ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic(My​ hero​ academia​x​oc)(MHA)(BNHA) ตัวของตัวเอง ทาคิสึ ฮาจิเมะ & ฮิมิยะ ยามิ

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่9 :อย่าพึ่งรีบโต

    • อัปเดตล่าสุด 26 เม.ย. 65


    "คุณฮิมิยะครับ เป้าหมายในตอนนี้จนมุมแล้วครับ"

    ผมทาคิสึ ฮาจิเมะ ตอนนี้ผมก็อายุ12ปีแล้ว ถ้าถามว่าผมที่เป็นเด็กป.6 ไม่สิกำลังขึ้นม.1แล้วมาทำอะไรกลางดึกตอนนี้ละก็... ผมคงตอบได้ว่าตอนนี้ผมกำลังอยู่ที่มุมตึกในตรอกที่เมือง และกำลังเห็นวิลเลินกำลังหลบหนีอีก3คนได้ ซึ่งเห็นถ้าว่าจะกำลังหนีโดยการปีนข้ามกำแพง ด้วยอัตลักษณ์ของตัวเองแล้วด้วย

    "ให้ผมจัดการเลยดีไหมครับ"

    "ฮาจิเมะคุง ฉันอนุญาติให้เธอใช้อัตลักษณ์ได้"

    "รับทราบครับ!"

    ทันทีที่ผมได้รับคำอนุญาติแล้ว ลูกบอลสีเขียวและสีฟ้าก็ประกฎขึ้นมา2ลูกอยู่ ระหว่างคอของผม ทั้งขวาและซ้าย 

    ลูกบอลสีเขียวลอยมาอยู่ฝามือขวาของผม และผมก็ได้กำมันไว้ในมือข้างนั้นของผม

    จำความรู้สึกตอนที่ซ้อมในตอนนั้นให้ได้ ผมวนคำนั้นไว้ในหัวและก็เวลาเดียวกัน ที่มืข้างนั้นของผมส่องแสงสีเขียวที่ยอดมุมตึก

    "อะตอมเบรคเกอร์ ไดร์โปรเจคชั่น!"

    สิ้นเสียงนั้นของผมแล้วนั้นลำแสงสีเขียวก็ได้ถูกปล่อยออกมาจากฝามือข้างนั้น ด้วยความเร็ว50%ของทั้งหมด300กม./ชม. และมันก็ตรงดิ่งเข้าไป ตรงกำแพงนั้นทันที

    "อะไรน่ะ!? เวอะ!"

    วิลเลินคนที่ปีนใกล้พ้นจากจาก กำแพงคนนั้นก็ตกลงมาถึงที่พื้นในที่สุด แต่ด้วยความสูงที่ไม่มากเลยทำให้ไม่ค่อยเป็นอันตรายมากเท่าไหร่นัก

    อัตลักษณ์ของผมสามารถทำลายคุณสมบัติของสิ่งของได้เพียงแค่ ส่งลำแสงสีเขียวให้โดนเป้าหมาย ตอนนั้นผมทำลายคุณสมบัติที่ทำให้พื้นนั้นเหนียวออก เพราะว่าอัตลักษณ์ของคนคนนั้นระบุออกมาแบบนั้น ทำให้ผมเตรียมการได้ทันก่อนที่จะเข้าสู้

    "การเก็บช้อมูลให้มากที่สุดจะสร้างความได้เปรียบให้กับเรา" คุณฮิมิยะเคยพูดแบบนั้นไว้เสมอ ตอนที่เค้าฝึกให้ผม

    ความสับสนก่อขึ้นในตัวของวิลเลินทั้ง3คนด้านล่าง ผมที่อยู่ด้านบนยอดตึกนั้นก็กระโดดลงมาถึงพื้นจากที่ซ้อน 

    """..........?"""

    สายตาของทั้ง3คนนั้นมองมาที่ผมอย่างสงสัย ผมก้มหัวให้กับพวกเค้า1ทีก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมาตั้งท่าของตัวเองพร้อมกับบอลสีฟ้าที่ยังลอยอยู่ข้างหัวผม

    "ผมขอจับกุมพวกคุณละครับ!"

    ผมประกาศออกไปอย่างจริงจัง

    3คนนั้นพอฟังแล้วก็ ทำหน้าเหมือนกับจะหัวเราะออกมาให้ผมฟัง

    "หา? เด็กปะถมเนี่ยนะ หึๆ...ฮ่า ๆ ๆ ๆ..."

    "นี่เจ้าหนูนั้นมันขำมากๆเลยนะ "

    "ใช่ๆ กลับบ้านไปนอนก่อนเถอะไป--"

    ลำแสงสีฟ้าก็ปล่อยเข้าไปกระแทกหน้าของวิลเลินทางขวามมือเข้าอย่างจังกระเด็นลอยหลังกระแทกพื้นหมดสภาพอย่าเร็ว

    ""........!""

    ทั้ง2คนที่เหลืออ้าปากค้างไม่หุบ สายตาและเหงือที่บ่งบอกออกมาว่า ผมในตอนนี้นั้นเอาจริง ผมที่ชกกำปั้นปล่อยลำแสงสีฟ้าออกไป ตอนนี้ได้วิ่งเข้ามาใกล้อย่างไม่รอให้ตั้งตัว จนมาหยุดตรงหน้าของวิลเลินคนนั้นที่ดูท่าจะสติหลุดแล้ว

    "ตั้งแต่เมื่อไหร่!--"

    วิลเลินคนนั้นพยายามจะถอยห้างออกจากผมที่เค้าไปหาระยะประชิด 

    "กัดฟันไว้ด้วยนะครับ!"

    ที่มือซ้ายสัมผัสที่อกกลางของอีกฝ่าย และจากนั้นร่างของคนคนนั้นก็ปลิวขึ้นไป จากผลของอัตลักษณ์ของผมเอง และร่างเค้าก็ตกลงถึงพื้นอีกครั้งนึง แล้วก็สลบลงไปในที่สุด

    สีฟ้าผลักออก...

    นั้นแหละคือพลังอีกอย่างของผม

    "หน่อยแน่! ไอ้เด็กเปรต!"

    คนคนนั้นอีกคน ปล่อยหมัดขวามาหวังจะโดนใบหน้าผม 

    "ฮึบ!"

    ร่างเล็กๆนี้ย่อตัวหลบได้ทัน จับแขนที่ลอยมาข้างนั้นของเค้า เตะขาข้างนึงจนเสียหลักหมุนตัว ล้มลงหงายหน้าขึ้นฟ้ามองดูดาวที่สว่างในคือดูดาวนี้

    "พวกคุณแพ้แล้วครับ"

    ผมพูดออกมาขณะที่ล็อคแขนของคนคนนั้นให้ยึดไว้ด้านหลังอย่างแน่นหนา จนเค้านั้นดิ้นไม่หลุด และพูดออกมาอย่างเจ็บใจ 

    "หน่อย..!!"

    จากนั้นไม่นานเสียงไซเรนก็ดังขึ้นมา พร้อมกับคุณฮิมิยะที่บินลงมาจากฟ้าด้วยปีกขนนกสีดำของเค้า และพอถึงพื้นเค้าก็สลายปีกตัวเองเดินมาทางผมด้วยความเป็นห่วง

    "ฮาจิเมะคุงเธอทำได้ดีมากเลยนะ"

    "ครับ!...ว่าแต่คุณอีเทอร์--"

    ไม่ทันที่ผมจะเรียกชื่อฮีโร่เค้าเต็มชื่อ เค้าก็ทำถ้าห้ามเอาไว้ก่อน และทำหน้าเชิงเหนื่อยๆใส่ผมและคำพูดติดปากของเค้าก็ออกมา

    "ให้ตายสิ ฉันก็เคยบอกอยู่ว่าให้เรีกว่าดีย์หรือคุณฮิมิยะน่ะ"

    "ขอโทษครับ..."

    "เอาเถอะ ตอนนี้คงจะเรียบร้อยจริงๆแล้วละ"

    คุณฮิมิยะดีดนิ้วตัวเองจนเกิดเสียง และจากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงร้องที่ดัง"อั๊ก!!" ออกมาจากมุมอับด้านหลังของผม 

    ผมตกใจจนหันหลังกลับไป แล้วเห็นว่ามีผู้หญิงผมสีดำคนนึงใส่หมวกปิด ดูถ้าจะอายุพอๆกับผมตอนนี้เลย ถือมีดมาจะลอบแทงผมจากทางด้านหลัง แต่เธอก็โดนคุณฮิมิยะจับได้ก่อนที่จะเข้ามาลอบหลังผม และทำเธอสลบไป

    "ผมไม่รู้สึกตัวเลยแท้ๆ คุณฮิมิยะสุดยอด..."

    "เด็กคนนั้นดูเหมือนโดนบังคับให้ทำนะเนี่ย"

    ".........?

    ผมสงสัยกับที่ผู้ใหญ่คนรู้จักผมพูดออกมา 

    คุณฮิมิยะเดินผ่านผมไปพร้อมกับอุ้มเธอคนนั้นไว้บนหลังของเค้า ก่อนที่จะหันมาทางผมด้วยสายตาที่ค่อนข้างเป็นห่วงผม

    "ฮาจิเมะคุง ฉันว่าเธอควรจะพักบ้างน่ะช่วงนี้เธอดูฝืนเกินไป ถึงฉันจะให้เธอออกโรงก็จริงแต่ว่า ยังไงเธอก็ไม่ควรฝืนเกินไปนะ"

    ก็จริงอย่างที่เค้าพูด แต่ว่าผมเองก็อยากจะตอบแทนเค้าเหมือนกันที่ช่วยดูแลพวกผมมาตลอด แล้วแถมตอนนี้คุณเปโกะยังมีลูกชายอีกคนเมื่อ2ปีก่อน แถมตอนนี้ก็ไม่อยู่เพราะยังมีงานต้องไปทำที่ต่างประเทศ ทำให้เค้าต้องรับภาระงานมากขึ้น แน่นอนว่าการที่ต้องมาแบ่งเวลาให้กับผมและฮิมิยะคุงเค้า ทำให้เค้าแทบจะไม่ได้พักเลย 

    "แต่ว่า คุณฮิมิยะผมไม่อยากให้คุณต้องเหนื่อยนิครับ...ผมเองก็อยากช่วยคุณบ้างนะ"

    ผมพยายามที่จะอธิบายออกไป คุณฮิมิยะเอามือของเค้ามาวางไว้บนหัวของผมเบา และลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน รอยยิ้มเผยบนใบหน้าที่เป็นสีซีดของเค้า มันคล้ายๆกันกับฮิมิยะคุงในตอนนั้นเลย 

    มันสว่างมากเลย บางทีแล้วแสงนี้คือของที่เค้าส่งต่อให้ลูกชายของตัวเองก็ได้ 

    "ฉันเข้าใจเธอดีนะ แต่บางทีเธอเองก็ควรจะเลิกคิดมากได้แล้วละ ที่ฉันให้เธอออกมาพร้อมกับฉันก็เพื่อที่จะให้เธอได้รู้ว่าตัวเธอนั้นน่ะมีขีดจำกัดขนาดไหน ฮาจิเมะเธอน่ะเป็นคนดีที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลยล่ะ ทั้งนานามิและก็ชิโอริก็มีเธอคอยที่จะดูแลอยู่ ช่วยเข้าใจความรู้สึกของ2คนนั้นด้วยนะ"

    "ความรู้สึกของน้องสาวผม..."

    ผมเลิกที่จะคิดเรื่องอื่นๆในตอนนี้ ผมวางมือไว้ทั้ง2ข้างที่มือของคุณฮิมิยะ พร้อมกับเงยหน้ามองหน้าเค้าด้วยใบหน้าที่เรียบนิ้ง

    แต่ในระหว่างที่ในใจผมยังเป็นแบบนั้นก็มีเสียงใหญ่เสียงนึงดังเข้ามาพร้อมกับเสียงฝีเท้าของเค้า

    "อีเทอร์นัลดีย์ ทางเมืองเขต3กำลังเกิดปัญญหาเพลิงไหม้อยู่ครับ"

    ผู้กำกับเข้ามาหาคุณฮิมิยะ คนที่เป็นอาจารย์และก็พ่อของผมก็หันไปหาคุณตำรวจ และเอามือออกจากหัวผมไป

    "ให้ตายสิ...ถ้านั้นฉันจะไปหยุดเอง เตรียมหน่วยกู้ภัยให้พร้อม! เดี๋ยวฉันจะไปเอง"

    ทันทีที่สั่งการเสร็จแล้ว คุณฮิมิยะก็สร้างกางปีกขึ้นมาอีกครั้ง แต่ความนี้เป็นปีกขนนกที่ติดเครื่องเจ็ทสีดำตามอัตลักษณ์ของเค้าเอง และเตรียมท่าที่จะบินออกไป

    "เดี๋ยวก่อนครับ!"

    ผมพูดรั้งเค้าไว้ก่อน

    "........?"

    คุณฮิมิยะหันมาทางผมที่ยื่นมือออกไปรั้งเค้า 

    ผมฉุดมือตัวเองกลับมารวบรวมความกล้าของตัวเองแล้วก็พูดออกไปแบบติดขัด

    "คือว่า.......ฝากบอกฮิมิยะคุงด้วยนะครับ ว่าให้ถ้าเค้ามีน้องแล้ว ให้ดูแลดีๆ...ด้วยนะครับ"

    ใช่แล้ว ผมที่มีน้องสาวถึงจะเป็นน้องสาวที่อายุห่างกันไม่กี่นาทีหรือว่าไม่กี่เดือนก็ตาม แต่ว่าผมหวังว่าฮิมิยะคุงคนนั้นจะเป็นพี่ชายที่ดีได้แน่ๆ ถึงอายุเค้าจะห่างกับน้องที่อยู่ในท้อง10ปีก็ตาม 

    คุณฮิมิยะที่ได้ยินก็หันกลับไปทางเดิม ก่อนที่จะกางปีกออกอีกครั้งนึง ผมมองแผ่นหลังของเค้าที่กำลังจะทะยานขึ้นไปอย่างปลื้มหัวใจ เค้าหันมาทางผมโดยที่วางร่างของเด็กผู้หญิงคนนั้นไว้กับตำรวจคนนั้น และพูดออกมากับผม

    "ถ้านั้นเธอเองก็ต้องดูแล2คนนั้นให้ดีด้วยนะ"

    หลังจากพูดเสร็จแล้วร่างนั้นก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงจันทร์และแสงดาว และมุ่งหน้าต่อไปด้วยความไวเป็นเส้นตรงขวาตามทิศทางของต่ำแหน่งที่เกิดเหตุ

    "คุณฮิมิยะเนี่ยสุดยอดเลยจริงๆ..."

    ผมชื่นชมเค้าออกมาจากใจจริงของผม และจากนั้นผมก็จะได้กลับบ้านไป โดยที่เดินทางเท้าขึ้นรถไฟไป จนไปถึงที่บ้าน


    บ้านทาคิสึ...

    นานามิมายืนต้อนรับผมถึงหน้าบ้าน แต่ว่าทำไหมเธอถึงทำสายตาน่ากลัวแบบนั้นออกมาล่ะ? 

    "เอ่อ...นานามิ"

    "ค่ะ! "

    เธอตอบกลับมาสั่นๆแต่ก็ทำหน้าทำตาแบบนั้นใส่ผมอยู่ดี เอาจริงๆผมว่าน้องสาวผมหลังจากเมื่อปีที่แล้วก็ดูเหมือนว่าจะชอบดูหนังสยองขวัญขึ้นมา และพอเธอกลัวจนน้ำตาเล็ดเธอก็จะหลอนไปเองประมาณนี้ละมั้ง

    ในขณะที่ผมจะได้คุยอะไรต่อ ชิโอริก็เดินเข้ามาในสภาพที่ใส่ยกทรงสีฟ้า ใส่กระโปงอยู่เหมือนว่าเธอจะมาหาผมตอนที่ได้ยินเสียงผม

    "พี่ฮาจิเมะยินดีต้อนรับกลับค่ะ!"

    น้องสาวต่างแม่ของผมรีบเข้ามากุมมือผมไว้ใกล้อกของเธอทันที ผมรู้สึกหน้าแดงขึ้นมานิดๆก่อนที่จะส่ายหัวลบภาพในหัวออกไป 

    ผ่านมา5ปีร่างกายของชิโอริมีการเปลี่ยนพอสมควร เธอเริ่มที่จะมีหน้าอกขึ้นมา ตัวของเธอนั้นดูกลายเป็นสาวมากขึ้นต่างจากนานามิที่ก็ยังเป็นแบบเดิมอยู่ แถมพอเห็นชิโอริแบบนั้นแล้วก็...

    "แพ้ราบคาบเลย..."

    นานามิเอามือจับดูตรงนั้นของเธอ สายตาของเธอนั้นเหมือนกับจะบอกออกมาตามที่เธอนั้นพูดออกมาเลย 

    ผมเองก็เอาใจช่วยว่านานามิจะแตกเนื้อสาวไวๆแล้วกัน  หลังจากนั้นผมก็ได้เข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำโดยที่พวกน้องสาวผมก็ตามกันมาด้วย

    5ปีมาเนี่ยมีอะไรเปลี่ยนมาเยอะมากเลย ผมได้ฝึกการใช้งานอัตลักษณ์ของตัวเอง รวมถึงการทำอาหารที่คุณฮิมิยะสอนมาก็ด้วย นานามิเริ่มที่จะปล่อยผมของตัวเองเพราะเห็นบอกว่า "ทวินเทลมันสำหรับเด็ก" อะไรแบบนั้นนั้นแหละ ชิโอริตอนนี้ก็เข้าสังคมได้มากขึ้น มีเพื่อนเพิ่มขึ้นมาเยอะเลย แถมมีจดหมายสารภาพรักมาหาแถบจะทุกอาทิตย์อีก

    ผมรู้ดีว่าน้องสาวคนเล็กของผมนั้นน่ารักและเนื้อหอมแค่ไหน แต่ว่าในฐานะพี่ชายผมเองก็กันตัวน้องสาวผมให้ห่างจากตัวผู้ไว้ก่อน เพราะว่าชิโอริน่ะไม่ควรที่จะต้องแปดเปื้อนกับพวกนั้นเลย

    ให้เธอได้น่ารักแบบนี้ไปแหละดีแล้ว ให้ชิโอริได้มีความรักของตัวเองที่ตัวเองต้องการดีกว่า

    ผมมองหน้าที่สวยสง่าของชิโอริที่แช่น้ำใกล้กับนานามิ และก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย นานามิที่นั่งอยู่แบบนั้นก็พองแก้มของเธอออกทำหน้าทำตาไม่พอใจใส่ผม

    "พี่ชายซิสค่อน..."

    "ปะ เปล่าน่ะ!"

    ผมโต้ตอบออกมาทันทีใส่น้องสาวฝาแฝดของผม ชิโอริที่เห็นแบบนั้นก็เอียงคอลงอย่างสงสัย

    "ซิสค่อน?"

    "คือพวกที่ชอบน้องสาวไงล่ะ ชอบในแบบนี้ดูแลเป็นห่วงทุกๆอย่างเลยด้วย"

    "แล้วมันไม่ดีเรอะค่ะ?"

    "ใช่สิ! เพราะว่าชอบก็เลยอยากจะจับน้องสาวมาเป็นของตัวเองไงเล่า"

    นานามิอธิบายออกมาหมด ผมถึงกับถอนหายใจออกมาเลย เพราะว่าผมไม่ได้คิดแบบนั้นกับชิโอริเลยสักนิดเลย เพราะยังไงศีลธรรมของพี่น้องผมก็รู้ดีอยู่แล้ว

    ชิโอริพอได้ยินเธอก็หายสงสัยก่อนที่จะหันมาทางผมด้วยสายตาที่กล้าๆกลัวนิดหน่อย เธอดิ้นไปมาบนผิวน้ำใบหน้าของเธอแดงขึ้นมา

    "ถ้า...แบบนั้นหนู...ถ้าเป็นพี่ฮาจิเมะหนูก็ชอบนะ...เพราะหนู เองก็รักพี่ฮาจิเมะ...หนูรักมากๆเลยด้วย"

    ""...........!!?""

    ผมกับนานามิขนลุกขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ผมและแฝดหญิงของผมอ้าปากค้างไม่หุบ เหงื่อไหล่ไม่หยุดในใจเองก็คิดไปว่า "เอาจริงดิ"

    แต่ผมคงจะคิดว่ามันคงจะไม่ใช่แบบนั้นแน่นอน ชิโอริก็แค่สื่อสารไม่เป็นแค่นั้นเอง หรือว่าอาจจะใช่คำไม่ถูกก็แค่นั้นเอง

    ผมเชื่อแบบนั้น

    และหลังจากเรื่องนั้นผมกับอีก2คนนั้นก็ไปเปลี่ยนเสื้อเพื่อที่จะเข้านอน กันในเวลา3ทุ่มครึ่ง โดยที่พวกเธอนอนกอดแขนผมคนละข้างกัน

    ครอบครัวเล็กๆที่ไม่มีพ่อแม่นี้ ครอบครัวที่ผมมีแค่น้องสาวเพียง2คนนี้ 

    ผมจะปกป้องมันเอง...

    ใบหน้ามุ่งมันจ้องมองเพดาลที่ว่างเปล่านี้ สายตาเองก็ค่อยๆปิดการมองเห็นลงไป เพื่อเข้าสู่ห่วงแห่งความฝั่น 








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×