ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1
บทที่ 1 การเริ่มต้นของโชคชะตา
“เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่ นีโอ”ชายสวมผ้าคลุมก็ถอนหายใจอย่างปลง เข้ายกมือขึ้นปลดผ้าโปร่งที่คลุมหน้าออก เผยให้เห็นใบหน้าอ่อนเยาว์ ดวงตาสีมรกตสุกใสกำลังจับจ้องไปที่ร่างของชายที่ตนเรียกว่านีโออย่างพิจารณา
“มันเป็นสัญญาพระสังฆราช...เรเทียสกับเกรย่าฝากให้ข้าดูแลเด็กคนนี้ให้ดี แต่ข้ากับปล่อยให้เด็กคนนี้หายไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งหลายปี...อย่างน้อยถ้าทำได้ข้าก็อยากจะดูแลเขาในฐานะลูกศิษย์...”นีโอตอบด้วยเสียงที่พยายามควบคุมไม่ให้สั่นไหว ขณะมองไปที่ร่างเด็กชายที่นอนอยู่บนเตียง
“แล้วเจ้าจะให้เด็กคนนี้ไปอยู่ที่ไหน ถ้าอยู่ที่นี้คนไม่ดีกับเด็กคนนี้เท่าไหร่ เพราะถ้าถึงเวลารับสมัครเมื่อไหร่ คนอื่นจะนินทาว่าเจ้าลำเอียงแน่” พระสังฆราชเอ่ยอีกครั้งอย่างเป็นกังวล นีโอนิ่งไปสักพักอย่างใช้ความคิด ก่อนจะหันมาตอบอย่างเป็นงานเป็นการว่า
“คงต้องนำไปฝากไว้ที่บ้านของคนรู้จกของข้าก่อสงพัก เจ้านั่นเปิดรับเลี้ยงเด็กไม่มีครอบครัวอยู่แถวชานเมือง..บางทีอาจจะโชคดีมีคนมารับไปเลี้ยงก็ได้..”
“ก็ดีเหมือนกัน...ถ้าจะให้อยู่ที่เดิมคงไม่ดีเท่าไหร่ ดูจากเหตุการณ์ตอนเราไปเจอนี่...มันเลวร้ายน่าดูจนไม่น่าจะทนได้เลย ว่าแต่แต่เจ้าเด้กพวกนั่นล่ะนีโอ เจ้าเอาไปหมกไว้ทีไหน...”พระสังฆราชเลิกคิ้วขึ้นอย่างจับผิด ก่อนส่งสายตาประมาณว่า ‘อย่าได้คิดหลอกข้าเชียว’ มาให้อีกคนที่ยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อย่างน่าหมั่นไส้ นีโอยิ้มรอยยิ้มขึ้นน้อยๆ ก่อนตอบเสียงนุ่มว่า
“ข้าส่งไปให้เทอร์มิสจัดการที่ลานลงทันฑ์...”พระสังฆราชเบิกตาขึ้นอย่างตกใจ ก่อนจะส่ายหน้าพึมพำว่า
“นี่คงต้องใจจะแกล้งชาเซลอีกแล้วใช่ไหมเนี้ย....” นีโอหันขวับมาจ้อง ทำให้พระสังฆราชสะดุ้งสุดตัว ก่อนจะทำไม่รู้ไม่ชี้หยิบแก้วมารินน้ำชาดื่มอย่างเบี่ยงเบนประเด็น
.............................
“หึๆๆ ข้าต้องใช้เวลาสักพักในการจัดการเรื่องนี้...พระสังฆราชข้าขอลาพักร้อนซักสองสามวันได้ไหม”นีโอเอ่ยถามขึ้นอีกครั้งด้วยสีหน้าเคร่งเครียด พระสังฆราชหันกลับมามองนีโอนิดก่อนจะวางถ้วยชาลงแล้วตอบ
“ข้าให้เวลาเจ้าได้หนึ่งอาทิตย์จัดการเรื่องนี้ให้เสร็จซะ ไว้ข้าจะไปลงชื่อไว้ให้...ตกลงเด็กคนนี้ชื่ออะไรล่ะ”เขาหันไปมองเด็กชายที่นอนอยู่อย่างใคร่รู้ สักพักก็ส่ายหน้าอย่างเสียดาย
“ข้าล่ะอยากได้เด็กคนนี้มาเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งของข้าซะจริงๆ พลังเทพที่ข้าสัมผัสได้ได้ตอนนี้สูงพอๆกับข้า...ไม่สิ อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ....แต่ติดอยู่ทีปัญหาเรื่องความเหมาะสมนี้สิ...”
“อย่าแม้แต่จะคิดนะพระสังฆราช...ไม่งั้นข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่...”นีโอตวัดเสียงค้านอย่างเอาเรื่อง พระสังฆราชยักไหล่อย่างไม่สะทกสะท้าน แล้วถามย้ำอีกครั้ง
“ตกลงเด็กนี่ชื่ออะไร ข้าจะไปลงชื่อให้”
“ข้าก็ไม่รู้...พ่อแม่เขาจากไปก่อนจะได้บอกชื่อกับข้า...”
“แล้วกัน! แล้วแบบนี้ข้าจะเอาชื่อที่ไหนไปสมัครให้เจ้าได้เล่า!”พระสังฆราชค้อนวงโต คิ้วบางๆขมวดมุ่นอย่างหงุดหงิดก่อนจะถอนหายใจดังเฮือก แล้วพูดอย่างปลงๆ
“เอาเป็นว่าถ้าเจ้ารู้เมื่อไหร่ก็มาบอกข้าด้วยก็แล้วกัน”
“ได้...”
..........
สองวันต่อมา
“...”เด็กชายผมทองคนเดิม เงยหน้าเล็กๆขึ้นมองบ้านหลังเล็กๆที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าอย่างเฉยเมย ดวงตาสีฟ้าครามไม่แสดงความรู้สึกออกมา มันไม่สะท้อนภาพใดๆ เหม่อลอยเหมือนคนไม่มีความสุข...ดูราวตุ๊กตาที่มีชีวิต...หากแต่ไร้ชีวา นีโอมองเด็กน้อยแล้วทอดถอนใจ ก่อนจูงมือเล็กเข้าไปในตัวบ้าน ยกมือขึ้นเคาะประตูเบาๆแล้วนิ่งรอ...
แอ้ดดดด ประตูไม้สีขาวเรียบๆ เปิดออกเผยให้เห็นชายวัยกลางคนที่มีผมสีทองสว่าง บนเครื่องหน้าที่สมบูรณ์แบบประดับด้วยรอยยิ้มน้อยๆดูใจดี เขามองนีโอสักพัก แล้วกล่าวทักทาย
“ไง นีโอ เจ้าไม่แวะมาหาข้านานแล้วนะ...นั่นเจ้าพาเด็กที่ไหนมาล่ะ” นีโอส่งยิ้มให้คนถามก่อนตอบอย่างสุภาพผิดวิสัย
“ข้าพาเด็กคนนี้มาฝากให้ท่านช่วยดูแลสักสองสามปีได้ไหม ท่านอาจารย์” ชายผมทองเลิกคิ้วมองอย่างแปลกใจระคนไม่อยากเชื่อ
“นี้เจ้ากลายเป็นคนใจดีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ลูกเอ๋ย...เมื่อก่อนเจ้ายังเอาแต่ซุกซน วิ่งเล่น ทะเลาะกับชาวบ้านไปวันๆเท่านั้นเอง”เขาว่า พร้อมยิ้มยียวน น่าแปลกที่นีโอกลับเฉย ทั้งที่ถ้าเป็นคนอื่นมันคนนั้นคงลงไปกองกับพื้นข้อหาปากมากแล้ว แต่เขาไม่กล้าลงมือกับ ‘อดีต’เทพอัศวินครีอุสรุ่นที่สามสิบหกที่เป็นอาจารย์ของเขาหรอก เขายังไม่อยากพบจุดจบที่ไม่สง่างาม จึงตัดสินใจตอบสั้นๆ
“เด็กคนนี้ไปลูกของเรเทียสและเกรย่าขอรับ สองคนนั้นตายแล้วข้าจึงรับไว้เลี้ยงดู...” ร่างเล็กที่จูงมือยู่กระตุกเล็กน้อยเมื่อได้ยินเรื่องที่ตนไม่อยากนึกถึง แต่ก็แค่นั้น ดวงตาสีใสยังคงไม่สะท้อนภาพใดๆออกมาเหมือนเดิม
“ลูกของพวกขุนนางที่สนิทกับเจ้าน่ะเหรอ...ได้สิ ข้าจะรับเขาไว้ดูแลก็ได้ ยังไงข้าก็เปิดบ้านรับเลี้ยงพวกเด็กกำพร้าพ่อแม่อยู่แล้วเพิ่มอีกสักคนจะเป็นไรไป มาๆเข้ามาสิ”อดีตเทพอัศวินรับคำ ก่อนอุ้มเด็กน้อยขึ้น เด็กชายเบิกตาเล็กน้อยอย่าตกใจก่อนจะกลับไปนิ่งสนิทดังเดิม นีโอถอนหายใจอีกครั้ง สาวเท้าตามอาจารย์ของตนเข้าไปในบ้าน ภายในบ้านตกแต่งด้วยโทนสีขาวเรียบๆ ม่านสีฟ้าอ่อนสะบัดเบาๆยามร่างของคนสามคนเดินผ่านไป
“เอ้า เด็กๆ มารวมกันหน่อยเร็ว ข้ามีน้องชายคนใหม่มาแนะนำให้รู้จัก!”เขาวางร่างเด็กน้อยลงข้างตัวก่อนจะปรบมือแล้วตะโกนดังลั่นบ้าน ผ่านไปได้สักพักเด็กชายหลายคนก็วิ่งเข้ามาที่ห้องรับแขกที่ละคนสองคน นับแล้วไม่น้อยกว่าสิบคนแน่นอน เด็กเหล่านั่นจ้องไปที่อดีตเทพอัศวินครีอุสสักพัก ก่อนจะย้ายสายตาไปที่เด็กชายหน้านิ่งไร้ความรู้สึกข้างๆ เด็กผมสีฟ้าเอยถามขึ้นอย่าอดไม่ไหว
“เด็กนี้ใครหรือ ขอรับท่านเอลราส....” เอลราสยิ้มยิงฟันให้เด็กคนนั้น เขาดันร่างเล็กๆที่ยืนนิ่งๆอยู่ข้างไปด้านหน้า
“น้อชายคนใหม่ไงล่ะ ไฟรัน” ไฟรันขมวดคิ้วน้อยๆ ก่อนจะพยักหน้าแล้วคว้าข้อมือของตุ๊กตาไร้ชีวิตชีวาตรงหน้าออกไปอีกทาง โดยมีเด็กๆที่เหลือตามไปเป็นพรวน หลังจากกลุ่มของไฟรันลับตาไปแล้ว เสียงกริ่งหน้าประตูก็ดังขึ้นก่อนเด็กชายผมสีน้ำตาลจะเดินเข้ามาด้วยสภาพเหงื่อโทรมกาย เขาหยุดมองนีโอชั่วแวบก่อนจะทำความเคารพทั้งนีโอและเอลราสอย่างนอบน้อม
“ข้ากลบมาแล้วขอรับท่านเอลราส” นีโอเลิกคิ้วมองอย่างแปลกใจ สายตาของเด็กคนนี้ดูจริงใจและตรงไปตรงมา...แถมดูท่าจะเป็นคนจริงจังสมกับการเป็นอัศวินยิ่งนัก...นี้อาจเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของก็ได้ คิดได้ดังนั้นเขาก็หันหน้าไปกระซิบถามเอลราสเบาๆ
“เด็กคนนี้เป็นใครหรือท่านอาจารย์มาอยู่กับท่านได้อย่างไร” เอลราสหัวเราะ เขาโบกมือไล่เด็กชายคนนั้นออกไปก่อนจะดึงนีโอไปนั่งที่เก้าอี้รับแขก รินชาให้ก่อนเริ่มบทสนทนา
“เด็กคนนั้นชื่อลอเรน...ข้าไปเจอเขาที่หน้าประตูบ้านข้าเนี้ยแหละ รู้ไหมข้าตกใจเกือบตายตอนเจ้าเด็กนั่นบอกว่าอยากเป็นเทพอัศวินครีอุสเหมือนกับเจ้า...นึกแล้วขำ เจ้านั่นเอาแต่ชมว่าเจ้าเท่อย่างนั้น สง่างามอย่างนี้ อยากให้เจ้านั่นได้เห็นตอนเจ้าฝึกจริงๆเล้ย นีโอเอ้ย ฮ่าๆๆๆ” เอลราสว่าพลางตบหลังนีโอที่ยิ้มเจื่อนๆอย่างเมามัน ทั้งสองคุยกันต่อไปสักพัก หลังจากฝากฝังเด็กของตนเรียบร้อยนีโอก็ขอตัวกลับไปที่ตำหนักเทพอัศวินเงียบๆ แล้วทิ้งเด็กชายผมทองตัวน้อยให้เผชิญกับชะตากรรมอันโหดร้ายเพียงลำพัง
“ข้าหวังว่าเจ้าจะได้เจอความหวังที่จะมีชีวิตอยู่โดยเร็วนะเด็กน้อย...ข้าไม่อยากให้ทายาทของเพื่อนที่ข้ารักกลายเป็นตุ๊กตาที่ไร้จิตวิญญาณและถูกครอบคลุมด้วยความมืดมิดเลย...”
......................
“เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่ นีโอ”ชายสวมผ้าคลุมก็ถอนหายใจอย่างปลง เข้ายกมือขึ้นปลดผ้าโปร่งที่คลุมหน้าออก เผยให้เห็นใบหน้าอ่อนเยาว์ ดวงตาสีมรกตสุกใสกำลังจับจ้องไปที่ร่างของชายที่ตนเรียกว่านีโออย่างพิจารณา
“มันเป็นสัญญาพระสังฆราช...เรเทียสกับเกรย่าฝากให้ข้าดูแลเด็กคนนี้ให้ดี แต่ข้ากับปล่อยให้เด็กคนนี้หายไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งหลายปี...อย่างน้อยถ้าทำได้ข้าก็อยากจะดูแลเขาในฐานะลูกศิษย์...”นีโอตอบด้วยเสียงที่พยายามควบคุมไม่ให้สั่นไหว ขณะมองไปที่ร่างเด็กชายที่นอนอยู่บนเตียง
“แล้วเจ้าจะให้เด็กคนนี้ไปอยู่ที่ไหน ถ้าอยู่ที่นี้คนไม่ดีกับเด็กคนนี้เท่าไหร่ เพราะถ้าถึงเวลารับสมัครเมื่อไหร่ คนอื่นจะนินทาว่าเจ้าลำเอียงแน่” พระสังฆราชเอ่ยอีกครั้งอย่างเป็นกังวล นีโอนิ่งไปสักพักอย่างใช้ความคิด ก่อนจะหันมาตอบอย่างเป็นงานเป็นการว่า
“คงต้องนำไปฝากไว้ที่บ้านของคนรู้จกของข้าก่อสงพัก เจ้านั่นเปิดรับเลี้ยงเด็กไม่มีครอบครัวอยู่แถวชานเมือง..บางทีอาจจะโชคดีมีคนมารับไปเลี้ยงก็ได้..”
“ก็ดีเหมือนกัน...ถ้าจะให้อยู่ที่เดิมคงไม่ดีเท่าไหร่ ดูจากเหตุการณ์ตอนเราไปเจอนี่...มันเลวร้ายน่าดูจนไม่น่าจะทนได้เลย ว่าแต่แต่เจ้าเด้กพวกนั่นล่ะนีโอ เจ้าเอาไปหมกไว้ทีไหน...”พระสังฆราชเลิกคิ้วขึ้นอย่างจับผิด ก่อนส่งสายตาประมาณว่า ‘อย่าได้คิดหลอกข้าเชียว’ มาให้อีกคนที่ยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อย่างน่าหมั่นไส้ นีโอยิ้มรอยยิ้มขึ้นน้อยๆ ก่อนตอบเสียงนุ่มว่า
“ข้าส่งไปให้เทอร์มิสจัดการที่ลานลงทันฑ์...”พระสังฆราชเบิกตาขึ้นอย่างตกใจ ก่อนจะส่ายหน้าพึมพำว่า
“นี่คงต้องใจจะแกล้งชาเซลอีกแล้วใช่ไหมเนี้ย....” นีโอหันขวับมาจ้อง ทำให้พระสังฆราชสะดุ้งสุดตัว ก่อนจะทำไม่รู้ไม่ชี้หยิบแก้วมารินน้ำชาดื่มอย่างเบี่ยงเบนประเด็น
.............................
“หึๆๆ ข้าต้องใช้เวลาสักพักในการจัดการเรื่องนี้...พระสังฆราชข้าขอลาพักร้อนซักสองสามวันได้ไหม”นีโอเอ่ยถามขึ้นอีกครั้งด้วยสีหน้าเคร่งเครียด พระสังฆราชหันกลับมามองนีโอนิดก่อนจะวางถ้วยชาลงแล้วตอบ
“ข้าให้เวลาเจ้าได้หนึ่งอาทิตย์จัดการเรื่องนี้ให้เสร็จซะ ไว้ข้าจะไปลงชื่อไว้ให้...ตกลงเด็กคนนี้ชื่ออะไรล่ะ”เขาหันไปมองเด็กชายที่นอนอยู่อย่างใคร่รู้ สักพักก็ส่ายหน้าอย่างเสียดาย
“ข้าล่ะอยากได้เด็กคนนี้มาเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งของข้าซะจริงๆ พลังเทพที่ข้าสัมผัสได้ได้ตอนนี้สูงพอๆกับข้า...ไม่สิ อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ....แต่ติดอยู่ทีปัญหาเรื่องความเหมาะสมนี้สิ...”
“อย่าแม้แต่จะคิดนะพระสังฆราช...ไม่งั้นข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่...”นีโอตวัดเสียงค้านอย่างเอาเรื่อง พระสังฆราชยักไหล่อย่างไม่สะทกสะท้าน แล้วถามย้ำอีกครั้ง
“ตกลงเด็กนี่ชื่ออะไร ข้าจะไปลงชื่อให้”
“ข้าก็ไม่รู้...พ่อแม่เขาจากไปก่อนจะได้บอกชื่อกับข้า...”
“แล้วกัน! แล้วแบบนี้ข้าจะเอาชื่อที่ไหนไปสมัครให้เจ้าได้เล่า!”พระสังฆราชค้อนวงโต คิ้วบางๆขมวดมุ่นอย่างหงุดหงิดก่อนจะถอนหายใจดังเฮือก แล้วพูดอย่างปลงๆ
“เอาเป็นว่าถ้าเจ้ารู้เมื่อไหร่ก็มาบอกข้าด้วยก็แล้วกัน”
“ได้...”
..........
สองวันต่อมา
“...”เด็กชายผมทองคนเดิม เงยหน้าเล็กๆขึ้นมองบ้านหลังเล็กๆที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าอย่างเฉยเมย ดวงตาสีฟ้าครามไม่แสดงความรู้สึกออกมา มันไม่สะท้อนภาพใดๆ เหม่อลอยเหมือนคนไม่มีความสุข...ดูราวตุ๊กตาที่มีชีวิต...หากแต่ไร้ชีวา นีโอมองเด็กน้อยแล้วทอดถอนใจ ก่อนจูงมือเล็กเข้าไปในตัวบ้าน ยกมือขึ้นเคาะประตูเบาๆแล้วนิ่งรอ...
แอ้ดดดด ประตูไม้สีขาวเรียบๆ เปิดออกเผยให้เห็นชายวัยกลางคนที่มีผมสีทองสว่าง บนเครื่องหน้าที่สมบูรณ์แบบประดับด้วยรอยยิ้มน้อยๆดูใจดี เขามองนีโอสักพัก แล้วกล่าวทักทาย
“ไง นีโอ เจ้าไม่แวะมาหาข้านานแล้วนะ...นั่นเจ้าพาเด็กที่ไหนมาล่ะ” นีโอส่งยิ้มให้คนถามก่อนตอบอย่างสุภาพผิดวิสัย
“ข้าพาเด็กคนนี้มาฝากให้ท่านช่วยดูแลสักสองสามปีได้ไหม ท่านอาจารย์” ชายผมทองเลิกคิ้วมองอย่างแปลกใจระคนไม่อยากเชื่อ
“นี้เจ้ากลายเป็นคนใจดีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ลูกเอ๋ย...เมื่อก่อนเจ้ายังเอาแต่ซุกซน วิ่งเล่น ทะเลาะกับชาวบ้านไปวันๆเท่านั้นเอง”เขาว่า พร้อมยิ้มยียวน น่าแปลกที่นีโอกลับเฉย ทั้งที่ถ้าเป็นคนอื่นมันคนนั้นคงลงไปกองกับพื้นข้อหาปากมากแล้ว แต่เขาไม่กล้าลงมือกับ ‘อดีต’เทพอัศวินครีอุสรุ่นที่สามสิบหกที่เป็นอาจารย์ของเขาหรอก เขายังไม่อยากพบจุดจบที่ไม่สง่างาม จึงตัดสินใจตอบสั้นๆ
“เด็กคนนี้ไปลูกของเรเทียสและเกรย่าขอรับ สองคนนั้นตายแล้วข้าจึงรับไว้เลี้ยงดู...” ร่างเล็กที่จูงมือยู่กระตุกเล็กน้อยเมื่อได้ยินเรื่องที่ตนไม่อยากนึกถึง แต่ก็แค่นั้น ดวงตาสีใสยังคงไม่สะท้อนภาพใดๆออกมาเหมือนเดิม
“ลูกของพวกขุนนางที่สนิทกับเจ้าน่ะเหรอ...ได้สิ ข้าจะรับเขาไว้ดูแลก็ได้ ยังไงข้าก็เปิดบ้านรับเลี้ยงพวกเด็กกำพร้าพ่อแม่อยู่แล้วเพิ่มอีกสักคนจะเป็นไรไป มาๆเข้ามาสิ”อดีตเทพอัศวินรับคำ ก่อนอุ้มเด็กน้อยขึ้น เด็กชายเบิกตาเล็กน้อยอย่าตกใจก่อนจะกลับไปนิ่งสนิทดังเดิม นีโอถอนหายใจอีกครั้ง สาวเท้าตามอาจารย์ของตนเข้าไปในบ้าน ภายในบ้านตกแต่งด้วยโทนสีขาวเรียบๆ ม่านสีฟ้าอ่อนสะบัดเบาๆยามร่างของคนสามคนเดินผ่านไป
“เอ้า เด็กๆ มารวมกันหน่อยเร็ว ข้ามีน้องชายคนใหม่มาแนะนำให้รู้จัก!”เขาวางร่างเด็กน้อยลงข้างตัวก่อนจะปรบมือแล้วตะโกนดังลั่นบ้าน ผ่านไปได้สักพักเด็กชายหลายคนก็วิ่งเข้ามาที่ห้องรับแขกที่ละคนสองคน นับแล้วไม่น้อยกว่าสิบคนแน่นอน เด็กเหล่านั่นจ้องไปที่อดีตเทพอัศวินครีอุสสักพัก ก่อนจะย้ายสายตาไปที่เด็กชายหน้านิ่งไร้ความรู้สึกข้างๆ เด็กผมสีฟ้าเอยถามขึ้นอย่าอดไม่ไหว
“เด็กนี้ใครหรือ ขอรับท่านเอลราส....” เอลราสยิ้มยิงฟันให้เด็กคนนั้น เขาดันร่างเล็กๆที่ยืนนิ่งๆอยู่ข้างไปด้านหน้า
“น้อชายคนใหม่ไงล่ะ ไฟรัน” ไฟรันขมวดคิ้วน้อยๆ ก่อนจะพยักหน้าแล้วคว้าข้อมือของตุ๊กตาไร้ชีวิตชีวาตรงหน้าออกไปอีกทาง โดยมีเด็กๆที่เหลือตามไปเป็นพรวน หลังจากกลุ่มของไฟรันลับตาไปแล้ว เสียงกริ่งหน้าประตูก็ดังขึ้นก่อนเด็กชายผมสีน้ำตาลจะเดินเข้ามาด้วยสภาพเหงื่อโทรมกาย เขาหยุดมองนีโอชั่วแวบก่อนจะทำความเคารพทั้งนีโอและเอลราสอย่างนอบน้อม
“ข้ากลบมาแล้วขอรับท่านเอลราส” นีโอเลิกคิ้วมองอย่างแปลกใจ สายตาของเด็กคนนี้ดูจริงใจและตรงไปตรงมา...แถมดูท่าจะเป็นคนจริงจังสมกับการเป็นอัศวินยิ่งนัก...นี้อาจเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของก็ได้ คิดได้ดังนั้นเขาก็หันหน้าไปกระซิบถามเอลราสเบาๆ
“เด็กคนนี้เป็นใครหรือท่านอาจารย์มาอยู่กับท่านได้อย่างไร” เอลราสหัวเราะ เขาโบกมือไล่เด็กชายคนนั้นออกไปก่อนจะดึงนีโอไปนั่งที่เก้าอี้รับแขก รินชาให้ก่อนเริ่มบทสนทนา
“เด็กคนนั้นชื่อลอเรน...ข้าไปเจอเขาที่หน้าประตูบ้านข้าเนี้ยแหละ รู้ไหมข้าตกใจเกือบตายตอนเจ้าเด็กนั่นบอกว่าอยากเป็นเทพอัศวินครีอุสเหมือนกับเจ้า...นึกแล้วขำ เจ้านั่นเอาแต่ชมว่าเจ้าเท่อย่างนั้น สง่างามอย่างนี้ อยากให้เจ้านั่นได้เห็นตอนเจ้าฝึกจริงๆเล้ย นีโอเอ้ย ฮ่าๆๆๆ” เอลราสว่าพลางตบหลังนีโอที่ยิ้มเจื่อนๆอย่างเมามัน ทั้งสองคุยกันต่อไปสักพัก หลังจากฝากฝังเด็กของตนเรียบร้อยนีโอก็ขอตัวกลับไปที่ตำหนักเทพอัศวินเงียบๆ แล้วทิ้งเด็กชายผมทองตัวน้อยให้เผชิญกับชะตากรรมอันโหดร้ายเพียงลำพัง
“ข้าหวังว่าเจ้าจะได้เจอความหวังที่จะมีชีวิตอยู่โดยเร็วนะเด็กน้อย...ข้าไม่อยากให้ทายาทของเพื่อนที่ข้ารักกลายเป็นตุ๊กตาที่ไร้จิตวิญญาณและถูกครอบคลุมด้วยความมืดมิดเลย...”
......................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น