ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic(My hero academia / Boku no hero academia x oc)(MHA)(BNHA) นามขานของความกลัว ฮิมิยะ ทาเครุ

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่0.5 :ญาติ...

    • อัปเดตล่าสุด 30 ธ.ค. 65


    เมื่อ4ปีก่อน...

    วันที่ฝนเทลงมาไม่หยุด เหมือนบางอย่างจะได้ลาลับ

    เสียงสัญญาณชีพก้องดังอ่อนช้าพอๆกับร่างของเธอผมสีฟ้าสั้นที่นอนบนเตียงคนไข้... ที่นั้นเองสามีผมทองของเธอมาเยี่ยมพร้อมกับลูกสาวในวัย1ขวบที่ก็หลับอิงแขนของพ่อของเธอ โดยหารู้ไหมว่านั้นคือวันที่ต้องจากกันแล้ว

    "...ถ้าฉันรู้เรื่องให้เร็วกว่านี้..."

    เจ็บใจตอนนี้ก็สายไปแล้ว...

    หญิงผู้เป็นภรรยาฟื้นลืมตาขค้นอ่อนล้า เบิกขึ้นหันมาด้านขวาอันทีเสียงเรียกนั้นกำลังจะเศร้าขึ้นมา

    "...ชิคุ......เซย์นะ..."

    คำอ่อนๆพร้อมมือที่ซีดแห้งของผู้หญิงคนนึงเอื้อมออกไปหาชายที่รักเพื่อจะจำมือด้วยกันในเวลาสุดท้ายของชีวิตเธอในตอนนี้

    มือที่ค้างรอกำลังจะตกในไม่ช้า คราวนี้ฝ่ายชายผู้กำลังจะสูญเสีย ลดตัวลงไปกุมมือเธอเอาไว้ที่อกอันข้างๆลูกสาวตัวเล็กค่อยๆลืมตาขึ้นมาเห็นมือที่โรยราได้ลดลงหวบลงกับสัญญาณชีพสุดท้ายที่ดับไป

    ฮิมิยะ นานากะ...เธอจากไปโดยที่มือข้างที่เอื้อมแขนของเธอห่อยทิ้งไว้ข้างเตียง

    น้ำตา2หยดร่วงหล่นลงพื้น บัดดนั้นหัวใจอีกดวงก็แตกลงตรงหน้าไป 

    "คึ๊ก~...ฮื้อ ๆ... ฮึ๊!..."

    ความตายที่ไม่เท่าเทียมสำหรับเขาและลูกสาวที่ยังไม่รู้ความ ที่เด็กคนนั้นก็ได้พูดประโยคแรกขึ้นมาด้วยหน้าที่ตกตะลึง

    "เอ๊...?"


    เมื่อเดือนก่อน...

    ที่เนินหญ้า...

    "ผีหน้าซีดคุงอยากเจอใช่ไหมล่ะ...ปีศาจของนายน่ะ"

    คำพูดชวนหงุดหงิดของไอ้เจ้าคนผมห่างยาวสีน้ำตาลพุทราที่มีเขายักษ์2เขา ไอ้เจ้าโคโคโกมะยั่วโมโหผมเข้าพวกเราเลยมาสู้กันในแบบของไม้เบื่อไม้เมากัน

    "บอกไว้ก่อนว่าฉันไม่คิดออมมือหรอกนะไอ้ยักษ์!"

    ครับฮิมิยะ ทาเครุครับ ทางนี้ผมก็กำสะสารสีดำในมือจนแตกตัว อ้อมล้อมทั้งร่างก่อนผ่าสะบั้นออกแหวกสีทมิฬออกรูปลักษณ์คือ เคียวยาวรูปตรงอันที่ควงรอบทิศ จดจ่องที่เจ้ายักษ์ที่ทำท่าเป็นใจเย็นกับกิ่งไม้ในมือที่กวักแกว่งกลางฟ้า

    "แสดงให้นายเห็นเอง สัตว์ร้ายของนายน่ะ"

    มือแกว่งในตำแหน่งแถวหน้าสะดุดตา รวดเร็วและรุนแรงบรรเลงปีศาจอัญเชิญออกมาจากเงาที่อยู่ด้านหน้าของผม

    เสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่ง เปืดส่วนท้องที่มีกล้ามเนื้อที่พอเหมาะ แววตาไร้ชีวิตและแสนหลุดลอยจนน่าหวั่นเกรง ผมที่ยาวขึ้นมาจากร่างต้นพอนึง

    พลังมวลสารที่คลุมมือขวาเป็นทรงเกลียวดูอันตรายจนควรหลีกห่าง เขายาวสูงกลางหน้าผากดุดันและน่สกลัว

    ใช่แล้ว ปีศาจ...

    "แค๊...!!"

    "ตัวเชี้ยไรวะเนี่ย!!?"

    สาบานว่าในฐานะตัวต้นแบบผมรับไม่ได้ที่มันดูเอ้อผิดกับจินตนาการในหัวลิบลับจริงๆ

    มิหน่ำซ้ำไอ้คนเรียกปีศาจยังทำทีกลั่นขำหลบหน้าผมอีกด้วย

    "ฮึ ๆ ๆ! อะไรล่ะนั้นดูไม่เต็มสุดๆเลยนิหว่า"

    "ไม่ต้องมาขำเลยนะ!"

    หงุดหงิดขั้นสุดตอนนี้ความหัวร้อนพุ่งใส่สัตว์ร้ายที่ถูกเรียกออกมาจากร่างผม ที่ตั้งรับเคียวที่จามลงด้วยฝ่ามือข้างที่มีเกลียวคลื่นดำอยู่ทันเวลา

    "แค๊ะ!"

    หน้าเอ้อๆได้ใจใหญ่ ร่างต้นแบบไม่อาจจะอดความรู้สึกลบๆไหว ดัดรูปเคียวใหญ่ให้เป็นดาบไร้ปลอก รอจังหวะขาลงพื้นอีกหนก็กระหน่ำฟาดฟันต่อเนื่อง ไล่ต้อนให้ปีศาจให้ต้องเป็นฝ่ายกระจายสะสารดำใช้2มือปัดป้องจนแล้วไป

    "ย๊ะ!"

    คมดาบดำฟันด้านขวาในแนวตัดของศรีษะของร่างจำแลงปีศาจ 

    "คี้~!"

    ท่าสะพานโค้งของผีหน้าเอ้อหลบโยกทันหน้าเหลือเชื่อ แถมโต้กลับมาโดยขาที่ตีลังกากลับโดนปลายคางผมเข้า ตัวลอยจากพื้นไป1เมตรได้

    "ฮี้ ฮี่~!"

    ความเป็นลิงโดยกำเนิดของร่างมีเขาตัวขาว มือทั้ง2 ที้ยันพื้นส่งแรงอีกหน ดอร์ปคิ๊ก เต็มเท้าคู่ถูกฟน้าของตนแบบก่อนที่ขาจะถึงพื้นไม่กี่มิลิเมตร

    "อ๊ก! อ๊าก!"

    ก้นติดพื้นหญ้ากลิ้งม้วนตัวในทางชันมือจิกหญ้าสีเขียว ช้อนหน้าขึ้นไปบนเนินสูงอันเจ้าตาเอ้อก็ยัง แสยะกวนโอ้ยชวนให้ร่างต้นรีบพุ่งเข้าไปอีกหน ด้วยโครงปีกสีดำส่งถีบจากขวาขวาที่ยืดออกปะทะกับหมัดตรงของตัวเองพร้อมกัน

    ผลลัพธ์ทั้งหมดของการต่อสู้อยู่ในสายตาของผู้หญิงที่เป็นอาจารย์ของพวกเรา3คน

    "ดูไว้ซะเร็น นี่คือหน้าที่ของเธอ"

    "ครับ อาจารย์!"

    ชายหนุ่มหน้ามนผมเขียวหญ้า หน้าม้าหนาฮานามูระ เร็น ขานตามอาจารย์สาวผมยาวน้ำตาลทราย ที่เธอก็เล่งดวงตาสีน้ำตาลไม้ที่ผมกำลังเป็นฝ่ายตั้งรับกับร่างปีศาจของตนอย่างยากลำบากอยู่


    การต่อสู้จบลงผมนอนหอบหมอบกลางพื้นหญ้าในช่วงตะวันลับฟ้า ร่างกายอ่อนล้าและเหนื่อยแรงสุดขีด

    "ทาเครุทุ่มเทกับการป้องกันมากกว่าการโจมตีสินะ"

    เร็นหมอนั้นยื่นขวดน้ำเปล่ามาให้ผมได้ดื่มดับกระหายในท่านอนหงายหน้ามองดวงอาทิตย์ตรงวิวเมือง ที่เป็นากหน้าก็สวยงามอยู่ไม่ใช่น้อย

    "ก็ฉันจะเป็นฮีโร่สายป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดนิ"

    เหตุผลมันก็ว่ามาแต่จะให้แบบนั้นโดยไม่บุกกลับเลยคงเห็นดีเห็นงานไม่ได้

    "ในที่สุดคำแนะนำของฉันก็ได้ผลสักทีนะ ทาเครุ"

    เสียงอาจารย์สาวจากด้านหลังให้ผมเงยหน้าเหงนคอขึ้นพูดกับตรงกับเธอ

    "คิริโกะ~...ถ้าจะให้คำแนะนำขอแบบพูดดีๆจะได้ไหม?--ง่ะ!"

    มีเท้าของรองเท้าบูธสีขาวอยู่บนหน้าผ้าของผมจนได้ 

    "บอกกี่ครั้งว่าเรียกว่าอาจารย์หรือเอกซ์โพครีฟน่ะ!"

    "ก็ช่วยไม่ได้นิ...ก็เพราะพวกเราเป็นญาติกันจะให้เรียกใครใหญ่เป็นทางการมากกว่ามัน--"

    "ถ้านั้นก็เติมพี่สาวไปด้วยสิยะ!"

    ปลายเท้าขยี้แรงๆกลางหน้าผากจนผมร้องออกมา "เจ็บ ๆ ๆ ๆ ๆ!! พอได้แล้ว!"

    ความเรื่องมากแบบนั้นแหละที่ผมไม่ค่อยอยากจับถือเธอมากนักเลยห่วนๆส่งเดจไป อันจริงๆเห็นหน้าสาวๆแบบนั้นแต่อายุก็เท่ากับจิคุเหมือนกันนั้นแหละ

    บุญแค่ไหนที่ไม่โดนเรียกว่า "ป้า" น่ะ

    "ถ้านั้นผมกลับก่อนนะ พอดีมีเรื่องที่อยากจะดูด้วยนะ"

    เร็นสั่งลาแล้วเดินไปทันที คือบอกไว้ก่อนว่าหมอนี้ก็ค่อนข้างติดอนิเมะจนเวลานี้ตอนเย็นก็มีตารางเวลาฉายที่มีเรื่องโปรดของหมอนั้นด้วย คงช่วยไม่ได้แหละ

    ส่วนเจ้าโดโคโกมะก็ขอตัวกลับหลังจากที่ผมหมอบหมดแรงแลกกับการที่ว่ากระถืบเจ้าร่างจำแลงจีนแดงจนยับแล้วก็ทิ้งท้ายเจ็บๆไว้ว่า "โล่ขึ้นสนิมคุง ไปก่อนนะ" ฟังแล้วปรี๊ดแตกอยากจะอัดให้หมอบสักดอกจริงๆ

    "ทาเครุ"

    ญาติสาวผมน้ำตาลทรายหางม้ายื่นแผ่นกระดาษแผ่นนึงให้ผม

    "...."

    พอลองเพ่งมองมันคือรายการเตรียมพร้อมในอีก1อาทิตย์สำหรับการสอบเข้าที่โรงเรียนมัทธยมปลายUA อันนึงอันในผมก็เคร่งเรื่องเมนูการฝึกที่แสนโหดของเธอได้อยู่พอประมาณจึงรับมันไว้อย่างยินยอม

    "สอบเข้าที่UAปีนี้จะโหดขึ้นกว่าทุกปี ถ้านายประมาทก็จบเห่"

    "คราบ ๆ เข้าใจแล้วพี่สาวคิริโกะ"

    "แต่ฉันก็ไม่ได้หวังอะไรนายที่มีสัญชาตญาณเกินเบอร์อยู่แล้วด้วย เพราะนั้นก็อย่าให้ผลาดซะเองล่ะ"

    แล้วมันต่างกับคาดหวังตรงไหนล่ะเจ้! เป็นประโยคที่ไม่พูดออกไปแต่ผมก็ยืนด้วย2ขาอีกครั้ง มองพระอาทิตย์ที่ใกล้ลาลับในสายลม ที่พัดโบกรับลมเข้าที่ด้านหลัง

    อ่อนนุ่มแล้วก็สบายกายคงเรียกได้...

    แขนเหยียดขึ้นฟ้าบิดขี้เกียจให้หายสบายตัวแล้วลงจากเนินหญ้าที่ฝึกซ้อมกับคำลอยๆที่ตั้งใจยั่วโมโหเธอ

    "ขอบใจนะ...คุณป้า..."

    คำกวนเท้าหาตีน กระตุกหนวดเสือตัวเมียให้แยกเขี่ยวขึ้นมา

    "ฉันยัง~!!"

    ผู้หญิงเซนส์ไวกระโดดจากเนินถีบเข้าที่ถ้ายทอย

    "ฉันยัง27อยู่ย่ะ!!"

    ปัก!! เสียงร้อง "อ๊าาาา!!" ลั่นจากทางลงไปยังฟ้าเหมือนกับจะร้องไปหาใครสักคนที่รออยู่บนนั้น

     






     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×