ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : chapter : 6
   
    ตอนนี้ฉันกับลิซโดนกักตัวไว้ที่โบสถ์อีกครั้ง พวกเราต้องนั่งคุกเข่าเหมือนเดิมฉันที่ทั้งเหนื่อยทั้งเมื่อยแทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว ก็เกิดอยากจะนอนขึ้นมาดื้อๆ
    “แม่หวังว่าลูกทั้งสองคงจะสำนึกผิด และแม่ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่มีครั้งต่อไป ใช่มั้ยลูก”
    ซิสเตอร์หันมาสบสายตาพวกเราสองคน สายตาที่มองมานั้นมันสื่อความหมายว่าหากปฏิเสธลูกโดนสับแน่ หึ หึ หึ หึ !!
   
    “ค่ะ  -_-”
    ฉันกับลิซจำใจต้องตอบรับเช่นกัน จากนั้นไม่นานซิสเตอร์ก็ปล่อยพวกเรากลับหอ ฉันตรงเข้านอนทันทีด้วยความปวดเมื่อยไปทั้งตัว แล้วก็ผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อย
    -นั่นใครน่ะ-
    “นี่ฟังนะ เยนี่ ฉันจะไปชอบยัยนั่นได้ยังไงในเมื่อฉันชอบเธอคนเดียว”
    นั่นเยนี่เด็กห้อง E กับโจอี้นี่ ถึงฉันจะไม่รู้จักเยนี่แต่ก็พอจะรู้มาบ้างว่าเธอเป็นใคร
    “แต่ว่าฉันเห็นว่าเธอสองคนอยู่ด้วยกันบ่อยมากๆ แถมยังมีคนบอกฉันว่าเธอไปเดทกับโยริด้วย”
    แล้วทำไมมีชื่อฉันมาเกี่ยวข้องด้วยล่ะ
    “บ้าน่า ! อย่าคิดมากสิ ฉันก็ควงเล่นๆ แก้เบื่อเท่านั้นแหละแต่ยังไงฉันก็ชอบเธอคนเดียว เข้าใจมั้ย”
    เพราะหน้าตาที่ออกจะน่ารักของเธอแล้ว ก็ไม่แปลกที่โจอี้จะชอบ แต่ฉันแปลกใจนักทำไมหมอนั่นถึงชอบผู้หญิงเรียบร้อยแบบผ้าพับไว้อย่างเยนี่ได้  อ่อ .มันเป็นอย่างนี้เองเหรอ ฉันพอจะปะติดปะต่อเรื่องได้แล้ว สรุปเยนี่เป็นแฟนโจอี้และกำลังหึงที่โจอี้มายุ่งกับโยริ ส่วนโยริที่พูดถึงก็คือฉัน สรุปก็คือที่มันบอกว่ามันไม่มีแฟนมันก็โกหกน่ะสิ หน็อย ! ไอ้เลวเอ๊ย
    “จริงนะ โจอี้ จริงๆนะ เธอไม่โกหกใช่มั้ย”
    “แน่นอน ^_-”
    กรี๊ดดดดด ไอ้โจอี้ แก !!! แกก แกมันเลวที่สุด มีแฟนอยู่แล้วแต่กลับมาหลอกฉันงั้นเหรอ
ให้ตายสิ! ทั้งๆที่ฉันคิดว่า ทั้งๆที่ฉันรักแกเข้าให้แล้วไม่ใช่แค่ชอบแต่ฉันน่ะหลงรักแกเต็มๆแล้ว แต่แกหลอกฉันได้ลงคอ ควงเล่นๆแก้เบื่องั้นเหรอ แกควงฉันเล่นๆตั้ง 3 เดือน 3 เดือนเชียวนะที่ฉันคิดว่าแกคือคนที่ใช่ แต่สุดท้ายแกมันก็แค่ผู้ชาย ผู้ชายที่เลวที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเล้ยย .กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด ..”
    “โยริ !!!! โยริ !! โยริ เป็นอะไรไป !! ตื่นสิ ! อย่าทำให้ฉันตกใจนะ !!!”
    โอยยย .ฉันรู้สึกเหมือนโลกทั้งโลกมันสั่นไปหมด ใครมาทำอะไรกับฉันเนี้ย
    “อ้าว ลิซ เธอเองเหรอ มีอะไรเหรอ”
    “ยังจะมีหน้ามาถามอีก ฉันสิต้องถามเธอว่าเธอเป็นอะไรอยู่ดีๆก็กรี๊ดลั่นห้อง ฉันตกใจแทบแย่”
    ลิซยังคงจับไหล่ทั้งสองข้างของฉันไว้แน่น เมื่อกี้ฉันกรี๊ดลั่นห้องเลยเหรอ เดี๋ยวๆ นึกดีๆเมื่อกี้ฉันทำอะไรอยู่นะ อ่อ ..กำลังฝัน ฝัน ฝันเรื่องนั้นอีกแล้ว ทำไมเรื่องนี้ต้องตามมาหลอกหลอนฉันไม่หยุดไม่หย่อนสักที หลังจากที่ฉันรู้ความจริงฉันก็เอาแต่ฝันถึงเรื่องนี้มาตลอดเหมือนมันคอยตอกย้ำว่าฉันเป็นคนโง่มาตลอด 3 เดือน ฉันเกลียดแกโจอี้! เมื่อไหร่จะออกไปให้พ้นจากชีวิตและจิตใจของฉันสักที !
    “โยริ !! โยริ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
 
    “อะไรลิซ ! ตกใจหมดเลย”
    “เธอเงียบไปทำไมล่ะ แถมยังทำหน้าเหมือนวิญญาณจะออกจากร่างอย่างนั้น”
    “เปล่านี่ ว่าแต่กี่โมงแล้วล่ะ”
    ฉันไม่อยากจะพูดอะไรมากเพราะยิ่งพูดมากก็ยิ่งลืมไม่ได้ หวังว่าต่อไปนี้จิตใจฉันคงจะสงบสักทีนะ เฮ้อ
    “อย่าพึ่งเปลี่ยนเรื่องสิ เธอเป็นอะไรกันแน่ฝันถึงโจอี้เหรอ เรื่องนั้นอีกแล้วเหรอ”
    “ลิซ !! ฉันขอร้อง เลิกพูดถึงโจอี้ได้แล้ว นะถือว่าฉันขอร้อง”
    นอกจากฉันก็ยังมีลิซอีกคนที่รู้เรื่องนี้ ตอนแรกฉันก็จะเก็บเป็นความลับแต่บางทีความลับที่มันทิ่งแทงใจจนเจ็บช้ำ คนเรามันก็ต้องอยากระบายออกมาบ้าง
    “โอเค แต่ว่า ! เธอไม่เป็นไรนะ หน้าแดงไปหมดแล้ว”
    “ไม่หรอก แต่ตอนนี้เธอช่วยออกไปห่างฉันได้มั้ยลิซ ฉันกำลังจะตายเพราะเธอน่ะแหละยัยพะโล้”
    เมื่อกี้ลิซแค่จับไหล่ของฉันทั้งแต่ตอนนี้ลิซขึ้นมาอยู่บนตัวฉันเรียบร้อยแล้ว ฉันสาบานว่าถ้าลิซยังคงนั่งทับฉันต่อไปฉันคงตายไปแล้วแน่ๆ
    “เอ๊ะ ! เธอนี่ยังไงคนอุตส่าห์เป็นห่วง ยังมาหาว่าฉันเป็นพะโล้อีก ยัยคนอกตัญญู !!”
    ยังดีนะที่ฉันยังมีลิซอยู่ด้วย ทำให้ฉันสบายใจขึ้นเยอะอย่างน้อยก็ยังมีคนห่วงฉันอยู่บ้าง ดูสิ ! ฉันน้อยใจตัวเองจริงๆ พ่อแม่ฉันไปอยู่ไหนเนี่ยไม่เคยรู้เล้ยยย ..ว่าลูกสาวตัวเองเป็นยังไง ทิ้งฉันให้มาอยู่ฮ่องกง แถมให้มาอยู่ ร.ร. ประจำที่โหดอย่างกะคุกนี่อีก
    “โยริ วันนี้ ไป shoopy world ฉันจะไปซื้อโลชั่นทาผิว ไปนะๆ ไปด้วยกันหน่อยนะ”
    ลิซเขย่าแขนฉันเหมือนเด็กกำลังอ้อนผู้ใหญ่ เอาเถอะไหนๆวันนี้ก็เป็นวันเสาร์ออกไปเที่ยวซะหน่อยก็ดีเหมือนกัน
    “โอเค แต่เดี๋ยวให้ฉันนอนต่ออีกหน่อยนะ เย็นๆค่อยไปแล้วกัน”
    “ไม่ได้นะโยริ !!! ไม่เอาฉันจะไปเดี๋ยวนี้ตื่นขึ้นมานะ ตื่นขึ้นมา !! โยริอ้ะ”
    ลิซทั้งตีทั้งหยิกฉันจนแดงไปหมด จนฉันต้องจำใจตื่นขึ้นมาทั้งๆที่อยากจะนอนต่อจนถึงพรุ่งนี้ เหอะๆ
                                                (-_-)(-_-)(-_-)(-_-)(-_-)(-_-)(-_-)(-_-)(-_-)(-_-)
    “โอ๊ยย ..ปวดขาไปหมดแล้ว”
    ฉันกับลิซเลือกเข้าร้านคอฟฟี่ ช็อป เพื่อนั่งพักหลังจากที่เดินจนขาลากแต่ยัยคุณหนูลิซก็ยังอยากที่จะซื้อของต่ออีกจำนวนมาก
    “นี่ๆ โยริ อันนี้ยังไม่ได้ซื้อเลย อ้าว อันนี้ด้วย”
    ลิซนั่งทวนรายการของที่จะซื้อซึ่งไม่รู้ว่าเอาเวลาที่ไหนไปนั่งเขียนเหมือนกัน ฉันว่าถ้าดูดีๆมันยาวเฟื้อยประมาณเมตรนึงเลยล่ะ ฉันมองผ่านกระจกข้างร้านออกไปข้างนอก มีแต่คนมากมายเต็มไปหมดวันเสาร์นี่ดีเหมือนกันนะทุกคนเที่ยวได้อย่างสบายใจเพราะไม่มีอะไรต้องแคร์ หลับดึกแค่ไหนก็ได้ไม่ต้องกังวลว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปร.ร. เพราะยังไงวันต่อไปก็คือวันอาทิตย์
    “ใช่จริงๆ ด้วย โยริ ! ดูนั่นสิ”
    “อะไรเหรอลิซ”
    “นั่นเยนี่ไม่ใช่เหรอ เอ .แต่ว่าเห็นเค้าบอกว่าเยนี่อะไรนี่ เรียบร้อยจะตายไปแล้วทำไมถึงออกมาเที่ยวกับผู้ชายได้ มีคนบอกว่าเจ้าหล่อนทำตัวไร้เดียงสามากๆเลยนะโยริ”
    ฉันมองไปทางเยนี่ อ่อ .เยนี่เด็กห้อง E นั่นเอง เยนี่ที่ฉันพูดถึงก็คือแฟนของอิตาโจอี้ที่ฉันเกลียดแสนเกลียดที่โจอี้มันรักนักรักหนาน่ะแหละ แต่ทำไมวันนี้ยัยเยนี่ไม่ได้มากับโจอี้ล่ะ
    “ว๊ายยย ..ตายแล้ว ดูนั่นสิโยริ  เอ๊ะ ! แต่เยนี่เป็นแฟน เอ่อ แฟนโจอี้ไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงมาเที่ยวกับผู้ชายคนอื่น”
    “ก็ดีแล้วนี่ลิซ”
    “ดียังไงเหรอ”
    “ให้ไอ้โจอี้มันรู้ซะบ้าง ว่าโดนคนที่รักนักรักหนาหลอกอ่ะ มันเป็นไง สมน้ำหน้า!”
ฉันมองไปที่เยนี่อย่างสะใจ อย่างน้อยยัยนี่ก็คงจะทำให้โจอี้หัวปั่นได้บ้าง หึ ! อยากรู้ว่ามันจะทำหน้ายังไงถ้ามันรู้ว่าแฟนที่มันรักนักรักหนาออกมาเที่ยวกับผู้ชายคนอื่น
    ตอนนี้ฉันกับลิซโดนกักตัวไว้ที่โบสถ์อีกครั้ง พวกเราต้องนั่งคุกเข่าเหมือนเดิมฉันที่ทั้งเหนื่อยทั้งเมื่อยแทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว ก็เกิดอยากจะนอนขึ้นมาดื้อๆ
    “แม่หวังว่าลูกทั้งสองคงจะสำนึกผิด และแม่ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่มีครั้งต่อไป ใช่มั้ยลูก”
    ซิสเตอร์หันมาสบสายตาพวกเราสองคน สายตาที่มองมานั้นมันสื่อความหมายว่าหากปฏิเสธลูกโดนสับแน่ หึ หึ หึ หึ !!
   
    “ค่ะ  -_-”
    ฉันกับลิซจำใจต้องตอบรับเช่นกัน จากนั้นไม่นานซิสเตอร์ก็ปล่อยพวกเรากลับหอ ฉันตรงเข้านอนทันทีด้วยความปวดเมื่อยไปทั้งตัว แล้วก็ผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อย
    -นั่นใครน่ะ-
    “นี่ฟังนะ เยนี่ ฉันจะไปชอบยัยนั่นได้ยังไงในเมื่อฉันชอบเธอคนเดียว”
    นั่นเยนี่เด็กห้อง E กับโจอี้นี่ ถึงฉันจะไม่รู้จักเยนี่แต่ก็พอจะรู้มาบ้างว่าเธอเป็นใคร
    “แต่ว่าฉันเห็นว่าเธอสองคนอยู่ด้วยกันบ่อยมากๆ แถมยังมีคนบอกฉันว่าเธอไปเดทกับโยริด้วย”
    แล้วทำไมมีชื่อฉันมาเกี่ยวข้องด้วยล่ะ
    “บ้าน่า ! อย่าคิดมากสิ ฉันก็ควงเล่นๆ แก้เบื่อเท่านั้นแหละแต่ยังไงฉันก็ชอบเธอคนเดียว เข้าใจมั้ย”
    เพราะหน้าตาที่ออกจะน่ารักของเธอแล้ว ก็ไม่แปลกที่โจอี้จะชอบ แต่ฉันแปลกใจนักทำไมหมอนั่นถึงชอบผู้หญิงเรียบร้อยแบบผ้าพับไว้อย่างเยนี่ได้  อ่อ .มันเป็นอย่างนี้เองเหรอ ฉันพอจะปะติดปะต่อเรื่องได้แล้ว สรุปเยนี่เป็นแฟนโจอี้และกำลังหึงที่โจอี้มายุ่งกับโยริ ส่วนโยริที่พูดถึงก็คือฉัน สรุปก็คือที่มันบอกว่ามันไม่มีแฟนมันก็โกหกน่ะสิ หน็อย ! ไอ้เลวเอ๊ย
    “จริงนะ โจอี้ จริงๆนะ เธอไม่โกหกใช่มั้ย”
    “แน่นอน ^_-”
    กรี๊ดดดดด ไอ้โจอี้ แก !!! แกก แกมันเลวที่สุด มีแฟนอยู่แล้วแต่กลับมาหลอกฉันงั้นเหรอ
ให้ตายสิ! ทั้งๆที่ฉันคิดว่า ทั้งๆที่ฉันรักแกเข้าให้แล้วไม่ใช่แค่ชอบแต่ฉันน่ะหลงรักแกเต็มๆแล้ว แต่แกหลอกฉันได้ลงคอ ควงเล่นๆแก้เบื่องั้นเหรอ แกควงฉันเล่นๆตั้ง 3 เดือน 3 เดือนเชียวนะที่ฉันคิดว่าแกคือคนที่ใช่ แต่สุดท้ายแกมันก็แค่ผู้ชาย ผู้ชายที่เลวที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเล้ยย .กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด ..”
    “โยริ !!!! โยริ !! โยริ เป็นอะไรไป !! ตื่นสิ ! อย่าทำให้ฉันตกใจนะ !!!”
    โอยยย .ฉันรู้สึกเหมือนโลกทั้งโลกมันสั่นไปหมด ใครมาทำอะไรกับฉันเนี้ย
    “อ้าว ลิซ เธอเองเหรอ มีอะไรเหรอ”
    “ยังจะมีหน้ามาถามอีก ฉันสิต้องถามเธอว่าเธอเป็นอะไรอยู่ดีๆก็กรี๊ดลั่นห้อง ฉันตกใจแทบแย่”
    ลิซยังคงจับไหล่ทั้งสองข้างของฉันไว้แน่น เมื่อกี้ฉันกรี๊ดลั่นห้องเลยเหรอ เดี๋ยวๆ นึกดีๆเมื่อกี้ฉันทำอะไรอยู่นะ อ่อ ..กำลังฝัน ฝัน ฝันเรื่องนั้นอีกแล้ว ทำไมเรื่องนี้ต้องตามมาหลอกหลอนฉันไม่หยุดไม่หย่อนสักที หลังจากที่ฉันรู้ความจริงฉันก็เอาแต่ฝันถึงเรื่องนี้มาตลอดเหมือนมันคอยตอกย้ำว่าฉันเป็นคนโง่มาตลอด 3 เดือน ฉันเกลียดแกโจอี้! เมื่อไหร่จะออกไปให้พ้นจากชีวิตและจิตใจของฉันสักที !
    “โยริ !! โยริ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
 
    “อะไรลิซ ! ตกใจหมดเลย”
    “เธอเงียบไปทำไมล่ะ แถมยังทำหน้าเหมือนวิญญาณจะออกจากร่างอย่างนั้น”
    “เปล่านี่ ว่าแต่กี่โมงแล้วล่ะ”
    ฉันไม่อยากจะพูดอะไรมากเพราะยิ่งพูดมากก็ยิ่งลืมไม่ได้ หวังว่าต่อไปนี้จิตใจฉันคงจะสงบสักทีนะ เฮ้อ
    “อย่าพึ่งเปลี่ยนเรื่องสิ เธอเป็นอะไรกันแน่ฝันถึงโจอี้เหรอ เรื่องนั้นอีกแล้วเหรอ”
    “ลิซ !! ฉันขอร้อง เลิกพูดถึงโจอี้ได้แล้ว นะถือว่าฉันขอร้อง”
    นอกจากฉันก็ยังมีลิซอีกคนที่รู้เรื่องนี้ ตอนแรกฉันก็จะเก็บเป็นความลับแต่บางทีความลับที่มันทิ่งแทงใจจนเจ็บช้ำ คนเรามันก็ต้องอยากระบายออกมาบ้าง
    “โอเค แต่ว่า ! เธอไม่เป็นไรนะ หน้าแดงไปหมดแล้ว”
    “ไม่หรอก แต่ตอนนี้เธอช่วยออกไปห่างฉันได้มั้ยลิซ ฉันกำลังจะตายเพราะเธอน่ะแหละยัยพะโล้”
    เมื่อกี้ลิซแค่จับไหล่ของฉันทั้งแต่ตอนนี้ลิซขึ้นมาอยู่บนตัวฉันเรียบร้อยแล้ว ฉันสาบานว่าถ้าลิซยังคงนั่งทับฉันต่อไปฉันคงตายไปแล้วแน่ๆ
    “เอ๊ะ ! เธอนี่ยังไงคนอุตส่าห์เป็นห่วง ยังมาหาว่าฉันเป็นพะโล้อีก ยัยคนอกตัญญู !!”
    ยังดีนะที่ฉันยังมีลิซอยู่ด้วย ทำให้ฉันสบายใจขึ้นเยอะอย่างน้อยก็ยังมีคนห่วงฉันอยู่บ้าง ดูสิ ! ฉันน้อยใจตัวเองจริงๆ พ่อแม่ฉันไปอยู่ไหนเนี่ยไม่เคยรู้เล้ยยย ..ว่าลูกสาวตัวเองเป็นยังไง ทิ้งฉันให้มาอยู่ฮ่องกง แถมให้มาอยู่ ร.ร. ประจำที่โหดอย่างกะคุกนี่อีก
    “โยริ วันนี้ ไป shoopy world ฉันจะไปซื้อโลชั่นทาผิว ไปนะๆ ไปด้วยกันหน่อยนะ”
    ลิซเขย่าแขนฉันเหมือนเด็กกำลังอ้อนผู้ใหญ่ เอาเถอะไหนๆวันนี้ก็เป็นวันเสาร์ออกไปเที่ยวซะหน่อยก็ดีเหมือนกัน
    “โอเค แต่เดี๋ยวให้ฉันนอนต่ออีกหน่อยนะ เย็นๆค่อยไปแล้วกัน”
    “ไม่ได้นะโยริ !!! ไม่เอาฉันจะไปเดี๋ยวนี้ตื่นขึ้นมานะ ตื่นขึ้นมา !! โยริอ้ะ”
    ลิซทั้งตีทั้งหยิกฉันจนแดงไปหมด จนฉันต้องจำใจตื่นขึ้นมาทั้งๆที่อยากจะนอนต่อจนถึงพรุ่งนี้ เหอะๆ
                                                (-_-)(-_-)(-_-)(-_-)(-_-)(-_-)(-_-)(-_-)(-_-)(-_-)
    “โอ๊ยย ..ปวดขาไปหมดแล้ว”
    ฉันกับลิซเลือกเข้าร้านคอฟฟี่ ช็อป เพื่อนั่งพักหลังจากที่เดินจนขาลากแต่ยัยคุณหนูลิซก็ยังอยากที่จะซื้อของต่ออีกจำนวนมาก
    “นี่ๆ โยริ อันนี้ยังไม่ได้ซื้อเลย อ้าว อันนี้ด้วย”
    ลิซนั่งทวนรายการของที่จะซื้อซึ่งไม่รู้ว่าเอาเวลาที่ไหนไปนั่งเขียนเหมือนกัน ฉันว่าถ้าดูดีๆมันยาวเฟื้อยประมาณเมตรนึงเลยล่ะ ฉันมองผ่านกระจกข้างร้านออกไปข้างนอก มีแต่คนมากมายเต็มไปหมดวันเสาร์นี่ดีเหมือนกันนะทุกคนเที่ยวได้อย่างสบายใจเพราะไม่มีอะไรต้องแคร์ หลับดึกแค่ไหนก็ได้ไม่ต้องกังวลว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปร.ร. เพราะยังไงวันต่อไปก็คือวันอาทิตย์
    “ใช่จริงๆ ด้วย โยริ ! ดูนั่นสิ”
    “อะไรเหรอลิซ”
    “นั่นเยนี่ไม่ใช่เหรอ เอ .แต่ว่าเห็นเค้าบอกว่าเยนี่อะไรนี่ เรียบร้อยจะตายไปแล้วทำไมถึงออกมาเที่ยวกับผู้ชายได้ มีคนบอกว่าเจ้าหล่อนทำตัวไร้เดียงสามากๆเลยนะโยริ”
    ฉันมองไปทางเยนี่ อ่อ .เยนี่เด็กห้อง E นั่นเอง เยนี่ที่ฉันพูดถึงก็คือแฟนของอิตาโจอี้ที่ฉันเกลียดแสนเกลียดที่โจอี้มันรักนักรักหนาน่ะแหละ แต่ทำไมวันนี้ยัยเยนี่ไม่ได้มากับโจอี้ล่ะ
    “ว๊ายยย ..ตายแล้ว ดูนั่นสิโยริ  เอ๊ะ ! แต่เยนี่เป็นแฟน เอ่อ แฟนโจอี้ไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงมาเที่ยวกับผู้ชายคนอื่น”
    “ก็ดีแล้วนี่ลิซ”
    “ดียังไงเหรอ”
    “ให้ไอ้โจอี้มันรู้ซะบ้าง ว่าโดนคนที่รักนักรักหนาหลอกอ่ะ มันเป็นไง สมน้ำหน้า!”
ฉันมองไปที่เยนี่อย่างสะใจ อย่างน้อยยัยนี่ก็คงจะทำให้โจอี้หัวปั่นได้บ้าง หึ ! อยากรู้ว่ามันจะทำหน้ายังไงถ้ามันรู้ว่าแฟนที่มันรักนักรักหนาออกมาเที่ยวกับผู้ชายคนอื่น
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น