คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่2 :ชิอาเสะ ไครินะ
ที่โรงเรียนมัธยมต้นแห่งหนึ่ง...
"หา??? แบบนี้มันจะค้างเกินไปแล้วนะ!"
ฉันชิอาเสะ ไครินะ ฉันมีผมสีเนื้ออ่อนยาวยาวถึงกลางหลัง และตอนนี้ก็กำลังโวยวายกับการตัดจบของหนังสือการ์ตูนเล่มที่ฉันติดตามมานาน ที่ตัวของนางเอกของเรื่องทำตามเป้าหมายของเธอไว้สำเร็จ โดยการคว้าจอกมาได้ แต่ดันกลับเว้นช่วงคำปรารถนาของเธอไว้ และก็น้ำตาซึมเร่รอนไปแบบนั้น
บอกเลยว่าจัดจบได้ไม่แคร์คนอ่านเลยสักนิดเดียว
"เสียดายชมัดเลยทั้งที่เรื่องมันดีแท้ๆเลยเนอะไคริจัง"
เพื่อนสาวผมสีน้ำตาลทวินเทลที่ผูกด้วยโบสีดำ พร้อมกับดวงตาสีฟ้า โทซากะ ริน นั้นคือชื่อของเธอ ที่เธอก็มายื่มหนังสือมังงะเล่มนี้อ่านไปด้วยคนพร้อมๆกันกับฉัน
"นั้นสิ...รินจังเองก็คิดเหมือนกันใช่ไหมละ แบบนี้มันแย่สุดๆเลย แต่ว่าได้ยินว่าจะมีภาคต่อด้วยใช่ไหมละ? คิดว่าจะติดตามต่อไหม?"
"อื้ม...ไว้ไคริจังแนะนำมาก่อนดีกว่าแล้วกัน"
"เรอะ อย่างนั้นก็ได้นะ"
ฉันพยักหน้าตอบรับคำขอของเพื่อนสาวคนนี้ไป และไม่นานนักก็มีคนคนนึงเดินเข้ามาในห้องนี้ เธอมีสีผมและสีตาเหมือนกับรินจังแต่ว่า จะไว้ผมสั้นระดับคอและผูกโบสีแดงชมพูติดเอาไว้ที่หัวด้านซ้ายของเธอ
"พี่ริน พี่ไครินะไปกินข้าวด้วยกันเถอะคะ"
น้องสาวของรินจังคนนั้นที่สนิทกันมาตั้งแต่เด็ก เพราะบ้านอยู่ใกล้ๆกัน โทซากะ ซากุระ เข้ามาหาพวกเราด้วยท่าทีที่เรียบร้อยเป็นเอกลักษณ์ของเธอ
"ได้สิ! ไคริจังไปกันเถอะ!"
มือที่เรียวบางของรินจังจับข้อมือของฉันและวิ่งพาฉันไปทางที่ซากุระที่รอพวกเราอยู่หน้าทางเข้า ก่อนที่จะพานำไปในห้องที่มีป้ายหน้าจออิเล็คโทนิคเขียนไว้ว่า "ห้องเก็บอาหาร"
มันเป็นห้องที่คล้ายๆห้องอบซาวหน้าขนาดใหญ่มาก ที่มีทำมาจากไม้และก็มีล็อคเกอร์ที่พอฉันหรือคนในโรงเรียนเข้าไปจะมีหน้าจออินเตอร์เฟสขึ้นมาให้สแกนลายนิ้วมือ ซึ่งพวกเราก็แนบนิ้วนั้นไว้กับหน้าจอนั้นและแล้ว ล็อคเซฟก็เปิดออกมา เป็นกล้องข้าวของพวกเราที่เก็บเอาไว้ในห้องนี้
และหลังจากหยิบมาแล้วนั้นพวกเราก็ออกไปทานอาหารด้วยกันในโรงอาหารที่ดูแพงมีราคา มีโต๊ะทรงกลมให้มีที่พอนั้งอยู่12คน แล้วพวกเราก็นั่งกินข้าวด้วยกันไปอย่างสบายใจ
"ยังโอเคอยู่ไหมนะ?"
ฉันพูดแอกมาอย่างตื่นเต้น ก่อนที่จะเปิดฝากล่องของตัวเองเองออกมา และทำให้เห็นด้านในเป็นเนื้อย่างของโปรดที่ยังร้อนและเนื้อช่ำอยู่ ขนาดที่ว่าดีกว่าตอนที่พึ่งออกมาจากกระทะเลย
"น่าอร่อยมากเลยนะค่ะพี่ไครินะ"
ซากุระตาเปล่งประกายปลื่มใจน้ำลายยืดออกมานิดหน่อย
"ถ้านั้นแลกกันไหมละ?"
ฉันคีบตะเกียบเอาเนื้อย่างชิ้นนึงให้กับเธอไป ซึ่งเธอกับรับไว้อย่างไม่ปฏิเสธ แต่เธอก็คีบเท็มปุระให้กับฉันคืนเป็นการแลกเปลี่ยนด้วย
"นี่ให้นะค่ะ"
"ได้สิพอดีอยากได้ของทอดพอดีเลย"
ฉันยิ้มรับของตอบแทนของเธอไว้ รินจังเองก็นั่งดูพวกเราแลกเปลี่ยนอาหารมือนี้ด้วยกันอย่างเพลินสายตาของตัวเอง ก่อนที่จะนึกสนุกอะไรบางอย่างก็เลยพูดกับน้องสาวของเธอไปว่า
"ซากุระเนี่ยแอบปลื้มเอมิยะคุงอยู่ละสิท่า"
"อะ...เอ๋! พี่หนู...น่ะ..."
ซากุระหน้าแดงหอบแหกๆออกอาการออกมา จนตัวของฉันชักเริ่มที่จะสนใจเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วว่ามันเป็นมายังไงกันแน่ กับตัวของเอมิยะคุงคนนั้นที่อยู่อีกห้องนึงน่ะ
จะว่าไปก็มีคนหลงหมอนั้นอยู่ไม่ใช่น้อยเลยละ แถมยังเป็นดาวเด่นเรื่องการยิงธนูประจำโรงเรียนด้วยสิ แต่จะว่าไปนั้นซากุระก็อยู่ชมรมนั้นกับเอมิยะคุงด้วยสิ สงสัยว่าอยากจะทำแต้มมากเลยจริงๆสินะ
ในขณะที่สายตากำลังจ้องดูอาการของน้องสาวบ้านใกล้เรือนเคียงอยู่นั้นมือหยาบๆสีเนื้อของคนที่กำลังจะเป็นหัวข้อสนถนาของพวกเราก็จับไปที่ไหล่ของรินจัง
"เมื่อกี้เธอเรียกฉันเรอะโทซากะ"
"...!!!"
รินจังสำลักน้ำออกมาจนไอออก"แค๊กๆ " ก่อนที่จะจ้องแรงหันกลับไปใส่คนที่เรียกเธอด้วยอาการปรี๊ดแตกระดับ1ของเธอ
"หึ๋ย~! ใครอนุญาติมาให้แตะตัวฉันแบบนั้นกันละยะ! ฉันตกใจหมดเลยนะอีตาหัวขี้เลื่อย!"
"อ่ะ โทษที..."
ชายหนุ่มในชุดเด็กม.ต้นที่มีผมสีแดงส้มที่เสยขึ้นไปด้านบนพร้อมกับดวงตาสีเหลืองน้ำผึ้ง เอมิยะ ชิโร่เอาตามตรงแล้วมันดูคล้ายๆกับตัวละครตัวสุดท้ายที่นางเอกในเรื่องต้องจัดการเลย ไม่รู้เหมือนกันว่ามีแบบมาจากหมอนี้รึเปล่า
แต่ยังก็เถอะ ซากุระตอนนี้หน้าสุกแดงอ้าปากข้างสั้นยังกับเจ้าเข้า
"ระ...รุ่นพี่คะ...คะ...คือว่า..."
"อ๋อ! ซากุระว่าไงสบายดีสินะ"
"คะ...ค่ะ!...สะ...สบายดีค่ะ...ระ...รุ่นพี่ละ...ละคะ?"
ดูท่าว่าจะกล้าๆกลัวๆอยู่นะเนี่ย แบบนี้ต้องปลุกพลัง
ฉันยิ้มออกมาอย่างมีเล่ห์ใน ก่อนที่หันไปหาเอมิยะคุงคนนั้นที่จ้องหน้ารู้สึกแปลกๆกับซากุระที่ทำตัวไม่ถูกอยู่นั้น แล้วก็ทักไป
"พอดีว่าซากุระอยากบอกกับเอมิยะคุงเรื่องนึงน่ะนะ"
".........!!!"
สายตาของซากุระข้างเบิกกว้างไว้แถบจะทันที หลังจากคำพูดฉันจบลงไป เอมิยะคุงก็ทำหน้าเรียบๆปนสงสัยจ้องใส่เธอไป
"มีเรื่องอะไรเรอะซากุระ"
"...คือว่าวันนี้...รุ่นพี่ช่วย...ช่วย...ไป...ไป..."
"...?"
"ไปเดทด้วยกัน...ไปเดทด้วยกันได้ไหมค่ะ!!"
เสียงที่เขินอายนั้นเปล่งไปดังทั่วโรงอาหาร จนทุกๆสายตานั้นก็หันควักขึ้นมาทางโต๊ะของพวกเรากันไปหมด จนรู้สึกหนาวสันหลังไปทั่วเลย
"..."
เอมิยะคุงออกอาการเหวอเล็กๆ ที่อยู่ดีๆมันก็เป็นแบบนี้ แถมพวกชนีย์หลายคนก็เริ่มที่จะโวยวายออกหน้าแล้วด้วย
"โทซากะคนน้องเรอะ? ไม่เข้าหรอกจืดสนิทแบบนั้นเอมิยะคุงเค้าไม่ชอบหรอกน่า"
"ที่อยู่ติดกับเอมิยะคุงตลอดก็เพราะหวังจะทำแต้มนำก่อนคนอื่นชัดๆเลยนิ"
เสียงนินทาต่างๆนานาประดังเข้ามาใส่ซากุระจนเธออยากจะหนีออกจากตรงนี้ไป แต่ก่อนที่เธอจะหนีออกไปจากโต๊ะนั้นเอง
"เดี๋ยวก่อนซากุระ!"
มือที่ผ่านการซ้อมยิงธนูมานัดต่อนัดของหนุ่มผมแดงส้มก็คว้ามือของเธอไว้ก่อนที่จะหนีจากไป มือที่คว้ามานั้นสำหรับซากุระแล้วนั้นมันทำให้เธอนั้นหยุดที่จะเดินจากไปและค่อยๆหันมาด้วยใบหน้าที่คลอไปด้วยน้ำตาของเธอ
"รุ่นพี่..."
"ได้สิไปเดทด้วยกันนะ"
คำขอของซากุระได้รับการตอบรับแล้ว ใบหน้าของเธอที่คลอไปด้วยน้ำตาเริ่มที่จะปล่อยโฮออกมาด้วยความดีใจอย่างถึงที่สุด ท่ามกลางสายตาของฉันแล้วก็รินจังที่เหวอรับประทาน ที่ไม่คิดว่ามันจะไปได้สวยขนาดนี้ ส่วนพวกหมูตัวเมียทั้งหลายก็แถบจะกรี๊ดออกมาแบบ "รับมิได้ค่ะ!" กันเลย
แต่เรื่องนั้นก็ชั่งมันเพราะว่าเข้าเส้นชัยคือสิ่งที่สำคัญที่สุด เรื่องอื่นๆน่ะชั่งมันไปเถอะ
หลังเลิกเรียน...
"รินจังทำไหมดูหมองๆแบบนั้นน่ะ"
ฉันทักเธอที่ก้มหน้าก้มตาเหม่อลอยขณะเอาของเข้ากระเป๋าตัวเองเตรียมจะกลับบ้านอยู่
"น้องสาวฉันเนี่ยนะกับไอ้บ้าคนนั้นจะเดทกันเรอะ ไม่มีทาง...ไม่มีทางซะหรอกน่า..."
"...ดูท่าจะอาการหนักเลยแหะ..."
ปากฉันขยับยิ้มแห้งๆออกมาแบบนั้น
เธอคนนี้เป็นห่วงน้องสาวก็ไม่ผิดหรอกแต่แบบนี้มันค่อนข้างที่จะเกินไปหน่อยนึง ที่จะขวางความสุขของน้องสาวตัวเองแบบนี้ แถมยังแผ่รังสีมืดมนออกมาอีกซะเนี่ย มันก็ช่วยไม่ได้แหละนะ
"อีตาหัวขี้เลื่อยที่ไม่รู้จักนิสัยของผู้หญิงแบบนั้นมันจะคู่กับซากุระได้ยังไงละ ใช่ไหมละไคริจัง..."
"ไหนถึงเกี่ยวด้วยนิ!" นั้นคือเสียงในใจฉันที่อยากจะพูดออกมา ให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็รู้แหละว่าเพื่อนคนนี้ของฉันน่ะค่อนข้างจะห่วงน้องสาวมากๆเพราะว่าพ่อของพวกเธอไม่ค่อยจะใยดีซากุระเท่าไหร่ทำให้ซากุระโดดเดียวแต่ก็มีฉันกับรินจังเนี่ยแหละที่ช่วยกันดูแลซากุระจังเหมือนเป็นน้องสาวและเพื่อนในเวลาเดียวกัน จะให้ไปอยู่ดีๆจะไปไกลอ้อมแขนก็พอเข้าใจความรู้สึกแหละ
"แต่ฉันว่าก็พอได้อยู่ละมั้ง นั้นเอาแบบนี้ไหม! พวกเราไปสอดแนมกันดีกว่าไหมละรินจัง"
"สอดแนม...?"
"ใช่แล้วละจะได้ดูไงว่าเอมิยะคุงน่ะจะรับมือกับซากุระได้มากแค่ไหน และเพื่อปกป้องซากุระจังด้วยไงละ"
ทันทีที่ได้ยินคำว่า "ปกป้อง"เพื่อนสาวทวินเทลสีน้ำตาลดำก็ทุบโต๊ะยืนขึ้นมาพร้อมกับอาการดีใจที่ไอเดียนี้มันได้
"ดีเลยไคริจัง! นั้นพวกเราเจอกันตอน10โมงนะ"
"อะ...อ่าได้สิเพื่อซากุระใช่ไหม..."
ฉันถามออกไปด้วยความไม่แน่นอนซึ่งมันก็ทำให้เธอเล็กคิ้วลงจ้องเขม่งใส่หน้าฉันยังกับว่าฉันไปทำอะไรให้เธอก็มิอาจทราบได้
"แหงอยู่แล้วสิ เพื่อซากุระอยู่แล้ว ในฐานะพี่สาวฉันจะตามล้างตามเช็ดทุกๆรายเลยคอยดู"
"ฉันว่าท่าทีแบบนั้นมันไม่ใช่นะรินจัง...ฮะ ๆ..."
"ไคริจังก็เห็นด้วยใช่ไหมละ"
เธอดูจะจริงจังเกินไปแล้วนะเนี่ย แต่ฉันก็รู้ดีแหละว่าแผนนี้ฉันเป็นคนเสนอมายังไงก็ช่วยไม่ได้ที่จะต้องเจออะไรแบบนี้
หลังจากที่ฉันพยักหน้าเหงื่อตกไปหมาดๆรินจังก็กลับสีหน้าตัวเองเป็นยิ้มออกมาให้ตามภาษาเพื่อน และจากนั้นพวกเราก็แยกทางกันกลับบ้านไป เพราะว่าฉันนอนที่หอพักของโรงเรียนในช่วงนี้
หอพักนักเรียน...
"ไครินะจังคุณพ่อเธอฝากของมาให้น่ะ"
"ค่ะ! ขอบคุณนะค่ะคุณไทกะ"
หลังจากที่รับของที่เป็นถุงกระดาษมาจากผู้หญิงผมสั้นคล้ายผู้ชายสีน้ำตาลไม้แล้ว ฉันก็โค้งให้แล้วก็ขึ้นบนลิฟต์ไป ใช่เวลาแปบเดียวก็มาถึงชั้นที่20ที่ฉันอยู่แล้ว
"สวัสดีคะนายหญิง"
เสียงสาวอิเล็กโทนิคผมสีขาวมัดมวยเก็บตาสีแดงทับทิม ดังขึ้นมาทันทีที่ฉันเข้ามาอยู่ในห้องส่วนตัวของฉันเพียงคนเดียวที่มัยกว้างมากๆ แถมยังประดับไปด้วยเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆนานและเป็นโถนสีขาวสว่างตาอย่างถึงที่สุด
"กลับมาแล้วโทโมเอะ งานบ้านยังดีเหมือนเคยเลยนะ"
"เป็นคำอวยพรที่ดีมากเลยค่ะนายหญิง"
AIที่สิ่งอยู่ในห้องนี้ก็คือAIแม่บ้านที่คอยทำความสอาดแล้วก็เป็นเพื่อนคุยช่วยคลายเหงาของฉันเลยก็ว่าได้ เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องมีอยู่แล้วในเมืองนี้ ถ้าเป็นรินจังก็น่าจะเป็น "กรรณะ" ที่เป็นAIที่เงียบๆแต่ก็เฮฮาได้อยู่บ้างนิดหน่อยละมั้ง?
"พ่อฉันเอาของฝากมาน่ะไม่รู้ว่าเป็นอะไรแต่ดูท่าว่าจะหน้าสนใจไม่ใช่น้อยเลยละนะ"
ว่าให้แล้วโทโมเอะก็เดินเข้ามาทางฉันำร้อมกับสายตาบางอย่างที่วิเคาระห์อะไรบางอย่างไปด้วย
"ดูท่าว่าจะเป็นวีดีโอเกมละมั้งค่ะ?"
"เอ๋! ขนาดโทโมเอะยังตรวจสอบไม่ได้เลยเรอะ?"
"ขออภัยเป็นอย่างสูงค่ะนายหญิง"
เธอโค้งก้มลงขอโทษออกมา แต่ฉันก็ไม่สนใจเรื่องนั้นก่อนที่จะหยิบของสิ่งนั้นออกมาจากถุงกระดาษสีน้ำตาลนั้น ก่อนที่จะเอาไปวางไว้บนเตียงและชำแหละกล้องพัสดุนั้นออกมาและฉันก็ได้หยิบของสิ่งนั้นมาดู
"นี่คืออะไรนะ?"
สิ่งที่อยู่ในมือฉันคือกระดาแผ่นสีไม้แท้นี้ และก็พอเปิดไปอีกหน้ากลับไม่มีตัวอักษรอะไรเขียนไว้เลยสักนิดเดียว
"เป็นภาษาอะไรกันน่ะ?"
"ภาษาฝรั่งเศษค่ะ แปลว่านี่คือคำเตือน"
"นี่มันยังไงกันเนี่ย..."
ฉันจ้องเล็งสิ่งนี้ที่อยู่ในมือต่อไปด้วยอะไรบางอย่างที่มันดึงดูดใจซะเหลือเกิน แต่ในกล่องนั้นก็ทีกระดาษอยู่แผ่นนึงที่เก็บไว้อยู่ มันคือจดหมายที่พ่อฉันมักจะส่งมาให้ทุกๆครั้งที่เค้าส่งของมาให้
ฉันกลืนน้ำลายลงไปดัง"อึก! " แล้วก็ตัดสินใจเปิดผนึกซองจดหมายนั้นออกมาอ่าน...
____________________________________________________
ถึงชิอาเสะ ไครินะ
นี่เป็นของที่แม่ของลูกฝากเอาไว้ให้ก่อนที่เธอจะจากไป มันเป็นของที่จะถูกส่งให้ลูกในตอนที่ลูกอายุครบ15ปีในปีนี้ และย้ำเตือนว่ามันสำคัญมากๆ พ่อเองก็ไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไรแต่ว่าพ่อเชื่อว่ามันจะสามารถพาลูกพ้นภัยได้นะ และพ่อจะยังไม่กลับมาเร็วๆนี้ เพราะนั้นพ่อขอโทษนะลูก
จากชิอาเสะ ไดจิ
____________________________________________________
หลังจากที่อ่านจบแล้วนั้นฉันก็พับกระดาษแผ่นนี้เอาไว้พร้อมๆกันกับจดหมายเตือนฉบับนั้นไปด้วย แล้วก็ยื่นให้กับแม่บ้านAIของฉันไป
ของจากแม่เรอะ? สารภาพเลยว่าฉันไม่เคยเจอเธอมาตั้งแต่เด็กแล้ว พ่อบอกว่าเธอจากไปหลังจากที่คลอดฉัน และพ่อก็ไม่เคยเล่าเรื่องแม่ให้ฟังเลยสักนิดเดียว
ที่แน่ๆคือเธอตั้งใจจะเก็บความลับแบบนี้ไปถึงไหนกัน เพราะตอนที่ฉันอายุได้10ขวบก็มีของบางอย่างคล้ายกับวงจรเวทอะไรซัก ที่ทำมาจากปรอทซึ่งก็ถูกเก็บไว้ที่นี่เหมือนกัน
"เห่อ~...ทำไหมไม่เคยบอกอะไรหนูเลยละแม่"
ฉันนอนเอาหน้าแนบกับขอบเตียงด้วยความเหน็ดเหนื่อย โดยที่โทโมเอะก็เอาซีสเค้กมาให้กับฉัน ที่นอนหมดอาลัยตายอยากอยู่
"สุขสันต์วันเกิดค่ะนายหญิง"
"อ่า~อย่างน้อยก็มีชีสเค้กมาปลอบใจก็ดีหน่อยแล้วละ น่าเสียดายจริงๆที่รินจังกับซากุระจังไม่ว่างมาน่ะ แบบนี้ฉลองคนเดียวจะไปสนุกยังไงกันละเนี่ย"
ฉันบ่นยาวออกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อย ก่อนที่จะหยิบซ้อมออกมาทานเค้กที่อยู่ในถาดนั้นคนเดียวไปอย่างเหงาหง่อยในสายตาของAIแม่บ้านของฉันที่ยืนยิ้มอยู่
ความคิดเห็น