ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4
ตอนที่ 4
“แลนซ์...”เสียงเล็กๆของเด็กชายผมทองดังขึ้นอย่างเห็นใจเด็กชายอีกคนที่ตอนนี้กำลังทรุดลงนั่งด้านข้างด้วยสภาพยับเยิน ถามว่าทำไมน่ะหรือ....ก็ท่านเอลราสน่ะสิ! ไม่รู้ทำไมเดี๋ยวนี้ถึงได้ตั้งอกตั้งใจแกล้งข้านัก วันล่ะสามเวลาหลังอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่หวานอย่างน่ากลัว ทางที่อยู่ๆก็มีหลุมโผล่ออกมา แค่เดินผ่านต้นไม้ก็มีกิ่งไม้ตกลงมา! ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้นะ ข้าเผลอไปทำอะไรให้ท่านหรือไงกัน....แลนซ์คิดในใจอย่างสิ้นหวัง ก่อนจะรู้สึกถึงแรงสัมผัสเย็นจากด้านหลัง พอหันไปมองเด็กชายผมทองก็ยิ้มน้อยๆส่งให้พร้อมยกผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้เขา
“เป็นอะไรรึเปล่า...”เกรเซียสถามอย่างกังวลถึงเขาจะรู้สึกดีนิดๆ ตอนที่เห็นแลนซ์โดนแกล้งก็เถอะ แต่ว่าดูแล้วมันจะทำให้แลนซ์ลำบากมาก เขาไม่ควรจะไปสร้างความเดือดร้อนให้คนที่คอยดูแลเขาแบบนี้
“ไม่เป็นไรหรอกเกรเซียส...อีกสักพอข้าคงจะชินเองแหละ”แลนซ์ยิ้มปลอบใจเด็กชายผมทองที่นั่งก้มศีรษะอยู่เบื้องหน้า มือยกขึ้นโยกหัวเขาอย่างหยอกล้อจนเด็กชายหัวเราะเบาก่อนจะยืดตัวยืนขึ้นแล้วฉุดแลนซ์ให้ลุกขึ้น
“ข้าจะเป็นกำลังใจให้ก็แล้วกัน ฮิๆ”เกรเซียสกล่าวอย่างร่าเริง ซึ่งแลนซ์มองตามอย่างเบาใจ ในที่สุดก็ร่าเริงขึ้นแล้วสินะ สองสามวันที่ผ่านมานี้ เด็กชายผมทองเริ่มยิ้มและพูดคุยเหมือนคนธรรมดา รอยยิ้มบนใบหน้าก็ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นเรื่อยๆ ความเศร้าที่เจืออยู่ในแววตาก็เบาบางลง....
เขามองดูเกรเซียสเดินนำหายเข้าไปในตรอกๆหนึ่ง ยังไม่ทันที่เขาจะก้าวเท้าตามเข้าไป
“อ่า!!!~”เสียงกรีดร้องคุ้นเคยดังขึ้น แลนซ์เบิกตากว้างเขารีบวิ่งตามเข้าไปทางที่คนตัวเล็กวิ่งจากไป ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าคือร่างของเด็กชายตัวน้อยซึ่งนั่งกุมหัวด้วยท่าทางหวาดกลัว รอบด้านคือเด็กหนุ่มอายุประมาณสิบห้าปีสามคนที่ยืนถือดาบล้อมไว้จากสามมุม ความกรุ่นโกรธพวยพุ่ง แรงโทสะบันดาลให้เด็กผมดำตัวสั่นเทิ่ม ย่ำเข้าไปผลักสามคนนั้นเพื่อเข้าไปประชิดตัวเกรเซียสแล้วตวาด
“พวกเจ้าทำบ้าอะไร!!”
ชายสามคนเบิกตาโตอย่างตกใจ พวกเขารีบปล่อยมือจากดาบแล้วปฏิเสธพัลวัน
“พวกข้าเปล่านะ! พวกข้าแค่กำลังฝึกดาบกันอยู่เท่านั้น อยู่ๆเด็กนี่ก็ร้อง เลยเป็นห่วงน่ะ!”ชายหนุ่มผมสีอ่อน ท่าทางเก้งก้างตอบสั่นๆ ทำไมเด็กตัวเล็กแค่นี้ถึงได้น่ากลัวนักนะ
“พวกเจ้าเป็นใคร...”แลนซ์ถามอย่างไม่ไว้ใจ เขาดึงเกรเซียสที่ยังตัวสั่นมากอดแน่น สายตาสีดำสนิทสื่อความหมายว่า ตอบมาไม่งั้นมีเรื่องแน่
“ข้าชื่อ อีกอร์ มาจากโยแลนด์ เผอิญว่าอาจารย์ของข้าเขาเดินทางมาทำธุระที่นี่ยังไม่เสร็จพวกข้าเลยมาฝึกดาบรอน่ะ”ชายคนนั้นตอบ ก่อนจะเหลือบมองเกรเซียสเล็กน้อยอย่างเป็นห่วงแล้วพูดต่อว่า
“ข้าก็ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้เป็นอะไรเหมือนกันตอนแรกเขายังทักข้าอยู่เลยแท้ๆ แต่พอเห็นดาบก็...”
“ก็อะไร”
“ก็เหมือนกับว่าเห็นสิ่งที่ไม่อยากจะมองแล้วกรีดร้องขึ้นมาน่ะ”
“ดาบงั้นหรอ...”แลนซ์ก้มลงมองเกรเซียสอย่างกังวล แล้วหันไปโค้งหัวขอโทษพวกอีกอร์ที่ตนตวาดไป ครู่หนึ่ง เด็กชายผมทองก็เหมือนจะได้สติขึ้นมาเล็กน้อยมือเล็กๆเอื้อมขึ้นมากระตุกเสื้อเด็กชายผมดำเบาๆ
“ละ...แลนซ์...ขะ..ข้าอยาก..กลับ...บ้าน”
“ได้เกรเซียส ข้าจะพาเจ้ากลับไปเอง”เขารับคำหนักแน่น อุ้มเด็กชายผมทองให้ขึ้นขี่หลังเดินกลับไปที่บ้านเอสราสอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางสัมผัสชื้นๆกับเสียงสะอ้นไห้ที่ดังไม่ขาด ทำให้ต้องกัดปากแน่น ไม่เข้าใจ...เกรเซียสเป็นอะไรไป ทำไมต้องร้องไห้ด้วยล่ะ....
“อย่าร้องไห้...ข้าไม่อยากเห็นน้ำตาของเจ้าเลย เกรเซียส...”แลนซ์พึมพำกับตัวเอง แต่เสียงก็ไม่ได้ดังพอที่จะหยุดเสียงร้องนั่นได้จึงได้แต่เดินไปเรื่อยๆอย่างรวดเร็วเพื่อไปหาคนเดียวที่สามารถหยุดมันได้ด้วยความร้อนรน
ข้าไม่อยากเห็นน้ำตาของเจ้า....
ข้าไม่อยากเห็นใบหน้าของเจ้ายามเสียใจ...
ข้าไม่อยากเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยบาดแผลอีกแล้ว....
เพราะข้าอยากเห็นเพียงรอยยิ้มของเจ้าเท่านั้น...
รอยยิ้มราวดวงตะวันที่ส่องตัดผ่านความมืดมิดของเจ้า...
............
..........................
.......................................
“ทำแบบนี้จะดีหรอ พิ้งกี้ เราไม่มีเหตุผลที่จะไปทำร้ายเขาสักหน่อย”เสียงนิ่งๆปนตำหนิของเด็กคนหนึ่งดังขึ้นในมุมมืดๆของเมือง หลังจากที่เด็กสองคนเดินผ่านไป เขายืนอยู่กับเด็กสาวผมสีทองที่มีผิวสีชมพูแปลกประหลาด แต่เด็กชายคนนั้นหาได้สนใจไม่เขามองตามร่างเด็กผมทองที่ถูกอุ้มห่างออกไปจนลับตาด้วยสีหน้าที่แสดงความเป็นห่วงปิดไม่มิด
“ไร้สาระน่าลอเรน! เด็กนั่นเป็นคู่แข่งกับเจ้านะ จะไปสนใจทำไมฮ่ะ เอาเวลาไปฝึกดาบเพื่อเป็นเทพอัศวินครีองอะไรนั่นของเจ้าดีกว่า เดี๋ยวเรื่องเด็กคนนั้นข้าจะจัดการเอง!”เด็กหญิงผิวสีชมพูหรือพิ้งกี้สะบัดเสียงใส่เด็กชายผมสีน้ำตาลทองอย่างหงุดหงิดพลางถอนหายใจ ทำไมผู้ถูกเลือกของเธอถึงได้เป็นคนเถรตรงจนเกินพอดีแบบนี้นะ ไม่สนุกเลย!!
“เทพอัศวินครีอุสต่างหาก ข้าต้องเป็นให้ได้ด้วย!”ลอเรนกล่าวอย่างมาดมั่น ดาบในมือกวัดไกวอีกครั้งอย่างคล่องแคล่วเริ่มการฝึกดาบเหมือนดังเช่นทุกวัน ท่ามกลางสายตาของพิ้งกี้ที่มองอย่างพอใจก่อนประกายในดวงตาจะเปลี่ยนเป็นดุร้ายเมื่อนึกถึงเด็กอีกคนหนึ่ง
ถึงลูกชายของข้าคนนี้จะเป็นคนเถรตรงน่าเบื่อแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าข้าจะไม่หาทางช่วยเขาหรอกนะ โทษตัวเองกับพี่เลี้ยงใจอ่อนของเจ้าเองเถอะนะ หนูน้อย หึๆๆๆๆๆ
..................................
“แลนซ์...”เสียงเล็กๆของเด็กชายผมทองดังขึ้นอย่างเห็นใจเด็กชายอีกคนที่ตอนนี้กำลังทรุดลงนั่งด้านข้างด้วยสภาพยับเยิน ถามว่าทำไมน่ะหรือ....ก็ท่านเอลราสน่ะสิ! ไม่รู้ทำไมเดี๋ยวนี้ถึงได้ตั้งอกตั้งใจแกล้งข้านัก วันล่ะสามเวลาหลังอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่หวานอย่างน่ากลัว ทางที่อยู่ๆก็มีหลุมโผล่ออกมา แค่เดินผ่านต้นไม้ก็มีกิ่งไม้ตกลงมา! ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้นะ ข้าเผลอไปทำอะไรให้ท่านหรือไงกัน....แลนซ์คิดในใจอย่างสิ้นหวัง ก่อนจะรู้สึกถึงแรงสัมผัสเย็นจากด้านหลัง พอหันไปมองเด็กชายผมทองก็ยิ้มน้อยๆส่งให้พร้อมยกผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้เขา
“เป็นอะไรรึเปล่า...”เกรเซียสถามอย่างกังวลถึงเขาจะรู้สึกดีนิดๆ ตอนที่เห็นแลนซ์โดนแกล้งก็เถอะ แต่ว่าดูแล้วมันจะทำให้แลนซ์ลำบากมาก เขาไม่ควรจะไปสร้างความเดือดร้อนให้คนที่คอยดูแลเขาแบบนี้
“ไม่เป็นไรหรอกเกรเซียส...อีกสักพอข้าคงจะชินเองแหละ”แลนซ์ยิ้มปลอบใจเด็กชายผมทองที่นั่งก้มศีรษะอยู่เบื้องหน้า มือยกขึ้นโยกหัวเขาอย่างหยอกล้อจนเด็กชายหัวเราะเบาก่อนจะยืดตัวยืนขึ้นแล้วฉุดแลนซ์ให้ลุกขึ้น
“ข้าจะเป็นกำลังใจให้ก็แล้วกัน ฮิๆ”เกรเซียสกล่าวอย่างร่าเริง ซึ่งแลนซ์มองตามอย่างเบาใจ ในที่สุดก็ร่าเริงขึ้นแล้วสินะ สองสามวันที่ผ่านมานี้ เด็กชายผมทองเริ่มยิ้มและพูดคุยเหมือนคนธรรมดา รอยยิ้มบนใบหน้าก็ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นเรื่อยๆ ความเศร้าที่เจืออยู่ในแววตาก็เบาบางลง....
เขามองดูเกรเซียสเดินนำหายเข้าไปในตรอกๆหนึ่ง ยังไม่ทันที่เขาจะก้าวเท้าตามเข้าไป
“อ่า!!!~”เสียงกรีดร้องคุ้นเคยดังขึ้น แลนซ์เบิกตากว้างเขารีบวิ่งตามเข้าไปทางที่คนตัวเล็กวิ่งจากไป ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าคือร่างของเด็กชายตัวน้อยซึ่งนั่งกุมหัวด้วยท่าทางหวาดกลัว รอบด้านคือเด็กหนุ่มอายุประมาณสิบห้าปีสามคนที่ยืนถือดาบล้อมไว้จากสามมุม ความกรุ่นโกรธพวยพุ่ง แรงโทสะบันดาลให้เด็กผมดำตัวสั่นเทิ่ม ย่ำเข้าไปผลักสามคนนั้นเพื่อเข้าไปประชิดตัวเกรเซียสแล้วตวาด
“พวกเจ้าทำบ้าอะไร!!”
ชายสามคนเบิกตาโตอย่างตกใจ พวกเขารีบปล่อยมือจากดาบแล้วปฏิเสธพัลวัน
“พวกข้าเปล่านะ! พวกข้าแค่กำลังฝึกดาบกันอยู่เท่านั้น อยู่ๆเด็กนี่ก็ร้อง เลยเป็นห่วงน่ะ!”ชายหนุ่มผมสีอ่อน ท่าทางเก้งก้างตอบสั่นๆ ทำไมเด็กตัวเล็กแค่นี้ถึงได้น่ากลัวนักนะ
“พวกเจ้าเป็นใคร...”แลนซ์ถามอย่างไม่ไว้ใจ เขาดึงเกรเซียสที่ยังตัวสั่นมากอดแน่น สายตาสีดำสนิทสื่อความหมายว่า ตอบมาไม่งั้นมีเรื่องแน่
“ข้าชื่อ อีกอร์ มาจากโยแลนด์ เผอิญว่าอาจารย์ของข้าเขาเดินทางมาทำธุระที่นี่ยังไม่เสร็จพวกข้าเลยมาฝึกดาบรอน่ะ”ชายคนนั้นตอบ ก่อนจะเหลือบมองเกรเซียสเล็กน้อยอย่างเป็นห่วงแล้วพูดต่อว่า
“ข้าก็ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้เป็นอะไรเหมือนกันตอนแรกเขายังทักข้าอยู่เลยแท้ๆ แต่พอเห็นดาบก็...”
“ก็อะไร”
“ก็เหมือนกับว่าเห็นสิ่งที่ไม่อยากจะมองแล้วกรีดร้องขึ้นมาน่ะ”
“ดาบงั้นหรอ...”แลนซ์ก้มลงมองเกรเซียสอย่างกังวล แล้วหันไปโค้งหัวขอโทษพวกอีกอร์ที่ตนตวาดไป ครู่หนึ่ง เด็กชายผมทองก็เหมือนจะได้สติขึ้นมาเล็กน้อยมือเล็กๆเอื้อมขึ้นมากระตุกเสื้อเด็กชายผมดำเบาๆ
“ละ...แลนซ์...ขะ..ข้าอยาก..กลับ...บ้าน”
“ได้เกรเซียส ข้าจะพาเจ้ากลับไปเอง”เขารับคำหนักแน่น อุ้มเด็กชายผมทองให้ขึ้นขี่หลังเดินกลับไปที่บ้านเอสราสอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางสัมผัสชื้นๆกับเสียงสะอ้นไห้ที่ดังไม่ขาด ทำให้ต้องกัดปากแน่น ไม่เข้าใจ...เกรเซียสเป็นอะไรไป ทำไมต้องร้องไห้ด้วยล่ะ....
“อย่าร้องไห้...ข้าไม่อยากเห็นน้ำตาของเจ้าเลย เกรเซียส...”แลนซ์พึมพำกับตัวเอง แต่เสียงก็ไม่ได้ดังพอที่จะหยุดเสียงร้องนั่นได้จึงได้แต่เดินไปเรื่อยๆอย่างรวดเร็วเพื่อไปหาคนเดียวที่สามารถหยุดมันได้ด้วยความร้อนรน
ข้าไม่อยากเห็นน้ำตาของเจ้า....
ข้าไม่อยากเห็นใบหน้าของเจ้ายามเสียใจ...
ข้าไม่อยากเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยบาดแผลอีกแล้ว....
เพราะข้าอยากเห็นเพียงรอยยิ้มของเจ้าเท่านั้น...
รอยยิ้มราวดวงตะวันที่ส่องตัดผ่านความมืดมิดของเจ้า...
............
..........................
.......................................
“ทำแบบนี้จะดีหรอ พิ้งกี้ เราไม่มีเหตุผลที่จะไปทำร้ายเขาสักหน่อย”เสียงนิ่งๆปนตำหนิของเด็กคนหนึ่งดังขึ้นในมุมมืดๆของเมือง หลังจากที่เด็กสองคนเดินผ่านไป เขายืนอยู่กับเด็กสาวผมสีทองที่มีผิวสีชมพูแปลกประหลาด แต่เด็กชายคนนั้นหาได้สนใจไม่เขามองตามร่างเด็กผมทองที่ถูกอุ้มห่างออกไปจนลับตาด้วยสีหน้าที่แสดงความเป็นห่วงปิดไม่มิด
“ไร้สาระน่าลอเรน! เด็กนั่นเป็นคู่แข่งกับเจ้านะ จะไปสนใจทำไมฮ่ะ เอาเวลาไปฝึกดาบเพื่อเป็นเทพอัศวินครีองอะไรนั่นของเจ้าดีกว่า เดี๋ยวเรื่องเด็กคนนั้นข้าจะจัดการเอง!”เด็กหญิงผิวสีชมพูหรือพิ้งกี้สะบัดเสียงใส่เด็กชายผมสีน้ำตาลทองอย่างหงุดหงิดพลางถอนหายใจ ทำไมผู้ถูกเลือกของเธอถึงได้เป็นคนเถรตรงจนเกินพอดีแบบนี้นะ ไม่สนุกเลย!!
“เทพอัศวินครีอุสต่างหาก ข้าต้องเป็นให้ได้ด้วย!”ลอเรนกล่าวอย่างมาดมั่น ดาบในมือกวัดไกวอีกครั้งอย่างคล่องแคล่วเริ่มการฝึกดาบเหมือนดังเช่นทุกวัน ท่ามกลางสายตาของพิ้งกี้ที่มองอย่างพอใจก่อนประกายในดวงตาจะเปลี่ยนเป็นดุร้ายเมื่อนึกถึงเด็กอีกคนหนึ่ง
ถึงลูกชายของข้าคนนี้จะเป็นคนเถรตรงน่าเบื่อแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าข้าจะไม่หาทางช่วยเขาหรอกนะ โทษตัวเองกับพี่เลี้ยงใจอ่อนของเจ้าเองเถอะนะ หนูน้อย หึๆๆๆๆๆ
..................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น