มคนนั้น 

     

    .

    .

    .

     

    [ตัดมาที่เด็กหนุ่มที่ยืนเฝ้ากรงขัง]

    ในระหว่างที่เขากำลังยืนเฝ้าอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งแล่นเข้ามาในหัวของเขา

     

    'นี่ เจ้าหนู'

    เด็กหนุ่มที่ได้ยินก็ถึงกับตกใจแล้วมองซ้ายมองขวาพร้อมตะโกนถามว่า

    "เสียงใครหน่ะ!!"

    เพราะการที่เขาตะโกนออกมาเสียงดัง โจรที่อยู่ในระแวกนั้นจึงหันมาถาม

    "เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอไอ้หนู?"

    เด็กชายกลืนน้ำลายเล็กน้อยก่อนจะตอบไปว่า ไม่มีอะไร 

     

    ทำให้โจรคนนั้นได้กลับไปแอบหลับต่อ

    'จริง ๆ นายแค่คิดในใจก็ได้นะ ไม่เห็นจำเป็นต้องตะโกนเลย'

    เด็กหนุ่มที่ได้ยินอย่างนั้นก็ทำสีหน้าจริงจังแล้วพูดขึ้นในใจ

    'คุณเป็นใคร?'

    'ก่อนที่ฉันจะบอกนายว่าฉันเป็นใคร นายช่วยบอกชื่อนายก่อนได้ไหมละ?'

    'ไม่มีทาง!!'

    'งั้นฉันก็ไม่บอกเช่นกัน'

    เด็กหนุ่มที่ได้ยินอย่างนั้นก็ถึงกับเงียบ

    ฉันที่มองไปทางเด็กหนุ่มคนนั้นจากข้างในกรงขัง ก็ได้แสยะยิ้มออกมา

    "เอาสิ ไม่พูดต่อแล้วหรอเจ้าหนุ่ม"

    ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาจนไม่มีใครได้ยิน สักพักเด็กหนุ่มคนนั้นก็ได้พูดขึ้น

    'ผมชื่อ เซ ทีนี้คุณก็บอกชื่อของคุณมาได้แล้ว'

    'มองมาทางขวาสิ'

    'ทางกรงขังหน่ะหรอ?'

    'ใช่'

    เมื่อสิ้นสุดประโยค เด็กหนุ่มชื่อ เซ ก็ได้หันมาทางกรงขังที่ขังพวกเราอยู่

    'มองไปแล้ว'

    'อา ฉันเห็นแล้วแหละ'

    เซ ทำสีหน้างง 

    'คนไหน?'

    'ผมสีแดง'

    เซที่ได้ยินอย่างนั้นก็รีบมองหาหญิงสาวผมสีแดงทีละคนจนสายตาของเขาก็ต้องไปสะดุดเข้ากับหญิงสาวผมสีแดงที่กำลังยิ้มให้เขาอยู่

    'เป็นเธอใช่มั้ย?'

    'ใช่แล้วหล่ะ อ้อใช่ ฉันมีชื่อว่า วิวา ยินดีที่ได้รู้จักนะหนุ่มน้อย'

    'ขอโทษด้วย ผมไม่อยากคุยกับสินค้าที่ต้องนำไปขายหรอกนะ เดี๋ยวผมจะมีปัญหาเอาได้'

    ว่าจบ เซ ก็หันกลับไปยืนเฝ้าเหมือนเดิม

    'เดี๋ยวก่อนสิ! เดี๋ยว!!'

    '....'

    'ฉันสามารถช่วยนายออกไปได้นะ!!!'

    "อะไรนะ!!"

    เซพูดออกมาเสียงดังพร้อมหันมาทางกรงขัง เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองเผลอส่งเสียงออกไปก็รีบเอามือมาปิดปากทันที แต่การติดต่อก็ขาดหายไปแล้ว

    ทางฉันเอง ตอนนี้ก็พลังเวทย์หมดแล้ว ทำให้การสื่อสารทางจิตถูกตัด

    "โอ้ย!!"

    ฉันรีบเอามือมากุมที่หัวทันที   โรเซ่ที่เห็นอย่างนั้นก็วิ่งเข้ามาถามอาการอย่างเป็นห่วง

    "เป็นอะไรรึเปล่าวิวา!?"

    "ฉันไม่เป็นไร แค่ฝืนใช้พลังเยอะไปหน่อยแค่นั้นเอง"

    "โถ่ หัดเป็นห่วงตัวเองบ้างสิ"

    "ค่า~ ค่า~ คุณพี่โรเซ่"

    แต่ในระหว่างที่ฉันกับโรเซ่กำลังคุยกันอยู่นั้น เซ ก็ได้เดินมาหยุดอยู่หลังฉันที่หน้ากรงขัง แล้วพูดขึ้นจนฉันและโรเซ่ถึงกับตกใจ

    "หมายความว่าไงที่ว่าสามารถพาผมออกไปได้"

    ""ว๊าย!!!""

    "เอ่อ~ ขอโทษที่ทำให้ตกใจก็แล้วกันนะครับ"

    เซโค้งตัวขอโทษก่อนจะหันมาหาฉัน 

    "แล้ว~ นายมาเป็นคนเฝ้ากรงขังได้ยังไงงั้นหรอ?"

    เซก้มหน้าลง พร้อมกับมีน้ำตาออกมาเล็กน้อย

    "เมื่อก่อน ผมก็เป็นเด็กธรรมดาทั่วไปที่อาศัยอยู่กับพ่อแม่ในหมู่บ้านที่ห่างไกลและอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก 

    ในตอนนั้น ผมกำลังกินข้าวอยู่กับคนในครอบครัวอย่างมีความสุข แต่ว่าจู่ ๆ ก็ได้มีกองโจรบุกเข้ามายังหมู่บ้านแห่งนี้เพื่อลักพาตัวเด็กและผู้หญิง ทางพ่อแม่เองก็พยายามปกป้องผมสุดชีวิต แต่สุดท้ายพวกท่านก็ถูกพวกมัน......."

    เซกำหมัด และกัดฟันแน่น พร้อมๆกับน้ำที่ไหลออกมาจากดวงตา ร่างกายของเขาสั่นเทาเพราะความแค้น แต่ตนเองกลับทำอะไรไม่ได้

    ฉันและโรเซ่ที่นั่งฟังอยู่ก็มีสีหน้าเศร้าไม่ต่างกัน ฉันจึงยื่นมือออกไปผ่านช่องว่างของกรงขังเพื่อจะลูบหัวปลอบใจเด็กหนุ่มตรงหน้า

    เซได้เช็ดน้ำตาของตน แล้วพูดต่อ

    "เจ้าพวกนั้นมันได้ฆ่าคนในหมู่บ้านของผมทั้งหมด นั่นรวมถึงพ่อแม่ของผมด้วย  ส่วนคนที่เหลือรอดก็ถูกจับตัวมาเป็นทาสแรงงานบ้าง เป็นสิ้นค้าทาสบ้าง ส่วนผมก็ถูกแยกออกเป็นคนเฝ้ากรงขังตรงนี้โดยที่ไม่เต็มใจ  ผะ ผมอยากจะช่วยคนที่ถูกขังออกไปอยู่นะ ตะ แต่ผมไม่มีความสามารถพอที่จะทำได้นี่สิ ทำให้ผมทำได้แค่มองดูและโทษที่ตนเองมันอ่อนแอ!"

    ฉันลูบหัวของเซ แล้วพูดออกไป

    "ไม่ต้องห่วง ฉันมีวิธีที่จะออกไปแล้วหล่ะ ฉันจะช่วยนายล้างแค้นพวกมันเอง"

    ฉันหลับตายิ้มให้

    "จริงหรอครับ?" เซเงยหน้าขึ้นมามองที่ฉัน

    "จริงสิ ขอแค่นายให้ความร่วมมือกับพวกเรา"

    เซพยักหน้าโดยทันที   นี่เอ็งไม่มีความลังเลเลยสินะ

    "โอเค งั้นฉันจะเล่าแผนการให้ฟัง โรเซเองก็มาฟังด้วสิ เพราะฉันต้องการให้เธอช่วยคุยกับคนอื่นในกรงให้"

    โรเซ่พยักหน้าและเตรียมฟังแผน ส่วนเอรีน่าก็ยังคงหลับอยู่

    "ก่อนอื่นเลย เราต้องรู้ก่อนว่าพวกนั้นจะทำอะไรเวลาไหนบ้าง"

    "อันนี้ผมรู้ดีแหละครับ"

    "งั้นก็เยี่ยมเลย"

    หลังจากที่เราได้ฟังข้อมูลต่างๆจากเซแล้ว ก็ได้เวลาวางแผน

    "เอาหล่ะ แผนของเราคือ..."


     

    ______________

     

    _________

     

    _______

     

    _____

     

    ___

     

    จบตอนที่ 4

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×