ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรียกข้าว่า สการ์เล็ต

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 : การเกิดใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 13 ธ.ค. 66


    ภาพอุบัติเหตุครั้งนั้น และภาพการตายของเพื่อนสนิทของผม มันยังคงติดตาผมอยู่จนถึงตอนนี้ ถึงแม้ว่าสิ่งที่ผมเห็นในตอนนี้มันจะเป็นเพียงความมืดมิดก็ตาม

    ผมลืมตาตื่นขึ้นก็พบว่าตัวเองนั้นไม่ได้นอนอยู่ที่โรงพยาบาลอย่างที่มันควรจะเป็น แต่กลับเป็นกลางป่าที่ไหนก็ไม่รู้

     ผมพยายามยกตัวขึ้นแต่ก็รู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งร่างกาย พอลุกขึ้นยืนได้ก็พยายามเดินไปยังแหล่งน้ำตรงหน้า

    "หะ หิวน้ำ"

    ผมค่อยๆ เดินไปยังแหล่งน้ำ คงเพราะความกระหายน้ำ เลยทำให้ผมไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามุมมองของผมมันดูเตี้ยกว่าปกติ

    จนกระทั่งไปถึงลำธาร ผมนั่งลงแล้วใช้มือเปล่าตักน้ำขึ้นมาดื่ม เมื่อดื่มจนพอใจแล้วผมก็ลองส่องไปดูเงาที่น้ำ

    "นะ- นี่มันเรื่องอะไรฟร่ะ!!!!!"

    ภาพที่ผมเห็นคือ ใบหน้าของหญิงสาวที่ดูสวยงาม นัยตาสีแดงคมกริบ ผมสีแดงที่ยาวสลวย และผิวสีขาวอมชมพูในชุดเดรสสีแดง และใช่ สิ่งที่บรรยายมา คือเงาของผมที่สะท้อนในน้ำ

    "นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันน่!!! อ๊ะ เสียงของผมมัน-"

    ผมพึ่งสังเกตและนึกได้ว่าตอนที่ผมบอกว่า "หิวน้ำ" เสียงของผมมันก็เปลี่ยนเหมือนกัน เสียงมันสูงขึ้นแต่ออกแห้งๆเพราะหิวน้ำ ถึงอย่างนั้นก็ยังแยกออกว่ามันคือเสียงของผู้หญิง ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบอะไรมากก็รู้แล้วหละว่าผมกลายเป็นผู้หญิง 

    "เฮ้อ~ ยังไม่ทันได้ดูหนังที่แสดงคู่กับเจ้าวาตะเลย-"

    ทันไดนั้นเองผมก็นึกอะไรขึ้นมาได้ แล้วมองดูรอบๆ ก็ได้พบกับพืชพรรณต่างๆที่ดูแปลกตา และสายตาของผมก็ต้องไปสะดุดแล้วหยุดอยู่ที่พืชที่มีลักษณะเป็นดอกไม้รูปหัวใจสีแดง

    ผมจ้องมองมันอยู่สักพัก แล้วจู่ๆก็มีบางอย่างปรากฏขึ้น หน้าจอสีฟ้าที่แสดงข้อมูลของพืชชนิดนี้ลอยอยู่ตรงหน้า

    ผมตกใจเล็กน้อยไม่ถึงกับสะดุ้ง เมื่อตั้งสติได้ก็เลยลองอ่านดู

    [Status]

    ชื่อ: เรดเอลเดอร์ (Red Elder)

    ระดับ: 1

    คุณสมบัติ: รักษาอาการบาดเจ็บเล็กน้อย

    มูลค่า: 5 เหรียญทองแดง

     

    "โหว~ ถ้าเดาไม่ผิด นี้คงจะเป็นต่างโลกสิน่ะ?"

    ผมมองไปดูที่หน้าต่างสีฟ้าต่อ

    "ระดับ 1งั้นหรอ? งั้นมันก็น่าจะเป็นพืชระดับต่ำที่หาได้ทั่วไปสินะ อะ!! จริงสิ ไม่แน่ว่าผมอาจจะตรวจดูของตัวเองได้ เอ่อ ว่าแต่~ มันต้องพูดว่าไงนะ"

    ผมพยายามคิดแล้วเดินไปเดินมา กว่าจะนึกออกนั้นก็เล่นกินเวลาไปนานกว่า2วินาที

    "Status open!! (สเตตัส โอเพ่น!!)"

    ปรากฏเป็นหน้าต่างสีฟ้าเหมือนเมื่อกี้ แต่ที่ต่างออกไปคือข้อมูล

    [STATUS]

    ชื่อ: -

    เผ่า: มนุษย์

    เพศ: หญิง

    อายุ: 17-18 (เกิดวันที่ 9 ธันวาคม)

    Level: 1

    มานา: 100

    สกิล: แทรกแทรง (Infiltration)

    พลังโจมตี: 5

    พลังป้องกัน: 5

    ความเร็ว: 10

    ความสามารถพิเศษ: สามารถแทรกแทรงเข้าไปในจิตของสิ่งมีชีวิตและสิ่งของ และสามารถควบคุมสิ่งของได้ด้วยจิต

    สกิลเพิ่มเติม: ยังไม่สามารถใช้ได้ในเลเวลนี้

    "เป็นพลังที่น่าสนใจใช้ได้ แถมยังควบคุมควมคิด สั่งการใครก็ได้ เป็นสกิลที่โกงอยู่นะ แต่สเตตัสนี่มันอะไรกัน มันไม่ต่ำไปหน่อยหรอ? วันเกิดเองก็เป็นวันเดียวกันกับเราจริงๆเลยแฮะ ไม่ใช่สิ! อายุก็ด้วย นี่มันตรงหมดเลยหนิ!!!"

    //ต่ำกว่าตัวหลักเรื่องอื่นๆอีก//

    "เสียงใครหน่ะ!!?"

    จู่ๆเสียงในหัวก็หายไปเฉยเลย

    เดี๋ยวน่ะ!! ผมพึ่งนึกได้ ไอ้ช่องสเตตัสตรงชื่ออะ มันว่าง

    "ช่างมันไปก่อนก็แล้วกัน"

    ผมเลิกคิดแล้วตัดสินใจเดินตามแม่น้ำตรงหน้าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเจอเข้ากับหมู่บ้าน ผมจึงรีบวิ่งตรงไปทีนั่นทันที 

    และทันทีที่ผมเข้าไปถึงหมู่บ้าน ก็ได้มีชาวบ้านคนหนึ่งเดินเข้ามาหา

    "นี่นังหนู เธอเป็นใครงั้นเรอะ ดูจากชุดแล้วเธอน่าจะเป็นพวกขุนนางหละสิท่า"

    ชายชราวัย 55ปี เดินเข้ามาถามพร้อมน้อมตัวเคารพ

    ผมคิดชื่ออยู่สักพัก ก่อนจะตอบไปว่า

    "ฉะ ฉันชื่อ วิวา ค- ค่ะ ละละละก็~ ไม่จำเป็นต้องก้มหัวทำความเคารพอะไรหรอก ฉันก็แค่คนธรรมดา"

    ถึงจะกระดากปากไปหน่อยที่ชายแท้อย่างผมต้องมาพูดแบบผู้หญิง แต่เนื่องจากผมเป็นนักแสดงที่เคยรับมาหลายบท แถมบางทียังเคยถูกจับไปเป็นนักแสดงหญิงเพราะโครงหน้าและหุ่นผมมันได้อีก ครั้งนี้รับบทเป็นผู้หญิงอีกเป็นครั้งที่สองคงจะไม่ใช่เรื่องยากอะไรหรอกมั้ง!

    "ชื่อวิวางั้นสิน่ะ กระผมเป็นผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านแห่งนี้ มีชื่อว่า ฟีลิกซ์ ยินดีต้อนรับสู่หมู่บ้านของกระผมน่ะครับ"

    ช่างเป็นการต้อนรับที่อบอุ่นจริงๆ  ผมเดินเข้าไปในหมู่บ้าน โดยมีคุณปู่ฟีลกซ์ หรือผู้ใหญ่บ้านเป็นคนนำทาง เขาพาผมไปรู้จักกับคนอื่นๆ และเมื่อรู้ว่าตัวผมนั้นไม่มีที่ให้ไป ผมก็เลยถูกชวนให้ไปอยู่กับ โรเซ่ หญิงสาวรุ่นพี่ที่มีผมและตาสีน้ำตาล อายุน่าจะ 27 ห่างกัน 10ปี

    เธอเป็นเจ้าของสถานที่รับเลี้ยงเด็กกำพร้า โดยสาเหตุที่เธอชวนผมก็คงจะเป็นเพราะ 17ปีของที่นี่นับเป็นแค่วัยรุ่นเท่านั้น แต่พี่สาวเธอยังบอกอีกว่า ถ้าเป็นในเมือง จริงๆ 15 ก็นับว่าโตแล้ว แต่กับที่นี่มันไม่ใช่ไง

    และสาเหตุต่อมา คือ ก็อย่างที่ว่าไปนั่นแหละ ผมไม่มีที่จะอยู่จริงๆ เธอจึงจะให้ผมไปอยู่ด้วยและคอยเล่นเป็นเพื่อนเด็กๆ

    'เฮ้อ~ รู้งี้น่าจะเก็บเจ้าต้นเรดเอลเดอร์มาด้วยดีกว่า'

    ________

    ____

    ___

    __

    _

    และตั้งแต่ตอนนั้นมา ผมก็กลายเป็นคนของหมู่บ้านนี้ และทุกคนที่นี่ต่างก็เป็นคนดีมากๆด้วย ไม่มีใครถามถึงที่มาของผม ทุกคนต่างก็ให้ความสำคัญในเรื่องส่วนตัว จึงไม่มีใครถามถึงแหล่งที่มาของกันและกัน. 

    พวกเขาสอนผมทำอะไรหลายๆอย่าง เกี่ยวกับการใช้ชีวิตในหมู่บ้านแห่งนี้ 

    ผมใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในฐานะของหญิงสาวนามว่า วิวา มาสามสัปดาห์ วันนี้เป็นเริ่มสัปดาห์ที่สี่ จะขึ้นเดือนใหม่แล้วด้วย

    "วิวา เธอช่วยไปซื้อผักที่ตลาดให้หน่อยได้ไหม?" 

     โรเซ่ ได้กล่าวขึ้นขณะกำลังเตรียมวัตถุดิบทำอาหาร

    "ได้ค่ะคุณโรเซ่"

    ผมตอบตกลงแล้วเดินออกไป.  ในตอนนี้ผมเริ่มใช้คำพูดของผู้หญิงได้คล่องขึ้น ก็น่ะ พูดไปนานๆมันก็เลยชิน

    อะ พูดเพลินไปหน่อย ตอนนี้ก็เดินมาถึงตลาดซะแล้ว

    "วันนี้ก็เอาเหมือนเดิมนะค่ะ คุณคาโนะ"

    ผมพูดคุยอย่างเป็นมิตร แล้วยิ้มให้ ก็ไม่อยากจะโม้หรอกนะ แต่ถ้าเทียบกับคนในหมู่บ้านนี้ที่มีแต่คนสวยๆ ไม่มีใครสู้ผมได้สักคน

    "นี่จ้า"

    คุณป้าคาโนะยื่นถุงผักให้ แต่ที่แปลกคือมันมีถุงแอปเปิ้ลสีฟ้าที่โลกนี้เขาเรียกอัปป้าหรือแอปป้าก็ไม่รู้มาด้วย

    "ป้าค่ะ หนูว่าหนูไม่ได้สั่งอันนี้หนิ?"

    "อ้อ~ อันนี้แถมหน่ะ"

    ป้ายิ้มให้  แต่ผมดันเป็นคนขี้เกรงใจนี่สิ

    "จะดีหรอ?"

    คุณป้าพยักหน้าแล้วบอกว่ามันเป็นเรื่องปกติของที่นี่ ผมที่ได้ยินว่าเป็นเรื่องปกติก็เลยยอมรับมาจนได้

    "ไว้วันหน้าก็มาใช้บริการอีกน้า~"

    แฮะๆ ไม่ได้มีแค่คุณป้าคนเดียวหรอกนะที่ใจดีกับผมแบบนี้ แต่ว่าเป็นทุกคนเลยต่างหาก

    "กลับมาแล้วค่า~"

    "ทุกคน พี่วิวากลับมาแล้ว!!"

    ทันทีที่ผมเดินเข้าไปในประตู ก็ได้มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามารับพร้อมยื่นมือมาที่ผม

    "อะไรงั้นหรอ คาริส"

    "ผมจะถือช่วยเองครับพี่วิวา"

    "แต่ว่ามันหนักน่ะ"

    "ไม่เป็นไร! ผมถือไหว"

    "ยังไงก็จะเอาให้ได้เลยสินะ~ อะนี่"

    ผมยื่นถุงแอปเปิ้ลสีฟ้าๆที่ผมลืมชื่อให้คาริสไป เขามองด้วยความงุนงง

    "เอาไปกินรอน่ะ"

    ผมหลิบตาแล้วส่งยิ้มให้  (เพราะทักษณะการแสดงและรูปร่างหน้าตาที่ดี ก็เลยมีดาเมจสูงเป็นพิเศษ)

    "กะ ก็ได้ครับ"

    คาริสหน้าแดง แต่เพื่อปกปิด เขาก็ได้รีบรับเอาถุงผลไม้แล้วไปทันที

    คาริสเป็นเด็กหนุ่มผมสั้นสีแดงนัยตาสีน้ำตาลอายุ 12ปี ตัวสูงเท่าเอวผม แต่ไม่แน่ว่าถ้าอายุเท่ากัน ไอ้เด็กนั่นอาจจะสูงกว่าผมก็ได้ คาริสเป็นเด็กที่กล้าหารและมีความขยัน เขามักจะมาช่วยผมทำงานตลอดเวลาแทนที่จะไปเล่นกับเพื่อนๆเหมือนลูคัสและเอรีน่า

    .

    .

    .

    .

    เวลาผ่านไปสักพักอาหารก็ถูกทำจนเสร็จ ผมจึงต้องออกไปตามเด็กดื้ออีกสองคนกลับบ้านอีกเช่นเคย

    .

    "ลูคัส!!! เอรีน่า!!!  ไม่อยู่แถวนี้งั้นหรอ?"

    ผมเดินตามหาในจุดที่สองคนนั้นมาเล่นประจำ แต่ครั้งนี้กลับไปเจอ ผมเลยต้องออกตามหาที่อื่นต่อ จนไปถึงตลาด

    "ไม่ทราบว่าป้าเห็นลูคัสและเอรีน่าไหมคะ?"

    คุณป้าเหมือนจะคิดสักพักก่อนจะบอกว่าเห็นเข้าไปในป่า บอกว่าจะไปเก็บสมุนไพรอะไรสักอย่าง คุณป้าพยายามห้ามแล้วแต่เด็กสองคนนั้นไม่ยอมฟัง จากนั้นก็วิ่งออกไปเลย

    "ให้ตายเถอะ ถ้าเกิดเจอมอนสเตอร์เข้าจะทำยังไงล่ะ!! เจ้าเด็กนี่!! กลับมาจะลงโทษให้เข็ดเลย!"

    ผมอดที่จะโมโหไม่ได้ แต่ก็จะมัวยืนอยู่ตรงไม่ได้เช่นกัน

    "จะไปไหนหรอวิวา?"

    คุณป้าถาม ผมเลยที่วิ่งออกไปแล้วเลยตะโกนบอก

    "จะไปตามเด็กสองคนนั้นค่า!!!"

    .

    .

    .

     

    ตัดมาที่ในป่า

    ในตอนนี้มีเด็กสองคนกำลังเดินหาอะไรบางอย่างอยู่ โดยมีเด็กหนุ่มอายุ 13 ผมตำตาสีฟ้าเดินนำ และผู้หญิงอายุ 12 ผมสีส้มตาสีเหลืองเดินตามมาข้างหลัง

    "นี่ลูคัส เราจะเข้าไปลึกอีกแค่ไหนงั้นหรอ?"

    เด็กสาวชื่อเอรีน่าถามขึ้นด้วยท่าทางหวาดกลัว เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอออกมานอกหมู่บ้าน

    "ก็จนกว่าเราจะเจอดอกมะลิโฟนส์สักดอกหละนะ"

    ลูคัสตอบพลางเดินและมองดูตามข้างทางไปเรื่อยๆ 

    มะลิโฟนส์เป็นพืชอวบน้ำที่มีลำต้นเล็ก ๆ และดอกสีขาวที่มีลักษณะคล้ายดอกกุหลาบ ใบมีลักษณะคล้ายใบเงาะและมีสีเขียวเข้ม มีสรรพคุณในการให้รู้สึกผ่อนคลาย ช่วยลดอาการปวดเมื่อย และแผลถลอกเล็กน้อย แน่นอนว่าเด่นในเรื่องทำให้รู้สึกผ่อนคลาย แต่เรื่องผลการรักษา สู้ดอกเรดเอลเดอร์ไม่ได้

    (อย่าจริงจังจนไปหาในเน็ตน่ะ มันไม่มี!! ไรท์คิดขึ้นมาเอาเอง)

    และสาเหตุที่ทั้งสองออกมาตามหาดอกไม้ชนิดนี้ก็เพราะอยากให้โรเซ่และวิวาได้พักผ่อนสบายๆ เนื่องจากทำงานมาทั้งวัน จนทั้งสองที่บังเอิญไปเจอข้อมูลของดอกมะลิโฟนส์เข้า ทำให้ทั้งสองจึงตกลงกันแล้วออกมา ตามหาแบบเงียบๆ

     

    "ทางนี้ไม่เจอ ฝั่งนายเจอมั้ย?"

    เอรีเน่ตะโกนถามลูคัส ทางฝั่งลูคัสเองก็ไม่เจอ

    "ไม่เจอเลย"

    "เดี๋ยวนะ เราพลาดข้อมูลสำคัญไปได้ไง นายจำได้ไหมว่าในหนังสือมันบอกว่าจะเจอได้ที่ไหน"

    "ชั้นจำไม่ได้ เธอจำได้ไหม?"

    เอรีน่ายิ้มแล้วตอบ

    "แน่นอนว่าได้"

    ซึ่งก็เหมือนกับคาริส เด็กๆพวกนี้ก็มีจุดเด่นเหมือนกัน เอรีน่าเป็นคนฉลาดไหวพริบดีและยังความจำดีอีก ส่วนลูคัส มีดีแค่ความกล้าและพละกำลังที่สูงพอๆกับผู้ใหญ่


     

    "เราสามารถพบดอกมะลิโฟนส์ได้ในป่าชายเลนหรือบริเวณที่มีน้ำไหลผ่าน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง"

    "คิดว่าถ้าตรงไปเรื่อยๆจะเจอมั้ย?"

    ลูคัสถาม เอรีน่าส่ายหัวซึ่งบ่งบอกว่าไม่รู้ แต่ในระหว่างนั้นเอง พุ่มไม้ข้างหลังลูคัสก็ขยับขึ้น ทั้งสองมองไปที่พุ่มไม้นั้นพร้อมกับถือไม้ไว้ในมืออย่างแน่นหนา พุ่มไม้ตรงหน้าเริ่มสั่นแรงขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุดสิ่งที่อยู่ข้างในก็พุ่งออกมา

    ""อะจ๊าาาาาก!!!/อ้าาาา!!!!"" ลูคัส/เอรีน่า

    แต่ทว่าสิ่งที่ออกมาดันเป็นเพียงกระต่ายเท่านั้น. ทั้งสองถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ความโล่งอกนั้นอยู่ได้ไม่นาน เพราะมีหมาป่าสามตากระโดดพุ่งตรงเข้ามาทางเอรีน่า แต่ก่อนที่จะถึงตัว...

    "คิดจะทำอะไรน้องๆของฉันเจ้าหมาบ้า!!!!"

    ..หมาป่าตัวนั้นโดนเตะเข้าที่คอจากด้านข้างจนมันกระเด็นไปชนต้นไม้

    .

    .

    .

    .

     โชคดีที่ผมมาทัน ไม่งั้นเอรีน่าคงจะโดนเจ้านี้งับไปแล้วแน่ๆ

    ผมรีบวิ่งเข้าไปดูอาการของทั้งสองปรากฏว่าไม่เป็นไรทั้งคู่ ถือว่าโชคดีมาก

    ""พี่วิวาระวัง!!"" 

    เด็กทั้งสองตะโกนขึ้น หมาป่าพุ่งเข้ามาข้างหลังผมโดยที่ผมไม่รู้ตัว เลยทำให้โดนกัดไปที่มือขวาเต็มๆ

    "อึก!!  เจ็บ!!"

    ผมใช้มือซ้ายหยิบมีดขึ้นมาแล้วเล็งไปที่คอของมัน

    "หนอยเจ้าหมานี่!!! ตายซะ!!!!!!"

    'จึก!' มีดในมือผมแทงเข้าไปที่คอของมัน ทำให้มันตายคาที่ไปในที่สุด

    เด็กๆทั้งสองรีบเข้ามาดูอาการ แต่ผมบอกไปว่าไม่เป็น ถึงเด็กๆทั้งสองจะไม่เชื่อก็ตาม

    "กลับกันเถอะ มันถึงเวลาอาหารแล้วนะ"

    "แต่มือขวาของพี่~

    'ซิก ซิก' จู่ๆลูคัสและเอรีน่าก็ร้องให้โดยไม่มีเหตุผล

    "ผมขอโทษครับพี่ ผม.. เพราะผม มือของพี่ถึง-"

    "หนูเองก็ขอ-"

    "เอาหน่า แค่นี้เอง กลับไปให้โรเซ่รักษาก็หายแล้ว" 

    ผมยิ้มให้เด็กๆแล้วใช้มือซ้ายลูบหัวทั้งสองสลับไปมา

    "ไปกันเถอะ กลับกันได้แล้ว"

    "ครับ/ค่ะ"

    ทั้งสองพยักหน้าโดยที่ยังมีน้ำตาซึมอยู่ ก่อนจะจูงมือกันเดินไป

    "อย่าจับมือขวาสิลูคัส! ฉันเจ็บนะ!"

    "ขอโทษครับ!"

    หลังจากนั้นพวกเราก็พากันเดินกลับไปที่หมู่บ้านโดยที่ไม่มีใครบาด- ฉันบาดเจ็บมานี่หน่า!! แต่ช่างมันก็แล้วกัน

    .

    .

    .

     

    ในจุดที่ศพของหมาป่านั่นอยู่ ได้มีกลุ่มคนเดินเข้ามาพบเข้า

    "หัวหน้าคร้บ เหมือนว่าเราจะเจอหมู่บ้านแล้วนะครับ"

    "ทำได้ดีมาก เยี่ยมๆๆ งั้นเราก็มาเริ่มกันเถอะ!!"

     

    จอบตอนท่ 2

     

    ***************************************************

     

    อ้า!! 04:15น. นี่ฉันเขียนนานขนาดนี้เลยหรอ?

     

    วิวาในปัจจุบัน

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×