ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fate/The dreammer "คำปรารถนาแห่งความหวัง"

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่1 :เรื่องราวที่ถูกลืมเลือน

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.พ. 65


    เมื่อ120ปีก่อน สมาคมจอมเวทแห่งหอนาฬิกา กับตระกูลจอมเวทนอกสังกัดหลายตระกูลจากฝั่งตะวันตก ได้ก่อตั้งเมืองแห่งนึงขึ้นในดินแดนอาทิตย์อุทัย โดยที่ทั้งหมดนั้นร่ายเวทมนต์สร้างเขตแดนศักดิ์สิทธิ์ ป้องกันภัยอันตรายและภูติผีวิญญาณไว้ทำให้ภายในเมืองนั้นไร้ซึ่งเหตุร้ายต่างๆนานา ทำให้ความเจริญนั้นก้าวหน้าขึ้นไปอย่างรวดเร็ว 

    แต่นั้นก็แค่ฉากหน้าเท่านั้น

    มีพิธีกรรมต้องห้ามของทางหอนาฬิกานั้นเกิดขึ้นทุกๆ15ปี โดยครั้งแรกนั้นเกิดขึ้นทันทีที่เมืองถูกก่อตั้งขึ้นมา และดำเนินมาเรื่อยๆ โดยที่เหล่าผู้คนที่ใช่ชีวิตอยู่ในเมืองนั้นกลับ ไม่สนใจหรือนึกได้เลยว่ามันเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว ที่เหตุการณ์นองเลือดนี้ได้เกิดขึ้น 


    สงครามจอกครั้งที่8...

    ในเมืองคาซาโอกิกลางถนนใหญ่เต็มไปด้วยตึกและ บ้านไร้ผู้อาศัยในช่วงข้ามคืน ที่ไร้ซึ่งแสงดวงจันทร์หรือแสงดวงดาราใดๆ 

    มาสเตอร์ผู้เหลือรอดทั้ง2คนนั้นได้ต่อสู้กันด้วยวิญญาณวีระชนที่ตัวเองอัญเชิญมาจน ตึกและบ้านเมืองนั้นพังทะลายระเนระนาดเป็นซากกันไปหมด 

    และนี้คือการผเด็จศึก...

    "แคสเตอร์ด้วยเรจูนี้ข้าขอบัญชา ปลดปล่อยพลังทั้งหมดของเจ้าออกมาซะ!"

    สิ้นคำสั่งการของหญิงผมสีดำสั้นปะไหล่ ไว้หน้าม้าปิดหน้าผาก ในชุดคลุมสีขาวที่มีไม้กางเขนเป็นตัวยึดเสื้อคลุมที่บริเวณอกในวัย15ปี สัญลักษณ์บนฝ่ามือซ้ายของเธอก็หายไป1ส่วน3ของทั้งหมด 

    "กู่ก้องด้วยเสียงคำรามแห่งภัยพิบัติ จุดจบของผู้โง่งมทั้งหลาย ข้าผู้ที่จะเป็นคนกำหนดมันด้วยเจตจำนงแห่งทานาทอส mástiga tou thanátou (มาสติก้า โทว์ ทาห์นาโทว์!!) "

    สิ้นเสียงของจอมเวทชายในชุดคลุมสีดำปิดหน้ามีไม้เท้าที่ปลายสุดของไม้เท้านั้นเป็นใบดาบ ได้แทงอาวุธนั้นเข้าหาตัวเองจนของเหลวสีแดงนั้นพุ่งออกมาจากบาดแผล ย้อมพื้นที่ในระยะ5เมตรให้เต็มไปด้วยเลือด 

    และทันใดนั้นเอง ก็เกิดแผ่นดินไหวไปในบริเวณรอบๆ อย่างรุนแรงจนเกิดแผ่นดินแยกนำพาร่างสังเวยนั้น ลงไปในหุบเหวของสิ่งนั้น และสิ่งที่ตามมานั้นทำให้ชายผมสีแดงสดดวงตาสีเหลืองน้ำผึ้งนั้นผวากับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้

    "นี่มัน..."

    "ชิโร่!"

    หญิงสาวผมสีเหลืองทองมัดมวยไว้ด้านหลังในชุดสีน้ำเงินสไตล์ผู้ดีอังกฤษ ที่ถูกสวมทับด้วยชุดเกราะสีเงิน พร้อมกับดาบคู่ใจที่อยู่ในมือของเธอ ที่สว่างดังแสงอันอบอุ่นเป็นสีทอง ทักเรียกผู้เป็นนายของเธอไป

    ชายคนนั้นที่ได้ยินสิ่งที่เธอพูดออกมาก็ดึงสติของตัวเองกลับมาให้เข้าที พร้อมกับยกแขนซ้ายของเค้าคนนั้นขึ้นมาที่มีสัญลักษณ์เป็นดาบ ที่สัญลักษณ์นั้นเจือจางไปบริเวณด้ามดาบขวา ทำให้เหลือแค่ตัวดาบที่ยังคงเป็นสีแดงสดอยู่ เริ่มสังการเธอที่เรียกขานเค้ามาโดยวิธีแบบเดียวกันกับหญิงผมสั้นดีดำคนนั้น

    "เซเบอร์! อนุมัติใช้โฮกุได้!"

    "รับทราบ!"

    หลังจากขานรับออกไปแล้วนั้น แสงสว่างทั่วทุกบริเวณที่ส่องสว่างเป็นสีเดียวกับดาบของเธอ ถูกรวบรวมออกมาที่ใบดาบ กลายเป็นดาบแสงยักษ์ที่ส่องสว่างเพื่อฉีกกระชากความมืดในสิ้น

    ในหลุมลึกในหุบเหวนั้นก็ได้มีร่างของผู้ที่สังเวยตัวเองนั้นโผล่เหนือขึ้นมาในรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป 

    เกราะแขนสีดำปิดไว้ที่ต้นแขนทั้ง2ข้างมีอักษรกรีกโบราณเขียนว่า "θάνατος" ที่อกนั้นเป็นแผลเวอะจนเห็นมองทะลุไปยังพืนฟ้าในยามสนธยา ถูกผ้าคลุมสีม่วงลายทองตัดเส้นผ้าปิดคลุมร่างกายส่วนนั้นเอาไว้ พร้อมกับร่างกายส่วนล่างที่ไร้ซึ่งขาและลำตัว  

    ใบหน้าที่ถูกผ้าคลุมปิดไว้เปิดออกมาเพราะแรงลมและฝนพายุที่กระหน่ำลงมาอย่างฉับพลัน ทำให้เห็นนัยตาขาวสีดำ และนัยตาดำนั้นเป็นสีฟ้าครามสว่างดังดวงวิญญาณของผู้วายชน ใบหน้าสีขาวซีดไร้อารมณ์ ถูกปิดลงไว้ด้วยผมสีเถ่ากระดูก

    เทพแห่งความตายทานาทอส เทพผู้เกลียดชังเหล่ามนุษย์ได้ปะทับร่างสังเวย จุติมาจากโลกใต้ดินเพื่อนำความตายมาสู่ฝั่งตรงข้าม ผู้ที่บังอาจมาต่อกรกับเค้าคนนั้น

    "ราชาอัศวินเอ๋ย เจ้าต้องถูกโอบกอดและหลับไหลชั่วนิรันด์ในความตายที่ฆ่าประทานให้กับเจ้า"

    แคสเตอร์คนนั้นกล่าวมาอย่างเรียบๆ พร้อมกับเกราะแขนขวาที่ถ่วมด้วยเพลิงชำระสีดำทมิฬ สรรสร้างเป็นเคียวของยมทูตที่ประดับไปด้วยอัญมณี สีแดง ฟ้า เขียว ม่วง เหลือง ที่คมมรณะนั้นโดยที่ด้ามจับนั้นเองก็เป็นทองคำจากยมโลกบริสุทธิ์แท้ 

    และทันทีความตายนั้นก็ได้ยิ้มออกมากับอาวุธคู่ใจของตัวเองที่ตอนนี้นั้นโหยหาความตายของเหยื่อที่จะถูกสังเวย

    "เอาล่ะราชาวีระชนอาเทอร์เรีย เพนดราก้อน เจ้าจะหนีความตายพ้นรึไหม!"

    หมอกสีดำนั้นปลดปล่อยออกมาจากท่อนล่างอันว่างเปล่าปลกคลุ่มไปทั่วบริเวณสายตาจนการมองเป็นนั้นผล่ามั่วไปหมด

    "...!"

    เด็กสาวในชุดเกราะหน้าตึงเครียดเหงื่อตกขึ้นมาในทันที แต่ว่าในใจก็รู้ดีว่าเธอนั้นถอยไม่ได้อีกแล้ว เพราะนี้จะเป็นดาบสุดท้ายที่จะฟาดฟันเพื่อมาสเตอร์ของเธอ 

    เพื่อความฝั่นของมาสเตอร์เธอจะแพ้ตรงนี้ไม่ได้

    "ย้าาาาาาา!!!"

    ราชาวีระชนกู่ร้องออกมาอย่างสุดเสียง แสงสว่างในดาบที่จับด้วยมือทั้ง2ข้าง เปล่งแสงสว่างให้ยิ่งกว่าเดิมปัดเป่าหมอกสีดำสลายสิ้น 

    ดาบที่จับไว้ยกขึ้นมาพร้อมขานเรียกชื่อดาบในตำนานของเธอออกไปว่า

    "เอ็กซ์!...คาลิเบอร์!!!"

    ตู้ม!! แสงสว่างสุดปลายฟ้าทุ่มลงใส่เทพแห่งความตายที่โอบยิ้มรับสมบัติวีระชนที่แท้จริงของหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นราชา

    "หึ ๆ เจ้าแพ้แล้วละเซเบอร์"

    สิ้นเสียงที่เปล่งออกมาพร้อมกับรอยยิ้มนั้นเอง เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นมา "อ๊าาาา!!!" 

    เสียงร้องนั้นทำให้เธอคนนั้นสลายแสงสว่างที่ใกล้จะผ่าร่างของเทพแห่งความตายไปไม่กี่เซนติเมตร และรีบหันไปทางเสียงร้องนั้นที่ทันเหมือนกับมาสเตอร์ของเธอ

    "ชิโร่!"

    แต่การเผยช่องว่างแบบนั้นคือสิ่งที่ไม่ควรทำในสนามรบอย่างยิ่ง 

    "อึก!..."

    ของเหลวสีแดงไหล่ออกมาจากปากของหญิงสาว 

    สายตาที่ประกายแห่งชีวิตนั้นค่อยๆคลาดไป ของเธอเลื่อนลงมาตรงที่บริเวณอกของเธอที่โดนเจาะทลวงด้วยปลายเคียวอันคมกริบ ตัดขั่วหัวใจของเธอไป

    ทานาทอสเป็นผู้ที่สังหารเธอด้วยตัวเอง เทพแห่งความตายยิ้มเยาะออกมากับเด็กสาวที่หลงรักมาสเตอร์ของเธอไป

    "ฮะ ๆ อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิดเลยจริงๆเลยนะอาเทอร์เรีย ข้าคิดอยู่เลยว่าถ้าข้าสร้างเสียงร้องของมาสเตอร์เจ้า เจ้าก็จะไขว่เขวจริงๆด้วย แต่ก็ไม่คิดว่าจะยอมยกเลิกโฮกุของเจ้าและหันไปปกป้องชีวิตอันน่าสังเวชแบบนั้นน่ะ!"

    "เซเบอร์!!"

    "........?"

    ดวงตาของเทพผู้พรากชีวิตนั้นหันกลับไปหาชายหนุ่มมาสเตอร์ของเธอคนนั้นที่ตะโกนเรียกเธอที่กำลังจะโรยรินไปในทุกวินาที 

    "ชิโร่..."

    "เซเบอร์!!"

    "อย่าเข้ามานะชิโร่..."

    เด็กสาวกล่าวคำยั้นออกมาด้วยเสียงที่ใกล้หมดลม พร้อมดวงตาที่ใกล้จะปิดลงไปในทุกขณะ ภาพของมาสเตอร์ที่รักที่กำลังวิ่งเข้ามาด้วยใบหน้าที่จ้องเข้ามาด้วยความเศร้าที่จะกู่ร้องเสียงตะโกนออกมา

    "ข้าว่าจบแค่นี้เถอะ"

    เทพแห่งความตายจิปากออกมาอย่างไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง และเค้าก็ได้ดึงเคียวมรณะที่เต็มไปด้วยเลือดออกมาจากร่างของวิญญาณวีระชนหญิงที่หน้ามืดลงจากอาการบาดเจ็บขนาดหนัก และกำลังจะล้มลงไปกับพื้น

    ชายหนุ่มผมแดงสั้นมาสเตอร์ของเธอคนนั้นรีบเข้ามารับตัวหญิงสาวไว้ในอ้อมแขนทันที แต่นั้นก็ช้าไปแล้ว

    ราชาอัศวินอาเทอร์เรียสิ้นชีพตั้งแต่การโจมตีนั้นของทานาทอส เธอร่างของเธอกำลังจะสลายไปในอีกไม่ช้า

    "ไม่นะ! ไม่นะ!! เซเบอร์! เซเบอร์!!"

    ชายหนุ่มหลังน้ำตากอดร่างของเธอที่เต็มไปด้วยเลือดที่กำลังจะสลายไปในไม่ช้า สายสัมพัธ์ของเธอและก็เค้าคนนั้นมันจะหายไปตลอดการ มันเป็นเรื่องที่ทั้งเธอและเค้านั้นเจ็บปวดใจอย่างถึงที่สุด

    และสุดท้าย...ร่างของเธอก็ได้สลายไปอย่างสมบูรณ์ในอ้อมกอดของชายที่เป็นมาสเตอร์ของเธอ พร้อมกับเสียงคร่ำคราญอันเจ็บปวดของตัวของชายที่เธอรัก

    "อ๊ากกกกกกก...!!!"

    เสียงร่ำร้องของชายหนุ่มนั้นดังกึกก้องไปทั่วเมืองในคืนที่มืดสนิท ท่ามกลางสายตาของหญิงสาวผู้เป็นมาสเตอร์ของแคสเตอร์ ที่จ้องมองความเจ็บปวดจากการสูญเสียของมาสเตอร์ของเซเบอร์

    มันควรจะจบตรงนี้แล้ว...

    หญิงในชุดคลุมสีขาวหยิบปืนยาวที่ซ้อนไว้ได้แขนเสื้อคลุทของเธอออกมา และกัดฟันเดินไปหาชายหนุ่มที่หมดอาลัยตายอยากสิ้นหวังกับความตายที่พรากชีวิตหญิงที่เค้านั้นอยากจะปกป้อง

    "อาคาชิมะ ชิโร่ มาสเตอร์ของเซเบอร์ลาขาดละนะ..."

    สิ้นเสียงที่พูดออกมาอย่างฝืนอารมณ์ของหญิงคนนั้นแล้ว ไกปืนก็ลั่นออกไปเจาะกะโหลกของมาสเตอร์ชายผมสีแดงจนนอนแน่นิ่งลงไปกับพื้นพร้อมกับเลือดที่ไหลรินออกมาจากแผลเปิดที่หัว 

    และสัญลักษณ์แห่งพันธะสัญญาก็ได้สลายไป และร่างของชายที่ชื่อว่า"อาคาชิมะ ชิโร่" ก็สูญสลายไปแบบเดียวกันกับเซอร์แวนท์ของเค้าเอง

    และมาสเตอร์คนสุดท้ายผู้ยืนหยัดอยู่บนสนามนั้นก็ได้รับรางวัลแห่งชัยชนะมา 

    จอกสีทองล่อยลอยผ่านเมฆในยาวราตรี สว่างไสว่ยิ่งกว่าแสงจันทร์เต็มดวง และหยุดอยู่ที่มือของผู้ชนะในสงครามครั้งนี้

    สายตาของหญิงสาวในชุดคลุมจ้องมองดู จอกสีทองที่สว่างอยู่ในมือของเธออย่างตื่นตา และหลุดคำพูดออหมาอย่างสงสัย

    "นี่คือจอกศักดิ์สิทธิ์?"

    "มาสเตอร์ของแคสเตอร์ ชิมงอิ ยูมิกะ เธอคือผู้ชนะ"

    "........?"

    เธอคนนั้นหันไปตามต้นเสียงที่เรียกเธออยู่ทันทีด้วยสายตาที่รู้สึกรังเกลียดต่อคนคนนั้น

    ชายวัยกลางคนผมสีน้ำตาลจัดทรงปิดหน้าปิดตา พร้อมกับเสียงที่ชวนให้รู้สึกคลื่นไส้ ยิ้มออกมาให้กับความสำเร็จของยูมิกะที่เธอนั้นได้สังหารทุกๆคนและชิงชัยชนะมาได้

    "เธอคงรู้สินะว่าจะต้องทำยังไงน่ะ"

    ชายคนนั้นกล่าวออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูไม่หน้าไว้วางใจเท่าไหร่ แต่เธอนั้นก็รู้ดีว่าเธอนั้นขัดคำสั่งของชายที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้ เพราะแบบนั้นเธอก็เลยหลับตาฝืนใจพูดความปรารถนาต่อจอกศักดิ์สิทธิ์นี้ออกไป

    "จอกศักดิ์สิทธ์ที่บรรดาลทุกความฝันเอ๋ย! ข้าขอวิงวอนต่อคำอธิฐานที่ออกมาจากใจของข้า! เพื่อความฝันและโลกที่สมบูรณ์แบบขอให้เจ้าบรรดาล______ให้แก่ข้าซะ!"

    สิ้นคำขอที่มีต่อจอกนั้นเองเขตแดนเวทมนต์ก็ได้กางออกฟื้นฟูความเสียหายทั้งหมดให้กลับไปอยู่ในสภาพเดิมทั้งหมด และจากนั้นจอกก็ได้ลอยสูงขึ้นไปจากมือท่ามกลางสายตาของทุกคนที่อยู่ในเมืองนี้ ก่อนที่จะหายลับไปในท้องฟ้าที่ดวงอาทิตย์นั้นขึ้นมาต้อนรับวันใหม่

    ร่างกายของทานาทอสเปล่งแสงสีดำออกมาทั่วร่างกาย ซึ่งเจ้าตัวก็ดูเหมือนว่าจะรู้ดีว่ามันถึงเวลาแล้วเพราะหมดสิ้นภาระกิจในฐานะวิญญาณวีระชนของร่างสังเวยแล้ว

    แต่ก็มีเรื่องนึงที่ตัวของเค้านั้นอยากจะถามหญิงสาวออกไปอยู่เหมือนกัน

    "มาสเตอร์ของข้าเอย เจ้าจะทำอย่างไรต่อไปหลังจากนี้อย่างนั้นรึ?"

    คำถามนั้นทำให้เธอผู้ขอพรนั้นนิ่งเงียบก้มหน้าลงไปพักนึง ก่อนที่เธอนั้นจะหันกลับมาหาเซอร์แวนท์ที่ร่วมเป็นร่วมตายกับเธอไปพร้อมกับคำตอบของเธอ

    "ฉันจะใช้ชีวิตต่อไป ในฐานะตัวของฉันเอง...ทานาทอสนายเองก็โหยหาความรักด้วยใช่ไหมละ?"

    "หึ ๆ สมแล้วที่เป็นมาสเตอร์ของข้าน่ะ ข้าเกลียดมนุษย์เพราะพวกมันต่างปฏิเสธความตายที่ข้ามอบให้พวกนั้น และต่างรังเกลียดข้ากันทั้นนั้น ขนาดวิญญาณวีระชนอย่างเซเบอร์เอง ก็เช่นกัน...นางไม่อยากให้มาสเตอร์ของนางตายไป นั้นก็เพราะนางปฏิเสธความตายของเจ้าหนุ่มนั้นจากข้าไงละ"

    "เรอะ...นายเกลียดมนุษย์เพราะแบบนั้นเองสินะ"

    หญิงสาวผมดำดวงตาสีครามหมองลงกับใจจริงๆของวิญญาณวีระชนที่จุติมาเป็นเทพ ซึ่งเทพผมสีเทาเศษกระดูกที่ได้ยืนอย่างนั้นก็ออกอาการไม่ค่อยพึงพอใจเท่าไหร่นัก และก่อนที่ร่างจะสลายไปนั้นเอง แคสเตอร์ก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย

    "รักษาตัวจนกว่าข้าจะรับตัวเจ้าไปด้วยละมาสเตอร์"

    หลังจากที่พูดจบไปนั้นเองร่างนั้รก็ได้สลายไปล่องลอยขึ้นไปบนฟ้ายามราตรีที่มืดมิด และน้ำตาของหญิงสาวคนนั้นก็ไหล่ลงมาด้วยหลากหลายอารมณ์ในตัวของเธอ

    เธอไม่แม้แต่จะเช็ดน้ำตานั้นที่ไหล่ลงมา มันเป็นน้ำตาที่เธอหลั่งออกมาด้วยความสุขที่เธอมี ถึงแม้ว่าความเศร้าจะเกาะกินดวงใจของเธอไปก็ตาม

    ต่อจากนี้ไปเธอจะได้เริ่มใหม่อีกหนนึง โดยที่ลืมเรื่องราวแห่งการนองเลือดนี้ไปให้หมด...









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น
    ×