คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : 5เกร็ดน่ารู้ของฮิมิยะ ทาเครุ
ก็อย่างว่าในเมื่อเป็นเรื่องที่หลายคนอาจจะอ่านข้ามหรือ ว่าผมพึ่งเสริมขึ้นมาให้รู้จักกับพระเอกคนนี้ที่น่าจะเป็นคนที่ผมชอบเป็นอันดับ2รองจาก พระเอกภาคแรก ก็ต้องให้ทุกคนรู้ลึกๆ(?) หน่อยว่าเป็นมายังไง ถ้านั้นมาเริ่มกันเลย!
1.การปรากฏตัวครั้งแรก...
ทาเครุมีบทครั้งแรกไม่ใช่ในฟิคนี้แต่อย่างใด หากเป็นในภาคที่2ที่ชิคุโระ หรือ ที่ทาเครุเรียกติดปากว่า "จิคุ" นั้นแหละ โดยออกมาเป็นเด็กชายอายุ3-4ขวบในตอนนั้นๆ
ในสนามแข่งที่ผู้คนมานั่งบนอัฒจันทร์กันจนแน่นหน้า ทั้งบุคคลพิเศษหรือแม้กระทั้งฮีโร่ต่างๆก็มารวมตัวกันที่ห้องVIPส่วนตัว ที่มองลงมายังด้านล่างจากมุมสูงตรงกระจก
เด็กชายวัยหัดเดินผมสีขาวออกฟ้านิดๆฟ้าผิวเผือกดวงตาสีแดงเลือด ในชุดเด็กน้อยสีฟ้า มีจุกนมสีแดงอยู่บริเวณริมฝีปากคลานตัวไปด้วยความมุ่งมันและไร้เดียงสาจนน่าเอ็นดู
"...จิ...คุ ด้านอ้าน..."
"ไม่ได้น่ะ ทาเคะ"
มือเรียวเล็กคว้าตัวเด็กน้อยขึ้นมา เป็นมือของหญิงสาวผมสีฟ้าซีด ดวงตาสีแดงสวยประกาย มีเขาเล็กๆอยู่ที่หัวด้านขวา ในชุดกิโมโนลายดอกไม้สีม่วงเข้มที่เธอมัดผมเป็นมวยไว้ด้านหลังโดยมีปิดปักผมไว้ มองหน้าลูกชายของเธอที่เหมือนกำลังทำถ้าร้องไห้
"...ท่านแม่..."
"แบบนี้พ่อเขาคงลำบากแย่สิ ทาเคะถือว่าแม่ขอได้ไหม"
"ฮึก~!...แง่~!!!!"
ด้งยความเป็นเด็กน้อยเลยร้องไห้ออกมาเสียงดังจน ชายหัวเขียวสาหร่ายร่างกำยำวัยกลางคน เดินเข้ามามาเด็กชายคนนั้น
"ไม่ต้องร้องนะทาเครุคุง "
รอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์นั้นทำให้เด็กชายหยุดร้องไป และยิ้มส่งเอื้อมมือขึ้นพยายามจะจับตัวชายที่ได้ชื่อฮีโร่อันดับ1ให้ได้
"เหะ! ฮะ ๆ ๆ!"
"คิดถึงเลยจริงๆ เหมือนอิสึกะสมัยเล็กเลย คัตจังเองก็ด้วยใช่ไหมล่ะ? เหมือนคิริโกะจังสมัยยังเด็กน่ะ"
เดกุหันไปหาเพื่อนสมัยเด็กและคู่แข่งคนปัจจุบันของเขาที่อยู่ในชุดเสื้อแขนสั่นคอปกสีแดงลายตัดดำทรง4เหลี่ยมช่องๆ กางเกงยีนเงยหน้าขึ้นฟ้าไปเหมือนว่าเขาจะโดนเล่นงานมาเลยขอพักด้วยการตอบไป
"จะไปรู้รึไง...ชิ! ยัยลูกสาวนั้นได้เจอดีแน่"
2.ทาเครุสีผมเปลี่ยน
สืบเนื่องจากข้อก่อน ทาเครุเขามีสีผมขาวออกฟ้าเล็กน้อยที่ได้มาจากพันธุกรรมผสมของแม่ของเขาอย่างเอริ แต่ปัจจุบันไหนถึงผมกลายเป็นขาวเหมือนหน้านั้น ก็มีเหตุผลเพราะ
"ใช้อัตลักษณ์แล้วเซลล์จะเสื่อมลง?"
คนเป็นแม่ตกใจหันมองหน้าลูกชายที่กำลังมองสนใจกับแผนผังกายภาพของมนุษย์อยู่
"กาดู๊ก...ฉาหมอง... ไตย์! ฮ๊ะ ๆ ๆ ๆ ๆ!"
เสียงหัวเราะไร้เดียงสาหาได้สนอาการของแม่ผู้มีเขายาวที่ฟน้าผากด้านซ้ายไหม
หมอที่มาตรวจดูอาการก็ให้ความเห็นต่อจากที่ว่าออกมา
"ถ้าเป็นปกติแล้วคงเป็นปัญหาครับ แต่ทาเครุคุงเขาพิเศษกว่าใครในเรื่องของกายภาพของเขาที่กลายพันธุ์ยันอวัยวะภายใน เรียกว่าสามารถมีชีวิตอยู่ได้เป็นหลายร้อยปี แถมยังสามารถฟื้นฟูตัวในระยะเวลาอั้นสั้น อาจจะมีเพียงแค่สีผมที่แสดงอายุเซลล์นิดหน่อยน่ะครับ ถ้าเกิบหยุดใช้งานอัตลักษณ์สัก2วันก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมเองครับ"
ผลสรุปมาให้เห็นว่ายังปลอดภัย แม่คนก็ถอนหายใจโล่งอกที่ไม่ได้ดลวร้ายเช่นนั้น
"ขอบคุณมากนะค่ะ..."
"เดี๋ยวก่อนครับคุณนาย ยังมีอีกเรื่องที่ต้องเพื่อใจเอาไว้นะครับ"
"...?"
"ด้วยร่างกายที่ผลิตฮอร์โมนแปลก ๆ ส่งผลถึงการผลิตอสุจิของเขาด้วย... ถ้าเด็กคนนั้นแต่งงานแล้วจะมีลูกฝ่ายหญิงมีโอกาศสูงที่จะเกิดการตั้งครรภ์ซ้อนได้ถึง4ครั้ง ถ้าสุขภาพของฝ่ายหญิงไม่แข็งแรงพอ อาจจะทำให้เสียชีวิตได้ครับ "
พอมาเป็นดรื่องนี้คุณแม่ก็คิดหนักเอาการขึ้น แล้วหันมาที่เด็กชายแสนไม่รู้ความจับจับดึงๆหระโปรงของคุณแม่เรียกเธอด้วยเสียงอ้อนๆ
"...ท่านแม่...ห้องย้าม!..."
"อ๊ะ! ห้องน้ำงั้น!?....ขอตัวก่อนนะค่ะ ชอบคุณมากค่ะคุณหมอ!"
เอริโค้งตัวก่อนรีบพาลูกชายแสนรักออกจากห้องไปโดยเร็วก่อนที่เด็กคนนี้จะเผลอปล่อยออกมาซะก่อน
3.บีสท์โหมด การกลายพันธุ์ของสายเลือดปีศาจ
ตามเนื้อเรื่องคุณจะเห็นทาเครุเวอร์ชั่นบีสท์โหมด ที่เน้นสัญชาตญาณดิบในการต่อสู้แบบดุดันและไร้ที่ติหรือขอกางขาเรื่องความแข็งแกร่งเกินต้าน แน่นอนว่าสาเหตุนั้นมาจากร่างกายที่ไม่เหมือนคนอื่นของเขา ที่สมองสั่งการเมื่อร่างกายตกอยู่ในสถานการณ์ที่สารเคมีในสมองปั่นป่วนถึงขีดสุด ในตอนนั้นสมองส่วนสติสัมปชัญญะของทาเครุจะชัดดาวต์ตัวเอง อย่างสมบูรณ์ ปล่อยให้ร่างกายตอบสนองตามสถานการณ์
เหตุที่เป็นแบบนั้นก็มีอีกสาเหตุนึงมาจากมรดกอัตลักษณ์ที่ตกค้างของออลฟอลวันด์ ที่ถูกสืบสายเลือดจนมาเห็นผลที่ทาเครุที่เป็นทายาทลำดับสายเลือดที่3(เหลน) เป็นอัตลักษณ์ที่ถูกผสมกับดาร์คเพาท์ของทางพ่อและรีไวฟ์ของแม่ กลายเป็น “ดาร์ครีเฟาท์” อัตลักษณ์ที่มีชีวิต เป็นกลไกการปกป้องตัวเองขั้นสมบูรณ์อันที่พลังนี้ไม่สามารถถูกบิดเบือนจากสิ่งเร้าใดๆได้
และพลังขีดสุดคือการกลืนกินจินตภาพ ทุกอย่างที่ไม่สามารถจับต้อง อากาศ เวลา หรือแม้กระทั่งโชคชะตา ก็เป็นได้แค่อาหารของมันเท่านั้น ซึ่งทาเครุยังไปไม่ถึงขั้นนั้น
ซึ่งมันก็จะมีกรณีที่จะไม่เข้าโหมดบีสท์ได้อยู่เช่นกันนั้นก็คือตอนฝึกสู้กับโดโคโกมะ ที่ถูกดึงสัตว์ร้ายในตัวออกมา ซึ่งไอ้อัตลักษณ์ที่มีชีวิตของทาเครุก็คือไอ้เจ้านี่แหละ
ใช่ครับตัวตนที่แท้จริงของบีสท์โหมดคือไอ้ผีหน้าเอ้อนี่แหละ หมดกันความดิบที่วาดฝันไว้
แต่แน่แหละว่าแค่โดนดึงปีศาจออกไปแต่อัตลักษณ์ไม่ได้ถูกดึงไปทำให้ยังใช้อัตลักษณ์ได้ เพียงแค่ไม่สามารถเข้าสู่บีสท์โหมดได้แค่นั้นเอง
4.ความสัมพันธ์กับคนในห้อง
ทาเครุเขาค่อนข้างมีปมเล็กน้อยเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกที่ขาวสะอาดยั่งกับผงซักฟอก เรียกง่ายๆว่า “จูออน” นั้นแหละ อาจจะทำให้มีเรื่องน้อยใจบ้างนิดนึง ซึ่งแน่ล่ะว่าคนที่เห็นสนิทกันในเชิงดีๆก็มี เร็น กับ มินาสึกิ แค่2คน แต่ถามว่าทาเครุคิดไงกับคนในห้องก็บอกได้ว่า “อยากรู้จัก” คงได้
เฮียแกเหงาแหละดูออก และการที่เขาเป็นหัวหน้าห้องในใจลึกๆก็ดีใจแทบจุดพลุฉลองแล้ว ที่ได้รับโอกาสที่สามารถคุยกับทุกคนได้ เอาง่ายๆถ้าแกไม่ใช่หัวหน้าห้องคงไม่มีหน้าไปคุยกับไม้เบื่อไม้เมาของแกหรอก
5.ของที่ชอบกับที่ไม่ชอบ
ทาเครุชอบอาหารรสหวาน เช่นพวกไข่หวาน ไก่ย่างซอสเทอริยากิ และเมนูทุกอย่างที่มีเนื้อปลาอยู่ เวลากินแล้วเขาจะรู้สึกผ่อนคลายขึ้นจนทำหน้าฟินออกมาได้เห็นจนเสียทรงร่างจำแลงความกลัวกันไปข้างนึง
สิ่งที่ไม่ชอบ เวลาส่วนตัวที่ถูกรบกวนสังเกตุตอนที่น้องสาวมายุ่งนี้ก็ตะหวาดใส่ และก็มีฉายาที่โดนล้อแล้วหัวไฟลุกเลยก็อย่างเช่น "จูออน" แน่แหละคนที่ล้อบ่อยสุดก็โดโคโกมะที่นิสัยก็เรียกตีนอยู่แล้วบวกกับคำนี้ไปอีกคือ ทาเครุแทบจะหยิบมีดมาแทงแล้ว
ถ้ามีอะไรอยากรู้เพิ่มเติมก็เมนท์มาได้นะครับ! ไปละนะ!
ปล.ถ้าพลังตื่นแล้ว คนที่บัคยิ่งกว่าพี่ฮิมะก็ทาเครุนี่แหละ (แค่ชนะทางส่วนนึงได้)
ความคิดเห็น