ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
บทนำ
ข้าไม่รู้...ว่าที่อยู่ของข้าคือที่ใด...
ข้าไม่รู้...ว่าข้าเกิดมาเพื่ออะไร...
ข้าไม่รู้...ว่าเมื่อไหร่ความมืดมิดที่โอบล้อมตัวข้าจะจางหายไปเสียที....
ข้าหวัง...หวังว่าจะพบสถานที่แสนอันสำคัญของข้า...
ข้าหวัง...หวังเหลือเกินว่าจะมีหลักฐานที่จะแสดงการมีอยู่ตัวตน...
และข้าหวัง...หวังว่าความมืดมิดที่มีอยู่จะถูกแทนที่ด้วยแสงสว่างอันอ่อนโยน....
“เฮ้! นั่นมันเจ้าเด็กกำพร้าต้องคำสาปนี้! ออกไปห่างๆพวกข้านะ! สกปรก!!”ก้อนหินกอนหนึ่งถูกปามาปะทะร่างเล็กที่ยืนอยู่กลางกลุ่มกองหิมะหนาอย่างแรงจนผิวขาวติดจะซีดของเด็กชายห้อเลือดช้ำอย่างหน้ากลัว แต่เด็กชายผมทองกลับไม่แม้แต่จะพูดจาตอบโต้ เขาร้องเบาๆก่อนยกมือขึ้นกุมแขนที่ถูกหินปาใส่อย่างเจ็บปวด แล้วพยายามเดินถอยออกไป แต่เมื่อถอยไปได้ได้เพียงสองสามก้าวก็ชนกับร่างของเด็กตัวโตอีกคนที่ยืนดักอยู่ด้านหลัง เด็กชายผมทองเบิกตากว้างอย่างตกใจก่อนจะถูกมือใหญ่โตผลักจนล้มลงไปกองที่พื้นหิมะหนา ความเย็นของหิมะเริ่มแทรกผ่านเข้ามาในร่างกาย จนเริ่มชา
“เฮอะ โดนขนาดนี้ยังไม่ร้องซะแอะ...เจ้านี้ต้องเป็นปีศาจปลอมตัวมาแน่ๆ”เด็กชายผอมแห้งที่ขว้างหินมาตอนแรกแค่นเสียงเยาะเย้ยอย่างสนุกสนานก่อนจะหยิบหินอีกก้อนมาปาใส่อีกครั้ง คราวนี้มันกระทบกับศรีษะของเด็กชายอย่างแรง! เลือดสีสดใหลออกมาช้าๆก่อนซึมเข้าไปในหิมะเปลี่ยนสีขาวให้กลายเป็นสีแดงเข้ม สติที่พยายามฉุดไว้เริ่มเลือนหายไปทีล่ะนิดก่อนภาพเบื่องหน้าจะถูกแทนที่ด้วยความมืดมิดในที่สุด....
....
.................
.............................................
“นี่!! ตกลงว่าเจ้ารักษาเด็กคนนี้แน่แล้วรึเปล่าฮ่ะ!! ทำไมป่านนี้ยังไม่ฟื้นอีก”
“เจ้าใจเย็นๆหน่อยได้ไหมหา ครีอุส! นีเพิ่งผ่านไปสิบนาทีเองนะ!!”
“แล้วเมื่อไหรเค้าจะฟื้นเล่า จะพระสังฆราชแอ๊บเด็กนี่!!”
เสียงทุ่มเถียงของคนสองคนดังอยู่ที่ข้างหูทำให้ร่างบนเตียงต้องปรือตาขึ้นเพื่อมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างระวังภัย ใช้เวลาชั่วครู่กว่าคนสองคนที่ทะเลาะกันอยู่จะรู้ตัวว่าแขกตัวน้อยที่สลบไปได้ตื่นแล้ว พวกเขารีบกระวีกระวาดเข้ามาถามอาการของข้ากันยกใหญ่ แต่ข้าไม่ได้ตอบอะไร เพราะมัวแต่มองไปรอบๆห้องกว้างขวงและเตียงสี่เสาที่รัดผ้าม่านบางๆสีชมพูอ่อนไว้หล่วมๆ หน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดอ้าเพื่อถ่ายเทอากาศบริสุทธิ์ สั่งที่อยู่รอบตัวตอนนี้ล้วนสร้างความตื่นตนกให้เด็กชายได้ไม่ยากก่อนมองมาที่บุคคลในห้องมี่ตอนแรกทะเลาะกันจนทำให้เขาตื่นขึ้นมา
คนแรก...บุรุษหนุ่มผู้สง่างาม ผมสีทองเป็นประกายถูกตัดให้สั้นระไปตามไหล่แกร่ง ยางเส้นเล็กที่มัดเส้นผมหยักศกนั้นทำให้มองดูราวกับพญาราชสีห์ผู้เลื่องอำนาจ ใบหน้าสีขาวนวลเกลี้ยงเกลาประดับด้วยดวงตาสีครามดูลึกล้ำและรอยยิ้มที่ดูราวกับเอาดวงอาทิตย์มาไว้บนหน้ายังไงยังงั้น ยังไม่รวมกลิ่นกุหลาบอ่อนๆที่โชยออกมาจากตัวอีกด้วย....
คนที่สอง...เป็นเด็กหนุ่มอายุราวสิบห้าปี มีตาสีมรกต ผมสีอ่อนที่โบกพลิ้วภายใต้หมวกใบใหญ่ที่มีสวดลายปักเดินเส้นสีทองอย่างสวยงาม เขาอยู่ในอาภรณ์หรูหราวีขาวยามลากพื้น ในมือมีคทารูปนกแปลกประหลาดเป็นสีทองส่องประกายวูบวาบ สุดท้ายก็คือสีหน้าที่ไม่อาจมองเห็นได้ชัดถนัดตาประมีผ้าโปร่งบางสีขาวคลุมอยู่
ทั้งบุคคลและสถานที่แปลกตาสร้างความตื่นตนกได้ไม่น้อย ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลเบิกกว้างอย่างตกใจก่อนร้องว่า
“ที่นี่ที่ไหน!!”
“ที่นี้คือ ตำหนักเทพอัศวินอันศักดิ์สิทธิ์ ห้องนี้คือห้องพักของข้าเอง เด็กน้อยเอ่ย...”ชายผมทองตอบพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ
“ท่านเป็นใคร...ต้องการอะไรจากข้า!!”เด็กชายกระชากเสียงก่อนยันตัวขึ้นนั่งอย่างระมัดระวังก่อนจะต้องตกใจอีกครั้งเมื่อสังเกตเห็นว่าบาดแผลตามตัวของตนเองหายไป ทั้งเสื้อผ้าก็ยังถูกเปลี่ยนออกไปด้วยกลายเป็นชุดเสื้อแขนยาวสีฟ้าหนานุ่ม แต่นั่นไม่สำคัญกับสิ่งที่เขาเห็นวามันขาดหายไป
“สร้อย...สร้อยคอของข้าอยู่ที่ไหน! ท่านเอาไปไว้ที่ไหนกัน...!”เด็กชายมองไปรอบตัวอย่างลนลาน สอดส่ายสายตามองหา สิ่งสำคัญสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ของตน ร่างเล็กๆกระโจนพรวดจากเตียงลงมาที่กองเสื้อผ้าเก่าๆที่วางกองอยู่ใกล้ๆ รื้อเสื้อผ้าที่พับไว้อย่างดีออกจนหมดแต่ยังไม่เจอสิ่งที่ตนต้องการ ร่างนั่นทรุดนั่งลงอย่างหมดเรี่ยวแรง มือขาวๆยกขึ้นมากอดหน้าอก ตัวสั่นเทิ่มอย่างไม่อาจควบคุม สิ่งเดียวที่แสดงถึงตัวตนของเขา...สิ่งเดียวที่ครอบครัวของเขาทิ้งไว้ให้...มันหายไปแล้ว...หายไป....
“ไม่..ไม่...ไม่จริง.....ม่ายยยยยยยย”เสียงเล็กกรีดเสียงขึ้นร้องลั่น สองมือยกขึ้นกุมหัวราวกับปวดร้าวอย่างแสนสาหัส น้ำตามากมายไหลรินรดลงมาทั้งสองข้างแก้มก่อนซึมหายไปบนเสื้อตัวใหม่ที่ไม่อยากได้เลยซักนิด...ถ้ามันต้องแลกกับสิ่งสำคัญสิ่งเดียวในชีวิต
ในที่สุดชายหนุ่มผมสีทองก็ทนไม่ได้ สองมือกระชับร่างเด็กชายมากอดไว้แน่น แล้วลูบศีรษะอย่างปลอบประโลม ผ่านไปสักพัก เด็กชายก็สงบลงและพล่อยหลับลงไปในที่สุด เมื่อเห็นดังนั้นชายหนุ่มกระประคองร่างของเด็กชายให้ไปนอนอยู่บนเตียงอย่างทะนุทนอมก่อนกันมาพูดกับชายอีกคนในห้องอย่างตัดสินใจ
“ข้าจะเอาเด็กคนนี้ไปเป็นหนึ่งในว่าที่เทพอัศวินครีอุสที่จะจัดในอีกสองปีข้างหน้า!”
.............
.......................................
มาแบบสั้นก่อน ถ้าคนอ่านไม่เยอะคงจะต้องลบน่ะเจ้าค่ะ
ใครอยากอ่านต่อก็ช่วยติชมกันหน่อยนะค่า><
Naki_DGM14
ข้าไม่รู้...ว่าที่อยู่ของข้าคือที่ใด...
ข้าไม่รู้...ว่าข้าเกิดมาเพื่ออะไร...
ข้าไม่รู้...ว่าเมื่อไหร่ความมืดมิดที่โอบล้อมตัวข้าจะจางหายไปเสียที....
ข้าหวัง...หวังว่าจะพบสถานที่แสนอันสำคัญของข้า...
ข้าหวัง...หวังเหลือเกินว่าจะมีหลักฐานที่จะแสดงการมีอยู่ตัวตน...
และข้าหวัง...หวังว่าความมืดมิดที่มีอยู่จะถูกแทนที่ด้วยแสงสว่างอันอ่อนโยน....
“เฮ้! นั่นมันเจ้าเด็กกำพร้าต้องคำสาปนี้! ออกไปห่างๆพวกข้านะ! สกปรก!!”ก้อนหินกอนหนึ่งถูกปามาปะทะร่างเล็กที่ยืนอยู่กลางกลุ่มกองหิมะหนาอย่างแรงจนผิวขาวติดจะซีดของเด็กชายห้อเลือดช้ำอย่างหน้ากลัว แต่เด็กชายผมทองกลับไม่แม้แต่จะพูดจาตอบโต้ เขาร้องเบาๆก่อนยกมือขึ้นกุมแขนที่ถูกหินปาใส่อย่างเจ็บปวด แล้วพยายามเดินถอยออกไป แต่เมื่อถอยไปได้ได้เพียงสองสามก้าวก็ชนกับร่างของเด็กตัวโตอีกคนที่ยืนดักอยู่ด้านหลัง เด็กชายผมทองเบิกตากว้างอย่างตกใจก่อนจะถูกมือใหญ่โตผลักจนล้มลงไปกองที่พื้นหิมะหนา ความเย็นของหิมะเริ่มแทรกผ่านเข้ามาในร่างกาย จนเริ่มชา
“เฮอะ โดนขนาดนี้ยังไม่ร้องซะแอะ...เจ้านี้ต้องเป็นปีศาจปลอมตัวมาแน่ๆ”เด็กชายผอมแห้งที่ขว้างหินมาตอนแรกแค่นเสียงเยาะเย้ยอย่างสนุกสนานก่อนจะหยิบหินอีกก้อนมาปาใส่อีกครั้ง คราวนี้มันกระทบกับศรีษะของเด็กชายอย่างแรง! เลือดสีสดใหลออกมาช้าๆก่อนซึมเข้าไปในหิมะเปลี่ยนสีขาวให้กลายเป็นสีแดงเข้ม สติที่พยายามฉุดไว้เริ่มเลือนหายไปทีล่ะนิดก่อนภาพเบื่องหน้าจะถูกแทนที่ด้วยความมืดมิดในที่สุด....
....
.................
.............................................
“นี่!! ตกลงว่าเจ้ารักษาเด็กคนนี้แน่แล้วรึเปล่าฮ่ะ!! ทำไมป่านนี้ยังไม่ฟื้นอีก”
“เจ้าใจเย็นๆหน่อยได้ไหมหา ครีอุส! นีเพิ่งผ่านไปสิบนาทีเองนะ!!”
“แล้วเมื่อไหรเค้าจะฟื้นเล่า จะพระสังฆราชแอ๊บเด็กนี่!!”
เสียงทุ่มเถียงของคนสองคนดังอยู่ที่ข้างหูทำให้ร่างบนเตียงต้องปรือตาขึ้นเพื่อมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างระวังภัย ใช้เวลาชั่วครู่กว่าคนสองคนที่ทะเลาะกันอยู่จะรู้ตัวว่าแขกตัวน้อยที่สลบไปได้ตื่นแล้ว พวกเขารีบกระวีกระวาดเข้ามาถามอาการของข้ากันยกใหญ่ แต่ข้าไม่ได้ตอบอะไร เพราะมัวแต่มองไปรอบๆห้องกว้างขวงและเตียงสี่เสาที่รัดผ้าม่านบางๆสีชมพูอ่อนไว้หล่วมๆ หน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดอ้าเพื่อถ่ายเทอากาศบริสุทธิ์ สั่งที่อยู่รอบตัวตอนนี้ล้วนสร้างความตื่นตนกให้เด็กชายได้ไม่ยากก่อนมองมาที่บุคคลในห้องมี่ตอนแรกทะเลาะกันจนทำให้เขาตื่นขึ้นมา
คนแรก...บุรุษหนุ่มผู้สง่างาม ผมสีทองเป็นประกายถูกตัดให้สั้นระไปตามไหล่แกร่ง ยางเส้นเล็กที่มัดเส้นผมหยักศกนั้นทำให้มองดูราวกับพญาราชสีห์ผู้เลื่องอำนาจ ใบหน้าสีขาวนวลเกลี้ยงเกลาประดับด้วยดวงตาสีครามดูลึกล้ำและรอยยิ้มที่ดูราวกับเอาดวงอาทิตย์มาไว้บนหน้ายังไงยังงั้น ยังไม่รวมกลิ่นกุหลาบอ่อนๆที่โชยออกมาจากตัวอีกด้วย....
คนที่สอง...เป็นเด็กหนุ่มอายุราวสิบห้าปี มีตาสีมรกต ผมสีอ่อนที่โบกพลิ้วภายใต้หมวกใบใหญ่ที่มีสวดลายปักเดินเส้นสีทองอย่างสวยงาม เขาอยู่ในอาภรณ์หรูหราวีขาวยามลากพื้น ในมือมีคทารูปนกแปลกประหลาดเป็นสีทองส่องประกายวูบวาบ สุดท้ายก็คือสีหน้าที่ไม่อาจมองเห็นได้ชัดถนัดตาประมีผ้าโปร่งบางสีขาวคลุมอยู่
ทั้งบุคคลและสถานที่แปลกตาสร้างความตื่นตนกได้ไม่น้อย ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลเบิกกว้างอย่างตกใจก่อนร้องว่า
“ที่นี่ที่ไหน!!”
“ที่นี้คือ ตำหนักเทพอัศวินอันศักดิ์สิทธิ์ ห้องนี้คือห้องพักของข้าเอง เด็กน้อยเอ่ย...”ชายผมทองตอบพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ
“ท่านเป็นใคร...ต้องการอะไรจากข้า!!”เด็กชายกระชากเสียงก่อนยันตัวขึ้นนั่งอย่างระมัดระวังก่อนจะต้องตกใจอีกครั้งเมื่อสังเกตเห็นว่าบาดแผลตามตัวของตนเองหายไป ทั้งเสื้อผ้าก็ยังถูกเปลี่ยนออกไปด้วยกลายเป็นชุดเสื้อแขนยาวสีฟ้าหนานุ่ม แต่นั่นไม่สำคัญกับสิ่งที่เขาเห็นวามันขาดหายไป
“สร้อย...สร้อยคอของข้าอยู่ที่ไหน! ท่านเอาไปไว้ที่ไหนกัน...!”เด็กชายมองไปรอบตัวอย่างลนลาน สอดส่ายสายตามองหา สิ่งสำคัญสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ของตน ร่างเล็กๆกระโจนพรวดจากเตียงลงมาที่กองเสื้อผ้าเก่าๆที่วางกองอยู่ใกล้ๆ รื้อเสื้อผ้าที่พับไว้อย่างดีออกจนหมดแต่ยังไม่เจอสิ่งที่ตนต้องการ ร่างนั่นทรุดนั่งลงอย่างหมดเรี่ยวแรง มือขาวๆยกขึ้นมากอดหน้าอก ตัวสั่นเทิ่มอย่างไม่อาจควบคุม สิ่งเดียวที่แสดงถึงตัวตนของเขา...สิ่งเดียวที่ครอบครัวของเขาทิ้งไว้ให้...มันหายไปแล้ว...หายไป....
“ไม่..ไม่...ไม่จริง.....ม่ายยยยยยยย”เสียงเล็กกรีดเสียงขึ้นร้องลั่น สองมือยกขึ้นกุมหัวราวกับปวดร้าวอย่างแสนสาหัส น้ำตามากมายไหลรินรดลงมาทั้งสองข้างแก้มก่อนซึมหายไปบนเสื้อตัวใหม่ที่ไม่อยากได้เลยซักนิด...ถ้ามันต้องแลกกับสิ่งสำคัญสิ่งเดียวในชีวิต
ในที่สุดชายหนุ่มผมสีทองก็ทนไม่ได้ สองมือกระชับร่างเด็กชายมากอดไว้แน่น แล้วลูบศีรษะอย่างปลอบประโลม ผ่านไปสักพัก เด็กชายก็สงบลงและพล่อยหลับลงไปในที่สุด เมื่อเห็นดังนั้นชายหนุ่มกระประคองร่างของเด็กชายให้ไปนอนอยู่บนเตียงอย่างทะนุทนอมก่อนกันมาพูดกับชายอีกคนในห้องอย่างตัดสินใจ
“ข้าจะเอาเด็กคนนี้ไปเป็นหนึ่งในว่าที่เทพอัศวินครีอุสที่จะจัดในอีกสองปีข้างหน้า!”
.............
.......................................
มาแบบสั้นก่อน ถ้าคนอ่านไม่เยอะคงจะต้องลบน่ะเจ้าค่ะ
ใครอยากอ่านต่อก็ช่วยติชมกันหน่อยนะค่า><
Naki_DGM14
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น