สนมต้องรัก - นิยาย สนมต้องรัก : Dek-D.com - Writer
×

    สนมต้องรัก

    ชีวิตพนักงานกินเงินธรรมดาของฉัน ต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล เพราะอีตายมทูตเฟอะฟะนี่คนเดียว!...

    ผู้เข้าชมรวม

    9,026

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    39

    ผู้เข้าชมรวม


    9.02K

    ความคิดเห็น


    14

    คนติดตาม


    91
    จำนวนตอน :  73 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  29 พ.ค. 67 / 17:19 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      
    ฮ่องเต้หนุ่มผู้เย็นชา หัวใจของเขามีไว้เพื่อบ้านเมือง ไม่ได้มีไว้เพื่อผู้หญิงคนไหนทั้งสิ้น
                   

     

    สนมผู้ไม่เป็นที่โปรดปราน ถูกส่งเข้าตำหนักเย็น

    นางเป็นหญิงโง่ ที่งมงายในความรักคนหนึ่ง เมื่อสิ่งที่ทุ่มเทไปได้รับกลับมาคือความเจ็บช้ำ ชีวิตนี้นางก็ไม่อยากอยู่ต่อไปอีกแล้ว

    นางเลือกวันที่เขารับสนมคนใหม่เข้าวัง เป็นวันจบชีวิตของตัวเอง น่าเสียดายที่นางทำไม่สำเร็จ

    เพียงแต่...หลังฟื้นขึ้นมานางก็ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคน

    ถูกต้อง!...เปลี่ยนไปเป็นคนละคน

    -------------------------------------------สนมต้องรัก

    ต้องเป็นคนประเภทเดียวกันถึงอยู่ด้วยกันได้...คำพูดนี้ดูท่าน่าจะจริง

    แล้วต้องเป็นคน เอ่อ เทพ ประเภทไหนกัน ถึงได้มีขุนศึกเทียนผงเป็น ไอดอล หรือที่เราคุ้นกันดีในนามตือโป๊ยกาย

    ไม่แปลกใจเลยที่เทพองค์นี้เดินตามรอยไอดอลของตัวเอง นั่นคือเฟอะฟะไปก่อเรื่องจนถูกเตะโด่งลงไปรับโทษยังยมโลก กลายเป็นเทพตกสวรรค์

    แล้ว...เรื่องนี้ เธอ ไปเกี่ยวอะไรด้วยนะหรือ

    ในความเป็นจริงไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย และไม่ควรจะเกี่ยวด้วยซ้ำหาก อีตา ผี เฟอะฟะนี่ ไม่รับดวงวิญญาณผิดมา!

           ทำให้วิญญาณของเธอออกจากร่างไม่พอ ยังพาไปที่แปลกๆอีก พอรู้ว่าทำผิดแล้วแทนที่จะรีบแก้ไข พากลับไปส่งที่เดิม ดันผลักเธอตกลงไปที่ไหนก็ไม่รู้

           รู้ตัวอีกทีคือแขวนคอห้อยต่องแต่งอยู่กลางอากาศ

           โอ้! มายก๊อดดดดด!!!...

          ไอ้ผีเลว! แกฆ่าฉ้านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

     

           “เอ่อ...ข้าต้องขอแก้ไขคำพูดของแม่นางสักเล็กน้อย 

           คือ...ข้าไม่ใช่ผี ว่ากันตามจริงข้าเป็นเทพสวรรค์คนหนึ่งเชียวนะ แค่ถูกลงโทษนิดๆหน่อยๆ ตอนนี้เลยต้องมาทำหน้าที่ยมทูต...” พูดไม่ทันเสร็จก็ถูกถลึงตาใส่

          “แฮะๆๆ...” 

          หัวเราะแห้งๆ เหลือบมองหญิงสาว ทำตาปริบๆ บิดมือไปมา

         “ต้องขออภัยด้วยจริงๆ ข้าเพิ่งออกไปเก็บดวงวิญญาณเป็นครั้งแรก ก็ต้องผิดพลาดกันบ้างสิ แม่นางไม่รู้หรอกข้าดีใจแค่ไหนที่ไม่ต้องอุดอู้อยู่ในหอคัมภีร์ ไม่ต้องจัดเก็บบันทึกบาปกรรมพวกนั้นทั้งวี่ทั้งวัน

          ข้าไม่เคยอู้งานเลยนะ ขะมักเขม้น จัดเก็บบันทึกเหล่านั้นตลอดเวลา แต่ก็ไม่เคยจัดได้หมดสักที ของเดิมจัดเก็บไปไม่ถึงครึ่ง ของใหม่ก็ทะลักเข้ามาอีกแล้ว เฮ้อ! น่าเบื่อจริงๆ ก็ได้ ก็ได้ เข้าเรื่องก็ได้ ไม่เห็นต้องขึงตาใส่กันเลย” ทำปากยื่นทำหน้าน้อยอกน้อยใจ

         “ก็อย่างที่บอกไปเมื่อครู่ ข้าดีใจมากที่ท่านพญายมไว้วางใจ จึงมุ่งมั่นทุ่มเทสุดกำลังเพื่อทำงานนี้ให้ดีที่สุด อยากรีบไปรีบกลับแสดงให้ท่านเห็นว่าข้าทำงานรวดเร็วแค่ไหน

          แต่งานนี้จะโทษข้าไม่ได้นะ ก็ข้าไม่รู้จริงๆนี่น่า พระพุทธองค์ตรัสไว้ไม่ใช่หรือว่า...ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด” เมื่อยกพระพุทธองค์มาอ้าง สีหน้าต้องทำเป็นขึงขังเพื่อความน่าเชื่อถือ

          “ถามว่าข้าไม่รู้อะไรงั้นหรือ?

           อย่างแรกเลยต้องบอกว่าข้าเป็นพวกความจำไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ชอบหลงทิศ จำเส้นทางไม่ค่อยได้หรอก ดังนั้นแม้อยากพาแม่นางกลับไปยังที่ที่จากมาก็ไม่อาจทำได้ ข้าลืมไปแล้วว่าไปโผล่ที่นั่นได้ยังไง ต้องขออภัยด้วยเรื่องนี้ข้าจนใจจริงๆ 

           ส่วนอีกเรื่องที่ข้าไม่รู้นะหรือ แฮะๆๆ” มือถูกบิดไปมาอีกครั้ง เหลือบตามองอีกฝ่าย รีบหลุบลงต่ำไม่กล้าสู้หน้า พูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม

           “คือ...ก็ข้าไม่รู้นี่นา ว่าแม่นางยังไม่ ตาย...”

     http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTYyMTY2MiI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjI3NzE5ODt9




    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น