ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic(My hero academia / Boku no hero academia x oc)(MHA)(BNHA) นามขานของความกลัว ฮิมิยะ ทาเครุ

    ลำดับตอนที่ #5 : เพราะ "จิคุ" ไม่อยากลืม...

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ย. 65



    ที่สถานที่นึง…

    ในร้านอาหารระดับภัตตาคารหรูที่นั้นมีชายใกล้วัยทองผมฟ้าคนนึงนั่งอยู่บนเก้าอี้กับอาการที่มากมายบนนั้นนับ10เมนู แต่ไร้ซึ่งร่องรอยในการกิน เพราะเขากำลังรอคนคนนึงได้มาในห้องทานอาหารแห่งนี้

    ประตูห้องเลื่อนเปิดเต็มบาน ชายผมทองดวงตาสีเลือดพาอุ้มเด็กสาวในอ้อมแขนเข้ามาในห้อง อันที่เธอคนนั้นก็ทักทายไปด้วยความร่าเริงของหนูน้อย

    “คุณตา!”

    “เซย์นะ!”

    “คุณตาค่ะ!!”

    เด็กสาวผมทองสั้นกระโดดตัวออกจากอ้อมอกของพ่อสู่อ้อมแขนของพ่อของแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอ

    ชายผมฟ้ายิ้มอ่อนโยนส่งให้กับหลานสาวก่อนหันหน้าขึ้นมาบอกต้อนรับให้กับอดีตสามีของลูกสาวผู้จากไป

    “ชิคุโระคุงมาทานข้าวด้วยกันสิ”

    ความจริงใจแบบนั้นบางทีก็อาจจะย้ำแผลใจของผู้ผิดพลาดอย่างเขาก็เป็นได้ แต่เพื่อลูกสาวของเขาจะไม่ต้องเศร้าตาม เขายืดอกยิ้มรับต่อหน้าของอดีตพ่อตาของเขา

    “ครับ คุณอา…”

    มันเป็นคำเรียกของเขาที่เรียกถึงสายใยครอบครัวของเขา จากความที่ว่าผู้ชายตรงหน้าที่กำลังหยอกเล่นกับลูกสาวของเขาคือ “น้องชายบุญธรรมของพ่อของเขา” เลยไม่ผิดที่ต้องเรียกเช่นนั้น

    ชายผู้สูญเสียภรรยาคนเก่าเดินมาที่โต๊ะและนั่งบนเก้าอี้ต่อหน้าของคุณตาของลูกสาวที่วางร่างเด็กน้อยไว้ที่เก้าอี้ด้านซ้ายที่สามารถอยู่ใกล้กับทั้งเขาและพ่อของเธอได้

    “ตอนนี้เซย์นะอายุเท่าไหร่งั้น?”

    “5ขวบ!”

    “ฮะ ๆ อย่างนั้นสินะ โตเป็นสาวคงสวยขึ้นเหมือนแม่ไม่มีผิดแน่ ตาจะรอวันที่เซย์นะได้เป็นเจ้าสาวนะ”

    “ค่ะ!”

    อีกความไร้เดียงสาที่ทำเอาคุณพ่อกระตุกคิ้วมองเล่งๆมาที่อาของเขา ให้ชายแก่ได้เงียบไปกับนิ้วชี้ที่ยกขึ้นมาเขี่ยแก้มยิ้มหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาว

    "เอาเป็นว่ากินข้าวให้อิ้มท้องนะเซย์นะ"

    "คร้า!"

    ความร่าเริงของลงหลานสาวคนเป็นตา ได้มองสะท้อนภาพนั้นเห็นลูกสาวในวัยเดียวกันที่ก็ยิ้มออกมาแบบเดียวกัน

    ถึงในฐานะพ่อแล้วเขาจะไม่ได้เห็นรอยยิ้มนั้นบ่อย แต่ว่า...มันลืมไม่ลงจริงๆ และเรื่องนั้นก็คือสิ่งที่เขาจะพูดกับหลานชายที่เป็นชายที่รักของลูกสาวมา

    "ชิคุโระคุง"

    "ครับ..."

    ช้อนตักข้าวกำลังจ่อเข้าปากของชายหัวทองหยุดลง ในจังหวะสุดท้ายประโยคนั้นที่เป็นสาเหตุให้เขาเรียกทั้ง2คนมาก็พูดออกไปอย่างเย็นชา

    "ผมขอหลานสาว...มาอยู่กับผมได้ไหม?"

    ช้อนตักอาหารตกลงไปที่พื้น...

    ประโยคและน้ำเสียงที่ผิดกับชายผู้อ่อนโยนที่เขารู้จัก ทำให้เขาสับสนอย่างรุนแรง

    "เดี๋ยวสิครับ!...ทำไหมล่ะ...?"

    "ตอนนี้เธอก็มีโชโอรุจังกับชินจิคุงอยู่แล้ว..........ถึงจะเห็นแก่ตัวแต่ผมน่ะ อยากให้หลานสาวมาอยู่กับผมดีกว่าจะให้ลำบากใจของเธอกับครอบครัวใหม่นะ"

    เจตนาที่อยากจะช่วยโดยรักษาจิตใจของพวกเขาทั้ง2คนไม่อาจให้เด็กสาวคนนั้นรับรู้ขณะมีความสุขกับโต๊ะอาหาร มันอึดอัดเอามากๆสำหรับชายหนุ่มกับชายใกล้ชรา 

    ถึงตอนนั้นบรรยากาศก็นิ่งข้างได้มาพักก่อนเสียงของผู้ถูกยื่นข้อเสนอจะเปล่งออกมาอย่างบางเบา

    "จะบอกให้ผมลืมนานากะ...?"

    "...!?"

    ตอนนั้นก็เหมือนว่าชายแก่จะรู้สึกตัวขึ้นว่าเขาไม่ควรพูดข้อเสนอแบบนั้น ที่ตอนนี้น้ำตาในฐานะของสามีก็ร่วงหลนลงมา 

    "ผมน่ะ...ผมน่ะ! ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกน่า!!"

    ".............."

    ตอนนั้นเองเสียงเคาะกระจกบานใหญ่ในใจของชายแก่จนแตกร้าว ขึ้นทั้งท่าทางและทุกอย่างของหลานชายของเขา ที่ถึงจะไม่ผูกพันทางสายเลือดกันอย่างใด แต่เสียงความรู้สึกที่ดังในหัวที่ส่งมาว่า "ขอร้องล่ะ...อย่าเอาลูกสาวผมไปเลยนะ" มันดังย้ำมาเรื่อยๆ กระทั้งรู้ตัวอีกที..

    ทั้ง2คนที่เขาเรียกมาก็จากไปแล้ว...

    มีเพียงร่องลอยของจานและอาหารที่กินไว้ไม่มีเหลือ...

    มีเพียงแค่เขาคนเดียวที่ไม่เคนออกมาจากความสูญเสียครั้งนั้นเลย...

    เขาแค่มองหลานสาวในฐานะลูกสาวที่เขาไม่สามารถปกป้องไว้ได้เท่านั้น... ต่างกับชายหนุ่มที่มองลูกสาวของเขาว่าเป็นตัวของเธอเอง...

    "เป็นตัวของตัวเอง" ที่เขาได้ลืมสิ่งนั้นไปแล้ว...

    "ผมขอโทษ..."

    ชายผมฟ้าผู้โดดเดี่ยวก็ได้ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง มันไต้เสียงสะอื้น มีเพียงน้ำตาที่ไหล่ให้กับความโง่งมของตนที่ลืมสิ่งสำคัญที่พาเขาออกจากเงาแห่งบาปกรรมมาได้แท้ ๆ




    (ปวดตับกันบ้างรึเปล่า?)







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×