ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic(My hero academia / Boku no hero academia x oc)(MHA)(BNHA) นามขานของความกลัว ฮิมิยะ ทาเครุ

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่0 :ทาเครุกับสาวน้อยผู้โชคร้าย

    • อัปเดตล่าสุด 25 พ.ย. 65


    เมื่อ3เดือนก่อน...

    ครับผมฮิมิยะ ทาเครุครับ ผมทาเครุเองครับ จะว่าให้ถูกผมตอนนี้กำลังถูกคนมาเรียกมา ให้โดนแกล้งอยู่ครับ!

    "นี่ไอ้ผีจูออน!!"

    ผมที่ถูกล้มจนตัวติดหลังกำแพงขดตัวยกแขนกำบังร้องขอชีวิตออกมาในทุกทีว่า "อย่าทำฉันเลยนะ!" 

    เป็นแบบนี้เสมอเลยแหะ...

    ฉันอ่อนแอจนไม่กล้าสู้หน้าใครเขาเลยเนี่ยมัน...

    ที่สำคัญยิ่งกว่าคือ...

    หางตาอ่อนๆเลี้ยวมองด้านซ้าย ผู้หญิงผมเขียวโทนสว่างอยู่ข้างๆมิหน่ำซ้ำยังมีหน้ามายิ้มในสถานการณ์ที่ตัวเองโดนคาเบะด้งอยู่กับผู้ชายจิ๊กโก๊ท่าทางดูยังไงก็พวกโรคจิตชัดๆ

    "ยิ้มแบบนั้นคงอยากถวายให้พี่สินะน้องสาว~!"

    เลวร้ายและเฮงซวยโคตรๆ คิ้วกระตุกหน้ารู้สึกใจคอไม่ดีอย่างแรง ทั้งแบบนั้นแต่ในใจก็สั่งรุนแรงว่า "อย่าหนี!" แบบดังๆ เอาซะจนไม่กล้าขยับหนี

    แต่มันก็มีความมืดเข้าเติมเต็มนัยตาคู่นี้จนได้...

    "เห้ย ๆ ยามะจิแบ่งหันหน่อย--!"

    ปัก! อะไรบางอย่างกระแทกหน้าของเพื่อนจิ๊กโก๊ล้มหน้าหมอบติดดิน

    "อะไรวะ!--....!!?"

    ในสายตาต้องผงะ ถึงที่ตรงนั้นดวงตาสีเลือดที่มืดทมิฬของผมสีขาวหิมะที่ชี้ส่ายออก รังศีที่น่าสะอิดสะเอียนและสัญชาตญาณของปีศาจ ถ่ายทอดส่งมาให้กับบุคคลอันตรายที่เลวร้ายเกินกว่าจะให้คุกคามหญิงอื่นๆ

    "...........!!!"

    นัยตาแดงเลือดสั่นรุนแรงขู่ไร้เสียง ในภาพของอีกฝ่ายที่เห็นก็คือสัตว์ร้ายร่างเท่ามนุษย์ที่เตรียมท่าพุ่งใส่ในไม่ช้า 

    "ฝะ...ฝากไว้ก่อนเถอะ!!"

    ใจชั่วๆนั้นจะถูกกลืนกินโดยปีศาจ...

    เข่าคู่ลอยอัดที่ถ้ายถอยของคนที่คิดหนีกลางอากาศ

    ความตื่นตะลึงของหญิงผมเขียวสะท้อนในแววตาอันที่หลังของร่างนี้มีบางสิ่งที่แสนจะน่าหวาดหวั่นแบกไว้อยู่ ก่อนร่างของตัวร้ายจะล้มหมอบลงไปกับพื้น

    "เห๋!?"

    เสียงร้องเล็กๆออกจากปากที่หน้าติ้มๆนี้หันมองไปรอบๆด้วยความมึนงง 

    โฟกัสที่หันเลยไปรอบๆหันมาที่ผู้หญิงผมเขียวอ่อนคนนั้นที่ยืนตะลึงอยู่กับที่

    "นี่นาย...เป็นปีศาจ?"

    "ปีศาจ?...ฉันเนี่ยนะ"

    แต่พอมาลองคิดดูดีๆก็อาจจะมั้ง? ผมนึกคำนึงคิดนั่งมือจับคางดูๆมองๆพักใหญ่ไม่สนเลยว่าเธอที่ถูกผมช่วย เข้ามาใกล้ผมที่เหม่อคิดลอยๆจนโฟกัสสายตาดันมองตรงที่ส่วนอกของเธอซะได้

    แล้วก็ แล้วก็ แล้วก็! มือขวาของเธอก็ดึงโบผูกที่คอเสื้อออกมา...ใต้ผ้าเนื้อหยาบๆนั้นมีสิ่งนั้นที่เด้งขึ้นน่าจับต้องดู

    "...!"

    ผมถอยหลังแต่มือซ้ายที่โล่งก็ดันฝ่ามือเข้ากั้นขวาง คาเบะด้งของฝ่ายหญิงกับหน้าตาพร้อมความอยากเสพอะไรบางอย่างในตัวผมเต็มที่ จนลมหายใจพ่นออกมามีไอเล็กๆแผ่ขึ้น

    หญิงผมเขียวโน้มตัวสูดกลิ่นผมใกล้ๆ ท่าทางล่อแหลมส่ออย่างว่าซะเสียวทั้งตัว 

    "ลองมือมาจับหน่อยไหม~"

    กระซิบชวนน่าลองในทางเย้ายวน 

    คำเชิญชวนกร่อยใจให้คำนึง

    สิ่งที่ถูกปลูกฝั่งใจของพ่อที่สอนมาก็ย้ำคำคำนั้นในหัวว่า "ไม่ปล่อยให้ใจไปตามสถานการณ์ ใช้ความกลัวสยบอีกฝ่าย" ฟังๆดูก็สอนลูกเป็นตัวร้ายชัดๆ--

    "............"

    ความคิดฟุ่งซ่านหยุดไป ที่อีกครั้งร่างนี้จะถูกเชิดด้วยปีศาจ...

    ท่าทางที่เปลี่ยนกลับกระทันหันผู้หญิงตรงหน้ารับรู้ทันแต่ช้าไปที่ตอนนี้มือขวานี้เข้าจับข้อมือของหญิงผู้ตื่นตระหนก อันที่มองสายตาของมารสีดำที่แข็งกร้าวและรุนแรงเป็นคำปฏิเสธที่สุดโต่ง

    เพียงแค่นั้นมือผมก็ปล่อยจากข้อมือเธอไป สติดึงกลับมาเหมือนกันอีกครั้ง แล้วหาโอกาศนี้เดินหนีอย่างไว 

    "เดี๋ยวสิ!"

    "...!?"

    มีอะไรรั้งไว้ผมหันไป เห็นเธอเป็นฝ่ายจับข้อมือของผมเต็มๆ ยิ่งกระตุ้นสารเคมีในหัวให้ระเบิดมาในรูปของหน้าที่แดงปรี๊ด

    คือว่า...ผมไม่เคยจับมือผู้หญิงนอกจากแม่กับน้องสาวมาก่อน... สาบานได้...ถึงจะจับไปเมื่อไม่นานมานี้ก็เถอะ

    "บ้านนาย...!"

    บ้าน? สมาธิจดจ่อสลัดอาการในหัวหมดสิ้นหันตัวจริงจังมาตรงหน้าของเจ้าของดวงตาสีน้ำผึ้งที่เลิกจับมือผมแล้วกลับมาติดกระดุมเสื้อของตน

    ผมสีเขียวยาวเรียงสวยมือขวาเรียวๆจัดผมในให้ไปไว้ที่หลังหูของตัวเอง การวางตัวอ้อนขอร้องของเธอทั้งแบบนั้น ทั้งหมดห็พูดออกมา

    "ขอค้างบ้านนายหน่อยนะ"

    "เอ๋...เมื่อกี้หูฉันฟาดไปใช่ไหม...?" เหมือนถามคำซ้ำใส่ตัว แต่สีหน้าอ้อนๆแสดงจริงจังยิ่งขึ้นจนขยับหน้ามาให้ผมต้องฝืนบังคับให้ตอบอย่างที่ใจเธอต้องการ


    ที่บ้านของผม...

    "ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คันซากิ มินาซึกิค่ะ!"

    ท่าโค้งตัวโน้มลงไปจรดเสื้อทาทามิในบ้าน อาการช็อคของทั้งแม่และน้องสาวที่หันหน้าเข้าชนกันจนร้องออกมาในเสียงเดียวว่า 

    ""ทาเคะจังมีแฟนแล้วงั้น!!???""

    "ใช่ซะที่ไหนเล่า!!"

    ปฏิเสธสุดตัวยื่นคำร้องหนักแน่น ให้เลิกคิดไปทั้งแม่และน้องสาว

    หสกแต่พ่อของผมนั้นเล่งสายตามองท่าทางกินิยาที่ดูธรรมชาติเกินไปของเธอด้วยความไม่พึงประสงค์เท่าไหร่

    "นี่เธอมาที่นี้มีเป้าหมายอะไรกันแน่"

    "มาหาที่อยู่อาศัยชั่วคราวน่ะคะ คุณฮิมิยะ"

    "แล้วคิดจะอยู่ถึงเมื่อไหร่"

    คำถามตอบต่อผู้หญิงที่หน้าพร้อมยิ้มรับคำถามที่มุ่งไม่ดีกับเธอด้วยบริสุทธิ์ หรืออาจจะเป็นหัวใจโล่งๆที่โหยหาก็เป็นได้

    "จนกว่าที่นี้จะเป็นบ้านของหนูคะ"

    "งั้นเหรอ..........ทาเครุ"

    ท่าทางสงบของผู้ใหญ่ตัวขาวหันกลับมาที่ลูกชายคนนี้ที่จ้องหน้ามึนงงกับทีท่าแสดงออกของพ่อตัวเอง

    "ครับ...! ท่านพ่อ..."

    "ในเมื่อลูกพาแขกมาที่บ้าน ก็ช่วยอย่าให้เขามายุ่งยากกับบ้านเราให้เลยเถิก เข้าใจนะ"

    หลังว่าจบยากูซ่าชุดยูกาตะเขียวก็ได้เดินจากไปทั้งอย่างนั้น ทิ้งให้ทั้งบ้านนอกจากเขาได้ตามเรื่องตามราวกันไป

    "ให้ตายสิ..."

    ผมบ่นหยุบหยิบให้การลุกตัวออกจากที่นั่งพื้น เพราะผมก็จะไม่ขออยู่ให้บรรยากาศมันอึดอัดและสับมากกว่านี้จะดีกว่า

    "จะไปไหน?"

    "อาบน้ำ"

    ผมตอบเสียงของเธอผมเขียวที่นั่งสงบกับพื้นบ้าน และออกไปจากห้องนั้นเพื่อแช่น้ำร้อนในห้องอาบน้ำรวมที่เป็นออนเซ็นส่วนตัว


    เหตุที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าที่บ้านก็มักจะมีลูกน้องของพ่อมาที่นี้บ้างทางนี้เลยต้องรับแขกให้พอเป็นพิธีหรือแม้จะคุยทุระกิจเองก็ด้วย

    การจะมีพื้นทร่อาบน้ำแบบนี้ก็ช่วยไม่ได้แหละ แต่มันยืดเส้นยืดสายผ่อนคลายสบายอารมณ์ได้ดีเลยนิ~!

    "อื้บ~...!!!"

    มือแขนยืดตึงผ่อนคลายยืดกล้ามเนื้อที่เมื่อยล้า

    อีกด้านฝั่งของประตูทางเข้าร่างหญิงนุ่งผ้าเช็ดตัวสีขาวเดินเข้ามา หย่อนปลายเท้าลงพื้นน้ำอย่างเรียบเงียบ

    "ขอแช่ด้วยคนสิ"

    "อะไรล่ะเนี่ย เธออีก--!!???"

    ผมสาปส่งความโง่งมและดวงตาคู่นี้ที่มองหันด้านข้างร่างหญิงเธอช่างสวยงาม สัดส่วนรูปร่างพอดีตรงๆไอน้ำหมอกหน้าๆปิดวิศัยลับหมดจด แต่ความอมชมพูเนื้อหนังที่ไหล่ด้านข้างทั้ง2ยวนกามรมณ์ให้พุ่งพล่านเต็มอก

    "อยากได้ฉันไหมล่ะ? คุณนายน้อยยากูซ่า"

    ยิ่งพูดผมยิ่งกลัวเธอชนิดหันหน้าหลบไปไม่กล้ามามองเธอที่ลงทุนสูงขนาดนี้

    "สมองหล่อนมีปัญหารึไงมิทราบครับ!"

    "หวั่นไหวอยู่งั้น? มิสเตอร์จูออน~“

    "เลิกพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนคนขึ้นครางแบบนั้นได้ไหม!?"

    "ฮุ ๆ เห็นแบบนี้ประสบการณ์เรื่องอย่างว่าฉันเนี่ยเยอะอยู่นะ"

    ทำไหมกล้าพูดแบบนั้นออกมากัน... ไม่ทันสงสัยคำตอบมันก็อยู่บนร่างของเธอ...

    ที่หางตาผมเผลอเลี้ยวไปมองมันเข้าให้ ก็ถึงกับเบิกตาค้าง

    "นี่เธอ...แผลนั้น...!?"

    อาจจะมาสังเกตที่ร่องบริเวณหน้าท้องส่วนนึงขเธอมีแผลใหญ่ที่นั้นกลางท้องสวยๆนั้นมีรอยดำปะปนกับที่บริเวณเอวซ้ายและขวาก็เหมือนจะมีรอยไหม้ด้วย

    "ก็พวกผู้ชายชอบเสียงร้องของฉันนิหน่า"

    ที่พูดมาบนหน้ายิ้มแย้มนั้นมันทำให้ผมตะโกนออกมา

    "นี่เธอเสียสติไปแล้วรึไง!! ยินยอมให้คนอื่นมาทำอะไรก็ได้แบบนั้น! ตัวเธอไม่มีศักดิ์ศรีอะไรบ้างงั้น!!?"

    "แล้วนายมีอารมณ์กับฉันไหม?"

    "ตอบคำถามฉันให้ชัดเจนซะ!"

    เธอหน้ายิ้มไม่ฟังเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ผมที่ปฏิเสธเต็มตัว  กับแขนทั้ง2ที่กางออกโดยไร้การปกปิดอันผมต้องยกมือตั้งศอกแขนขึ้นบังแล้วถอยหนีในบริเวณสระโดยรอบ เพราะในหัวก็คิดว่าถึงโผล่ไปด้านนอกก็คงจะวุ่นวาย และอีกนัยนึง...

    อาจจะให้ยัยนี้รู้ถึงศักดิ์ศรีของตัวเองด้วย...

    "มาสิ~ เข้ามาเลย~!"

    ใช่เข้าไปเลย

    หมายถึงดาบอะนะ...

    คมแหลมทมิฬจี้ที่คอของหญิงหน้ายิ้มอันบัดนนี้ดวงตาสีน้ำผึ้งนั่นก็เบิกค้างตึง โฟกัสสายตาที่หมอกหนาๆบังร่างส่วนล่างไว้ คือหน้าบอดบุญไม่รับที่ดวงตาสีเลือดแสนมืดสนิทมองขวางใส่เธอตรงๆ

    "บอกไว้ก่อนว่าฉันเป็นลูกชายของยากูซ่า และก็อย่างที่เธอรู้ความหมายของมันนั้นแหละ"

    ปลายแหลมเข้าใกล้ลำคอมากขึ้น เธอถอยหนีห่างด้วยความกลัวที่ฟุ่งซ่านในหัวอย่างมากมี จากการจ้องที่แววตาของปีศาจตนนี้

    "...คุณพ่อ...คุณแม่..."

    บางอย่างของผมที่ทำลงไปมันกระตุ้นให้เธอหน้ายิ้มเปลี่ยนเป็นอารมณ์เศร้าสลด

    ในหัวร้อยเรียงถึงสิ่งที่เธอเผชิญได้พอนึง และผมก็ไม่คิดที่จะถามกับเธออีกแล้วจึงลดอาวุธลง

    "เชิญตามสบายจนถึงรุ่งเช้า ถ้าฉันยังตื่นหน้ามาเจอเธออยู่อีก ถึงตอนนั้นคงต้องทำให้เธอเงียบไปตลอดชาติกันแล้ว"

    และผมก็ออกจากบ่อน้ำร้อนให้เธอได้รู้ซะบ้างว่าโลกนี้มีสิ่งที่เรือนร่างของผู้หญิงไม่สามารถใช้ให้มันครองได้

    และจากวันนั้นเช้าต่อมาเธอก็หายหัวออกจากบ้านนี้ก่อนผมที่จะตื่นตามที่ผมขู่ไว้...

    เอาจริง ๆ ไม่ต้องทำตามที่ขู่ถึงขนาดนั้นแล้วออกไปแบบขอลาให้ทุกคนรู้ก็ได้ เพราะผมต้องมาแก้ต่างให้กับแม่และยัยน้องสาวของผมน่ะสิ!

    "คันซากิจัง แฟนของลูกออกไปตอนไหนกัน!?"

    "แฟนของทาเคะจังหายไปไปมีคนอื่นแล้วนะ!"

    ทัแม่และน้องสาวรุมกันชนิดจะเอาคำตอบและความเหลืออดผมก็ขาดลงลั่นขึ้นกลางบ้านเสียงดังว่า 

    "ก็บอกแล้วไงว่าไม่ใช่แฟน!!!!!"











    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×