คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : สาวโสดผู้ถูกทอดทิ้ง
“ปังๆๆๆ” โอ้ววววอ๊าวว ซาวด์เอฟเฟ็คอะไรมาดังอยู่หน้าประตูห้องนอนสาวสวยสุดเซ็กเอ็กซ์แตกแต่เช้าเนี่ย กำลังฝันหวานถึงซีวอนเลยอ่ะ “ฮ้าว” ยืดแข้งยืดขาซะหน่อยพอเป็นพิธีที่ชาวบ้านเรียกกันว่า บิดขี้เกียจสองสเตป สเตปที่หนึ่งยืดมือไปเหนือหัวให้สุด แล้วสเตปที่สองก็ยืดขาไปสุดๆ พร้อมกันบิดตัวไปมา
“ตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะ ยัยแอมแปร์อยู่มอห้าแล้วยังต้องให้แม่มาปลุกไปเรียนทุกเช้าอย่างนี้ใช้ได้ที่ไหนกันเนี่ย ตื่นเดี๋ยวนี้เลย” อั๊ยหย๊า ปล่อยให้คุณนายปรียานุชย์มาปลุกอีกแล้ว โดนสวดก่อนไปโรงเรียนทุกวันเลยให้ตายสิน่า
“ตื่นแล้วค่ะแม่ อีกห้านาทีหนูจะรีบลงไปเลยค่ะ” ว่าแล้วก็กระโดดลงจากเตียงนอนแล้วหยิบผ้าเช็ดตัววิ่งเข้าห้องน้ำในทันที ยังไม่วายมีเสียงบ่นของแม่เล็ดรอดเข้ามาในห้องน้ำอีก
“เป็นอย่างนี้สิน่าถึงไม่มีใครเอาไปเป็นแฟน เฮอะชาตินี้สงสัยฉันต้องปวดหัวจนตายเพราะลูกสาวขึ้นคานอยู่คาบ้านแน่หล่ะ” ได้ยินเสียงแม่เดินลงบันไดไปแล้ว แต่ปมด้อยในใจฉันยังอยู่ ก็แหงหล่ะ ทั้งสวย ทั้งเซ็กซี่ ทั้งดูดีราวกับดารานางแบบ แต่ความโก๊ะความซุ่มซ่ามและนิสัยกระโดกกระเดกของฉันจึงทำให้มีวีรกรรมช้ำรักซ้ำซากอยู่ร่ำไป อย่าให้เซด เพราะเซดแล้วมันแซด
ก่อนจะไปฟังเรื่องราวแห่งความขมขื่นให้น้ำตาตกในเล่น เรามาทำความรู้จักกันก่อนดีกว่าค่ะ ฉันชื่อนางสาวณัฐชญาดา บริบูรณ์ทรัพย์สินอนันต์ แหม แค่เห็นนามสกุลก็รู้แล้วใช่ไหมล่ะคะว่าฉันน่ะรวยล้นฟ้าอภิมหาอลังการขนาดไหน ก็ไม่เท่าไหร่หรอกค๊า แค่คุณปู่คุณย่าท่านทิ้งทรัพย์สมบัติเอาไว้ให้ใช้เล่นๆ สองสามร้อยล้านเอ๊ง คุณแม่ก็เลยเป็นแม่บ้านจัดการดูแลทรัพย์สมบัติไป ส่วนคุณพ่อก็เป็นเจ้าของบริษัทจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้ารายใหญ่ของเอเชียร์ ก็ไม่รู้จะรวยไปไหนอ่ะนะคะ เพราะคุณพ่อน่ะสิมีหัวการค้า เล่นไปจับมือกับญี่ปุ่นทำโคมไฟแบรนด์ดังด้วยแล้วล่ะก็ อุ๊ย กำไรและกำไร ก็เพราะคุณพ่อคลั่งอุปกรณ์ไฟฟ้ามากนี่แหล่ะ ฉันถึงได้มีชื่อเล่นแสนประหลาดว่า แอมแปร์ ผู้หญิงบ้าที่ไหนกันจะมีชื่อเป็นหน่วยวัตต์พลังงานไฟฟ้า แถมยังมีน้องชายมอสามชื่อนายโวลต์อีก ถ้าฉันมีน้องอีกสงสัยจะต้องชื่อวัตต์ ชื่อจูล โอ้ย ดีนะที่ฉันเกิดก่อนเลยได้ชื่อแอมแปร์ เพราะอย่างน้อยเวลามีคนเรียกย่อๆ ก็ชื่อแอมป์ น่ารักดีอ่ะ
มาเข้าเรื่องราวที่ฉันต้องเอาความขมขื่นไปทิ้งแม่โขงให้มันไหลลงไหลลง อุ่ย ฟังเพลงกับแม่มากไปหน่อย เรื่องมันมีอยู่ว่า สาวสวยหุ่นดีหน้าอกสะบึมล่ะหึ่มแสนจะเซ็กซี่อย่างฉันได้รับการโหวตเป็นดาวโรงเรียนตอนมอสี่ ก็มีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มาหมายปอง หนึ่งในนั้นก็มีพี่โฟล์คมอหกนักกีฬาโรงเรียนที่สาวแท้สาวเทียมคลั่งไคล้มาพัวพัน แต่พอคบกันแล้วพี่เค้าก็ร่ำลาฉันด้วยประโยคสั้นๆ ง่ายๆ ว่า “เราคงไปกันไม่ได้ พี่ไม่ชอบผู้หญิงแข็งเป็นท่อนไม้ แตะเนื้อต้องตัวก็ไม่ได้ ไม่รู้ตัวทำด้วยทองหรือไง พูดคำหวานๆ ก็ไม่เป็น พี่ต้องการผู้หญิงที่น่ารักอ่อนหวาน หวังว่าแอมป์คงเข้าใจนะ” ฉึก เชือดเฉือนหัวใจขนาดนี้แกยังกล้ามาถามว่าฉันคงเข้าใจอีกงั้นเหรอ แต่ฉันก็ทำได้แค่พยักหน้าแล้วปล่อยให้เขาเดินจากไป
กาลเวลาต่อมาก็มีแชมป์ นักดนตรีวงดนตรีโรงเรียนมาชอบ อันที่จริงยังเข็ดกับการมีรักอยู่อ่ะนะ แต่ว่าเกิดเป็นผู้หญิงทั้งทีไม่มีแควนเดี๋ยวชาวบ้านก็นินทาว่าไม่มีอะไรดีน่ะสิ ฉันตกลงคบกับแชมป์มอสี่เหมือนกันทำให้คนในโรงเรียนนอกโรงเรียนรวมถึงโรงเรียนข้างๆ อิจฉา ก็เขาทั้งหล่อ ขาวตี๋ ร้องเพลงเพราะ เล่นกีต้าร์เก่ง โอ้ย ร้องเพลงจีบฉันทีนะ ฉันเขินตีลังกาไปสามตลบ แต่อีตานั่นก็เจ้าชู้ตามนิสัยนักดนตรีเดี๊ยะเลย ก็เขาชอบเหล่ให้หญิง ยิ้มให้สาว ฉันก็เลยต้องออกบทเจ้าที่แรงจ้องแย่งซีนจัดการสั่งสอนตบไม่ยั้งให้กับใครก็ตามที่มายุ่งกับแฟนฉัน ไอ้ที่ทำไปเพราะรักเค้ามากเราก็ให้เค้าหมดกลับได้คำตอบว่า
“แอมป์เราเลิกกันเถอะ เธอมันยัยโหด เธอแกร่งเกินเป็นผู้หญิงไปแล้วไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เธอจะซ้อมฉันเหมือนยัยผู้หญิงพวกนั้นอ่ะ ลาก่อนนะ” สุดท้ายก็จบตรงคำว่าล่ำลา จะให้ฉันยินดีแทบบ้าไปเลยรึไง
นึกว่าฉันจะเข็ดเหรอ ยังหรอกค๊า สาวสวยก็ย่อมคู่กับหนุ่มหล่ออยู่แล้ว พอฉันขึ้นมอห้าก็จ้องงาบน้องมอสี่ อุ๊บส์ ก็แค่อยากควงเท่านั้นนะ ไม่ได้หวังกินเด็กให้เป็นสาวอมตะอะไรงี้หรอก
หนุ่มน้อยน่ารักเด็กสายวิทย์คณิต เรียนเก่งที่สุดในชั้นปี ได้มีโอกาสควงเด็กแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ทำให้รุ่นน้องมันหมั่นไส้เล่นมีไรป่ะ แต่เด็กก็คือเด็ก ฉันก็แค่เลือกซื้อเสื้อผ้าให้ ซื้อรองเท้า กระเป๋า นาฬิกา สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ นาๆ ราคาแพงลิบให้เขาใช้ ก็บ้านฉันมันรวยอ่ะ ฉันก็อยากให้แฟนฉันมีของดีๆ ใส่บ้างไรบ้าง แต่เขากลับบอกฉันว่า
“พี่ครับ ผมอายนะ พี่ทำยังกับเป็นแม่ผมเลย มีแต่คนว่าผมหลอกคบพี่เพื่อต้องการสิ่งของ พี่เอาคืนไปให้หมดเลย เพราะผมจะไม่ยุ่งกับพี่แล้ว” อ๊ากส์ น้ำตาตกใน คิดว่านี่จะเพียงพอเหรอที่สวรรค์จะรังแกฉันน่ะ
มีนักเรียนย้ายมาใหม่ให้เสียวหัวใจเล่น มีคนหมายมั่นปั้นมือว่าหนูอยากได้ซะขนาดนั้น มีหรือฉันจะไม่รีบคว้ามาควง ก็ฉันน่ะได้เปรียบกว่าใครเพื่อน ทั้งสวย ทั้งหุ่นดี ทั้งเปรี๊ยวจี๊ดจ๊าดขนาดนี้ ใครเห็นก็ต้องตะลึงตึงตึงไม่เว้นอีตาพี่โยสุดเท่นายแบบนิตยสารวัยรุ่นนั่นด้วย
เวลาคนเราอกหักก็มักจะบอกทุกคนว่าที่เลิกไปเพราะต้องการสิ่งที่ดีกว่า และฉันก็เหมือนกั๊น อกหักแล้วก็บอกว่าฉันต้องการคนที่ดีกว่าและคนนั้นก็คือพี่โยนั่นเอง และความสนใจของพี่โยก็ตกเป็นของฉัน
มันก็มีวีธีไม่ยากหรอกค๊า แค่เดินไปบังเอิญให้เค้าเจอบ่อยๆ มีเหตุให้ต้องคุยธุระกันมากมาย มีกิจกรรมร่วมกัน อ๊ะ อย่าคิดลึกค่ะ เราไปออกค่ายพัฒนาชุมชนด้วยกันมา แล้วเราก็ได้เป็นแฟนกัน แต่เค้าก็เป็นคนของประชาชน เวลาที่เรามีให้มันน้อยต้องใช้สอยอย่างประหยัดเลยทีเดียวเชียว พอเขาเริ่มดังขึ้นก็มีงานละคร เค้าหันไปคบกับคนในวงการ อ๊ากส์ อยากตามไปตบยัยนางเอกนั่นแต่ฉันก็บุกเข้ากองถ่ายไม่ได้
สุดท้ายก็ได้แต่ยืนโวยวายอยู่หลังฉากที่มีตัวประกอบละครเยอะแยะไปหมด อับอายเหลือเกิ๊น เค้าคนนี้ไม่ได้บอกเลิกหรอก แต่ที่เห็นที่รู้ก็คือเค้ามีคนอื่น แม้พี่โยจะบอกว่าเค้าเล่นละครคู่กันก็แค่รักโปรโมทให้ละครดัง แต่ใครจะไปเชื่อ อยู่หลังกองถ่ายยังแทบจะถลาไปกอดกัน ถ้าอยู่กันสองคนไม่ขอรวมร่างเป็นไอ้มดเขียวเชียวรึไงยะ ฉันเชื่อไม่ลงจริงๆ เลยถอดใจจากเค้า และด้วยความที่กลัวหน้าแตกฉันก็บอกกับเค้าไปว่า
“เราเลิกกันเถอะ พี่อย่ามายุ่งกับแอมป์อีก แอมป์มีแฟนแล้ว เป็นนักร้องชื่อดัง แถมยังเป็นนายแบบสุดฮอทตอนนี้ด้วย หวังว่าพี่คงเข้าใจ” ฉันยืมคำอีตาโฟล์คที่บอกเลิกฉันตอนมอสี่มาใช้ ฉันเห็นหน้าพี่โยเสียใจมากแต่ใครจะไปสนใจกันล่ะ พวกนักแสดงก็ตีบทแตกทั้งนั้นแหล่ะน่า
เพื่อไม่ให้ตัวเองหน้าแตกที่บอกเลิกพี่โยไป ฉันต้องมีแฟนใหม่ที่ดีกว่า เพอร์เฟคกว่า ต้องเป็นนักร้องเล่นกีต้าร์ได้ดังระดับซุปเปอร์สตาร์เมืองไทย เล่นกีฬาเก่งเรียนเก่งสุดยอด และต้องเคยถ่ายแบบ (มันเล่นเอาคุณสมบัติแฟนเก่าทุกคนมารวมกันคงหาได้หรอกผู้ชายแบบนั้นอ่ะ:เดซี่) จะเป็นใครก็ช่างเหอะ ขอยืมมาควงอวดพี่โยและบรรดาแฟนเก่าซะหน่อย ไว้หนำใจแล้วจะเอาไปคืนไว้ที่เดิมเลย (คนนะไม่ใช่แจกันดอกไม้) คิดเพลินๆ อาบน้ำเสร็จพอดี รีบแต่งตัวลงไปกินข้าวดีกว่า
“ยัยโก๊ะนี่ช้าอีกแระ ทำผมไปเรียนสายประจำเลยอ่ะ” เสียงน้องชายสุดที่เลิฟดังขึ้นและส่งหน้าตาบูดบึ้งไปทางคุณนายปรียานุชย์
“นี่ อย่าบ่นได้มั้ย กินเข้าไปเลยไป” ฉันจับส้มทั้งเปลือกยัดปากน้องชายที่ไม่เคยมีความเคารพพี่สาวเลยซักติ๊ดนึง ตั้งแต่จำความได้มันไม่เคยเรียกฉันว่าพี่ซักคำ
“แม่ยัยนี่แกล้งผมอีกแล้ว” โวลต์โวยวายแล้วจับข้อมือฉันบิดจนส้มหล่น แกกล้าว่าฉันแกล้งแกอีกเหรอเนี่ย บิดซะข้อมือฉันเขียวขนาดนี้
“หนูล้อเล่นแต่แม่ดูดินายโวลต์บิดข้อมือหนูเขียวเลยนะ” ฉันบิดข้อมือออกจากน้องชายแล้วเอาไปโชว์แต่แม่ส่ายหัวเอือมระอา
“เฮ้อ ฉันล่ะเบื่อพวกแกจริงๆ รีบๆ กิน แล้วก็รีบๆ ไปโรงเรียนซะทีไป๊ น่ารำคาญ” โอ้ย ทำไมบ้านฉันรักกันจังเลยค๊ะเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อเลย ฮึ่ย ฉันแลบลิ้นใส่โวลต์แต่มันก็ทำทะลึ่งทะเล้นทำตากลอกไปกลอกมากวนบาทาฉัน
“แล้วเย็นนี้จะไปไหนก็ไปกันนะ หากินเอานอกบ้าน ในบัตรเครดิตเพิ่มวงเงินไว้ให้แล้ว กลับมาซักสาม
ทุ่มก็ได้ พ่อกับแม่จะดินเนอร์กันสองคน ไม่อยากให้ลูกมารบกวน” ดูแม่ฉันว่าแล้วก็ทำตาเยิ้มยิ้มฝันหวาน น่าอิจฉาชะมัดเลย พ่อกับแม่อยู่กันมามีแต่คำหวานเลี่ยนให้กันทุกวัน เรียกที่รักตลอด ไหนจะฮันนิมูลเดือนละครั้ง คนบ้าที่ไหนฮันนีมูลกันบ่อยขนาดนั้น พ่อแม่ฉันนี่ไง มีนัดทานข้าวกันอาทิตย์ละครั้ง ที่สำคัญห้ามฉันกับน้องกลับมารบกวน จะเป็นห่วงลูกหน่อยก็ไม่ได้ ไม่ห่วงไอ้โวลต์เพราะมันเป็นนักเลงประจำโรงเรียนชายล้วน ก็น่าจะห่วงลูกสาวแสนสวยบ้าง ให้กลับซะค่ำเชียว
“ค่ะ/ครับ” ฉันกับน้องรับคำพร้อมกันแล้วยกมือไหว้แม่ก่อนจะออกมาที่รถ ฟังไม่ผิดหรอกค่ะ ฉันขับปอร์เช่สีขาวไปเรียน ส่วนอีตาโวลต์น่ะเหรอ ขับมอเตอร์ไซด์ฮาเล่ย์คันยักษ์ที่ขับทีโหนแขนขึ้นไปเป็นลิงอุรังอุตังเลยนั่นแหล่ะ แล้วเราก็แยกย้ายไปโรงเรียน
ณ โรงเรียนสหวิทยาประสานวิทย์วิโรจน์ ช่างเป็นชื่อโรงเรียนที่จำชื่อยากมาก กว่าฉันจะท่องชื่อโรงเรียนถูกนะปาไปหลายเดือนที่เรียนมา ทันทีที่ลงจากรถคันงามก็โดนผีหลอกแต่เช้า
“ว่าไงจ๊ะสาวโสดผู้ถูกทอดทิ้ง เอ้ยสาวสวยดาวเด่นของโรงเรียน ฮิฮิ” เสียงแหลมของยัยชะนีเผือกหน้าผีจูออนดังมาหลอกหลอนแต่เช้า หล่อนแต่งหน้าขาววอกทาปากแดงยังกับผีจีนยืนหัวเราะเยาะฉันพร้อมด้วยสมุนอ้วนผอม ยัยอ้วนหน้าสิวและยัยผอมหัวฟู ยัยผีจูออนนี่มันโกรธแค้นฉันตั้งแต่สมัยประกวดดาวโรงเรียนแระ ก็ฉันมันเพอร์เฟคขนาดนี้ยังกล้าคิดจะชนะฉันอีก เฮ้อ แต่ก็ช่างเหอะ ความฝันของเด็กสาว
“ว่าไงเหรอจ๊ะยัยผีจีน อุ๊บส์ เอ่อ รีย่าสาวมั่นแห่งชั้นมอห้า” เรามักจะใช้สรรพนามเรียกกันเป็นฉายาของแต่ละคนเสมอ
“อ๋อ ก็พึ่งได้ดูละครที่พี่โยเล่นตอนแรกน่ะ นางเอกส๊วยสวยนะเธอ เหมาะที่จะเป็นแฟนพี่โยม๊ากมาก ดีแล้วเนอะที่เลิกกะเธอน่ะ” มันจะทิ่มแทงฉันไปถึงไหน พูดอย่างนี้เรามาตบกันเลยดีกว่ามา(ถ้าแกมาคนเดียว) ฉันเลิกกับพี่เค้ามาจะสามอาทิตย์อยู่แล้วยัยนี่ยังไม่เลิกพล่าม
“อ๋อ ก็ไม่เท่าไหร่ร๊อก แฟนใหม่ฉันก็หล่อม๊ากมาก เป็นนักร้องดัง เอ๊าะ แต่น้ำหน้าอย่างเธอคงหาแฟนระดับดารงดาราซุป’ตาอะไรพวกนี้ไม่ได้ร๊อก A pity ช่างน่าสงสารเสียนี่กระไร โฮ๊ะๆ” หัวเราะทีหลังดังกว่า แต่มันจะดับก็เพราะยัยสองเพื่อนของยัยนั่นขยับจะเข้ามาหาฉัน แต่ฉันกำหมัดเงื้อพร้อมต่อยสองคนนั่นเลยชะงักไปเล็กน้อย ยัยเพื่อนซ่าหลียัยหมวยผมเปียหายไปไหน ยัยลูกหว้าสาวไทยแต่งหน้าแต่งตัวเป็นสาวเกาหลีก็ยังไม่ยอมมาเป็นลูกคู่ให้ฉันอีก เพื่อนสาวคนสวยของพวกแกจะโดนยัยผีจูออนลากไปทึ้งอยู่แล้วน๊า
“แก๊ แกกล้ามากนะที่มาว่าฉันแบบนี้ คิดว่าบ้านรวยแล้วจะไม่เห็นหัวลูกสาวมาเฟียอย่างฉันได้รึยังไง” ลืมไปแล้วจ้ายัยผีจูออนว่าแกเป็นลูกสาวหัวหน้าพรรคมังกรปีศาจ แก๊งมาเฟียใหญ่ที่มาจากเมืองจีน
“ไม่ลืมหรอกนะ แต่ไม่คิดว่าคนมีสมองจะใช้กำลังน่ะ ฉันว่าเรามาแข่งขันอะไรที่มันสร้างสรรกว่านี้ไม่ดีกว่าเหรอ” ฉันท้าทายเพราะหาวิธีเอาตัวรอด ก็ดีกว่าจมทีนอยู่ตรงนี้แหล่ะน่า
“งั้นก็ดี ฉันก็ไม่อยากให้มือเปื้อนเลือดเท่าไหร่นักหรอก เอาเป็นว่าถ้าแฟนเธอเจ๋งอย่างที่เธอบอกจริง ก็พามางานคืนสู่เหย้าเสาร์หน้าสิ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะเจ๋งกว่าแฟนฉันรึเปล่า” ห๊า ไม่จริง ยัยหน้าผีนี่มีแฟนด้วยเหรอ แง๊ ไม่จริงอ่ะ ทีฉันยังโสด โสด อยู่ตรงนี้ แกจะมีแฟนได้ยังง๊าย
“อ๋อ แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าแฟนฉันดังกว่าแฟนเธอ ฉันจะได้อะไร” ผีพนันเข้าสิงห์รึไงยะ มายืนท้ายัยลูกสาวมาเฟียเหยงๆ อย่างนี้ ยัยบ้าแอมแปร์เอ้ย
“ก็แลกด้วยการคลานลอดขาพวกฉันสามคนไง ฮะฮะ” มันจะประสานเสียงหัวเราะเพื่อไปแข่งร้องเพลงโอเปร่าในรายการไทยแลนด์ทะลึ่งทะเล้นรึไงกันเนี่ย
“งั้นก็ดีเหมือนกัน ถ้าพวกแกแพ้ก็ต้องคลานลอดขาพวกฉันสามคน” โอ้วยัยซ่าหลี แกหลบลี้หนีหายไปไหนมาถึงได้พึ่งมาเอาป่านนี้เนี่ย
“ฉันชักจะอดใจรอให้ถึงวันนั้นไม่ไหวแล้วสิ” ยัยลูกหว้าเอามือจิ้มแก้มตัวเองแอ๊บแบ๊วเต็มที่ทำเสียงบ๊องแบ๊วน่ารักน่าชังน่าหมั่นไส้หน้ากะละมังซักผ้าและหน้าถีบ
“เออ ได้ แล้วจะคอยดู พามาให้ได้ก็แล้วกันย่ะ พวกเรากลับ” แล้วยัยหัวหน้าผีก็พาลูกสมุนผีของมันจากเราไป เหลือไว้แต่ฉันและผองเพื่อนที่มองหน้าฉันอย่างค้นหาคำตอบ
“แกมีแฟนเป็นซุป’ตาจริงเหรอวะเนี่ย โอ้ยเพื่อนรัก ทำไมไม่แนะนำให้รู้จักบ้างเล่า ไอ้ฉันก็นึกว่าพี่โยทิ้งแกไปมีแฟนเป็นนางเอกละคร แสดงว่าแกล้างอาถรรพ์ที่ว่าถูกทิ้งตลอดศกได้แล้วดิ” ซ่าหลี ฉันจะไปแนะนำสากกะเบือตำพริกอะไรให้แกรู้จักได้เล่า ก็ฉันยังหาอีแฟนกำมะลอนั่นยังไม่ได้เล้ย แฟนที่ดีที่สุด น่าอวดที่สุด นั่นน่ะ
“เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งห้าปี แกมีฟามลับอารายกับพวกเราเนี่ย” อยากจะบ้าตายยัยลูกหว้าอย่าเอาตาโตๆ ของแกมาจ้องจับผิดฉันนะ
“ก็แหม เขาเป็นคนดังอ่ะก็ต้องปิดบ้างไรบ้าง เดี๋ยวคืนวันเสาร์ก็ได้เจอแล้วน่า อีกแค่สามวันรอไม่ไหวรึไงเล่า” ฉันพูดไปในใจก็เต้นตึกตัก ก็ฉันกำลังโกหกทุกคนอยู่น่ะสิ ถ้ามีใครตั้งรางวัลตอแหลแปดอวอร์ดฉันต้องได้รางวันนั้นชัวร์ป๊าบ
“เฮ้ยเข้าเรียนกันเหอะ เดี๋ยวก็โฮมรูมไม่ทันหรอก” ฉันดันหลังเพื่อนทั้งสองเดินไปที่ห้องเรียน ฉันไปนั่งโต๊ะตรงกลางแล้วหันเหลือบไปเห็นแมงปอกำลังเปิดนิตยสารวัยรุ่นฉบับล่าสุดอยู่ คุณครูยังไม่มาเลยมีสาวในห้องมุงโต๊ะยัยแมงปอกันหลายคน รวมฉันด้วยอีกซักคนจะเป็นไรไป
ฉันชะเง้อมองหน้าปก อร๊ายยย หล่อเป็นบ้าเลย ฉบับนี้เอาใครมาขึ้นปกน๊าขอดูชัดๆ หน่อยเด้
“ขอทางหน่อยสิ” ฉันเบียดยัยทิชายัยหมูบูรินของห้องด้วยความทุรักทุเลแต่ก็แทรกเข้าไปจนได้มือก็ทำหน้าที่หยิบหมับเข้าให้
“เฮ้ นี่มันหนังสือของฉันนะ” ยัยแมงปอรีบทำปากมุ่ยห้ามฉัน หนังสืออยู่ในมือใครก็เป็นของคนนั้นดิ แต่ไม่เป็นไรน่าก็แค่ยืมดูนิดเดียวเองอยากดูประวัติสุดหล่อของฉันเท่าน๊านเอง
“แปปเดียวน่าขอดูหน่อย” นักร้องนำวง Zsood งั้นเหรอ ชื่อซีแซนด์ ว้าวชื่อก็เท่ หน้าตาก็หล่อ สมแล้วที่ดัง มีเพลงติดชาร์ทอันดับหนึ่งทุกคลื่นเพลงฮิตด้วย น่าสนใจเปิดดูประวัติหน่อยดีกว่า
“เธอไปซื้ออ่านเองได้มั้ยเล่า ฉันกำลังอ่านอยู่นะ เอาคืนมานี่เลย” ยัยแมงปอมาแย่งหนังสือคืนแล้วหล่อนก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เมื่อฉันทำตาดุใส่ แหม ฉันก็แค่เคยตบกับผู้หญิงของแฟนเก่ามานับไม่ถ้วนเท่านั้นเอง แต่ฉันไม่เคยลงมือกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนเลยนะ ยัยนี่อาจเป็นคนแรกก็ได้
“ฉันว่าฉันยกให้เธอก็ได้นะ ถ้าเธออยากได้อ่ะ” เสียงอ่อยๆ ของยัยแมงปอทำเอาฉันนึกสงสารแต่ก็ไม่ยอมคืนหนังสือให้ ฉันควักเงินห้าร้อยยื่นให้ยัยแมงปอ ยัยนั่นเอ๋อไปหนึ่งอึดใจแม้ว แล้วก็รับเงินเก็บเข้ากระเป๋า มีเงินนี่มันดีอย่างนี้นี่เอง นิตยสารเล่มละห้าร้อย ฮ้า ถู๊กถูกถ้าทำให้ฉันได้พบกับเนื้อคู่คนต่อไป
ฉันเปิดนิตยสารอ่านคอลัมภ์ที่สัมภาษณ์ซีแซนด์อ่านไปอ่านมาซะจนกระดาษแทบขาด วิชาเรียนวันนี้ไม่ค่อยมีสมาธิซักเท่าไหร่เพราะจิตใจจดจ่อกับผู้ชาย (เจริญจริงแม่คุณ อย่าเอาอย่างนะจ๊ะ)
เท่ หล่อ สมาร์ทแมนแฮนซั่มหลาย ดูรูปกางเกงขาสั้นโชว์ท่อนบนนี่สิ กรี๊ด มีซิกซ์แพ็กส์ด้วยอ๊าส์ กำเดาจะไหล ขอดูสังกัดหน่อยสิ ค่ายเดียวกับวง Star แล้วก็ วง H2H เลยอ่ะ กรี๊ดคูณสอง งั้นเดี๋ยวซีแซนด์ก็ต้องดังคับฟ้าเหมือนโชว์อี้วง Star แล้วก็พี่ฮัทวง H2H เลยอ่ะจิ๊ อ๊าย นี่แหล่ะๆ แฟนคนต่อไปของฉัน แล้วก็ต้องปฏิบัติการล่ารักภายในสามวัน จะได้พามาอวดยัยหน้าผีจูออนนั่นให้หน้าหงายไปเลย ฮะฮะ สะจาย
“นายเสร็จฉันแน่ นายซีแซนด์” เปิดอ่านต่ออีกนิดข่าวเขียนไว้ว่านักร้องสุดหล่อของเราคนนี้ยังไม่มีแฟน แถมยังเปิดใจสาวในสเปคอีกว่า “ขอแค่เธอเป็นคนที่รับในตัวตนของผมได้ ผมก็โอเคแล้วครับ” ตอบได้น่าประทับใจเหลือเกินพ่อคุณเอ้ย ประวัติๆ เฮ้ย เรียนโรงเรียนชายล้วนที่เดียวกับน้องชายฉัน แล้วก็อย่าบอกนะว่าอายุน้อยกว่าฉัน (อีกแล้วเหรอ) เด็กมอสาม อ๊ากกกกส์ เด็กมอสามทำไมดูเท่แล้วก็หล่อมากขนาดนี้เนี่ย เด็กสมัยนี้โตเร็วชะมัดเลย ไม่ได้การแล้วต้องถามข้อมูลจากนายโวลต์น้องชายที่ร๊าก วันนี้ฉันรักแกมากที่สุดเลย
หลังจากเลิกเรียนฉันก็รีบกดโทรศัพท์โทรหาโวลต์ทันที
“เจ้าของเครื่องไปกินไก่ที่ดาวพระศุกร์ กรุณาติดต่อใหม่ ขอบคุณ” เห็นฉันโทรไปทีไรมันก็ไม่อยากคุยทุกทีสิน่า ฉันเคยโทรไปรบกวนแกหรือไงเล่า อันที่จริงก็รบกวนทุกครั้งที่กดสายหามันแหล่ะนะ แต่ด่าไม่ได้เพราะต้องการความช่วยเหลือจากคุณน้องชาย
“โถ น้องโวลต์จ๊ะ พี่สาวคนสวยของนายโทรหา ไม่คิดจะคุยกันหน่อยเหรอ” เสียงออดอ้อนสุดฤทธิ์สุดเดช
“โอ๊ะ จำไม่เห็นได้เลยว่าฉันมีพี่สาวสวยกับเค้าด้วย มีแต่ยัยเปิ่นแอมแปร์นั่นแหล่ะพี่สาวฉันน่ะ” หนอยแน่ะ สงสัยจะพูดดีกับมันไม่ได้แล้วงานนี้ น่าโมโหนัก
“เออ ก็ได้ ไม่สวยก็ไม่สวย พี่มีเรื่องให้นายช่วยหน่อยอ่ะ” กำลังจะเข้าเรื่องอีตาโวลต์น้องชายปากดีก็รีบขัดขึ้นก่อน
“เรื่องผู้ชายอีกล่ะสิ อย่าบอกนะว่าพี่ก็ชอบไอ้ซีแซนด์นักร้องหัวทองนั่นอีกคน เฮอะ ผมล่ะเชื่อผู้หญิงจริงจริ๊ง” ฉันว่าแกไม่ต้องเรียนแล้ว ไปเป็นหมอดูเลยดีกว่าป่ะ
“แหมๆ พี่เป็นสาวสวยก็ต้องคู่กับหนุ่มหล่ออ่ะ แต่พี่มีความจำเป็นจะต้องมีแฟนเป็นซีแซนด์จริงๆ นะ แกจำยัยรีย่า ยัยผีจูออนโรงเรียนพี่ได้ป่าว” หวนระลึกความหลังครั้งประกวดดาวโรงเรียน พอฉันชนะการประกวด ยัยนี่เอาลูกน้องของพ่อมาดักรอจัดการฉัน แต่น้องชายฉันพาพวกมาช่วยไว้ได้ทันเลยไม่เสียโฉม ก็บอกแล้วไงนายโวลต์น่ะก็ไม่ธรรมดานะจะบอกให้ เป็นถึงหัวหน้าแก๊งคิลเลอร์เชียวนะ แก๊งที่เท่มากเพราะจะช่วยเหลือคนที่ถูกรังแก กำจัดพวกขยะสังคม โอ้ย เท่ได้อีกน้องชายฉ๊าน
“อ๋อ ลูกสาวเจ้าพ่อนั่นน่ะเหรอ จำได้ดิ” ดีมากน้องรักที่ความจำยังไม่เสื่อม นายต้องแค้นแทนพี่สาวบ้างนะถ้าเราออกมาจากท้องแม่เดียวกันจริง
“ก็นั่นแหล่ะ ยัยนั่นมันหาว่าพี่โดนผู้ชายทิ้ง เฮอะ ดาวโรงเรียนอย่างพี่อยากควงใครก็ได้ พี่เลยบอกว่ามีแฟนแล้วเป็นนักร้องดังด้วย มันเลยท้าให้พี่พามาโชว์ในงานคืนสู่เหย้าเสาร์นี้อ่ะ แค่สามวันพี่หาใครไม่ทันแล้วจริงๆ ช่วยพี่หน่อยนะ..”
“ไร้สาระ ตืดๆๆๆ” อ๊ากส์ ไอ้น้องชายบ้า นะนายกล้าดียังไงมาวางสายขณะที่พี่สาวกำลังขอความช่วยเหลือเนี่ย แล้วกว่าจะได้เจอมันอีกทีก็ดึกดื่นคืนนี้ลมหนาวพัดโชยมาเชียวนะ ก็แม่ให้กลับบ้านดึกๆ ไงเล่า โอ้ย ต้องโทรอีกๆ
“เลขหมายที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้” เฮ้ย มันปิดเครื่องหนีเลยเหรอ หนีเที่ยวกับหญิงทิ้งพี่ทิ้งเชื้อ เออ! จำไว้เลยนะ ทีหลังฉันจะไม่ช่วยอะไรนายเลย (มีแต่แกนั่นแหล่ะขอความช่วยเหลือน้องตลอด ตลอด) ก็ได้ย่ะ ฉันลงมือเองก็ได้ แต่ขอสะบัดยัยสองเพื่อนซี้ให้หลุดก่อนนะ วิ่งหูตั้งหางกระดิกลู่ลมมาโน่นแระ
“ยัยแอมป์ ไปสยามกันเหอะ วันนี้แกกลับบ้านดึกใช่ป่ะ พาเราไปเลี้ยงเกะหน่อยดิ” น่านไง ยัยหน้าเกาหลีดั้งหักทักมาเพราะอยากไปแต่ตัวทัวส์ยกแก๊งเที่ยวฟรีกินฟรีแบบว่าฉันเป็นคนจ่ายอีกแล้วยัยลูกหว้า
“ไม่เอาๆ แอมป์พาพวกเราไปรู้จักกับแฟนแกหน่อยดิ แฟนแกเป็นนักร้องดังเหรอ คนไหนอ่ะ อยากรู้จักจังเลย” ว่าแล้วยัยซ่าหลีก็เดินมาเกาะแขนฉันประหนึ่งว่ากลัวฉันจะระเหิดระเหยสลายหายไปในอากาศแล้วมันจะไม่มีโอกาสได้เจอแฟนฉัน แกคงไม่มีโอกาสได้เจอหรอก เพราะฉันยังหาแฟนไม่ได้เลย
“เฮ้ยพวกแก วันนี้ฉันนัดกับแฟนไว้นะ ไว้วันหลังดีกว่าฉันค่อยพาพวกแกไปดำน้ำดูปะการังท่องหนังสือนั่งสมาธิชมอะคาเดมี่แฟนตาซัว แล้วก็เจอแฟนฉัน” ฉันรีบเดินจ้ำอ้าวไปที่รถปอร์เช่สีขาวคันงาม
“ก็ได้ๆ แต่แกต้องบอกฉันมาก่อนว่าแฟนแกคือใคร” หวา คำถามที่น่ากลัวที่สุด ตอบมั่วส่งเดชไปก่อนก็แล้วกัน
“กะ ก็ซีแซนด์นักร้องนำวง Zsood ไง อยู่โรงเรียนชายล้วนที่เดียวกะน้องชายฉันอ่ะ” ฉันรีบไขกุญแจมือไม้สั่น กลัวเพื่อนจับได้ กระทั่งเพื่อนตัวเองยังต้องโกหกเลย ขึ้นหลังเสือแล้วลงไม่ได้อ่ะ
“โห แล้วไปรักกันตอนไหนเนี่ย สุดยอดเลยอ่ะ” ยัยลูกหว้าตาโตเท่าไข่ไดโนเสาร์
“เอิ่ม แบบว่า เค้าเคยมาบ้านฉันกับโวลต์แล้วก็รักแรกพบน่ะ เพื่อนแกทั้งสวย ทั้งเซ็กซี่ ผู้ชายคนไหนไม่ชอบบ้างอ่ะ” ฉันรีบกระชากประตูรถเปิดออกแล้วก็รีบชิ่งสตาร์ทรถหนีพวกมันในทันที โอ้ย เวลาโกหกทำไมมันเหนื่อยแบบนี้เนี่ย รู้อย่างงี้ไม่โกหกซะก็ดีหรอก แต่ก็ไม่ได้ เดี๋ยวข่าวรั่วไปถึงหูยัยรีย่าฉันเสียหน้าตายเลย
“นายซีแซนด์นายต้องมาเป็นแฟนฉันให้ได้เลย คอยดูสิ” ฉันขับรถไปโรงเรียนน้องชายเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม พอจอดรถหน้าโรงเรียนได้พักนึงก็เห็นรถสี่สูบคันโตขับเสียงดังคับบ้านคับเมืองออกมา แต่คงดังน้อยกว่าเสียงกรี๊ดกร๊าดเกลียวกราวของบรรดาแฟนคลับที่มาออกันอยู่หน้าโรงเรียนนี้ (รวมฉันไม่ได้นะ ฉันไม่ได้มากรี๊ด แต่มาเป็นแฟนนายเด็กนั่นต่างหาก)
“อ๊ะ ตัวจริงหล่อมากเลยแฮะ” นายซีแซนด์ขับฝ่าฝูงชนออกมาแล้วโบกมือทักทายเล็กน้อยก่อนจะบิดมอเตอร์ไซด์คันใหญ่ออกไปบนท้องถนน ฉันถือโอกาสขับรถตามซะเลย เหมือนคนโรคจิตยังไงก็ไม่รู้แฮะ จะทำยังไงถึงจะได้คุยกันนะ
ซีแซนด์บิดมอเตอร์ไซด์ไปทางสตูดิโอ H สถานที่ฝึกซ้อมของนักดนตรีและที่ถ่ายทำการแสดงของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของวงการ เอาไงดีเนี่ยใกล้จะถึงแล้วด้วยถ้านายหัวทองเข้าอาคารไปแล้วฉันบุกเข้าไปคงถูกรปภ.ลากคอออกมา ยังจำบรรยากาศตอนที่ถูกล็อคคอออกมาจากกองถ่ายละครของพี่โยได้ดี ฮึ่ม แล้วความคิดชั่ววูบก็ทำให้ฉันตัดสินค้าขับรถปาดหน้ามอเตอร์ไซด์ความเร็วสูง
“เอี๊ยดดดดดดดดด ครืดดดด” โอ๊ะ นึกว่าจะมืออาชีพหักหลบแล้วปลอดภัย ที่ไหนได้ล่ะรถล้มไปกองอยู่ข้างฟุตบาทเลย
ความคิดเห็น