ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : chapter : 4
    “ลิซ เร็วๆหน่อย มัวอืดอาดเดี๋ยวก็โดนจับได้พอดี”
    ตอนที่พวกเรากลับมามันเลยเวลาเที่ยงคืนไปแล้วประตูจึงปิดหมดแล้ว ฉันปีนกำแพงด้านหลังของ ร.ร. ไปได้แล้วแต่หยุดรอลิซที่กำลังเงอะๆงะๆ ไม่รู้ว่าจะทำยังไง จึงทำให้ฉันต้องปีนกลับมายืนอยู่บนกำแพงใหม่
    “คือ .โยริ ฉะ .ฉันปีนไม่ได้หรอก ฉันกลัว”
    ลิซมีท่าทีกลัวจริงๆ เกิดจะมาคุณหนูลงตับอะไรตอนนี้ล่ะยัยลิซ
    “นี่ลิซ ! ฟังนะ เธอจะปีนขึ้นมาดีๆ หรือจะรอให้ซิสเตอร์มาเจอพวกเราก่อน หะ!”
    “ก็ฉันปีนไม่เป็นนี่ ! ฉันกลัวอ้ะ ฮือออ ..แม่จ๋า ช่วยหนูด้วย”
    ฉันเอือมระอากับลิซจริงๆ ฉันจึงปีนกำแพงลงมาที่เดิมอีกครั้งแล้วพยายามฉุดลิซให้ปีนขึ้นไปแต่ลิซไม่ยอมท่าเดียว
    “ลิซ เร็วๆสิ ฉันจะดันเท้าเธอให้เองไม่ต้องกลัวเหยียบมือฉันเอาไว้ก็ได้”
    “ไม่อ๊าววววว ..ไม่เอา ฉันกลัว”
    “ลิซ ! เธอจะขึ้นไปดีๆ หรือจะให้ฉันจิกหัวลากเธอขึ้นไป หะ !”
    “เดินเข้าประตูหน้าก็ได้นะลูก”
    “ลิซ เธอพูดบ้าอะไรอีกล่ะก็ประตูมันปิดหมดแล้วจะเดินเข้าทางไหนมิทราบย๊ะ”
    “อ๊า .ฉันไม่ได้พูดสักหน่อย”
    “ตลกน่าลิซ แล้วใครพูดล่ะ”
    ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าขนลุขซู่ไปทั้งตัวแล้ว แถมฉันยังรู้สึกว่ามีคนมองมาทางนี้อีกด้วย พระเจ้า ! ช่วยลูกด้วยเถอะค่ะ แล้วลูกกับลิซ [ลิซ : ลากฉันมาเกี่ยวด้วยทำไมย๊ะ !] จะไปทำความสะอาดโบสถ์ให้นะคะ
    “แม่พูดเอง ตามแม่มาทางนี้สิลูกทั้งสอง”
    ฮ่ะๆ ฉันขอหัวเราะก่อนที่ฉันจะไม่ได้หัวเราะอีกเลยในวันนี้ ซิสเตอร์คนนี้ใส่แว่นแบบนี้มีคนเดียวเท่านั้นแหละ ก็ไม่โหดเท่าไหร่หรอกนะ แค่ทำโทษนักเรียนโดยการให้ทำความสะอาดโบสถ์ 1 เดือนเท่านั้นเองแถม 3 เวลาหลังอาหารอีกต่างหาก ฮ่ะๆ รู้สึกว่าความปรารถนาของฉันที่บอกว่าจะไปทำความสะอาดโบสถ์หากพระเจ้าช่วยฉันจะเป็นจริงแล้วสิ แต่ ! พระเจ้ายังไม่ได้ช่วยอะไรฉันเลย พระเจ้าไม่ยุติธรรม
    “ฮืออออ .ฉันขอโทษนะโยริ ฮืออ ”
    ลิซเกิดบ่อน้ำตาแตกเอาดื้อๆ ขณะที่เราสองคนเดินตามซิสเตอร์ไปฉันก็ได้แต่เงียบพยายามจินตนาการชะตากรรมที่จะเกิดขึ้นภายในอีกไม่กี่นาทีต่อจากนี้
    “แม่จะไม่ถามว่าลูกสองคนไปทำอะไร ที่ไหน แม่เพียงปรารถนาให้ลูกทั้งสองสารภาพบาปต่อหน้าพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น”
    “แค่นี้เองเหรอคะ ซิสเตอร์ เห็นมั้ยโยริ แค่นี้เองไม่มีอะไรต้องกลัวหรอก”
    ถึงลิซจะพูดอย่างนั้นแต่ฉันก็รู้สึกว่ามันไม่ได้มีแค่นี้หรอก  แบบนี้มันง่ายเกินไป ไม่ใช่ๆ ต้องไม่ใช่แค่นี้แล้วก็
    “ให้ลูกทั้งสองคุกเข่าอยู่ตรงนี้จนกว่าแม่ ‘จะบอกให้พอ’ ”
    นั่นไงล่ะ ๆ ซิสเตอร์จงใจเน้นว่า จนกว่าจะบอกให้พอ ให้พวกเราได้สั่นสะท้านไปทั้งหัวใจเลยล่ะ ยึ๋ย !
    “เอาล่ะถึงเวลาที่ลูกจะสารภาพบาปที่ลูกได้กระทำต่อหน้าพระผู้เป็นเจ้าแล้ว ขอให้ลูกนั่งคุกเข่า เดี๋ยวนี้”
    พอพวกเรานั่งคุกเข่าลงซิสเตอร์ก็เดินออกไปแต่ยังไม่วายหันหน้ามามองพวกเราทำหน้าเหมือนจะพูดว่า
    -อย่าให้แม่รู้ว่าลูกหยุดคุกเข่า หรือหลับในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี่เชียวนะ หึ หึ หึ-
    “เป็นไงล่ะลิซ เป็นไงล่ะ หัวเข่าที่น่าสงสารของฉัน เพราะเธอคนเดียวเลยลิซ บอกให้ปีนก็ไม่ปีนเธอนี่มันน่านัก”
    ฉันเอามือเขกหัวลิซไปหลายที ด้วยความเมามันส์
    “โทษฉันคนเดียวได้ไง ใครกันที่เป็นคนชวนออกไป หะๆ ใครกันๆ นี่แน่ะๆ”
    ยัยบ้าลิซก็เขกหัวฉันไปหลายทีด้วยความเมามันส์เช่นกัน พอเวลาผ่านไปสักพักเราสองคนก็เริ่มง่วง
    “ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ลูกไม่ได้ทำความผิดอะไรเลยนะคะเพียงแต่ลูกหลงผิดไปตามคำชวนของเพื่อนเท่านั้นขอพระผู้เป็นเจ้าอภัยให้ลูกด้วยเถอะค่ะ”
    แหม ! ลิซ ให้มันได้อย่างนี้สิ
    “ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ลูกก็ไม่ได้ทำความผิดเหมือนกันค่ะเพียงแต่ลูกต้องการจะผ่อนคลายความเครียดเท่านั้น  อ้อ ! แล้วคนที่ทำให้ลูกเครียดก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลแถวนี้แหละค่ะ สาเหตุที่แม่คนนั้นรู้ว่าใครปองร้ายลูกแล้วไม่ยอมบอกลูก”
    ฉันไม่ยอมหรอกจะเอาตัวรอดคนเดียวเหรอยัยลิซ
    “ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ! ลูกไม่ได้ตั้งใจนะคะลูกแค่ไม่อยากให้แม่คนนั้นมีเรื่องกับนายนั่นก็เท่านั้นเองค่ะ”
    ดูเหมือนลิซยังไม่ยอมหยุด ยังจะยืนยันว่าตัวเองไม่ผิด
    “ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ยังไงลูกก็ขอยืนยันว่าลูกไม่ผิดขอให้ลูกไม่ต้องถูกทำโทษว่าด้วยวิธีการโหดร้ายใดๆก็ตามด้วยเถอะค่ะ กราบอธิษฐานทูลขอในนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน”
    “ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า .”
    “พอแล้วลิซ ! ผิดด้วยกันทั้งคู่แหละเอาเป็นว่าคืนนี้อย่าหลับแล้วกันไม่งั้นซิสเตอร์มาเห็นพวกเราหลับล่ะก็ เหอะๆ ไม่ใช่แค่โบสถ์หรอกนะแต่เราคงจะทำทำความสะอาดทั้ง ร.ร. เลยล่ะ”
    ฉันนึกภาพที่ฉันกับลิซ คอยขัดพื้นตามคำสั่งของซิสเตอร์ หว๋าาา ..เป็นภาพที่โหดร้ายชะมัด
    -เช้าวันต่อมา-
    โยริ “ZzzzzzzZZzZZzzzzz”
    ลิซ “ZzzzzzzZZzZZzzzzzZZZzzzzzzZZzz”
    “อะฮึ่ม !”
    เอ๋ ..ฉันรู้สึกเหมือนเสียงใครมากระแอมแถวนี้นะ ว่าแต่ทำไมมันหนักๆตรงไหล่จังเลย หืมม ..ง่วง
    “ยะ โยริ โยริ ตื่นสิ”
    ลิซเขย่าหัวฉันอย่างไม่ปราณีทำให้ฉันต้องตื่นขึ้นมาด้วยความขุ่นเคือง
    “ห้าวววว .อะไรลิซ ยังง่วงอยู่เลย”
    “แม่อยากให้ลูกตามแม่มาเดี๋ยวนี้”
    สายตาอำมหิตของซิสเตอร์ทำให้ฉันสั่นสะท้านไปทั้งหัวใจอีกแล้วฉันตื่นขึ้นมาอย่างไม่มีอาากรสะลึมสะลือเมื่อเห็นหน้าซิสเตอร์ คราวนี้ล่ะบทลงโทษที่แท้จริง ฉันกับลิซเดินต้อยๆตามซิสเตอร์ไปท่ามกลางสายตาของเหล่านักเรียนที่มองมาด้วยความสมน้ำหน้า เหอะ !
    “ลิซ เธอปวดหัวเข่ามะ” ฉันกระซิบถามในขณะที่เดินตามซิสเตอร์ไปอย่างไม่รู้หนทางเบื้องหน้า
    “ปวดสิ จะเดินไม่ไหวอยู่แล้ว”
    เป็นจังหวะที่ซิสเตอร์หันมาพอดี เราสองคนสะดุ้งเฮือกรีบหันหน้าไปคนละทาง อยู่ๆซิสเตอร์ก็หยุดเดิน ฉันเห็นผู้ชาย 2 คนนั่งคุกเข่าหันหลังอยู่ข้างๆมาสเซอร์ของ ร.ร. ชาย และข้างๆนักเรียนชายสองคนนั้นมีนักเรียนชายท่าทางเหมือนกรรมการนักเรียนยืนอยู่สองคน หลังจากนั้นก็มีกรรมการนักเรียนของ ร.ร. ฉันมาอีกสองคน  แล้วซิสเตอร์กับมาสเซอร์ก็เดินกลับหน้าตาเฉย
    “เอาล่ะ เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า”
    หนึ่งในกรรมการของ ร.ร. ชายเริ่มพูดดูเหมือนทั้ง 4 คนจะตกลงปลงใจกันได้แล้ว บทลงโทษทั้งหมดคือ ให้ฉันกับลิซ และนักเรียนชายสองคนนั้นซักชุดนักเรียนทั้งหมดที่กองเป็นภูเขาอยู่หลังตึกนั้น ฉันไม่ได้เวอร์นะ แต่มันกองเป็นภูเขาจริงๆ สาบานได้เลยล่ะ แล้วกรรมการทั้งสี่คนก็แยกย้ายกันกลั่บถิ่นทิ้งให้เรา 4 คนยืนห่อไหล่อยู่อย่างนั้น
    “นี่มันรวมกันหมดเลยนี่หว่า แล้วแมวที่ไหนจะทำไหววะ !”
    พออิตาผู้ชายคนที่พูดนี่หันมาฉันก็แทบจะกรี๊ดออกมาให้ได้ ให้ตายสิ ! ทำไมถึงหนีนายไม่พ้นสักทีนะ ฮึ่ม !
    “อ้าว !!”
    นายโจอี้ชี้มาที่ฉัน ชีวิตนายพูดเป็นแต่คำว่า อ้าว รึไงยะเห็นหน้าฉันเมื่อไหร่ก็ อ้าวๆๆๆๆ อยู่นั่นแหละ
    “อย่าพูดมากเลย เราต้องรีบซักไอ้ชุดพวกนี้นะ ก่อนที่ .อ้าว ! ลิซ เธอก็ด้วยเหรอ”
    พออิตาผู้ชายที่ยืนข้างๆนายโจอี้หันมามันก็ทำให้ฉันกับลิซอึ้งกำลังสอง เพราะนักเรียนดีเด่นเรียนเก่งหัวดี อย่าง มาร์ค โดนทำโทษด้วยรึนี่
    พระเจ้าช่วย !!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น