ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic(My hero academia / Boku no hero academia x oc)(MHA)(BNHA) นามขานของความกลัว ฮิมิยะ ทาเครุ

    ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่2 :ดูอนาคตเพื่อนร่วมห้องจากเทปวีดีโอ

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ย. 65


    ครับสวัสดีครับ! ผมฮิมิยะ ทาเครุเองครับ!

    หลังจากที่ผมสอบเสร็จแล้วก็ไม่มีอะไรมากนัก ก็แค่กลับบ้านไปรอผลในอีกอาทิตย์ให้หลังนี้ เพราะผมไม่ได้ดูการสอบเลยไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมห้องมีใครบ้างแต่ที่แน่ๆคือรู้แล้ว3คน

    คือเจ้าโดโคโกมะกับผู้หญิงผมดำยาวท่าทางตื่นตัวตลอด กับเนที่หมอนั้นทักมาให้ความว่า "เกิบเอาตัวไม่รอด"

    แต่เอาเถอะไว้ไปดูคลิปของสนามสอบที่อัดเอาไว้ว่าใครผ่านก็ได้ 

    ผมเดินทางกลับมาที่บ้านในช่วงฟ้าใกล้ตก มือล้องเช็คที่กล่องไปรศนีย์หน้าบ้านของตัวเองเห็นกล่องสีขาวกับซองจดหมาย ที่มีตราสัญลักษณ์ของUAอยู่

    "กลับมาแล้วครับ"

    ประโยคพูดเวลามาถึงที่บ้านของเราที่แสนคุ้นเคย ด้วยความคาใจส่วนตัวผมคิดหนักถึงขั้นไม่ได้ยินเสียงแม่ที่เรียกทักแล้วตัดบทสนถนาด้วยประโยคอีกประโยคว่า "ผมขอยืมทีวีที่ห้องนั่งเล่นก่อนนะ" และเสียงตอบรับขแงแม่ก็ตอบมาว่า "ได้สิจ๊ะ!" ผมเลยได้เดินไปที่ห้องนั่งเล่นของบ้านแล้วทำตามที่ใจร้องมา

    เครื่องเล่นแผ่นดีวีดี ที่จอภาพก็ได้ฉายภาพในอดีตในตอนนั้นของผม รวมทั้งของพวกคนที่ผมรู้จักจนครบหมดทำให้เห็นว่าเร็น ที่หมอนั้นพูดมาก็ถูกต้อง


    การปะทะกันของท่าเจโนไซด์แฟลช คนที่ชนะคือผู้คิดค้นอย่างคิริโกะที่ผลักพลังระเบิดเข้าใส่เร็นจนได้

    "อ๊ากกกกก!!!"

    ชายผมเขียวคราญร้องเจ็บระบมแสนสาหัส ยังดีด้วยซ้ำที่ยังไม่ตาย จากแรงระเบิดที่มองยังไงฝั่งอาจารย์ร่างสาวก็แรงกว่าด้วยข้อได้เปรียบของอัตลักษณ์ส่วนตัว

    ย่างก้าวชุดนักเรียนUAก้าวเข้ามาหาร่างอนาคตลูกศิษย์สายพลังใกล้เคียงกัน หญิงดวงตาสีน้ำตาลไม้มองเหยียดหยามคนที่พ่ายแพ้ในพลังต่อพลังของเธอ

    "จะรีบส่งให้ไปสบายเอง"

    ทรงกลมสว่างแยกลอยออกมาจากกลางหลังของเธอ นั้นคือพลังระเบิดที่สามารถปรับระดับความเสียหายดั่งใจนึก และเธอคิดจะระดมยิงทั้งหมด8ทิศเพื่อฆ่า-- เอ้ย! เพื่อจบเรื่องนี้ต่างหาก

    แต่ก็เกินคาดไปบ้าง...

    แสงแฟลชระเบิดเกิดวาบขึ้นพร้อมเสียงระเบิดสนั่น ตู้ม!! 1ครั้ง

    พอแสงนั้นเลือนจางลงก็พบว่าที่กลางท้องของหญิงผมน้ำตาลทรายมีรอยเสื้อที่ไหม้ที่ยาวโผล่ถึงอกเล็กน้อย โดยมีรอยไหม้ที่ผิวหนังระดับหนักพอสมควร 

    "อ๊ะ อะ...อ่ะ...--"

    ตาเธอเหลือกขึ้นอาการช็อครุนแรงแล้วหมอบลง ทั้งหมดเป็นฝีมือของเร็นที่เป็นคนทำมันทั้งหมดขึ้นมา ด้วยนิ้วชี้ขวาที่พยายามตั้งแบบฝืนๆร่างกายที่เจ็บสาหัส

    "ขอโทษครับ...อาจารย์..."

    เหตุนี้เจ้าของพลังระเบิดผมเขียวจึงสอบผ่าในสภาพที่เรียกว่าปางตายก็ว่าได้


    ภาพจอตัดไปที่อีกสถานที่ที่มีการปะทะเดือดแบบ1รุม3 

    "ย้า!"

    ร่างชีวะตัวเขียวผิวสีญาติเดียวกันกับผม มือสับเข้าที่ก้างคอของผู้ชายผมฟ้าเข้าให้ "คึ๊ก~!--" ตอนนั้นสีหน้าของคนคนนั้นก็กลายเป็นสิ้นหวังในทันใดยังกับอาวุธที่ใช้ต่อกรนั้นไม่มีอีกแล้ว

    "ฝั่นที่แสนมืดมัว~! ถ่อยคำลวงโลกรู้!...สลายมันไปซะ!"

    เสียงร้องเพลงของร่างชีวะ เพิ่มสปีทระดับปีศาจโผล่มาที่ก้านซ้ายของผู้หญิงผมวูฟคัต 

    "...!!?--"

    ไม่ทันตกใจศอหขวาของร่างตัวประหลาดสีเขียวก็สับใส่อย่างไร้ปราณี ตัวปลิวไปหลังอัดกับกำแพง กระอักออกอย่างเจ็บปวด

    "ฮ้า!"

    หญิงผมเงินไฮไลท์มินท์เขียวหาโอกาศนี้ออกหมัดกำปั้นที่ขยายยักษ์ตรงไปที่หน้าของของปีศาจชีวะ ที่ร่องท่อนเพลงเสริมพลัง

    กลายเป็นนิ้วก้อยด้านซ้ายที่ยื่นรับการโจมตี...

    "วันที่แสนเงียบเหงา ไร้ความทุกข์ใดๆ~ ช่างน่าเบื่อหน่าย กับเรื่องที่แสน~! ง่ายดาย!"

    หมัดขวาของเจ้าของเสียงเพลงง้างต่อนไปด้านซ้ายข้างที่เรารับการโจมตีได้ 

    "ค๊ะ!!!"

    ผลออกมาเห็นๆคือ ความแรงของท่าที่สามารถอัดเธอปลิวไปตกที่ยอดดาดฟ้าของตึกสูง30ชั้น

    กลายเป็นว่าใครหน้าไหนก็หยุดเอสของสนามสอบแห่งนี้ไม่ได้สักคน 

    บทเพลงที่แปลเปลี่ยนเป็น พลังความสามารถที่หลากหลายและไร้เทียมทาน ร่างชีวะคืนสู่ร่างชายหนุ่มผมเงินยาวที่อารมณ์ดีโลดกระโดดเต้นมีความสุขกว่าใครๆ

    "ฉันเนี่ยแหละเจ๋งที่สุด! ยอดเยี่ยมที่สุด! ฮ๊า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ!"


    ทางด้านรถไฟเครื่องจักรไอน้ำสีแดงตอนนี้ก็ดูไร้น้ำยา ที่จะสู้แบบหวังเกมไวกับชายชุดเกราะคลั่งสีดำ ที่สามารถใช้หมัดธรรมดาต้านแรงชนที่รุนแรงไว้ได้ตลอด

    เจ้คนควบคุมเห็นท่าแบบที่ผมคิดเลยตัดสินใจว่า "หาคนอื่นแทนแล้วปล่อยให้มนุษย์เลื่อยที่วิ่งหนีตายมาทางนี้จัดการแทน" แต่คงลืมดูไปว่าไอ้คนที่หวังจะมาจัดการแทนตอนนี้กำลังหนีมาพร้อมกับ ผู้หญิงผมแดงที่เหมือนสีผมจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นดำและยาวสลวยแทนเป็นเปียผม

    "คุมได้ทุกอย่างแบบนี้ใครจะไปสู้ได้กันเล่า!"

    "แบบนี้หนีไม่ทันแน่!"

    ผีเลื่อยยนต์โวยวายออกมาตอนนี้ซากตึกปาใส่ทั้ง2ที่คิดหนีจากเธอผมสีเขียวสาหร่างทรงยุ่งๆ ที่ลอยบนฟ้าควบคุมสิ่งของและซากตึกให้ลอยขึ้นพร้อมทะยอยส่งไปอัดร่างคนที่หนีให้แบนเป็นปุ๋ย

    "ขึ้นมาเร็ว!"

    เสียงเจ้าของขบวนรถว่ากับประตูทุกบานของรถที่เปิดออกรับช่องทางให้ทั้ง2คนออกแรงวิ่งเต็มทีกระโดดขึ้นรถไฟเพื่อหนี

    "ฮ๋าาาาา!!!"

    ชายเกราะคลั่งกระโดดไกลเข้าทำร้ายมนุษย์เลื่อยที่กำลังขึ้นไปบนรถไฟจนเป็นเหตุว่าทั้ง เขาถูกพาร่างออกมาจากขบวนรถด่วนแล้วมาสู้กันต่อที่อีกช่วงบล็อคตึกกัน

    "ไอ้หมาคลั่งนี้!"

    ความเหลืออด เจ้าเลื่อยยนต์หาจังหวะให้เท้าที่โผล่เลื่อยขึ้นมาฟันที่หน้ากากเกราะสีดำสุดแข็งแกร่ง อันจำเป็นให้ร่างเกราะดำคลั่งต้องฟลุดปล่อย ปีศาจเลื่อยให้ออกมาหมุนตัวกลางอากาศยืนเท้าเปล่าในสภพชุดที่ขาดรุงริ่งไปหมดจากการเปิดใบมีดเลื่อยตามร่างกาย

    ทั้ง2ผู้บ้าคลั่งจ้องหน้ากันอย่างดุดันและเดือดดาลทั้ง2ฝ่าย 

    จนจังหวะนั้นก็เข้าไปแลกจนปะทะคมกัน 

    "ฮ๋า!!!"

    "ย๊าาาา!!!"

    หมัดและเลื่อยชนกันต่อเนื้องทั้งซ้ายขวา แรงดีดกลับของเลื่อยเมื่อปะทะทำให้มันเสียงจังหวะที่ต้องโจมตีในแบบต่อเนื่องต่อไป 

    "เฮื้อย!!"

    ใบเลื่อยหันเฉียงเข้าที่บริเวณเอวที่ไร้การป้องกันในส่วนขาหวังทำบาดแผลให้สำเร็จเพื่อเงื่อนไขในการผ่าน 

    ".........."

    เหมือนภาพช้าในหนังที่จอมอาลาวาทสัญชาตญาณดิบกระโดดหลบพ้น กับเหยียบปลายเท้าไปที่ใบเลื่อยด้านบน ออกแรงเท้าเตะเสยปลายคางเครื่องยนต์คุงไปเต็มที่ลอยเหินเวหาไปที่บนฟ้าอันเป็นการปะทะของมังกรและสรรพวุธลอยฟ้าขนาดยักษ์อลังการ


    "ล็อคออน!"

    ปืนใหญ่กระบอกคู่ขนานชารจ์พลังงานเร็วขั้นสุดจนอยู่ที่ระดับเต็มพิกัดสั่งยิงรัวกระสุนโดยคำสั่งว่า "แกรมม่าออโต้แคนนอล!" มังกรชาติเปลี่ยนร่างเป็นทมิฬ บินพุ่งใส่กระสุนพลังงานยิงต่อเนื่องที่ระดมเข้ามา

    แต่การทำแบบนั้นคือการแลกหมัดที่เสี่ยงมาก อันนึงคือความแรงของท่านั้นรุนแรงพอที่จัระคายผิวได้มาก จนเกิดแผลก็มี 

    เจ้ามังกรรู้ดีว่านี่ก็คือโอกาศที่ดีที่สุดที่ต้องฝ่าออกไปด้วยตัวเองให้จงได้ มันคำรามก้องเข้นกำลังใจทั้งหมดจนเพลิงที่ส่วนแหลมของกระดูกเกิดไฟลุกสีครามชินฝ่าอันตรายที่กระหน่ำเข้าไปที่หน้าของยานรบยักษ์

    "ขอบใจเธอแล้วกัน"

    ตอนนั้นเองหญิงผมดำยาวสัดส่วนตรงอกใหญ่ลอยพุ่งมาดั่งดาวหางทะลุเข้าผ่าบาเรียร์พลังงานโดยมือข้างขวาที่มีปุ่มสีแดงติดไว้ จนในที่สุดก็ฝ่าไปถึงสาวผมขาวติดกิปข้างหัวซ้ายได้สำเร็จ

    "...!"

    ดวงตาและหน้าที่ไร้ชีวิตจ้องเข้าให้กับเจ้าของยานลอยผ้า ก่อนหมัดตรงขวาจะยัดเข้าที่หน้าของเธอคนนั้นไปในที่สุด

    และทั้งมังกรและผู้หญิงผมดำที่เป็นคนปิดศึกก็วาปตัวออกไปจากในฐานะผู้สอบผ่านเพราะว่า ฝั่งมังกรที่คืนร่างเป็นมนุษย์ผู้หญิงมีความสามารถที่เตะตากรรมการมนห้องสอบจึงถือว่าเป็นกรณีพิเศษ 


    ฝนธนูเรียงเป็นตับดิ่งลงพื้นเป็นห่าฝน ซิปเปิดขึ้นเป็นขนาดใหญ่กลางอากาศ เป็นช่องว่างให้รับฝนธนูที่ยิงดิ่งลงมา

    "แบบนี้เล่นด้วยยากชมัด!"

    ชายผม2บล็อคสีน้ำเงินสบ่นไม่พึ่งพอใจนักที่ชายผิวแทนผมรองทรงสีขาวที่ยืนอยู่ตำแห่งยอดบนสุดของสิ่งก่อสร้างที่ไม่สมบูรณ์ สแปมท่าฝนธนูต่อเนื่องมาพักใหญ่ๆแล้ว

    มันก็แค่ถึงตอนนี้ หอกยาวทรงบิดเกลียวตั้งคันศรขึ้นในช่วงเวลาที่ฝนธนูพึ่งยิงออกไป นี่คือท่าทะลวงที่รุนแรงที่สุด

    "รับไป!"

    ศรดาวตกพุ่งลงมาแนวเฉียงโดยไร้ทางหนีมันก็ระเบิดกินรัศมีวงกว้างอัดร่างให้กระเด็นตัวผลิกม้วนหลังคว่ำตัวลงพื้น

    "...ชิ!..."

    สีหน้าเจ็บใจของคนที่ทำอะไรไม่ได้มะนฟ้องว่าศัตรูอยู่คนละชั้นกับเขามากแค่ไหน แต่ไฟสู้ยังมีพอให้ยืนหยัดขึ้นมา มองหน้านิ่งเฉยแสนเย็นชาของมือธนูผมขาวผิวแทน

    "เลิกเล่นแค่นี้แหละ"

    ศรตั้งขึ้นมาเล่งไปที่ตัวของผู้เข้าสอบ ร่างสังเคราะห์จากโฮโลแกรม ยังคงความไร้ปราณี

    "เกลโบลท์..."

    คำลอยๆที่แสนเย็นยะเยือกจบกับศรแดงทับทิมพุ่งปลายแหลมมรณะ ยิงตรงร่างที่หมอบพื้น ความเร็วระดับนี่คือเกมเอนด์ของจริง

    “สลาย!”

    พายุทรายขึ้นพัดจังหวะตามเสียง หอกที่พุ่งเข้าทลวงพายุทรายในตำแหน่งที่ไม่คลาดเคลื่อน แถนที่จะถูกหอกปักสิ่งที่หอกแดงลงพื้นคือพื้นคอนกรีตตามถนนพลาดเป้า…ไม่สิ เป้าหมายหายไปแล้วต่างหาก

    วินาทีตอนนั้นที่เกิดสับสนของร่างโฮโลแกรม ก็ช้าไปที่มีหมัดคู่ต่อยที่กลางหลังของเขาอย่างแรงตัวลอยไปติดอยู่ในวังวนพายุทรายแล้วสลายหายไปตามโฮโลแกรมทั่วไป

    “ไนซ์เซฟ ทาจิบานะ”

    “อื้ม…”

    หญิงสาวเขาแพะผมบ็อบสีขาวออกเหลืองผิวแทน เธอคือคนที่เซฟชีวิตผู้ชายผมน้ำเงินคนนั้นไว้ จนแล้วจนรอด ทั้ง2คนก็สอบผ่านไปได้โดยเงื่อนไขและรูปแบบเดียวกับมังกรและผู้หญิงหน้าตายผมดำนั้น


    ในเขตแดนดูอึกครึกโครมการปะทะกันโดยหมัดเปล่าๆของชายผมดำหน้าม้าปัดขวากับชายผมโทนขาวอันเดอร์คันต่ำเท่าทีตาสามารถมองเห็นได้ แลกหมัดต่อหมัดกันในสถานที่แห่งนั้น จนเข้าหน้ากันทั้ง2ฝ่าย

    “ทำไหมรู้สึกเหมือนไม่ถูกสลายพลังเลยล่ะ?”

    บ่นหน้าด้านๆของชายผมอันเดอร์คัตต่ำ ก่อนช่องว่างเมื่อครู่จะทำให้ถูกหมัดซ้ายของศัตรูอัดเข้าที่หน้าท้องเต็มแรงและนั้นเองก็เป็นผลให้อากาศจากภายนอกท่อแสงออกมา…ไม่สิ อันลักษณ์ของหมอนั้นถูกสลายไปโดยหมัดซ้ายเมื่อกี้นี่

    “ถึงฉันจะซวยทั้งชีวิตแต่เรื่องสู้ก็ไม่เคยแพ้แบบ1ต่อ1หรอกหน่า!”

    ชายผมดำยกกำปั้นซ้ายขึ้นมา แล้วผมกับเจ้าหมอนั้นที่อยู่ในจอก็รู้ทันทีว่ามันคือการ “ลบล้างพลัง” และบวกกับข้อสังเกตส่วนตัวจากกิริยาที่เงียบเก็บปากแบบนั้น ขอเดาว่าหมอนั้นก็เป็นพวกเดียวกันกับศัตรูของตัวเองด้วย

    ทั้ง2พุ่งเข้าชนกันอีกครั้ง โดยเป็นหมัดซ้ายตรงของผู้คุมสอบโฮโลแกรมอัดหน้าขวาจนเบี้ยวหันไป 

    สติและสมาธิในช่วงวินาทีเลือกรัดแขนข้างนั้นด้วยการกอดข้างเอาไว้

    “……!!!!!!!!!”

    ดวงตามาดร้ายรุนแรงของผู้โจมตีเปิดส่งทอด สู่ผู้ไม่หวั่นเกรงทางสีหน้า หมัดขวาที่ว่างอยู่อัดเข้าที่ข้างหูซ้ายของผู้สร้างเขตแดนไร้พลังเพื่อปิดเกม

    ปัก!!!!! จากมุมกล้องที่เห็นจากด้านหลังของ2คนเห็นได้ว่าหมัดนั้นเข้าถูกเป้าโจมตี 

    ทั้ง2คนหน้ามืดตึงทั้งคู่ ทรุดลงไปพร้อมกัน มีอยู่2เหตุผลคือ เนื่องจากการรัดแขนเวลาทิ้งตัวลงทรุดตาม แต่เห็นทีว่าจะไม่ใช่แบบนั้น

    ร่างสั่นยึกๆแปลกๆของชายผมสีดำปัด สังเกตุให้ดวงตาที่มองจอแก้วอยู่นั้นเลื่อนไปมองด้านล่างเห็นว่ามีชายื่นออกไปโดนเป้าของคนคนนั้นจนตาเหลือกน้ำตาคลอขึ้น

    เอาง่ายๆคือโดนเตะไข่นั้นแหละ...

    เหตุนั้นจึงทำให้สอบผ่านแบบยากเย็นนิดๆพอประมาณ 


    "นี่ทาเคะจัง! ออกไปได้แล้ว!"

    สมาธิที่จดจ่อต้องหยุดเป็นเป็นหงุดหงิดอารมณ์เสีย หันไปด้านหลังมีน้ำโหใส่น้องสาวตัวเอง

    "อะไรกันนักหน่าล่ะห่ะ!?--?"

    หน้ารีบส่ายหันเต็มๆมองดูดีๆ ที่มือทั้ง2ข้างของน้องสาวที่ผมทะเลาะกันบ่อยๆคือเค้กวันเกิดของสีขาวประดับบลูเบอร์รี่ กับช็อคโกแล็ค ที่ประกอบกับสีหน้ายิ้มไม่เต็มใจของเด็กสาว

    "สะ...สุขสันต์วันเกิดนะ...พี่ชาย...!"

    "...?"

    เหมือนหูถวนลมแต่ก็ไม่เชิง คำถามในหัวร้องว่า "เมื่อกี้เรียกฉันว่าพี่ชาย?" จากนั้นแม่กับพ่อก็เดินออกมาจากด้านหลังของลูกสาวแสนหวงยิ้มแสดงความยินดีครบรอบ16ปีของผม

    ""Happy birth day to you~!...Happy birth day to you~!! Happy birth~! day Happy birth day...""

    ทั้งพ่อกับแม่เข้ามาอยู่ข้างๆของน้องสาวเรียงซ้ายขวารวมส่งท้ายเพลงอวยพรนั้นให้สมบูรณ์

    """Happy birth day~...to~!...you~!!"""

    เค้กยื่นเข้ามาหาผมที่นั่งอยู่กับพื้น คำอวยพรของบทเพลงของพ่อและแม่ผมน้อมรับมันไว้ ด้วยใจที่อุ่นๆที่ทำสีหน้าไม่ออก

    "............"

    ลมหายใจสูดเข้าที่ปอดเล่งที่ยอดเทียนที่สว่างอยู่ ส่งลมผ่านจากช่องปากออกมาดับแสงเทียน จบการฉลองวันเกิดของตนเองในฐานะเจ้าของงาน ที่วันนี้ก็มีหลากความหมายของผมอยู่

    เรื่องของอนาคต...เอาไว้ลุ้นเองแล้วกัน...

    เพราะตอนนี้ขอมีความสุขกับครอบครัวของตัวเองคงจะดีกว่ามานั่งหลังโก่งที่พื้นแหละน่า...





    (มันมีแค่ไม่กี่คนอยู่สนามสอบโควต้านะ และก็...Happy~...birth~!...day...to...you~... ใครดูแม่มดดาวพุทธคงจะรู้ดีนะ แต่คงไม่หรอก! แค่บังเอิญแหละ)




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×