คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ความทรมานที่2 โรงเรียนไสยเวท
ปัจจุบันอายุ15ปี...
"ยาคุงตื่นได้แล้วนะ"
หญิงสาวที่จะมาเป็นภรรยาของผมปัจจุบันเธอเก็บผมไว้ด้วยที่คาเผมเปิดหน้าผากขึ้น ส่วนทรวดทรงองเอวของเธอนั้นก็สมวัยขึ้น
เธอที่นั่งอยู่บนเตียงในชุดนักเรียนที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อคลุมทับอีกชั้น มองสายตามาทางผมที่ค่อยๆลุกขึ้นมานั่งบนเตียงด้วยอาการมึนๆยามเช้า ที่ตื่นมากลางวัน
"ไงฮิคาริ..."
ผมนวดหน้านวดตาตัวเอง ซึ่งมันเป็นหน้าเปล่าๆของผมที่ไม่มีอะไรใส่ปิดเอาไว้ เหมือนสมัยก่อน เพราะว่าผมไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรอีกแล้ว
"ยาคุงข้าวเช้าเตรียมเอาไว้ให้แล้วนะ"
เธอยิ้มอิ้มเอมหัวจิตหัวใจ ทำให้ผมนั้นลุกขึ้นไปทานอาหารในยามเช้าพร้อมกับโต๊ะอาหารกับพ่อของผมที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
"วันนี้พ่อคงกลับบ้านดึกนะ พอดีว่าพ่อมีภารกิจน่ะ"
"เข้าใจแล้วครับ"
ผมตอบกลับสั้นๆแบบนั้น พร้อมนั่งลงบนเก้าอี้ทานข้าวไปโดยที่มีตัวของคู่หมั่นในอนาคตของผมนั้นตามดูอยู่ห่างๆ คอยรินน้ำชาและตักกับข้าวให้ทั้งพ่อผมแล้วก็ตัวผมเอง
พอทานอาหารเสร็จผมก็ได้เข้ามาในห้องน้ำอาบน้ำร้อนที่ตัวของเธอแช่เตรียมไว้ให้ผมอยู่แล้ว
เรื่องราวต่างๆในช่วงนี้ก็มีบ้างปะปลาย ตัวของผมนั้นเริ่มเรียนรู้พลังไสยเวทและวิธีการใช้งานมาจากพ่อของผม ตั้งแต่อายุ13ปี สำหรับพ่อที่เป็นนักไสยเวทระดับ1มันก็พอทำให้ผมนั้นยังพอที่จะสามารถมีฝีมืออยู่พอสมควร พอปัดเป่าวิญญาณร้ายระดับล่างๆได้อยู่
เงาของหญิงสาวที่คาดผมที่อยู่หน้าประตูห้องอาบน้ำของผมนั่งพับเพียบ พร้อมกะละมังไม้ที่ใส่เสื้อผ้าของผมไว้อยู่
"ยาคุงฉันเตรียมชุดไว้แล้วน่า "
"เข้าใจแล้ว"
ผมหันไปรับคำเธอ และเงาเธอก็เคลื่อนตัวออกจากตรงนั้นไป แล้วสักพักผมก็อาบน้ำเสร็จ เดินออกมาเช็ดร่างกายด้วยผ้าขนหนู พร้อมสวมชุดนักเรียนสีขาวกับกางเกงขายาวสีน้ำเงินพร้อมถุงมือสีดำและถุงเท้าสีดำ พร้อมกับหมวกสีขาวใบนึง แมสปิดปากพร้อมพันผ้าพันคอทักไหมสีกาแฟไว้ที่คอ ปิดท้ายด้วยแว่นตาสีดำ
"เยี่ยมเลย"
ผมคุยกับตัวเองขณะที่กำลังผูกเชือกรองเท้าสีแดงอยู่ โดยที่เธอที่จะเป็นภรรยาผมในอนาคตนั้นก็เฝ้ามองผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้มของเธอ
"วันนี้จะต้องไปที่โตเกียวนะ พร้อมแล้วรึยังยาคุง"
"ก็มีนัดสำคัญนิหน่า ว่าแต่ตัวเธอเองนั้นแหละ จะตามฉันไปด้วยไหม?"
"เห่! ก็เป็นสามีฉันนิยังไงก็ต้องตามไปทุกทีอยู่แล้ว กฎเหล็กของภรรยาข้อแรกของฉันไงเล่า"
เธอทำหน้ามุ้ยพองแก้มออกเอาหมัดทั้ง2ข้างชนเอวโน้มตัวเข้ามาทางผมด้วยอาการงอนเล็กๆที่ผมไม่อยากให้เธอตามไปด้วย
ผมยกมือขึ้นมากั้นระยะห่างระหว่างผมและเธอไป พร้อมเสียงหัวเราะ "ฮะ ๆ...นั้นสินะ" โดยที่เบนหน้าหนีเธอไป ซึ่งเธอคนนั้นก็หายงอนไป เลิกทำตัวราวีผมแล้วก็หลับตาบ่นออกมา
"หุ! ให้มันได้อย่างนี้สิน่า ยาคุงจะต้องเป็นผู้นำตระกูลคาเงโมะกับเท็นโกคุคนต่อไปน่ะ หัดเด็ดขาดให้มากกว่านี้หน่อยได้ไหม?"
"ก็มันสไตล์ ฉันนิยัยบ้า" ผมเก็บเสียงในใจนั้นเอาไว้ แต่ก็รักชีวิตไม่คิดสู้พยักหน้ายอมเธอไป แล้วผมก็ได้เดินออกมาจากบ้านตรงเข้าสู่สถานีรถไฟเพื่อเข้าสู่เมืองใหญ่ ไปดูโรงเรียนที่ผมจะได้เข้า
ที่กรุงโตเกียว...
"ทางนี่ ๆ ยาจังทางนี้นะ!"
คุณอาซาโตรุในลุคผ้าปิดตาสีขาวที่ปิดไขว้กันเป็นตัวXทำให้ทรงผมนั้นตั้งขึ้นมาจากการที่ผ้าปิดตานั้นเปิดหน้าผากให้สูงขึ้นมา ทักเรียกผมด้วยท่าทีปนกวนตามปกติของเขาเอง
ผมเดินไปตามไปพร้อมๆกับวาทีภรรยาของผม เข้าไปทักกับญาติผู้ใหญ่ที่ปัจจุบันนี้เป็นผู้นำตระกูลโกโจแล้วตอนนี้
"สบายดีใช่ไหมครับ?"
"อ่า! ดีอยู่แล้วฟูมารุตอนนี้เองก็สบายดีเหมือนกัน พี่เปโกะเองก็ฝากบอกมาด้วยนะว่า คิดถึงยาจังสุดๆไปเลยน่ะ"
"เรอะครับ! ดีจริงๆเลย..."
ผมโล้งอกกับสิ่งดีๆที่ญาติหัวขาวทรงตั้งคนนี้กล่าวออกมาให้กับผม แต่ว่าจะมาเสียเวลาตอนนี้ก็ใช่เรื่องทำให้คุณอาเขาก็ได้พูดกับผมมา
"ถ้านั้นพวกเราไปเลยแล้วกัน สู่โรงเรียนไสยเวทน่ะ"
"ครับ!" "ค่ะ!"
ผมและก็แฟนสาวที่เป็นองครักษ์ส่วนตัวขานรับเต็มเสียง แล้วก็ได้ออกทางเท้าเดินตามชายหัวขาวคนนี้ไป โดยที่ระหว่างทางนั้นก็มีพวกคำสาปน่าขยะแขยงอยู่ระหว่างทางไปด้วย
พวกเราเดินขึ้นภูเขาผ่านต้นไม้ใบหญ้าที่มีเหล่าสรรพสัตว์ลายล้อมอุดมธรรมชาติทั่วไป ที่เขียวขจีนี้ในที่ที่นี้นั้นมันผ่อนคลายอารมณ์สุดๆ มันทำให้ผมนั้นสงบจิตไปได้ แล้วมั่นหน้ามุ่งสู่จุดหมาย ไปต่อจนกระทั่งได้มาถึงที่หมาย...
ประสาททรงญี่ปุ่นที่เป็นเรือนไม้สูง อันเด่นสง่าที่เป็นวัดของนักบวช กับโรงเรียนสอนศาสนาที่โดงดั่งที่สุดในโตเกียว แต่ว่าที่ผมจะเรียนไม่ใช่ที่นี้ แต่มันคือที่ที่อยู่ตรงหน้าผมตอนนี้
"..."
ผมหยุดตัวเองเงยหน้ามองไปที่อารามไม้ขนาดเล็กลงมาจากอันก่อนเล็กน้อย แต่ว่าความกว่างและยาวของมันนั้นล้อมรอบประสาทนั้นเป็นรูป6เหลี่ยมได้
ที่นี้แหละคือที่ที่ผมจะต้องมาเรียน...
"ยินดีต้อนรับสู่โรงเรียนไสยเวทโตเกียวนะยาจัง"
คุณอาที่เก็บมือเอนตัวเข้ามาตอนรับผมพร้อมทำท่าเชิญให้เข้าไปข้างในโดยที่ตัวของฮิคาริเองนั้นก็เดินตามเข้าไปกับผมด้วยคน
มือที่สวมถุงมือสีดำข้างนี้ของผมเปิดประตูไม้ออกไป ทำให้เห็นห้องที่ใช้แสงเทียนที่ประดับอยู่ตามต้นเสาสีแดงส้ม โดยที่คนที่อยู่ในห้องนั้นเองก็มีลุงคนนึงที่สวมแว่นครอบตาสีดำส้มผมรองทรงสูงไว้หวดเคราสไตล์ตะวันตกสมัยใหม่ ที่นั่งถักตุ๊กตาอยู่ บนกองของตุ๊กตาน่าตาน่ารักเต็มไปหมดทั่วห้อง
"หน้าโหดแต่โหมดน้อนสะงั้น! " ผมเก็บอาการตกใจนั้นแล้วก็ตั้งสติทักผู้ใหญ่คนนั้นไป
"สวัสดีครับผมชื่อ--"
"ซาโตรุแนะนำฉันมาหมดแล้วละ คำสาปสีดำของตระกูลโกโจ คาเงโมะ ยามิ ทางนั้นเองก็ทายาทของตระกูลเท็นโกคุ เท็นโกคุ ฮิคาริเองสินะ คาเงโมะ ยามิเธอไม่ต้องปิดบังอะไรไว้หรอกในที่นี้น่ะ"
"ครับ..."
ผมถอดหมด ถอดแว่น ถอดถุงมือแล้ผ้าพันคอออกมา ทำให้สายตาของเขาได้เห็นร่างจริงๆของผมที่ซ้อนอยู่ในรูปลักษณ์ปิดนั้น
"อย่างนี้นิเอง พลังไสยเวทของเธอคงมหาศาลเพราะคำสาปที่เธอได้รับมาตั้งแต่เกิดสินะ"
"รู้เรื่องนั้นด้วยเรอะครับ?"
"ไม่ได้รู้รายละเอียดหรอก แต่ว่าที่แน่ๆเลยตอนนี้ก็คือ"
ชายคนนั้นลุกขึ้นยื่นแล้ววางตุ๊กตาตัวตุ๋นสีส้มไว้ข้างๆตัวเอง เอามือล้วงกระเป๋าเดินตรงเขเามาทางผมและเธอที่ตอนนี้นั้นเปลี่ยนสีหน้าดป็นจริงจังขึ้นมา แล้วเอาตัวเข้ามาบังผมไว้
"ยาคุงหลบหลังฉันไว้ก่อนนะ"
"เดี๋ยวก่อนสิ! ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้"
"ไม่ได้! มันอันตรายเกินไป ฉันจะปกป้องยาคุงเอง"
เธอยื่นคำขาดจ้องหน้ามองแรงใส่ชายผมตั้งรองทรงไถ่ข้าง ที่จ้องต่ำลงมาโดยเมิณตัวของเธอที่พยายามดันให้ตัวผมห่างจากชายคนนั้น
"คาเงโมะ ยามิ สำหรับเธอแล้วเธอต้องการอะไรกันแน่"
คำถามนั้นถามมาทางผมด้วยท่าทีที่เย็นชาของชายร่างยักษ์
"ผมน่ะต้องการที่จะปัดเป่าคำสาป เพื่อที่สักวันนึงตัวผมจะได้ อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าอีกครั้ง"
ถ้าถามว่าทั้งที่คนสนิทอย่างคุณอาโกโจขึ้นเป็นผู้นำแล้วผมยังไม่สามารถกลับไปอยู่ที่ตระกูลได้ เพราะว่าผมถูกแช่งให้ต้องต่อสู้แล้วเอาชนะคำสาประดับพิเศษ ที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่าราชาคำสาปให้ได้ และเมื่อนั้นผมจะได้กลับไปที่บ้านที่แท้จริงของผมเอง
นั้นคือเหตุผลที่ทำไหมผมต้องแข็งแกร่งขึ้นกว่าใคร
ดวงตาสีเลือดนี้หันมองกลับไปที่ชายคนนั้นอย่างไม่ยอมถอย และยึดมั่นในเส้นทางที่ผมเลือก และผมก็พูดเสริมกลับไปด้วยความแน่วแน่ของผมเอง
"ต่อให้ผมจะไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ต่อให้ผมกลายเป็นคำสาปไป หรือต่อให้ผมต้องถูกประหารไป ผมไม่สนอะไรทั้งนั้น เพราะว่าตัวผมน่ะจะฆ่าราชาคำสาปเอง"
""...........""
ทั้งว่าที่ภรรยาและชายคนนั้นต่างนิ่งสะอึกกับสิ่งที่ผมพูดออกไป เป้าหมายของผมมันยังดูเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ ผมรู้ดีว่าความแข็งแกร่งของผมมันยังไม่พอ แต่ว่าผมก็ขอที่จะไม่ยอมแพ้
เพื่อที่จะอยู่พร้อมหน้ากับหม่าม้าเพื่อที่จะเป็นครอบครัวแบบปกติเหมือนกับที่ทุกคนควรจะเป็น
"ก็ตามนั้นแหละครับอาจารย์ใหญ่"
"....?"
ผมหันหลังกลับไปตามเสียงนั้นของคุณอาที่อยู่ด้านหลังผม ที่อิงข้างประตูรับแสงแดดจากด้านนอกให้ด้านในมันสว่างมากกว่านี้หน่อย
"สอบผ่านใช่ไหมละครับเด็กคนนั้นน่ะ "
ชายผมตั้งหัวขาวเดินเท้าเข้ามาทางนี้
"หึ...ตามนั้นเลยซาโตรุ เด็กคนนี้เตรียมพร้อมแล้วสำหรับโรงเรียนไสยเวท"
ชายคนนั้นที่น่าจะเป็นอาจารย์ใหญ่ก็หันหลังเดินกลับไปทางเดิมประจำตำแหน่งถักตุ๊กตาต่ออย่างกับไม่มีอะรเกิดขึ้น
"คาเงโมะ ยามิขอแนะนำตัวแล้วกัน ฉันยากะ มาซามิจิ อาจารย์ใหญ่ประจำโรงเรียนไสยเวทโตเกียว "
"เป็นอาจารย์ใหญ่จริงๆสินะครับ "
"ขอโทษแล้วกันที่แนะนำตัวช้าไป แต่ก่อนหน้านั้นเองฉันก็มีพี่เลี้ยงให้กับเธอด้วยเหมือนกัน"
อาจารย์ใหญ่ดีดนิ้วแล้วนั้นก็ทำให้มีคนเดินออกมาจากหลังเสาที่อาจารย์ใหญ่ใช้อิงอยู่เดินเข้ามาทางนี้
เป็นผู้ชายผมเม่นท่าทางดูอดหลับอดนอน ในชุดเหมือนกับของผมในตอนนี้
"ยินดีที่ได้รู้จักนะคาเงโมะคุง ฉันเป็นรุ่นพี่ของนายอยู่ปี2ชื่อโอคตสึ ยูตะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ"
"ครับ........รุ่นพี่"
ผมเกรงตัวและเกรงใจรุ่นพี่คนนี้มากๆ เพราะดูแล้วตัวเขาจะค่อนข้างพักผ่อนไม่ค่อยเพียงพอเท่าไหร่นัก
"ไงยูตะสบายดีอยู่ใช่ไหม?"
"ครับอาจารย์โกโจ"
"ดีเลยนั้นพา2คนนั้นไปที่ห้องพักนักเรียนก่อนนะ"
"ครับ..."
หลังจากนั้นรุ่นพี่หัวเม่นดำก็หันหลังกลับเดินนำผมกับว่าที่ภรรยาไป พาผมออกไปนอกอารามนี้ แต่หารู้ไม่ว่ามีสายตาอยู่3คู่กำลังจ้องมองผมจากทางพุ่มไม้อยู่
"นั้นเด็กใหม่งั้นเรอะ"
แพนด้าพูดได้ปรับโฟกัสสายตาจ้องมาทางผมที่ค่อยๆเดินเข้าห้องพักไป
"ทูน่า"
พี่ชายหัวอันเดอร์คัตต่ำสีขาว ที่เสื้อคลุมแขนยาวสีน้ำเงินเข้มนั้นยกคอสูงปิดปากของเขาทักภาษาลับออกไป
"ดูท่ายัยนั้นจะสมคำล้ำลือไม่น้อยเลยนะ"
พี่สาวหัวเขียวฮิเมะคัตมัดหางม้าใส่ไว้ด้านหลังใส่แว่นกรอบแดงทรงสีเหลี่ยม กำลังจ้องไปที่เด็กใหม่ที่เป็นผู้หญิงที่เดินตามตัวผมมา อย่างตาไม่กระพริบ
"...!"
ก่อนที่ตัวเธอจะได้เข้ามาในห้องตามผมตัวเธอก็หันควักกลับไปที่ทางพุ่มไม้ตรงนั้น เหมือนรู้สึกอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่มีอะไรตรงนั้นอยู่ดี ราวกับว่าหายวับไปกับสายตาเธอยังไงยังนั้น
"มีอะไรเรอะ?"
ผมทักเธอไปด้วยความเป็นห่วงเล็กๆ
"เปล่าหรอก สงสัยคิดมากไปเองน่ะ"
เธอส่ายหน้ากลับผม แล้วเดินเข้ามาปิดประตูห้องจัดเตรียมของภายในห้องตามภาษาแม่บ้านของเธอไป
____________________________________________________
นางเอกของเรื่อง...
(เท็นโกคุ ฮิคาริ)
ปัจจุบัน(เอาหน้าม้าขึ้น+แต่งหน้า)
ความคิดเห็น