คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่4 :ยัยคนขี้แพ้
ที่ห้องโฮโลฟีลด์สีขาว...
นักเรียนทุกคนมาอยู่ในชุดพละกันหมดเป็นกฎของโรงเรียนนี้
แต่นั้นก็... มีออร่าความไม่พอใจเกิดขึ้นในสนามนี้แล้ว...
"บอกตามตรงฉันไม่คิดว่านายจะสู้กับฉัน และมันก็คือเรื่องจริง แต่ให้ตายเถอะไอท่าทางอวดดีนั้นฉันละหมั่นไส้จริง ๆ"
เท้ารองเท้าส้นสูงที่เหมาะกับการขยับคล้องตัวสีขาวย้ำลงถึงสนาม หญิงผมส้มเพลิงกับที่คาดผมนั้นเองก็ด้วย เธอมองสายตาที่โกรธเคืองขณะที่ชายหน้าสวยผมขาวเพียงหันข้างมาให้เห็นเท่านั้น
"ก็ฉันบอกตอนไหนว่าจะสู้กับเธอละ ยัยอาจารย์ห่วย"
"ช่วยเอาตัวเองลงมาจากที่สูงจะเป็นบุญหัวให้กับฉันมากเลยค่ะ.... ไอ้ดุ้น!"
แล้วเหมือนอารมณ์เสียหุนหันขั้นสุดเธอสะบัดหลังเดินจากไปพร้อมของสมนาคุณคือนิ้วกลางที่ยกให้ขณะหันหลังกับลูกศิษย์ในห้องของเธอคนนั้น
"จัดการทำความรู้จักกันเองไปละกัน ฉันจะรอดูผลข้างสนามนี้แหละ"
ภาพทั้งหมดจากฝ่ายที่ยืนดูนั้นก็พาให้เสียงนึงจากผู้ชายผมเทาตาข้างนึงเขียวข้างนึงแดงหมดความอดทน ด่าคนต้นเหตุไป
"นี่เธอมันหมายความว่ายังไงน่ะ!? ทำตัวตามใจชอบแบบนั้นเป็นคุณหนูคนใหญ่มาจากไหนกัน!?"
แล้วคำตอบก็ปนากฎขึ้นอย่างไว
"อากิระ สึกิยะสินะ ก็ให้ทำความรู้จักไง 'ผ่านอัตลักษณ์' ระหว่างฉันกับทุกคน
"...!?"
อากิระคุง เขาเลื่อนดวงตาลงเห็นของแข็งสีดำรูปเป็นใบมีดห่างจากคอเขาเพียงแค่ไม่กี่มิลลิเมตรเท่านั้น
สำหรับเคย์จังแล้ว มันเป็นการสร้างแรงกดดันให้กับทุกคนอย่างน่าแปลก แน่ว่าเพราะเช่นนั้นเองเส้นอดทนของทุกคนก็ขาดพรวดในทันที
"พอดี จะอัดหล่อนเดี๋ยวนี้แหละ!"
คิริยะคุงเข้าโหมดเกราะอัศวินดำแสนพิศวงนั้น สะท้อนดวงตาสีฟ้าที่เป็นรอยบาตตรงนั้นเข้าสู่ร่างนอกเหนือจากที่เขาใช้ตอนสอบเข้า
"เรโวลต์ฟอร์ม กัสต์!"
เจ้าปีกจักกลที่มีอยู่ในร่างแรกเริ่มแยกออกมาเป็นใบมีดเล่มสีฟ้า กับทวนหอกที่กำแน่นในมือสะสมพลังงานในการพุ่งชน และปลดปล่อยมันเป็นการพุ่งชนเต็มกำลังแสง ที่ยกจะหลบพ้น
ตูม!!! แรงสะเทือนระเบิดลงมือให้ฟีลด์ห้องขาวเป็นโซนระอุรุ่มร้อนด้วย โซนภูเขาไฟ
ผลที่กลุ่มควันนั้นพุ่งกระชูดเหิดหายออกไป คือนิ้วชี้นิ้วเดียวที่ยันเอาไว้ และนั้นเองคือหนุ่มหน้าสวยที่ทำใบหน้านั้นเบื่อหน่าย
"มีดีแค่นี้เอง? งั้นตาฉันบ้าง"
นิ้วชี้ที่ยันไว้เปล่งรัศมีพลังสีแดงเลือดสดหลั่งไหล่ลงพื้นจนน่าสยดสยอง
"รีบหนีออกมาเร็วคิริยะ!!"
ผู้ชายผมที่เปลี่ยนสีไปเรื่อย ๆ กับผ้าปิดตาที่ไขว้กันร้องมา แต่สายไปแล้วที่จะพลิกตัวให้ห่างเพราะการโจมตีของเคย์จังน่ะ
"หลับไปซะ"
"....!"
สิ่งคล้ายเลือดนั้นแทรกซึมเข้าไปในเกราะและสุดท้ายนั้นมันก็ทำให้คิริยะคุงนั้นเกราะแตกสลายทรุดเข่าลงหน้าติดพื้นหลับลงกลางท่านั้นเสีย
ทุกคนตอนนี้ตระหนักรู้แล้วว่าอะไรคืออะไร ไม่ว่าใครคนไหนตอนนี้รู้สึกถึงกระดูกดำ
"เข้ามาสิ เอเลเมนท์มาสเตอร์"
เขากวักมือเรียกเชิญให้ฉันเข้าไป
สายตาที่เย็นชาและเฉียบคม เคย์จังเอาจริงและก็เขาวิ่งฝ่าทุกคนที่เข้ามาขวางชนกระเด็นแหวกทุกคนเพื่อตรงมาทางนี้โดยเฉพาะ
จะเอาไงดี จะเอาไงดี! จะเอาไงดี!!? เสี่ยววินาทีที่ทุกอย่างสีหน้าฉันหวาดกลังเพราะรับรู้ว่าเขาแข็งแกร่งขนาดไหนกัน ปากที่ขมิบอยู่นี่ก็สั่นระเริงไป
ต้องรีบป้องกัน!
แต่ว่าจะทำไงกันล่ะ!? ทุกคนโดนชนปลิวลอยกลางอากาศแบบง่าย ๆ แบบนั้นหมดแล้ว!
ตัวตอนนี้ยกมืขึ้นมาบังหน้าตังเองใจก็แป๋วลงจนน่าสิ้นหวัง
ฉันมันไม่มีความกล้าแบบเดียวกับทั้งพี่สาวหรือพี่ชายฉัน... ฉันไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนกับคุณพ่อที่เป็นถึงฮีโร่อันดับ1ของโลก หรือที่สำคัญ...
ฉันไม่เหมือนกับแม่ของฉันเลย...
ไม่ไหวแล้ว...ฉันยอมแพ้...
"อย่าเข้ามานะเคย์--!"
"นี่เธอ...ยังคิดที่จะเป็นฮีโร่อยู่อีก? ยัยคนอ่อนแอ"
"...!"
ดวงตาสีเลือดค้างขึ้นสลด ตัวสำเนียกรู้แล้วว่าต่อให้อีกทั้งชาติฉังก็คงเป็นแค่คนอ่อนหัดอย่างที่ว่าจริง ๆ
ลมกระชากตัวแรงจนหงายหลังเอนล้มไปคาพื้น
ดวงตา2สีเหลืองโทนหลัก มันดำมืดจนเหมือนยังกับว่าทีมือซากแห้งเน่าเข้าไซ่ตัวตามร่างกายฉันอยู่เลย
ฉันก็คนหมดความหมั่นใจง่ายแบบนี้แหละ...
"ยอมแพ้ตั้งแต่ไม่ได้สู้เธอมันไม่สมควรที่จะปกป้องใครทั้งนั้น ทั้ง ๆ ที่เธอน่ะเป็นคนที่มากพรสวรรค์แท้ ๆ"
ตำหนิดุว่าจัดมาทั่งกับตัว
ความสับสนคืบคลานบนหน้าตอบตะหวาดไป
"ก็ฉันไม่ใช่คนแบบเคย์จังนิ! และก็ทำแบบนี้มันได้อะไร!? ฉันไม่เข้าใจ!"
"ไม่จำเป็นต้องเข้าใจอะไรฉันทั้งนั้น และก็ช่วยมองไปรอบ ๆ เธอซะ"
"...!"
รอบตัวที่ฉันหัน ทุกคนที่พึ่งรู้จักกันไม่นานต่างพยุงช่วยกันลุกขึ้นมา แววตาก็ส่องความไม่ยอมแพ้ และอาจจะเป็นเหมือนกันหมด
สุดท้ายฉันก็ไม่เข้าใจ
"หัวใจของฮีโร่ที่ไม่ยอมแพ้มันมีข้าอะไรนักหนา? คงคิดแบบนี้อยู่ใช่ไหม?"
เสียงจากอาจารย์ประจำชั้นที่มองดู แล้วเดินย่างเบาเข้าไปหมัดต่อยหัวเคย์จังเข้าเพื่อสั่งสอนมารยาทดอกนึง ก่อนจะมายืนตรงหน้าฉันที่ยังไม่อาจเข้าใจ
ซึ่งอาซาเนะก็ตอบกลับตัวฉันไปเพียงว่า
"ก็เพราะตอนนี้เธอยังแค่อยู่ในอุดมคติของตัวเองนั้นแหละ เลยเป็นแค่คนขี้แพ้"
ขี้แพ้... เหรอ?
คำถามที่วกวนกับร่างกายที่ถูกชะล้างด้วยน้ำใส่ ๆ ของฟักบัวที่ราดกระหน่ำมายังร่างกายเนื้อสาวที่บวมน้อยกว่ามาตรฐานในส่วนท่อนบนที่ไอน้ำบดบังจุดเล่นลับเอาไว้
ดวงตาที่มืดว่างสังกะตายไปวัน ๆ โหว่งแหว่งไร้จุดหมาย ตัวันตอนนี้กลวงโบ๋ไปหมด
"ฮิรูมิจังน่ะดูเป็นกังวนเกินไปนะ"
".........."
หน้าลอย ๆ หันไปทางขวามือ และด้วยความที่ว่ามันถูกสร้างให้แค่พอมีส่วนหัวที่ยื่นมาได้นั้นเองฉันก็ได้จ้องหน้าเธอคนนั้น
คุณโฮชิโนะ เธอยื่นหน้าเข้ามาทักทายเป็นกันเองพอตัว
"โย้โห่~! Don't Mindนะ ฉันเองก็กลัวแทบฉี่ราดเลยด้วยล่ะ ถึงตอนนี้จะปล่อยลงท่อระบายไปแล้วด้วยก็เถอะ ฮะ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ"
"...ขอร้องเถอะคาะหยุดพูดเรื่องน่าอายแบบนั้นตอนทำทุระส่วนตัวเถอะค่ะ..."
ตามที่ว่าจบแล้วฉันก็ปิดก็อกน้ำเดินทะลุผ่านประตูไปพร้อมเช็ดเนื้อเช็ดตัวของตัวเองอย่างโดดเดี๋ยว คนเดียวกับขอบน้ำตาที่เล็ดออกมาเพราะความเจ็บใจ
"ฉันคงมาเลือกเรียนผิดสินะ...!"
"ห๋าาาา??? ยัยฮิมิยะ เคย์นั้นไปไหนของยัยนั้นกัน!?"
เสียงที่ตัดอารมณ์มาจากผู้หญิงผมส้มในรูปบราสีดำที่พึ่งสวมกระโปร่งเสร็จ มือจับเอวหันเช็ครอบด้าน เธอเหมือนจะชื่อว่า "ยูมิคาวะ เมกุมิ"
ก่อนจะมีเสียงตอบกลับมาจากทางของผู้หญิงตัวเล็กผมเสยครึ่งขวาที่หนังตาตก ดวงตาสีจางข้างนั้น โดยตาข้างซ้ายยังคงเป็นสีทับทิม
"...น่าจะเป็นประเภทเดียวกับโซโรนาจิละมั้งนะ...?พวกผู้ชายเนี่ยน่ากลัวชมัด..."
เธอเหมือนจะมีนิสัยใกล้เคียงกับฉัน เหมือนเธอจะชื่อว่า "คาซูมิ คูซูคิ" สินะ
แต่ยังไงก็ช่างมันแล้ว...
ฉันออกมาหลังแต่งตัวเสร็จซึ่งเหมือนว่า ใคนรออยู่ก่อนหน้านั้นนานแล้ว
"คุณกำลังเศร้าใจอยู่งั้น"
"คุณเองจะพูดอะไรก็ได้ค่ะ...ฉันขอตัวนะค่ะ คุณโนรุกะ"
แม้ตอนนี้จะไม่พร้อมคุยกับใครแต่ก็ต้องตามมารยาทโค้งให้แล้วเดินผ่านออกไป
แต่เธอคนนั้นที่มีผมสีครีมสายไหมชมพูไล่ปลายเข้มก็เดินตามฉันมาอยู่ดี พาเอารู้สึกสังหรณ์ใจแรงและอึดอัดจนบอกไม่ถูกเลย
"...จะตามฉันไปถึงเมื่อไหร่...ค่ะ..."
"จนกว่าความทุกข์ของคุณจะหายไปค่ะ"
"ถ้านั้นก็คงได้ตามจนกลับบ้านฉันแน่ค่ะ"
ตอนนี้เร่งเสียงตัวเองเพื่อบอกว่าอารมณ์เสียแล้ว
และที่สำคัญเองนั้น...
"ฉันไม่เหมาะกับที่นี้เลย..."
เป็นคำลอย ๆ จากผู้หญิงผมฮิเมะคัตขี้แพ้คนนี้ที่ขอไปทีแล้ว ใจฉันไม่สู้เหมือนพวกพ่อหรือพี่ ๆ เลยสักนิดเดียว
เพราะฉันไม่ได้มีใจสู้นิหน่า
ความคิดเห็น