คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Mission 01 : นิยามรักนั้นมันคืออะไร
MISSION 01
นิยามรักนั้นมันคืออะไร
ณ สนามมวยริมหาด
สนามแห่งนี้มีศึกวันทรงชัยเกิดขึ้น เมื่อมีนักมวยก้าวเท้าขึ้นชกบนเวที
แต่นักมวยหนุ่มทั้งสองมิใช่มนุษย์
พวกเขาเป็นสัตว์ต่างดาวกำลังประลองฝีมือกัน ตัวหนึ่งเล็ก อีกตัวใหญ่และร่างกายกำยำล่ำสัน
. ใช่แล้ว... นักมวยสองหนุ่มก็คือ สติทช์ 626 กำลังปะทะกับ คิกซ์ 601 ด้วยหมัดมวยแสนดุเดือด ทั้งคู่กำลังตั้งการ์ดเตรียมรอสัญญาณเรียกชก
เต๊ง!
คิกซ์เปิดฉากแจกหมัดจากแขนท่อนบนจู่โจมสติทช์ อีกฝ่ายยกแขนป้องกันการโจมตี... แม้รู้ว่าคิกซ์มีสี่แขนที่ได้เปรียบกว่าสองแขนก็ตาม ความได้เปรียบที่เห็นได้ชัด คือ... ถึงสติทช์ป้องกันหมัดไม่ให้โดนหน้าได้ แต่หมัดท่อนแขนที่งอกมาจากเอวก็พร้อมจะอัปเปอร์คัทได้ในพริบตา สติทช์งอกแขนชั้นล่างออกมาจากเอวมาตั้งรับแล้วใช้หมัดคู่พุ่งเข้าชกหน้าท้องของอีกฝ่ายจนร่างเซไปเล็กน้อย คิกซ์เห็นว่าสติทช์เรียนรู้วิชาการตั้งรับเป็นอย่างดี... จึงงัดท่าโรลลิ่งบอล (Rolling Ball) โจมตีสติทช์ โดยทำท่านั่งกอดเข่าแล้วกลิ้งตัวพุ่งเข้าโจมตีศัตรู แต่สติทช์ไหวตัวทัน... กระโดดตีลังกาขึ้นไปยืนอยู่บนเสามุมสังเวียน หลอกล่อเจ้านักมวยให้กลิ้งชนเชือกกั้นจนเด้งไปมา สติทช์ได้ที... กระโดดข้ามไปวิ่งเล่นบนร่างคิกซ์ที่ยังเป็นบอลยักษ์ด้วยความสนุกสนานราวกับว่าเขาคือลู่วิ่งประจำตัว
สติทช์หัวเราะชอบใจที่ได้แกล้งคิกซ์ตอนซ้อมมวยรอถึงเวลาไปรับ ลีโล่ ที่ป้ายรถเมล์ตอนเลิกเรียน เนื่องจากว่าถึงเธอกับเขาเป็นสายลับค้นหาสัตว์ทดลอง... แต่การสอบไฟนอลในโรงเรียนของลีโล่สำคัญที่สุด
สติทช์ก็เลย... หาเวลาเจ๊าะแจ๊ะกับบรรดาพี่น้องสัตว์ทดลองที่ละลายพฤติกรรมไปพลาง ๆ เหมือนที่เขากำลังฝึกปรือวิชาการต่อสู้จากคิกซ์อยู่
แต่ดูเหมือนคิกซ์จะไม่ถูกใจการกระทำของอีกฝ่ายสักเท่าใด
เจ้านักมวยสี่แขนตัดสินใจหยุดกลิ้งตัวอยู่ในลักษณะนอนหงาย สติทช์เห็นท่าไม่ดี... รีบกระโดดหลบไปให้พ้นวิชาอ้อมกอดของคิกซ์โดยเร็ว เพราะทุกครั้งที่สติทช์วิ่งบนโรลลิ่งบอลของคิกซ์ เจ้านักมวยจะกางแขนคลายตัวเองให้ร่างสติทช์ร่วงลงมาแล้วกอดไว้แน่นหนา ซึ่งสติทช์จะไม่ยอมตกหลุมพรางคู่ต่อสู้เป็นอันขาด
สติทช์ตัดสินใจตั้งการ์ดตามปกติ คิกซ์ก็ลุกขึ้นมาตั้งการ์ดเตรียมโจมตีเช่นกัน คราวนี้สติทช์โฟกัสไปที่แขนชั้นล่างของคู่ต่อสู้ รู้ดีว่าทุกครั้งที่สติทช์โจมตี คิกซ์จะตั้งรับได้หมด
ต้องอาศัยลูกล่อลูกชนสักหน่อย
คิกซ์หันไปยังเชือกกั้น... วิ่งตรงไปให้เชือกกั้นเป็นสปริงดีดตัวเองราวกับว่าตัวเองเป็นลูกหินขนาดยักษ์พร้อมซัดสติทช์ให้ร่วงลงจากสังเวียนได้ทุกเมื่อ ด้วยสมองซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ที่สามารถวิเคราะห์การต่อสู้ของอีกฝ่ายเพียงแค่ตาเห็น... สติทช์รู้ดีว่าคิกซ์จงใจจะใช้วิชาหนังสติ๊กยิงตัวเองพุ่งทะยานมากระแทกตน จึงอาศัยความว่องไวในการก้มตัวหลบแล้วใช้วิชาอัพเพอร์คัทชกเข้าที่ท้องของคิกซ์เต็ม ๆ หนึ่งหมัด!
จากนั้นก็ปิดเกมด้วยการกระโดดออกไปเกาะต้นมะพร้าวนอกสนาม... ปีนขึ้นไปบนยอดแล้วกระโดดเอาอุ้งเท้าเหยียบหลังจนอีกฝ่ายไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้อีก
การรู้ผลแพ้ชนะบังเกิดขึ้นแล้ว!
เมื่อผลแพ้ชนะเป็นที่รู้กัน การซ้อมจึงเสร็จสิ้น
สองหนุ่มนักสู้ทั้งสีฟ้ากับสีม่วงจึงออกจากสังเวียนในโรงยิม ซื้อเครื่องดื่มเกลือแร่มาดื่ม หลังจากที่ทั้งคู่เสียหยาดเหงื่อจากการซ้อมมวยมานาน
"นายน่าจะชินบ้างนะกับวิชาลู่วิ่งมหาประลัยที่ฉันคิดขึ้นมา" สติทช์พูดด้วยความภาคภูมิใจที่เขาทำให้เพื่อนนักมวยกลายเป็นลู่วิ่งได้สำเร็จ
"ลู่วิ่งมหาประลัย เอาคืนที่นายถูกสแลมดังค์เมื่อคราวที่แล้วนะเหรอ" คิกซ์ขำเมื่อนึกภาพสติทช์กลายเป็นลูกบาสเกตบอลถูกโยนลงห่วง ต้องโทษ จัมบ้า คนแรกเลยที่บังอาจดีไซน์ให้วิชากลิ้งตัวเป็นส่วนหนึ่งในการต่อสู้ที่ทำให้ตัวเองเป็นตัวตลกของกันและกัน
"โธ่เพื่อน! ของมันพลาดกันได้น่า การต่อสู้ไม่ได้มีแค่หมัดมวยเท่านั้นนะ มันมีการประยุกต์ด้วย เป็นลู่วิ่งให้ฉันเนี่ย... มันฟินอย่างนี้นี่เอง" สติทช์ยังภูมิใจไม่เลิก ทำเอาคิกซ์ค้อนเบา ๆ
"เป็นเกียรติมากเลยนะไอ้พี่น้องเจ้าวางแผน แต่ฉันว่าลูกบาสที่มีชื่อนายเป็นแบรนด์เนม... มันฟินกว่าอีก" คิกซ์ได้ทีกอดคออดีตจอมทำลายล้างพลางเย้าแหย่คืน "แถมบ่อจี๊ด้วยนะเออ"
"นี่ยังดีนะที่ไอ้โนซี่ไม่เพ่นพ่านมาเห็นฉันเป็นลูกบาสถูกสแลมดังค์ ไม่อย่างนั้น... ฉันสู้หน้าลีโล่ไม่ได้แหง ๆ เลย" สติทช์พูดถึง โนซี่ 199 ด้วยความขุ่นเคือง จำได้ว่าไอ้พี่น้องอ้วนปากมากนั่นมีฟังค์ชั่นแค่เป็นคนแฉความลับน่าอาย ตอนนี้ถูกกักตัวอยู่ในยานของ แกนตู และที่สำคัญ... สติทช์เก็บเรื่องเสียฟอร์มลักษณะนี้ไม่ให้ลีโล่ได้รับรู้ เกรงว่าความเป็นนักสู้จะเสื่อมถอยลงในสายตาเธอ
"มันไม่ใช่เรื่องน่าอายสักนิด ในสายตาลีโล่... ทุกเรื่องที่นายทำและมีความเปิ่นเวอร์วัง มีความน่ารักเสมอ ยกเว้นตอนกัดกินของใช้หรืออะไรก็ตามโดยไม่เลือกหน้าอ่ะนะ" คิกซ์ปลอบสติทช์ให้คิดในแง่ดี พูดถึงลีโล่ สติทช์ถึงกับยิ้มหน้าบานในทันตา
"เรื่องบางเรื่อง ฉันก็ไม่ได้น่ารักเสมอไปหรอกเว้ย" สติทช์ถ่อมตน... เขารู้จักลีโล่ดีว่าเธอชอบความน่ารักที่เขาแสดงออกมา แต่เขารู้ว่าพฤติกรรมการทำลายล้างแบบเปิ่น ๆ กินไม่เลือก หรือไม่ก็แสดงอาการฉุนเฉียวใส่ผู้อื่นในยามที่เขาไม่ได้สิ่งที่ต้องการ เป็นพฤติกรรมที่ลีโล่ต้องการให้เขาปรับปรุงตัวสักเล็กน้อย สติทช์ถึงได้เรียนรู้ที่จะมองตัวเองผ่านการกระทำต่าง ๆ เพื่อให้เขาสลัดคราบอสูรทำลายล้างมาเป็น... บอดี้การ์ดข้างกายเธอจนถึงทุกวันนี้
"โอ้ว์... ฉันต้องรีบไปที่ป้ายรถเมล์ก่อน ป่านนี้ สนูทตี้ รอฉันแย่แล้วล่ะ ฮ่า ๆ ๆ อะโลฮ่านะคิกซ์!" สติทช์คลานสี่ขาวิ่งปร๋อออกไปจากโรงยิมริมหาดในทันทีที่รู้ว่าใกล้ถึงเวลาแล้วที่รถโรงเรียนจะผ่านป้ายรถเมล์
"มีผู้หญิงเป็นเพื่อนรักมันดีอย่างนี้นี่เอง ลีโล่ถึงเป็นที่หนึ่งในใจ" คิกซ์พึมพำในขณะที่เขามองสติทช์ออกไปจากโรงยิม ยิ้มอ่อน ๆ ด้วยความรู้สึกดีที่อดีตจอมทำลายล้างอย่างสติทช์มีเด็กมหัศจรรย์อย่างลีโล่ก้าวเข้ามาในชีวิต และลีโล่เป็นคนที่เข้าถึงหัวใจของสติทช์ได้มากที่สุด สติทช์ถึงเป็นเพื่อนที่รักและซื่อสัตย์ต่อเด็กหญิงตัวน้อยจนถึงทุกวันนี้
ถ้าคิกซ์จะขอบคุณสติทช์ที่ทำให้วิชาหมัดมวยของเขาถูกนำมาใช้ประโยชน์ต่อมนุษยชาติ เขาก็ต้องขอบคุณลีโล่ที่เป็นกำลังสำคัญที่กำราบเขาจนยืนหยัดที่จะต่อต้านโปรแกรมทำลายล้างได้
มิตรภาพข้ามจักรวาลที่แสนมหัศจรรย์มันดีเช่นนี้
"ความรัก" ของสัตว์ทดลองที่อยู่ร่วมกับมนุษย์อย่างสันติสุขจะมีนิยามว่าอย่างไร
ต้องดูกันต่อไป
สติทช์เดินทางไปจนถึงป้ายรถเมล์ สมทบกับ สนูทตี้ 277 ที่รอรถโรงเรียนมาจอดเช่นกัน
แหงล่ะ สนูทตี้เป็นค้างคาวสีม่วงที่ถูกตั้งฟังก์ชั่นให้ดูดสนูทโธเนี่ยม (Snootonium) เป็นพลังงานหล่อเลี้ยงตัวเอง ปัจจุบันเป็นเพื่อนรักที่ดูดซับน้ำมูกจาก วิคตอเรีย เพื่อนสนิทที่รู้ภารกิจของลีโล่กับสติทช์ เพราะน้ำมูกเป็นสารเคมี่ที่คล้ายคลึงหรือเหมือนกับสนูทโธเนี่ยม
นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญตั้งแต่วิคตอเรียเป็นเพื่อนใหม่ของลีโล่ เพราะวิคตอเรียเป็นคนที่หลงใหลในเรื่องแปลกเหมือนลีโล่ และยืนยันที่จะเป็นเพื่อนลีโล่แทนที่จะเป็นเพื่อนกับยัยแว่นใจแคบอย่าง เมอร์เทิล เอ็ดมันด์ คู่อริที่มองลีโล่เป็นตัวประหลาดอยู่เรื่อยไป
สติทช์กับสนูทตี้จึงเป็นคู่หูรอรถโรงเรียนจนถึงทุกวันนี้
และแล้ว... รถโรงเรียนคันสีเหลืองก็มาจอดหน้าป้าย เด็กนักเรียนทั้งชายและหญิงที่อาศัยอยู่ใน โคคาอัวทาวน์ (Kokaua Town) พากันทยอยลงจากรถ ซึ่งแน่นอนว่า... คนที่สองหนุ่มรอก็ลงมาด้วย
ลีโล่กับวิคตอเรีย!
ลีโล่กับสติทช์โผเข้ากอดกันด้วยความดีใจที่ได้พบหน้ากันทั้งที่อยู่ด้วยกันแทบ 24 ชั่วโมง ส่วนสนูทตี้ก็กระพือปีกบินเข้าไปนอนบนอ้อมแขนของเด็กหญิงผมแดงผู้มีใบหน้าตกกระด้วยความดีใจอีกเช่นกัน
"เฮ้อ... สอบเสร็จพอดี กว่าจะออกมาได้ก็เหนื่อยแทบตาย" ลีโล่พูดออกมาราวกับว่าการสอบไฟนอลดูดพลังชีวิตเธอไปแทบจนหมดสิ้น
"เหนื่อยอะไรกันเล่า ลีโล่ก็พูดเวอร์ไป เก่ง ๆ แบบเธอ ต้องไม่เหนื่อยสิจ๊ะ ถ้าได้คะแนนงาม ๆ สมกับเป็นลูกศิษย์ของอัจฉริยะชั่วร้าย" วิคตอเรียพูดติดตลกอย่างรู้นิสัยเพื่อนรักดี ลีโล่ฉลาดเรื่องการศึกษาจุดเด่นของสัตว์ทดลอง... เรื่องเรียนก็ไม่แคล้วไปได้สวยเช่นกัน ยิ่งมีจัมบ้าเป็นนักวิทยาศาสตร์อยู่ร่วมชายคาบ้านลีโล่ คะแนนวิทยาศาสตร์จะหนีไปไหนเสียเล่า
"Ih. Yuuga Bootifa!" สติทช์เห็นด้วย ถ้าแปลเป็นภาษาอังกฤษ คือ... ลีโล่เก่งอยู่แล้ว จะไปกลัวอะไร ทำเอาลีโล่ยิ้มออกมาด้วยความรู้สึกดีขึ้น
"ไหน ๆ เราสอบเสร็จแล้ว ไปหาเจ้า สลัชชี่ กัน! อุดหนุนสัก... สามสี่โคน" ลีโล่ชวนเพื่อนไปกินน้ำแข็งไสกัน วิคตอเรียกับสนูทตี้พยักหน้าตอบรับอย่างไม่ลังเล เพราะรู้ดีว่า สลัชชี่ 523 เป็นคนทำน้ำแข็งไสอร่อยที่สุดในเกาะคาไว
แน่นอนว่าร้านน้ำแข็งไสมีลูกค้ามากมายมาอุดหนุน ซัมเมอร์ใกล้มาถึงทีไร สลัชชี่ต้องมีลูกมือส่วนตัว คือ... ดู๊ป 344 สัตว์ทดลองมีรูปลักษณ์เป็นวานรผสมลีเมอร์ สามารถโคลนสิ่งของหรือสิ่งมีชีวิตได้ ดู๊ปจึงโคลนถ้วยน้ำแข็งไสของสลัชชี่ให้มีแคลอรี่ต่ำ
ตั้งแต่เหล่าสัตว์ทดลองมีบ้านเป็นของตนเอง พวกเขาฝึกฝนภาษาอังกฤษไปในตัว เหมือนที่ลีโล่กับสติทช์เรียนทั้งภาษาอังกฤษและภาษาแทนทา-ล็อก (ภาษาที่สติทช์ จัมบ้า และผองเพื่อนสัตว์ทดลองมักคุยกัน) เพื่อใช้ประโยชน์ต่อหาค้นหาพี่น้องที่เหลือ วิคตอเรียก็ต้องมีสมุดจดคำศัพท์เบื้องต้นเพื่อใช้สื่อสารกับสนูทตี้
เมื่อหนุ่มสาวสี่สหายต่างพันธุ์ซื้อน้ำแข็งไสจากสลัชชี่ พวกเขาจึงนั่งพักเท้ากันบนม้านั่งตรงทางไปบ้านลีโล่
"ฉันมีเรื่องอยากถาม เผื่อว่า... เธอจะรู้" วิคตอเรียเกริ่นนำราวกับว่าเรื่องที่เธอจะพูดเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะพูดได้เต็มปาก
"อะไรเหรอ" ลีโล่เปิดโอกาสให้เพื่อนรักถามสิ่งที่อยากรู้
"มันเป็นไปได้ไหม... ที่สัตว์ทดลองกับ... สัตว์เลี้ยงธรรมดา จะตกหลุมรักกันได้" วิคตอเรียถาม เป็นคำถามที่ทำเอาลีโล่ สติทช์ และสนูทตี้สตั๊นไปชั่วขณะ แม้แต่สติทช์ยังสำลักเลย
"Gaba?" สติทช์รู้สึกแปร่งหูกับคำถามที่วิคตอเรียอยากรู้ ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องมีเรื่องราว
"คือ... จีจี้ ที่เมอร์เทิลหวงนักหนาคือ ตัวทดลองหมายเลข 007 มีรูปลักษณ์เป็นหมาชิสุ แต่ดันมีหมาตัวผู้มาติดพัน ฉันก็เลยสงสัย... ว่าจีจี้กับหมาบนดาวโลกจะรักกันได้ยังไง" วิคตอเรียอธิบายเหตุผลที่ทำให้เธอตั้งคำถามประหลาดออกมา สติทช์ฟังแล้วแอบขำเบา ๆ นึกภาพเมอร์เทิลหวงจีจี้ไม่ให้หมาตัวผู้หน้าไหนมาใกล้ชิดแล้วฟันธงได้ในทันที... ว่ายัยแว่นสมองกลวงนั่นต้องเหนื่อยเพิ่มอีกเท่าตัว
เป็นคำถามที่ทำเอาลีโล่คิดหนัก เพราะยังไม่เคยมีประสบการณ์ความรักแบบหนุ่มสาวเหมือน นานี่ พี่สาวของเธอที่กำลังคบหาดูใจอยู่กับเดวิด จากที่เธอกับสติทช์ละลายพฤติกรรมเหล่าสัตว์ทดลอง ยังไม่มีสัตว์ทดลองตัวไหนที่ตกหลุมรักกันเลย
เรื่องสัตว์ทดลองกับสัตว์ธรรมดาจึงเป็นเรื่องที่ลีโล่ไม่สามารถให้คำตอบได้
"เอาตรง ๆ นะ ฉันก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่ารักกันได้มั้ย ตั้งแต่ฉันกับสติทช์ออกค้นหาสัตว์ทดลองด้วยกันมา ส่วนมากเป็นตัวผู้ทั้งนั้น ไม่รู้ว่าจาก 626 ตัว นอกจากจีจี้ บอนนี่ เบลล์ และเจ้าคลิปแล้ว จะมีตัวเมียทั้งหมดกี่ตัว และต่อให้มีสัตว์ทดลองตัวเมียที่สวยมีเสน่ห์พอจะดึงดูดชายได้ ก็รักกันไม่ได้" ลีโล่ตอบตามตรง
"ใช่ ญาติกัน รักกันไม่ได้" สนูทตี้เห็นด้วย
สุดท้าย... ข้อสงสัยก็ได้รับการไขกระจ่าง เมื่อผู้สร้างผลงานทดลองเป็นผู้ให้คำอธิบายได้ดีที่สุด
ดร.จัมบ้า จูคิบ้า
"เป็นไปไม่ได้หรอก... ที่สัตว์ทดลองของจัมบ้าจะรักกับสัตว์ธรรมดาบนดาวโลก" จัมบ้าตอบพร้อมให้เหตุผลอย่างละเอียด "สรีระและการเจริญเติบโตของสัตว์ทดลองกับสัตว์ธรรมดามีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง มนุษย์และสัตว์ธรรมดาต่างก็มีอายุขัยที่ทำให้ร่างกายหยุดทำงานอย่างถาวร หากว่าการเจริญเติบโตและการเปลี่ยนแปลงดำเนินมาจนถึงที่สุดแล้ว ผิดกับสัตว์ทดลองที่ไม่มีอายุขัยและมีการเจริญเติบโตทางกายที่น้อยมาก เพราะพวกเขาเป็นสัตว์ที่อยู่ได้ด้วยพลังงานที่หมุนเวียนอยู่ในตัว"
"นอกจากคุณที่เป็นคนสร้างสติทช์แล้ว ยังมีคนอื่นอีกรึเปล่าคะ" ลีโล่ถาม
"ก็ไม่ได้มีแค่จัมบ้าคนเดียวที่เป็นอัจฉริยะชั่วร้าย คนแบบจัมบ้ามีถมเถไปในกาแล็คซี่ แต่ซ่อนตัวในเงามืดก็เท่านั้นเอง ฮ่า ๆ ๆ" จัมบ้าตอบแล้วขำเสียเองที่นึกภาพบรรดานักวิทยาศาสตร์ผลิตสัตว์ทดลองผิดกฎหมายพากันหนีตำรวจอวกาศหัวซุกหัวซุน แต่ก็มีข้อสงสัย "ถามทำไมรึ"
"ในเมื่อสัตว์ทดลองทั้ง 626 ตัวเป็นพี่น้องกัน ไม่ว่าจะชายหรือหญิง หนูคิดว่าคุณน่าจะเตี๊ยม ๆ กับเพื่อนที่ผลิตสัตว์ทดลองเพื่อให้มีการ... จับคู่กันเกิดขึ้น เป็นไปได้มั้ยที่สัตว์ทดลองจะคบหากันได้" ลีโล่ให้เหตุผล ซึ่งเป็นเหตุผลที่จัมบ้าฟังแล้วถึงกับขำก๊ากขึ้นมา
"ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ โถ ๆ ๆ ๆ ยัยหนูเอ๊ย!" จัมบ้าขำแล้วลูบหัวเด็กหญิงตัวน้อยด้วยความเอ็นดู นึกไม่ถึงว่าเด็กจะแก่แดด... คิดเรื่องความรักแบบหนุ่มสาวของสัตว์ทดลองได้ "หนูคิดว่าจัมบ้าสร้างสัตว์ทดลองทั้งหมดจากดีเอ็นเอของสัตว์ต้นแบบเพียงตัวเดียวรึไงห๊ะ!? กว่าจัมบ้าจะออกแบบจนเป็นตัวเป็นตนได้... มันต้องใช้ความพยายามอย่างสูงที่จะเอาดีเอ็นเอที่หลากหลายมาเทียบเคียงและผสมผสานกัน หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ... ทุกตัวเป็น พี่น้องบุญธรรม กัน" จัมบ้าตอบข้อสงสัยก่อนที่จะตัดบททิ้งท้ายอย่างรู้ทันความคิดของอีกฝ่าย "ส่วนจะรักกันได้มั้ย... เป็นอีกเรื่องที่ยัยหนูต้องโตกว่านี้ก่อน จัมบ้าถึงจะให้คำปรึกษาได้"
ในที่สุด... ข้อสงสัยก็ได้รับการไขกระจ่าง ลีโล่ได้ข้อสรุปว่าความรักของสัตว์ทดลองเกิดขึ้นได้ เพราะแต่ละตัวมีดีเอ็นเอที่แตกต่างกัน
แต่สำหรับสติทช์ รู้สึกได้ว่าเป็นคำตอบที่ "เจ็บ" ที่สุดก็ว่าได้
ทำไมถึงรู้สึกแบบนี้นะเหรอ!?
ตั้งแต่สติทช์ผ่านพ้นความตายที่ทำให้บาดแผลในหัวใจลีโล่เกือบถูกกรีดซ้ำจนแทบไม่สามารถเยียวยาได้อีก ด้วยบทพิสูจน์ที่ว่า... "ความรักมีพลังอานุภาพเหนือกว่าความตาย" ความรักที่ลีโล่มีต่อเขา ทำให้สติทช์ฟื้นคืนชีพอีกครั้งราวกับปาฏิหาริย์
จากวันนั้นถึงวันนี้... ภารกิจที่ยิ่งใหญ่และความผูกพันดั่งพี่น้องร่วมสายเลือดได้ก่อให้เกิด "สายใยที่มองไม่เห็น" ขึ้นมา
สายใย... ที่ทำให้สติทช์มีความรู้สึกที่เหนือชั้นกว่ามิตรภาพและโอฮาน่า
สายใย... ที่ถูกเรียกอย่างเต็มปากว่า "ความรัก"
แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน... ที่สัตว์ทดลองสุดร้ายกาจจะมีความรักกับเด็กสาวผู้ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนรักได้
สายพันธุ์ สถานะในครอบครัว และช่วงอายุมีความแตกต่างกันสุดขั้ว
เจ็บตั้งแต่ยังไม่เริ่ม... มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
จริงอยู่ที่ลีโล่รักสติทช์ แต่คงรักแบบ "พี่น้อง" ซะมากกว่า
ต่อให้สติทช์ปกป้องลีโล่ให้พ้นจากภยันตรายในภารกิจมากน้อยเพียงใด... ก็มิอาจล้ำเส้นได้
เพราะถ้าล้ำไปแม้แต่ปลายเล็บ ทุกอย่างก็พินาศ
นี่สินะ... นิยามความรักของจอมพลัง 626
ç=================è
ความคิดเห็น