ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic(My hero academia / Boku no hero academia x oc)(MHA)(BNHA) ผู้ทรนง ฮิมิยะ เคย์

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่4 :ยัยคนขี้แพ้

    • อัปเดตล่าสุด 26 เม.ย. 67


    ที่ห้องโฮโลฟีลด์สีขาว...

    นักเรียนทุกคนมาอยู่ในชุดพละกันหมดเป็นกฎของโรงเรียนนี้ 

    แต่นั้นก็... มีออร่าความไม่พอใจเกิดขึ้นในสนามนี้แล้ว...

    "บอกตามตรงฉันไม่คิดว่านายจะสู้กับฉัน และมันก็คือเรื่องจริง แต่ให้ตายเถอะไอท่าทางอวดดีนั้นฉันละหมั่นไส้จริง ๆ"

    เท้ารองเท้าส้นสูงที่เหมาะกับการขยับคล้องตัวสีขาวย้ำลงถึงสนาม หญิงผมส้มเพลิงกับที่คาดผมนั้นเองก็ด้วย เธอมองสายตาที่โกรธเคืองขณะที่ชายหน้าสวยผมขาวเพียงหันข้างมาให้เห็นเท่านั้น

    "ก็ฉันบอกตอนไหนว่าจะสู้กับเธอละ ยัยอาจารย์ห่วย"

    "ช่วยเอาตัวเองลงมาจากที่สูงจะเป็นบุญหัวให้กับฉันมากเลยค่ะ.... ไอ้ดุ้น!"

    แล้วเหมือนอารมณ์เสียหุนหันขั้นสุดเธอสะบัดหลังเดินจากไปพร้อมของสมนาคุณคือนิ้วกลางที่ยกให้ขณะหันหลังกับลูกศิษย์ในห้องของเธอคนนั้น

    "จัดการทำความรู้จักกันเองไปละกัน ฉันจะรอดูผลข้างสนามนี้แหละ"

    ภาพทั้งหมดจากฝ่ายที่ยืนดูนั้นก็พาให้เสียงนึงจากผู้ชายผมเทาตาข้างนึงเขียวข้างนึงแดงหมดความอดทน ด่าคนต้นเหตุไป

    "นี่เธอมันหมายความว่ายังไงน่ะ!? ทำตัวตามใจชอบแบบนั้นเป็นคุณหนูคนใหญ่มาจากไหนกัน!?"

    แล้วคำตอบก็ปนากฎขึ้นอย่างไว 

    "อากิระ สึกิยะสินะ ก็ให้ทำความรู้จักไง 'ผ่านอัตลักษณ์' ระหว่างฉันกับทุกคน

    "...!?"

    อากิระคุง เขาเลื่อนดวงตาลงเห็นของแข็งสีดำรูปเป็นใบมีดห่างจากคอเขาเพียงแค่ไม่กี่มิลลิเมตรเท่านั้น

    สำหรับเคย์จังแล้ว มันเป็นการสร้างแรงกดดันให้กับทุกคนอย่างน่าแปลก แน่ว่าเพราะเช่นนั้นเองเส้นอดทนของทุกคนก็ขาดพรวดในทันที

    "พอดี จะอัดหล่อนเดี๋ยวนี้แหละ!"

    คิริยะคุงเข้าโหมดเกราะอัศวินดำแสนพิศวงนั้น สะท้อนดวงตาสีฟ้าที่เป็นรอยบาตตรงนั้นเข้าสู่ร่างนอกเหนือจากที่เขาใช้ตอนสอบเข้า

    "เรโวลต์ฟอร์ม กัสต์!"

    เจ้าปีกจักกลที่มีอยู่ในร่างแรกเริ่มแยกออกมาเป็นใบมีดเล่มสีฟ้า กับทวนหอกที่กำแน่นในมือสะสมพลังงานในการพุ่งชน และปลดปล่อยมันเป็นการพุ่งชนเต็มกำลังแสง ที่ยกจะหลบพ้น

    ตูม!!! แรงสะเทือนระเบิดลงมือให้ฟีลด์ห้องขาวเป็นโซนระอุรุ่มร้อนด้วย โซนภูเขาไฟ 

    ผลที่กลุ่มควันนั้นพุ่งกระชูดเหิดหายออกไป คือนิ้วชี้นิ้วเดียวที่ยันเอาไว้ และนั้นเองคือหนุ่มหน้าสวยที่ทำใบหน้านั้นเบื่อหน่าย

    "มีดีแค่นี้เอง? งั้นตาฉันบ้าง"

    นิ้วชี้ที่ยันไว้เปล่งรัศมีพลังสีแดงเลือดสดหลั่งไหล่ลงพื้นจนน่าสยดสยอง 

    "รีบหนีออกมาเร็วคิริยะ!!"

    ผู้ชายผมที่เปลี่ยนสีไปเรื่อย ๆ กับผ้าปิดตาที่ไขว้กันร้องมา แต่สายไปแล้วที่จะพลิกตัวให้ห่างเพราะการโจมตีของเคย์จังน่ะ

    "หลับไปซะ"

    "....!"

    สิ่งคล้ายเลือดนั้นแทรกซึมเข้าไปในเกราะและสุดท้ายนั้นมันก็ทำให้คิริยะคุงนั้นเกราะแตกสลายทรุดเข่าลงหน้าติดพื้นหลับลงกลางท่านั้นเสีย

    ทุกคนตอนนี้ตระหนักรู้แล้วว่าอะไรคืออะไร ไม่ว่าใครคนไหนตอนนี้รู้สึกถึงกระดูกดำ

    "เข้ามาสิ เอเลเมนท์มาสเตอร์"

    เขากวักมือเรียกเชิญให้ฉันเข้าไป

    สายตาที่เย็นชาและเฉียบคม เคย์จังเอาจริงและก็เขาวิ่งฝ่าทุกคนที่เข้ามาขวางชนกระเด็นแหวกทุกคนเพื่อตรงมาทางนี้โดยเฉพาะ

    จะเอาไงดี จะเอาไงดี! จะเอาไงดี!!? เสี่ยววินาทีที่ทุกอย่างสีหน้าฉันหวาดกลังเพราะรับรู้ว่าเขาแข็งแกร่งขนาดไหนกัน ปากที่ขมิบอยู่นี่ก็สั่นระเริงไป

    ต้องรีบป้องกัน!

    แต่ว่าจะทำไงกันล่ะ!? ทุกคนโดนชนปลิวลอยกลางอากาศแบบง่าย ๆ แบบนั้นหมดแล้ว! 

    ตัวตอนนี้ยกมืขึ้นมาบังหน้าตังเองใจก็แป๋วลงจนน่าสิ้นหวัง

    ฉันมันไม่มีความกล้าแบบเดียวกับทั้งพี่สาวหรือพี่ชายฉัน... ฉันไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนกับคุณพ่อที่เป็นถึงฮีโร่อันดับ1ของโลก หรือที่สำคัญ...

    ฉันไม่เหมือนกับแม่ของฉันเลย...

    ไม่ไหวแล้ว...ฉันยอมแพ้...

    "อย่าเข้ามานะเคย์--!"

    "นี่เธอ...ยังคิดที่จะเป็นฮีโร่อยู่อีก? ยัยคนอ่อนแอ"

    "...!"

    ดวงตาสีเลือดค้างขึ้นสลด ตัวสำเนียกรู้แล้วว่าต่อให้อีกทั้งชาติฉังก็คงเป็นแค่คนอ่อนหัดอย่างที่ว่าจริง ๆ

    ลมกระชากตัวแรงจนหงายหลังเอนล้มไปคาพื้น 

    ดวงตา2สีเหลืองโทนหลัก มันดำมืดจนเหมือนยังกับว่าทีมือซากแห้งเน่าเข้าไซ่ตัวตามร่างกายฉันอยู่เลย

    ฉันก็คนหมดความหมั่นใจง่ายแบบนี้แหละ...

    "ยอมแพ้ตั้งแต่ไม่ได้สู้เธอมันไม่สมควรที่จะปกป้องใครทั้งนั้น ทั้ง ๆ ที่เธอน่ะเป็นคนที่มากพรสวรรค์แท้ ๆ"

    ตำหนิดุว่าจัดมาทั่งกับตัว 

    ความสับสนคืบคลานบนหน้าตอบตะหวาดไป

    "ก็ฉันไม่ใช่คนแบบเคย์จังนิ! และก็ทำแบบนี้มันได้อะไร!? ฉันไม่เข้าใจ!"

    "ไม่จำเป็นต้องเข้าใจอะไรฉันทั้งนั้น และก็ช่วยมองไปรอบ ๆ เธอซะ"

    "...!"

    รอบตัวที่ฉันหัน ทุกคนที่พึ่งรู้จักกันไม่นานต่างพยุงช่วยกันลุกขึ้นมา แววตาก็ส่องความไม่ยอมแพ้ และอาจจะเป็นเหมือนกันหมด

    สุดท้ายฉันก็ไม่เข้าใจ 

    "หัวใจของฮีโร่ที่ไม่ยอมแพ้มันมีข้าอะไรนักหนา? คงคิดแบบนี้อยู่ใช่ไหม?"

    เสียงจากอาจารย์ประจำชั้นที่มองดู แล้วเดินย่างเบาเข้าไปหมัดต่อยหัวเคย์จังเข้าเพื่อสั่งสอนมารยาทดอกนึง ก่อนจะมายืนตรงหน้าฉันที่ยังไม่อาจเข้าใจ

    ซึ่งอาซาเนะก็ตอบกลับตัวฉันไปเพียงว่า

    "ก็เพราะตอนนี้เธอยังแค่อยู่ในอุดมคติของตัวเองนั้นแหละ เลยเป็นแค่คนขี้แพ้"


    ขี้แพ้... เหรอ?

     คำถามที่วกวนกับร่างกายที่ถูกชะล้างด้วยน้ำใส่ ๆ ของฟักบัวที่ราดกระหน่ำมายังร่างกายเนื้อสาวที่บวมน้อยกว่ามาตรฐานในส่วนท่อนบนที่ไอน้ำบดบังจุดเล่นลับเอาไว้

    ดวงตาที่มืดว่างสังกะตายไปวัน ๆ โหว่งแหว่งไร้จุดหมาย ตัวันตอนนี้กลวงโบ๋ไปหมด

    "ฮิรูมิจังน่ะดูเป็นกังวนเกินไปนะ"

    ".........."

    หน้าลอย ๆ หันไปทางขวามือ และด้วยความที่ว่ามันถูกสร้างให้แค่พอมีส่วนหัวที่ยื่นมาได้นั้นเองฉันก็ได้จ้องหน้าเธอคนนั้น

    คุณโฮชิโนะ เธอยื่นหน้าเข้ามาทักทายเป็นกันเองพอตัว 

    "โย้โห่~! Don't Mindนะ ฉันเองก็กลัวแทบฉี่ราดเลยด้วยล่ะ ถึงตอนนี้จะปล่อยลงท่อระบายไปแล้วด้วยก็เถอะ ฮะ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ"

    "...ขอร้องเถอะคาะหยุดพูดเรื่องน่าอายแบบนั้นตอนทำทุระส่วนตัวเถอะค่ะ..."

    ตามที่ว่าจบแล้วฉันก็ปิดก็อกน้ำเดินทะลุผ่านประตูไปพร้อมเช็ดเนื้อเช็ดตัวของตัวเองอย่างโดดเดี๋ยว คนเดียวกับขอบน้ำตาที่เล็ดออกมาเพราะความเจ็บใจ

    "ฉันคงมาเลือกเรียนผิดสินะ...!"

    "ห๋าาาา??? ยัยฮิมิยะ เคย์นั้นไปไหนของยัยนั้นกัน!?"

    เสียงที่ตัดอารมณ์มาจากผู้หญิงผมส้มในรูปบราสีดำที่พึ่งสวมกระโปร่งเสร็จ มือจับเอวหันเช็ครอบด้าน เธอเหมือนจะชื่อว่า "ยูมิคาวะ เมกุมิ"

    ก่อนจะมีเสียงตอบกลับมาจากทางของผู้หญิงตัวเล็กผมเสยครึ่งขวาที่หนังตาตก ดวงตาสีจางข้างนั้น โดยตาข้างซ้ายยังคงเป็นสีทับทิม

    "...น่าจะเป็นประเภทเดียวกับโซโรนาจิละมั้งนะ...?พวกผู้ชายเนี่ยน่ากลัวชมัด..."

    เธอเหมือนจะมีนิสัยใกล้เคียงกับฉัน เหมือนเธอจะชื่อว่า "คาซูมิ คูซูคิ" สินะ

    แต่ยังไงก็ช่างมันแล้ว...

    ฉันออกมาหลังแต่งตัวเสร็จซึ่งเหมือนว่า ใคนรออยู่ก่อนหน้านั้นนานแล้ว 

    "คุณกำลังเศร้าใจอยู่งั้น"

    "คุณเองจะพูดอะไรก็ได้ค่ะ...ฉันขอตัวนะค่ะ คุณโนรุกะ"

    แม้ตอนนี้จะไม่พร้อมคุยกับใครแต่ก็ต้องตามมารยาทโค้งให้แล้วเดินผ่านออกไป 

    แต่เธอคนนั้นที่มีผมสีครีมสายไหมชมพูไล่ปลายเข้มก็เดินตามฉันมาอยู่ดี พาเอารู้สึกสังหรณ์ใจแรงและอึดอัดจนบอกไม่ถูกเลย

    "...จะตามฉันไปถึงเมื่อไหร่...ค่ะ..."

    "จนกว่าความทุกข์ของคุณจะหายไปค่ะ"

    "ถ้านั้นก็คงได้ตามจนกลับบ้านฉันแน่ค่ะ"

    ตอนนี้เร่งเสียงตัวเองเพื่อบอกว่าอารมณ์เสียแล้ว 

    และที่สำคัญเองนั้น...

    "ฉันไม่เหมาะกับที่นี้เลย..."

    เป็นคำลอย ๆ จากผู้หญิงผมฮิเมะคัตขี้แพ้คนนี้ที่ขอไปทีแล้ว ใจฉันไม่สู้เหมือนพวกพ่อหรือพี่ ๆ เลยสักนิดเดียว

    เพราะฉันไม่ได้มีใจสู้นิหน่า








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×