ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic(My hero academia / Boku no hero academia x oc)(MHA)(BNHA) นามขานของความกลัว ฮิมิยะ ทาเครุ

    ลำดับตอนที่ #15 : ตอนที่6 :ในสายตาของคุณน้าทาเครุ

    • อัปเดตล่าสุด 3 ธ.ค. 65


    วันแสนธรรมดาในยามเช้าที่ตื่นนอนขึ้นมา ในบ้านหลังนี้ของผม...

    อรุณสวัสดิ์ครับ ฮิมิยะ ทาเครุเองครับ บนที่นอนฟูกกับพื้นอาการบิดขี้เกียจแก้ละเมอผ่อนคลายมาเป็นระยะ ชุดยูดาตะที่ใส่เป็นชุดนอนก็มีหลุดๆหลุ่ยๆ เนื่องด้วยชุดก็ค่อนข้างมีพื้นที่อยู่พอสมควรจนเปิดไหล่เนียนๆขึ้นซะได้

    "อรุณสวัสดิ์...ทาเครุคุง"

    เปลือกตาที่ปิดอยู่ค่อยๆลืมเบิกเต็มดวง คันซากิ... ยัยนั้นอยู่ในชุดนักเรียน กับมือที่ถือถาดอาหารมาให้ผม

    "ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้"

    คิ้วขมวดมองที่เธอก็ย้อนสวนด้วยมุมยิ้มเบาๆ 

    "ก็พวกเราพึ่งสารภาพรักกันไปนิ"

    "อย่าคิดเองเออเองสิยัยเบือก ฉันไม่ได้ตั้งใจสารภาพเธอเลยสักนิด"

    "แต่ฉันนะ ชอบนายจากใจจริงๆนะ"

    "พอที...ฉันจะไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวค่อยมากินข้าว"

    ผมตัดบทลุกขึ้นไปที่ห้องอาบน้ำ แช่น้ำอุ่รสบายๆทิ้งตัวลงไปเป่าฟองน้ำ ให้ขึ้นมาจากผิวบ่อ ในหัวก็มีแอบคิดอยู่ว่า "เราก้าวก่ายร่างกายของเธอเกินไปรึเปล่า...?" 

    "มีเรื่องให้คิดมากอยู่เหรอ ทาเครุ"

    "...?--...!?"

    อาการสะดุ้งตกใจชนิดหัวใจเกิบล้มเหลว หันขวาเห็นคนมีผิวเหมือนผมกับสีผมที่ใกล้เคียง 

    "เรื่องผู้หญิงคนนั้นสินะ"

    ใบหน้าที่ไม่แสดงออกอะไรในตอนนี้แหละที่ทำให้ผมตื่นตระหรก

    "...ท่านพ่อ...! มาที่นี้ได้ไง!?"

    "ก็กลับมาเมื่อตอนตี2 แล้วแอบมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เห็นนอนกอดกันซะสนิทเลยไม่ใช่?"

    "คะ...คือ..."

    มันมีคำตอบที่อธิบายออกมาไม่ได้อยู่ในลำคอ 

    "ช่างเถอะ...พ่อไม่ขอเค้นต่อแล้ว ไงก็ดูแลยัยหนูคนนั้นให้ดี ๆ แล้วกัน"

    ว่าแล้วเขาก็ลุกตัวจากบ่อแช่นน้ำร้อนยืนตรงมองผมด้วยดวงตาที่เชื่อหมั่นอย่างลึกซึ้ง

    "พยายามช่วยเยี่ยวยาหัวใจเธอคนนั้นให้ได้ นั้นคือสัญญาที่ลูกต้องทำให้ได้ "

    "ครับ!"

    พยางค์ขานหนักแน่น ใจเบาลงอย่างเห็นผลแล้วเขาก็ได้ลาจากที่ตรงนี้ไปกับผ้าเช็ดตัวที่คลุมร่างด้านล่างของเขน


    ที่UA...

    "วันนี้ห้อง1Aมีมิชชั่นเข้ามา รายละเอียดก็ถูกส่งบนโต๊ะของพวกเธอด้วย"

    จบคำของอาจารย์ผมส้ม จอภาพฉายบนโต๊ะก็ส่องโฮโลแกรมหน้าแผ่นกระดาษให้พวกเราทุกคนหยิบมันออกมาดู จนสุดท้ายผมก็ต้องตะลึงขึ้นมา

    "เลี้ยงเด็กที่ศูนย์อนุบาลเนี่ยนะ!?"

    "อ้า~...ยุ่งยากชมัด!"

    ไอ้เจ้าโดโคโกมะเกาหัวแกรกๆ หน้าอารมณ์หงุดหงิดขึ้น แสดงออกมาอย่างชัดเจนกว่าใครคนอื่นในห้องทั้งนั้น

    "ตามที่เห็น นี่ก็ถือเป็นการฝึกในฐานะของฮีโร่อย่างนึง การมอบรอยยิ้มให้ประชาชน และรวมถึงแรงบันดาลใจให้กับเด็กพวกนั้น ที่ก็คือพวกเธอเมื่อครั้งสมัยก่อนไงล่ะ... รถบัสจะออกตอนบ่ายโมงตรง ทำทุระให้เสร็จกันด้วยล่ะ"

    จากที่โฮมรูมมาจบอาจารย์ก็เดินออกจากห้องไปทันที 

    บรรยากาศของห้องนั้นเงียบครึ่มกัน ต่างส่งเสียงกระซิบคุยกันถึงงานเลี้ยงเด็กที่ได้รับมอบหมายมา

    "ฉันว่าเราควรจัดหาอะไรให้ดึงดูดความสนใจของเด็กๆนะ"

    ชินเซ็นเมะสึว่าถามเปิดกับกลุ่มหญิงๆที่ต่างลงความเห็นโดยพยักหน้าตอบ "เห็นด้วย"

    "แต่ว่าจะเป็นอะไรกันล่ะ?"

    คำถามหัวข้อโต ๆ จากปากสาวเขาแพะผิวแทน ให้หลายคนต้องตั้งคำถามตาม

    "นั้นสิ...........จะเป็นละคร ก็คงเตรียมการไม่ทัน ถ้าเป็นกิจกรรมแบบลวกๆ ก็ไม่น่าสนใจอีก... จะเอายังไงดีนะ..."

    ผู้หญิงผมยาวสลวยสีชมพู ยัยชิโนบิ ช่วยตัดตัวเลือกที่เลวร้ายที่สุดออกไป กับกรอบความคิดทุกคนที่ต้องถูกฝืนเอาออกมาให้มากกว่านี้

    "ก็ลองคิดในแบบเด็กๆดูสิ"

    หญิงสวมหน้ากาก นานานะพูดท่าทางดูหน้าหมั่นไส้

    ผู้หญิงทุกคนที่เข้าวงล้อมกันก็ลดอคติส่วนตนแล้วหันมาลองคิดๆดูด้วยกัน


    แต่ฝั่งผู้ชายก็...

    "ต้องเป็นการแสดงของฉันอยู่แล้ว"

    ยักษ์หัวใจไวยกรณ์เต็มเปี่ยมด้วยอีโก้โตๆ เบียดข้อความคิดเห็นทุกอย่างของเพื่อนชายทุกคน 

    "เดี๋ยวสิ! โดโคโกมะ! นายจะเอาตัวเองเป็นที่ตั้งไม่ได้นะ!"

    ชิโรซาเมะแถบไม่ทนค้านสุดโต่ง 

    บีสท์คอนดักค์เตอร์ที่เป็นหัวเรือในการเสนอก็ย้อนถามคนที่ถามเขามาเช่นกัน

    "แล้วนายมีไอเดียบรรเจิดอะไรอยู่รึไง?...ถ้าไม่มีก็หัดเงียบปากไปแล้วปล่อยให้คนมีฝีมืออย่างฉันซะ"

    "ว่าไงนะหมอนี่!"

    สติหลุดความโกรธที่ถูกย้ำหน้า แบพุ่งออกไปเปิดเรื่องทะเลาะกัน เคราะห์ยังดีที่คาเสะคิริ เข้าล็อคแขนห้ามสุดกำลัง

    "ใจเย็นๆก่อนพวกนายตะมาก่อเรื่องแบบนี้กันไม่ได้นะ!"

    "ปล่อยนะ! ปล่อยฉัน!"

    ชายผมฟ้าหัวร้อนพยายามดิ้นให้หลุด และสายตาก็ตรงที่คนที่เข้ามาหาเรื่องด้วยสไตล์การพูดและยิ้มหน้ายิ้มตาที่แสนจะอวดดีแบบนั้น

    "บันตะ... นายจะหาเรื่องแบบนั้นไปตลอดไม่ได้นะ" 

    เร็นที่เป็นคนขั้นกลางหันมาว่าเพื่อนร่วมสำนักเดียวกัน ทั้งๆที่เขาก็รู้ว่าหมอนี้มันไม่ฟังอยู่แล้ว 

    ถึงอย่างนั้นทาคาฮาชิก็ต่างจากคนอื่นๆ เขายืนเข้าดักหน้าผู้หมั่นหน้า

    “มีอะไรไอ้คุณหน้ามล”

    “นายมีความสามารถมากพอที่จะทำอย่างที่พูดได้รึเปล่า โดโคโกมะ”

    “หึ ๆ… นายเนี่ยเห็นหน้านิ่งแบบนี้ก็ใส่ใจในคุณภาพด้วยงั้น? … อย่าได้มาดูถูกอัจฉริยะอย่างฉัน …อย่ามาดูถูกเอสของห้องนายจะดีกว่านะ”

    ในเมื่อเจ้าตัวยืนกรานว่ามา คนที่ยืนขวางก็หลับตาลงทำใจยอมรับไว้ได้ ในขณะที่ผู้หญิงเองก็ได้ข้อสรุปเช่นกันว่า “ทำวงดนตรีกันดีกว่า!”

    เห้ย…ไหนบอกว่าจะไม่ทำอะไรที่เตรียมการยากๆกันเล่า!

    หน้าผมว่ามาตามนั้น งงเงิบกับที่ทั้งชายและหญิงต่างเห็นพ้องต้องกัน 

    “นี่ ๆ หัวหน้าห้อง ผลโหวตต์เป็นเอกฉันท์แล้วนะ”

    ฮิงาลิตั้งศอกแทงๆที่ด้านขวาดึงสติผมกลับมา 

    คือต้องบอกก่อนว่า ตอนนี้ผมเป็นหัวหน้าห้องจากการลงคะแนนจากทั้งห้องหลังจบคาบเมื่อวาน และแน่ว่าต้องสำรวมอารมณ์กระแอมออกเล็กน้อย

    “ก็ได้…เอาเป็นแบบนั้นแล้วกัน แล้วในที่นี้มีใครเล่นเครื่องดนตรีเป็นบ้าง”

    “ฉัน!” มือขวาตั้งยกขึ้น เซ็นริทสุ ชิโรซาเมะ นานานะ คันซากิ ทั้ง4คนเสนออย่างรวดเร็ว ทีท่าว่าพร้อมกันสุดๆ แน่ล่ะว่าใจไม่อยากพูดแต่เพื่องาน ผมหันไปถามผู้ร้อยเรียงทำนอง

    “มีเวลา3ชั่วโมงกับนักดนตรีอีก4คน นายไหวอยู่ใช่ไหม?”

    “สบายมาก~…แค่นี่เองชั่วโมงเดียวก็จบแล้ว รอดูผลลัพธ์ได้เลย จูออนคุง”

    “…!!!!!!!”

    เส้นเลือดปูดขึ้นขมับ หน้าบึ้งตึงเกรงยิ้ม ฝืนสุดทน

    “เห๊…นั้นก็ขอให้อย่าพลาดแล้วกันนะ ไอ้ยักษ์…!”

    หลังว่าเสร็จผมเดินออกจากห้องไปแจ้งอาจารย์โดยที่ทุกคนต่างหลีกทางให้ผม แถมทำหน้ากลัวๆ ผมกันอย่างแปลกๆ ทั้งๆที่ผมยิ้มอยู่แท้ๆ


    ที่โรงเรียนอนุบาล…

    พื้นทรายกับเครื่องเล่นของเด็กน้อยที่ครบองค์สมบูรณ์ เสียงเจี๊ยวจ๊าวของหนูน้อยทั้งหลาย จับมือวิ่งเล่นบนเครื่องเล่นไปทั่ว โดยเฉพาะ2พี่น้องที่อายุห่างกันเกิบๆ3ปี

    “ชินจัง! ลงมาเลย!”

    เด็กสาวผมทองสั้นตัวเล็กอ้าแขนรับ จากทางด้านล่างบนสไลด์เดอร์ทางชันอันเด็กชายที่อยู่บนนั้นกล้าๆกลัวๆอยู่

    “เซย์…นะ…จะรับใช่ไหม…?”

    “ใช่! ก็เพราะชินจังเป็นน้องชายฉันนิ! พี่สาวต้องรับได้อยู่แล้ว…”

    “ถะ…ถ้างั้น…ลงล่ะน๊า~!”

    เด็กชายหลับตาลงเคลื่อนร่างลงไปในที่แห่งนั้น เด็กสาววัยแก่นแก้วรับตัวน้องชายคนล่ะแม่ไว้ แต่ด้วยน้ำหนักร่างกายที่ทุ่มลงมาเท้าที่หยั่นไว้อยู่ก็เสียหลักเอนไปด้านหลัง

    “ฮะ……”

    ดวงตาสีรุ้งที่เบิกขึ้นฟ้า โฟกัสเคลื่อนหงายหลังลงพื้น แต่ก็หยุดชงักไว้ ที่มุมเงยในระดับนึง

    เหมือนสิ่งที่สาวน้อยรู้สึกตัวจะทำให้เธอหันหน้ามาดด้านข้างขวา เห็นแขนยาวในชุดนักเรียนสีเทา ของชายผมหัวรถไฟไอน้ำ

    “ไม่เป็นไรนะ”

    การเห็นคนในชุดแบบนั้นหัวของเด็กหญิงรู้ทันทีว่าเขาคือใครโดยคร่าวๆ เธอรีบลุกขึ้นพร้อมยกน้องชายที่น้ำตาไหล่ปริ่มขึ้นมา

    “ค่ะ…ขอบคุณมากนะคะ!”

    และเธอก็วิ่งพาน้องชายที่ร้องไห้ออกมาตามภาษาของเด็ก

    ทั้งหมดนั้นอยู่ในสายตาของผมที่เป็นคุณน้าของทั้ง2คนนั้น

    “ฟิ้ว~ หวิดไปแล้ว…ไนซ์เซฟ! คามิสาโตะ!”

    นิ้วโป้งจากคนหัวรถจักรไอน้ำยกขึ้น เป็นการแทนสัญลักษณ์ว่ายินดี

    ใช่แล้วพวกเรารวมทั้งอาจารย์ประจำชั้นมาถึงที่โรงเรียนอนุบาลของเหล่าเด็กๆในที่แห่งนี้ แล้วก็ยังเป็นที่ที่หลานๆของผมเรียนอยู่ด้วย

    “ค่อยๆทานกันนะ”

    ยัยมังกรร่างสูงเข้าหากลุ่มเด็กๆ ที่ได้รับของหวานอันด้วยทุนของทุกคนที่ร่วมแรงร่วมใจกัน ที่ต้อนรับด้วยรอยยิ้มแสนไร้เดียงสา 

    “ขอบคุณนะ พี่สาวมังกร”

    “……!!!!!!!!!????????????”

    สติสตางค์หลุดออก หน้าสุกงอมแดงฉาน ที่ได้ยินเสียงผู้ไร้เดียงสาอันแสนน่ารักหน้ากอดเช่นนี้ เอาเธอตัวบิดไปมาเป็นปลาเป็นดาวเลยทีเดียว

    เห็นคนในห้องเป็นการเป็นงานกันดีผมก็อดยิ้มที่มุมปากเล็กๆไม่ได้ แล้วข้างๆของผม ผู้หญิงผมสีเขียวที่มานอนที่บ้นก็พูดขึ้นมาอย่างด้วยรอยยิ้ม

    "ดูมีความสุขในการส่องดูแลเด็กๆจังนะ คุณหัวหน้าห้อง"

    "..."

    ผมรีบเก็บยิ้มหันหน้ามองเธอที่ยิ้มผ่อนคลายส่งๆผมหวังให้ใจละลาย

    "ไม่ต้องทำเป็นใจเหล็กกล้าก็ได้นิหน่า~"

    "เงียบน่า! ฉันไม่ได้ยิ้มซะหน่อย"

    "ฉันยังไม่ได้พูดถึงขั้นนั้นเลยนะ จูออนคุง"

    เหมือนจะเป็นอย่างนั้น ผมไม่กล้าพูดอะไรนอกจากเชิดหน้าหนีไปทางอื่น

    คันซากิยกมือขึ้นปังปากที่อดกลั่นขำ "ฮึ ๆ ๆ..." คล้ายอยากลองหยอดอารมณ์อยู่เรื่อยๆ 

    "อีกเดี๋ยวจะเริ่มงานแล้วนะ เจ้าภาพต้องไปเตรียมตัวกันให้พร้อมนะ"

    "ไม่ต้องบอกฉันก็ไปเตรียมทันอยู่แล้วนะ... ชิ น่ารำคาญจริง"

    ประโยคพึมพำต่อท้ายอารณ์บูดๆบึ้งๆ เดินปลีกตัวออกมาจากกระบะทรายที่หลานสาวและหลานชายได้กลับมาเดินเล่นด้วยกันอย่างสนุกสนาน เป็นช่วงเวลาที่แสนสำคัญระหว่างทั้ง2พี่น้อง

    "ถ้าปีหน้า! ชินจังตอนอยู่ที่โรงเรียนต้องเข้มแข็งขึ้นนะ!"

    "อื้ม!"

    เด็กชายรับคำจากพี่สาวทั้ง2จับมือกันและกันวิ่งเล่นตามที่ต่างๆ เพราะเซย์นะต้องเตรียมเข้าโรงเรียนปฐมที่ไม่ใช่ในที่นี่ เวลาสำคัญแบบนี้ชินจิต้องเก็บเอาไว้อย่างน้อยก็2ปี






     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×