ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    coz I love you เกลียดชะมัด ! แต่ก็รักหมดใจ

    ลำดับตอนที่ #10 : chapter : 10

    • อัปเดตล่าสุด 25 ส.ค. 48






        ฉันไม่โผล่หน้าไปซ้อมละครมาได้ประมาณ 3 วันแล้วล่ะ ก็คนมันเหนื่อยนี่นาขอให้ฉันได้พักซะบ้างเถอะเช้าวันนี้ฉันมีเรียนมา 2 คาบแต่ก็เหมือนบทเรียนจะไม่ซึมเข้าสู่หัวสมองอันน้อยนิดของฉันบ้างเลย ฉันหิวมากๆ เพราะตอนเช้าไม่มีอารมณ์กินข้าวเลยไม่กิน ตอนนี้ฉันหิวชะมัด รู้งี้กินซะก็ดี ท้องร้องใหญ่แล้ว….. และในที่สุดก็ถึงเวลาพัก



        “ลิซ ไปหาไรกินกันเถอะ ฉันหิว”



        “ฉันก็หิวเหมือนกัน เอ่อนี่ ! โยริ เธอได้บทรึยัง”



        “บทอะไรเหรอ ?”



       “ตายแล้ว ! นายปลวกนั่นยังไม่เอาบทให้เธออีกเหรอ”



        “นายปลวก ? ใครกันเหรอ”



        “ก็นายปลวกนั่นไง อิตาประธานนักเรียนฝั่งชายน่ะ”



        “แล้วทำไมไปเรียกมันว่า นายปลวกล่ะ”



        “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันอ่ะ แต่ปลวกมันชอบกินไม้ใช่มั้ยล่ะอิตานี่ก็ชอบกินแรงคนอื่นฉันเลยแอบเรียกมันว่านายปลวก”



        “โอ้โห ลิซ ! หัวครีเอทมาก นับถือๆ ว๊าย !!”

        โอยยยย…….เจ็บชะมัดเลย ไหนขอดูหน้าหน่อยเถอะซุ่มซ่ามจริงๆเลย



        “ขอ….ขอโทษค่ะ”

        ฉันกำลังจะหันไปด่าคนที่เดินชนฉันแต่ว่าฉันต้องหยุดชะงักเอาไว้เพราะเธอคนนั้นกำลังร้องไห้ และเธอคนนั้นที่กำลังร้องไห้ก็คือ เยนี่ แฟนเก่าโจอี้นั่นเอง เธอขอโทษฉันแล้ววิ่งหนีไปทันที



        “เค้าร้องไห้ทำไมเหรอ”



        “ฉันจะไปรู้ได้ไงล่ะลิซ ก็อยู่ด้วยกัน อย่าสนใจเลยตอนนี้ฉันหิวจะแย่อยู่แล้ว”

        จริงๆ ฉันก็อยากรู้นะว่าเยนี่ร้องไห้ทำไม ตามประสาคนที่อยากรู้อยากเห็นเหมือนชาวบ้านคนอื่นอ่ะแหละ แต่เก็บไว้ก่อนตอนนี้หิว ระดับความหิวของฉันตอนนี้ก็คงกินวัวได้ทั้งตัวเลยแหละ



        ฉันซื้อไส้กรอกชีส แซนด์วิชแฮมแล้วก็ยังมีไก่ทอด และน้ำส้มอีก 1 แก้วด้วย ส่วนลิซก็กินไก่ทอดหมดไป 3 ชิ้นแล้ว ตอนนี้ฉันกำลังสวาปามไก่ทอดด้วยความหิวอย่างรุนแรง ฉันกำลังกำลังคิดว่าฉันยังกินไม่อิ่มและอยากจะกินต่ออีก แต่แล้วฉันก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นท่านประธานนักเรียนฝั่งชายเดินมาหาฉันด้วยหน้าตาที่แบกเอาแต่ความมุ่งร้ายมาทั้งนั้น



        “ไงแม่นางเอก หายหัวไปหลายวันเชียวนะ”



        “แฮะๆ คือ……….”

        ทำไมต้องมองฉันแบบจะกินเลือดกินเนื้ออะไรแบบนั้นด้วยล่ะย๊ะ ยึ๋ย !



        “นี่มันฝั่งหญิงนะ อย่ามาทำเป็นใหญ่ที่นี่แล้วนายก็ไม่มีสิทธิ์มาเดินเผ่นผ่านที่ฝั่งหญิงนะไม่รู้รึไง นายปลวก!”

        โอ้ววว……พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ลิซ ! เธอแน่มาก ฉันเห็นเส้นเลือดของอิตาปลวกอเล็กซ์ปุดขึ้นมา



        “ฉันเป็นกรณียกเว้นโว้ย ! แล้วเธอเรียกใครว่าปลวก”



        “มีสมองก็คิดเอาเองสิ นายปลวก !”

        อเล็กซ์กับลิซกำลังปะทะฝีปากกันอย่างดุเดือด แหม ! ให้มันได้อย่างนี้สิ นานๆจะเห็นยัยลิซขึ้นเสียงกับใครสักที โหยย…..มันส์จริงๆ ต่อสิ ต่อ



        “ถ้าเธอไม่ใช่น้องมาร์คนะ ป่านนี้เธอตายไปแล้ว”



        “นึกว่าฉันกลัวรึไง”



        “แฮะๆ ทั้งสองคน ฉันว่าพอเถอะคนมองกันใหญ่แล้ว”

        ถึงแม้ว่าฉันอยากจะดูศึกสงครามระหว่างลิซกับอเล็กซ์มากๆ แต่ฉันก็ยังพอมีจิตสำนึกว่าควรจะปกป้องเพื่อนตัวเองไม่ให้เกิดอันตราย



        “ฝากไว้ก่อนเถอะ วันนี้ฉันไม่มีเวลามาไร้สาระหรอก อ่ะนี่ บทเธอ แล้วตามฉันมาเดี๋ยวนี้”



        “ไปไหนเหรอ”



        “ซ้อมไงล่ะ อ้อ….แล้วก็เธอคนเดียวนะ ไม่ต้องหิ้วยัยลำโพงนั่นมาด้วย”

        ฮ่าๆ……ฮ่าๆๆ ยัยลำโพง ฮ่าๆๆ นายปลวกกับยัยลำโพง ว๊ากกก….ฮ่าาๆๆๆ ช่างเหมาะสมกันจริงๆ



       “กรี๊ดดดดดด…….นายเรียกใครว่าลำโพงย๊ะ อิตาปลวก ! อิตาบ้า !!”



        “นั่นไงพูดไม่ทันขาดคำ เสียงเธอเนี่ยบาดหูฉันจริงๆ หุปปากไปซะก่อนที่ฉันจะต้องหาอะไรไปอุดปากเธอ  แล้วเธอก็ด้วยยืนยิ้มอยู่ได้รีบตามฉันมาสิ จะได้ไปซ้อมกัน”



        “กรี๊ดดดดดดดดดดด……………….”

        ฉันว่าฉันเห็นคิวปิดบินอยู่แถวนี้นะ เหมือนมีด้ายแดงมาคล้องสองคนนี้ไว้เลย เอ๊ะ ! หรือว่าจะเป็นเนื้อคู่….โอ้ว้าว !



        “ลิซ คือ….ฮ่าๆ  ฉันไปก่อนนะ”



        “โยริ ! นี่เธอหัวเราะเหรอ กรี๊ดดดด………ฉันไม่ยอมนะ”

        ฉันปล่อยลิซอยู่ตรงนั้นแล้วรีบตามอเล็กซ์ไปเพราะนายนั่นส่งสายตามาบอกฉันว่า



        อเล็กซ์ –ถ้ายังไม่มาฉันตบเธอแน่ อย่าคิดว่าฉันไม่กล้านะ-



        -โรงละคร-



        “มาร์คอยู่ตรงนั้น เธอสองคนไปซ้อมบทกันซะ”

        อิตาอเล็กซ์ผลักฉันไปหาอิตามาร์คขี้เก๊ก เจ็บชะมัดเลย ! เบาๆ หน่อยไม่ได้รึไงย๊ะ ฉันเป็นผู้หญิงนะ มาร์คยังคงนั่งในท่าที่สง่างามราวกับเจ้าชายเหมือทุกครั้ง



        “ไม่เคยเห็นคนรึไง”

        ให้ตายสิ ! เจ้าชายบ้าอะไรล่ะเนี่ย โจรป่าชัดๆ ปากร้ายที่สุด



        “คนที่เก๊กได้ตลอดเวลาอย่างนายฉันก็พึ่งเคยเห็นนี่แหละ”

        ฉันตั้งใจอ่านบทของฉันต่อไป ไม่อยากจะยุ่งกับนายมาร์คเพราะหมั่นไส้ ไอ้หล่อเอ๊ย ! นี่ถ้ามันไม่หล่อนะ ฉันต่อยมันไปแล้ว เหอะ !



        “มานั่งทำซากอะไรตรงนี้ ฉันบอกให้มาซ้อมบทกะมาร์คไม่ใช่รึไง”

        อิตาบ้าอเล็กซ์เมื่อกี้ฉันยังเห็นชี้นิ้วสั่งพวกทำฉากอยู่ตรงโน้นอยู่เลย ทำไมเคลื่อนที่ได้รวดเร็วอย่างนี้นะ นักเรียนฝั่งชายนี่ปากอย่างนี้ทุกคนเลยรึไง ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเลย พูดกับผู้หญิงแบบห้วนๆอย่างนี้น่ะเรอะ!



        “ก็ดูอิตานั่นทำหน้าสิ หน้าแบบนั้นใครจะกล้าเข้าไปคุยด้วยล่ะ เดี๋ยวโดนจับหักคอฉันก็ซวยสิยะ”



        “มาร์ค ! แกเป็นไรวะ ทำหน้าอย่างกับโจรใต้”



        “วันนี้ฉันยังไม่ซ้อมนะ ไม่มีอารมณ์”

        อิตามาร์คขี้เก๊กใช้หางตาเหลือบมาทางฉันนิดๆ แล้วหันหน้ากลับไปบอกอเล็กซ์



        “อ้าว ! ให้มันได้อย่างงี้สิวะ แล้วนั่นแกจะไปไหน”



        “เข้าทีม”



        “เฮ้ย ! จะบ้ารึไงวะ เข้าหาอะไรตอนนี้”

        มาร์คเดินหน้าต่อไปอย่างไม่สนใจอเล็กซ์ ทิ้งให้อเล็กซ์ยืนกระฟัดกระเฟียดยู่ตรงนั้น



        “ไอ้บ้าเอ๊ย ! แล้วนี่จะทำไงเนี่ย บอกมาสิ !!”

        อิตาอเล็กซ์ตอนนี้เหมือนคนผีเข้า อเล็กซ์เขย่าแขนฉันอย่างแรงจนแดงไปหมด



        “นี่อเล็กซ์ เบาๆ สิ เดี๋ยวนางเอกก็ช้ำหมดหรอก”

        เสียงนี้อีกแล้ว ฉันล่ะเกลียดหมอนี่จริงๆ ยิ่งเกลียดก็ยิ่งเจอ แต่ว่า……..อิตาอเล็กซ์ แกปล่อยมือออกจากฉันเดี๋ยวนี้นะ เจ็บนะย๊ะ !



        “มองหน้าทำไมยะ”



        “ทำไม มองไม่ได้รึไง”



        “ไม่ได้ ! โอ๊ยย……อเล็กซ์ปล่อยมือออกเดี๋ยวนะนะ ฉันเจ็บนะ อิตาบ้า !!”



        “เอ่อ โทษๆ โจอี้วันนี้แกออกไปร่อนเหรอ”



        “เปล่านะเว้ย”



        “แล้วทำไมมาร์คมันบอกว่าจะเข้าทีมวะ แกไปลากคอมันกลับมาเดี๋ยวนี้เลย”

        ฉันงงจริงๆ ตกลงมาร์คก็อยู่ในทีมด้วยเหรอ อิตามาร์คนี่ร้ายลึกชะมัด เมื่อก่อนฉันหลงนึกว่ามันเป็นคนเงียบๆ ขรึมๆ แต่เวลาผ่านไปได้ไม่นานมันก็ไปร้องเพลงที่ไนท์คลับ แล้วยังอยู่ใน Death`X ของโจอี้ด้วย เนี่ยนะนักเรียนดีเด่น ไม่อยากจะเชื่อ



        “ไม่ต้องหรอกเสียเวลาลองมันบอกว่ามันจะไปใครก็ห้ามมันไม่ได้ แล้ววันนี้ฉันก็อยากจะอยู่แถวนี้ด้วยเว้ย”

        อิตาโจอี้มันส่งยิ้มให้ฉัน ชิ ! คิดว่าฉันจะสลบเพราะรอยยิ้มบาดใจของแกรึไง ไม่มีทางหรอก



        “ไหนๆแกก็อยากจะอยู่แถวนี้งั้นแกช่วยฉันทำฉากแล้วกัน แล้วเธอก็มาช่วยฉันด้วย”



        “แล้วฉันมาเกี่ยวอะไรด้วยเนี่ย”



        “ก็พระเอกมันไม่อยู่นี่ยังไงเธอก็ไม่มีคู่ซ้อมอยู่ดี ทำตัวให้เป็นประโยชน์สิ”



        “แต่ว่าฉัน……..”



        “ไม่ต้องพูดมาก เอ้านี่ พู่กัน เอาไป ไปๆ ไปทางโน้นไป”

        อเล็กซ์ผลักฉันกับโจอี้ไปข้างหน้า แล้วฉันก็ต้องสลบเพราะฉากตรงหน้า มันเป็นฉากขาวๆ ที่มีรอยวาดเอาไว้รอการตกแต่ง



        “แล้วจะให้ใช้พู่กันอันเท่ามดระบายสีฉากอันเท่าบ้านนี่น่ะเหรอ”



        “แกก็เปลี่ยนเป็นอันนี้สิวะ หัดฉลาดซะบ้าง แล้วอย่าให้ฉันรู้ว่าพวกแกอู้งานนะ”

        ฉายานายปลวกที่ลิซตั้งให้อิตาอเล็กซ์มันช่างเหมาะสมจริงๆ กินแรงคนอื่นอยู่ได้ ชี้นิ้วสั่งอยู่นั่นแหละ พอสั่งฉันเสร็จก็รีบไปสั่งคนอื่นต่อ ให้ตายสิ ! แล้วจะเสร็จเหรอทำอยู่ 2 คน



        “นี่ หยิบสีแดงให้ฉันหน่อยสิ”



        “หยิบเองสิ”

        โจอี้เอี้ยวตัวมาข้างหลังฉันทำให้ฉันรู้สึกว่ามันใกล้กันเกินไปแล้วนะ หน็อย ! หลอกแต๊ะอั๋งฉันเหรอย๊ะ



        “เอ้านี่ ! เอาไป”

        ฉันหยิบถังสีมาให้อิตาโจอี้ แล้วนายนั่นก็ส่งยิ้มกวนๆ มาให้ฉันอีกแล้ว แถมยังทำหน้าเจ้าเล่ห์อีกด้วย



        “พรุ่งนี้เธอว่างมั้ย”

        นายโจอี้ถามฉันขณะที่กำลังลงมือผสมสี



        “ไม่ว่างย่ะ”



        “แล้ววันมะรืนล่ะ”



        “ไม่ว่างเหมือนกันย่ะ”



        “งั้นวันเสาร์ล่ะ”



        “ฉันไม่ว่างสักวันแหละย่ะ”



        “ไม่เชื่อหรอก ฉันรู้ว่าเธอว่างแต่เธอโกหกเพราะเธอไม่กล้าไปกับฉันใช่มั้ยล่ะ”

        ฉันรู้สึกว่าหมอนี่มันจะรู้ทันไปหมดซะทุกเรื่องเลยนะ



        “ไม่ใช่ไม่กล้า แต่ฉันไม่อยากไปต่างหากล่ะ”



        “เธอยังไม่มีแฟนเหรอ”

        ฉันเข็ดผู้ชายก็เพราะแกอ่ะแหละ



        “จะถามทำไมมากมาย”



        “แสดงว่ายังไม่มี แล้วทำไมถึงยังไม่มีล่ะ ไม่มีใครมาจีบเธอเลยเหรอ”



        “ก็พวกผู้ชายมันโง่น่ะสิ ไม่รู้จักมาจีบผู้หญิงดีๆอย่างฉัน”



        “งั้นฉันจะเป็นผู้ชายที่ฉลาดคนนั้นเองนะ”



        “ไม่จำเป็นย่ะ ฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว”



        “โกหก”

        แกชักจะรู้ทันฉันมากไปหน่อยแล้วนะโจอี้ จะทำยังไงกับมันดีเนี่ย ฉันไม่อยากจะข้องเกี่ยวกับนายไม่ว่ากรณีใดๆ ทำไมยิ่งหนียิ่งเจอนะ



        “เอ๊ะ ! อิตานี่ ฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้วไม่เข้าใจรึไง”



        “ฉันใช่มั้ยล่ะ”



        “ไม่ต้องมาสำคัญตัวเอง ฉันไม่ได้ชอบแก”



        “จริงเหรอ น่าเสียดายนะ แต่ไม่เป็นไรหรอก รักแท้คือการแย่งชิง”

        มันมีด้วยเหรอ รักแท้คือการแย่งชิง หมอนี่ชักจะบ้าเข้าไปทุกวันแล้ว



        “นี่แกพูดบ้าอะไรของแก บอกไว้ก่อนฉันไม่โง่ให้แกหลอกอีกแล้วนะ”



        “นั่นไง ! เธอยอมรับแล้วว่าเธอถูกฉันหลอก แสดงว่าเธอก็แอบมีใจให้ฉันอยู่บ้างน่ะสิ”

        ตายล่ะ……ฉันพูดบ้าอะไรออกไปเนี่ย ไม่ได้ๆ  ฉันต้องเข้มแข็ง ไม่ยอมแพ้ ท่องไว้ อย่าไปยุ่งกับมัน อย่าไปยุ่งกับมัน อย่าไขว้เขวเด็ดขาดนะใจจ๋า



        “ไม่ใช่ ! นี่แกทำงานต่อไปเลยนะ ฉันไม่อยู่แถวนี้แล้ว”



        “อ้าวนั่นเธอจะไปไหน”



        “ไม่ต้องยุ่ง ฉันไม่อยากอยู่ใกล้แก”



        “ถ้าเธอไปฉันจะบอกอเล็กซ์ว่าเธออู้งาน”

        พอฉันได้ยินชื่ออเล็กซ์ฉันก็ต้องหยุดชะงัก ถ้าอเล็กซ์รู้ฉันคงโดนเชือดแน่ ให้ตายสิ ! มันอะไรกันนักหนาเนี่ย



        “ก็ได้ ฉันจะทำต่อ แต่แกหุบปากไว้ซะ ฉันไม่อยากได้ยินเสียงแก”



        “วันเสาร์มารอฉันหน้า ร.ร. นะ”

        พูดไปเถอะฉันไม่สนใจหรอกย่ะ ฉันไม่มีทางไปเด็ดขาด อิตาโจอี้เริ่มลงมือทำงานอย่างเชี่ยวชาญ ดูท่าทางหมอนี่ทำได้ทุกอย่างจริงๆนะ เก่งไปซะทุกเรื่องเชียวนะยะ หมั่นไส้จริงๆ ฉันหันมาสนใจทำงานต่อไป จนเวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็ใกล้มืดแล้ว ฉันจึงทำท่าจะลุกหนีเพราะเหนื่อยเต็มทนแล้ว



        “จะไปแล้วเหรอ”

        ฉันไม่สนใจอิตาโจอี้รีบเร่งฝีเท้าต่อไปเรื่อยๆ แต่มันยังตามฉันมาอีก



        “นี่ ! วันเสาร์อย่าลืมนะ มารอฉันหน้า ร.ร. ล่ะ”

        ฉันรีบเดินต่อไปแต่โจอี้ยังตามมาไม่เลิก



        “ฉันจะรอนะ อย่าลืมมาให้ได้นะ”

        อิตาโจอี้ก้มหน้าลงมากระซิบบอกฉันแล้วก็เดินจากไปหน้าตาเฉย ทำเอาฉันตัวแข็ง ฉวยโอกาสดีนักนะอิตาบ้า ฉันไม่ไปหรอกย่ะ ! รอจนแห้งตายฉันก็ไม่ไป ไม่มีทางฉันไม่ไป ไม่ไป ไม่ไป ใจจ๋า อย่าไขว้เขวนะจ้ะ ไม่ไป ท่องไว้ ไม่ไป







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×