ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นายจอมวายร้ายกับยัยหน้าหวาน

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 6 ธ.ค. 47




    ตอนที่ 1



    “นี่เธอ  จับให้มันดีๆหน่อยเส๊ะ! นี่เธอถ้าไม่ไหวนะก็ไปเลยนะ”  เสียงดุๆของผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังวุ่นอยู่กับการติด



    ป้ายปฐมนิเทศน์นักเรียนม.1 และม.4 ของร.ร.แห่งหนึ่ง ต่อว่าฉัน



    “ฮึ่ม………….” ฉันไม่ตอบอะไรเพียงแต่กัดริมฝีปากอยู่เงียบๆเท่านั้น  ฉันเบื่อผู้ชายคนนี้จริงๆ  ทำไมถึงได้ใจร้าย



    ได้ขนาดนี้ทั้งๆที่ฉันมาช่วยทำงานแท้ๆ



    “จับให้มันนิ่งๆหน่อยได้มั้ยบันไดน่ะ  อยากให้ฉันตกลงไปตายใช่มั้ย!” ยังบ่นไม่เลิกอีกนะ



    “ฉันพยายามจับให้มันนิ่งที่สุดแล้วค่ะ” ฉันตอบอย่างซังกะตาย



    “ส่งตะปูมาให้ทีสิ   นี่เธอ ! ฉันบอกว่าขอตะปู” เขาตวาดใส่ฉันอีกแล้ว



    “เอาขนาดไหนคะ” ฉันปล่อยบันไดที่จับอยู่แล้วมาหาตะปูที่มีวางอยู่ 3 ขนาด



    “เอาเล็กที่สุด เฮ้ย ! แล้วจะปล่อยบันไดหาอะไรฟ่ะ อยากให้ฉันตกลงไปตายรึไง”



    “นี่  อย่าใช้อารมณ์ในการทำงานได้มั้ยคะ !” ฉันเริ่มโมโหบ้างแล้วนะคนอะไรดุเป็นบ้าเลย



    “โธ่ว้อย ! ไม่ทำแล้ว ใครก็ได้เอาน้ำมาให้ฉันที  ยัยนี่มันเป็นใครขึ้นเสียงใส่ฉันเฉยเลย……#%#@&^*&((&^$#



    ()_* ” เขาเดินไปพร้อมกับทิ้งงานที่เหลือเอาไว้หน้าตาเฉย ฉันได้ยินเสียงบ่นของเขาไม่เลิก



    “บ้าชะมัดเลย  แล้วฉันจะทำยังไงล่ะทีนี้” แน่ล่ะสิคิดว่าฉันจะมีพละกำลังพอที่จะขึ้นไปติดป้ายที่อยู่สูงขนาดนั้น



    เหรอมากไปหน่อยมั้งอิตาคนแล้งน้ำใจ



    “ช่วยไม่ได้แหละนะ………..” ฉันจำเป็นที่จะต้องปีนขึ้นบันไดไปทั้งขาสั่นอย่างนั้นเพื่อจะได้ไม่ต้องโดนมาสเซอร์



    ด่าเรื่องไม่รับผิดชอบ



    “หวาย…….น่ากลัวจังเลย  ชักอยากเปลี่ยนใจไม่ทำแล้วเนี่ย”

    “เฮ้ย !เซียง เซียง ๆ ขึ้นไปทำอะไรบนนั้นอันตรายนะ ลงมาเลยเดี๋ยวผมช่วย” ฉันมองลงไปเห็นโจ อย่างนี้สิถึงจะ



    เรียกว่าสุภาพบุรุษตัวจริง



    “โจเหรอ เอ่อช่วยจับบันไดให้หน่อยได้มั้ยคะคือมันสั่นๆยังไงไม่รู้”



    “ระวังนะเซียง  ขึ้นไปได้ยังไงแล้วนี่ไม่มีใครทำแล้วเหรอ”



    “ตอนแรกก็มีอยู่หรอกค่ะ  แต่คนนั้นเค้าอารมณ์ไม่ค่อยดีมั้งทำๆบ่นๆแล้วก็ไปเลยอ่ะค่ะ”



    “งั้นเดี๋ยวผมทำให้แล้วกัน  ปล่อยให้ผู้หญิงทำได้ไงเดี๋ยวเกิดตกลงมาจะเจ็บหนักนะ”



    “ขอบคุณค่ะโจ งั้นเดี๋ยวฉันช่วยนะคะ”  ฉันช่วยโจติดป้ายจนเสร็จแล้วก็แยกกันไปช่วยงานอื่นต่อจนเสร็จมีเวลา



    เหลืออีกประมาณ 2 วันก็จะต้องมาช่วยงานปฐมนิเทศน์เด็กใหม่



    “เซียงๆ  ช่วยเก็บอุปกรณ์ที่เหลือหน่อยได้มั้ยฉันรีบกลับน่ะ” โมบอก



    “ได้ค่ะโม กลับไปก่อนก็ได้” โมเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของฉันหรอกนะฉันถึงได้ยอมทำให้



    “แหม๋…….เซียงก็ยังพูดเพราะเหมือนเดิมนะ กับเรานะพูดธรรมดาก็ได้แหละเราเป็นเพื่อนกันนะ” โมบอก



    “จ้ะๆ  งั้นเดี๋ยวโมกลับเถอะเดี๋ยวฉันทำให้ กลับดีๆนะคะ” น่ะ ฉันติดแล้วนะพูดแบบนี้น่ะ ฉันพูดแบบนี้กับทุกคน



    เลยล่ะไม่รู้ทำไมถึงเลิกแบบคะๆขาๆ ไม่ได้



    “โอเคจ้ะ  งั้นบ๊ายบายนะเซียง  ขอบใจมากนะ  พอดีวันนี้ฉันรีบจริงๆน่ะ ขอบใจมากนะ” แล้วโมก็วิ่งออกไปเลยล่ะ



    เธอยังหันมาโบกมือบ๊ายบายให้ฉันอยู่เลย



    “เฮ้อ……เหนื่อยจริงๆเลย ” ฉันเริ่มเก็บอุปกรณ์ที่เกลื่อนกลาดบริเวณนั้นแล้วอยู่ๆ เสียงเดิมที่ทำให้ฉันหงุดหงิด



    เมื่อเช้าก็ดังลั่น



    “โอ๊ยยยย !!! อะไรกันวะเนี่ย  ทำแล้วไม่รู้จักเก็บ  แกะกะทางเดินจริงๆ” ฉันหยุดเก็บอุปกรณ์ที่เรี่ยราดเหล่านั้น

    แล้วเงยหน้าขึ้นมามองเขา



    “ทำไม” นั่นคือคำพูดที่เขาพูดออกมาเมื่อเห็นฉันมองหน้า  ใบหน้าของเขาช่างดูน่ากลัวเหลือเกินในตอนนี้



    “………………..” ฉันเงียบแล้วก้มหน้าลงไปเก็บของต่อ  เพราะว่าฉันกลัวใบหน้าอย่างนั้นของเขา



    “เธอไม่ได้ยินเหรอฉันถามว่าเธอ ทำไม” เขานั่งลงตรงหน้าฉันแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆกับใบหน้าของฉัน



    “ไม่มีอะไรค่ะ” ฉันจำเป็นต้องตอบ น้ำเสียงของฉันแฝงไปด้วยความกลัว



    “ฮึ…เธอกลัวเหรอ” เขาแสยะยิ้มแล้วถามฉัน



    “ฮือๆ…..ฮือๆๆ…..แง้ๆๆ….แง้ๆๆๆๆ” ฉันเริ่มร้องไห้ ฉันมักจะร้องไห้ในสถานการณ์น่ากลัวๆแบบนี้เสมอ  เมื่อฉัน



    เริ่มร้องไห้แล้วร้องหนักขึ้นๆสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป



    “อ้าว…เฮ้ย…ยัยนี่ ฉันยังไม่ทันทำอะไรเธอเลย ร้องไห้ทำไมหยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวคนอื่นเค้าได้เข้าใจผิดกันหมด



    หรอก   อ้าว…เฮ้ย  บอกให้หยุดไง”



    “ฮือๆ…..ฮือๆๆ…..แง้ๆๆ….แง้ๆๆๆๆ” ฉันยังคงร้องต่อไป



    “โอเค  นี่เธอ ฉันขอโทษ พอใจมั้ย แล้วก็เธอหยุดร้องไห้ได้แล้วฉันไม่ชอบให้ใครมาร้องไห้ให้ดูหรอกนะมันไม่น่า



    มองหรอก” เขาบอกฉันแล้วก็เอามือลูบที่แก้มเพื่อปาดน้ำตาให้ฉัน  แปลกนะทั้งๆที่เขาเป็นผู้ชายแท้ๆ  เขามาจับที่



    ใบหน้าของฉันแต่ทำไมฉันยังนิ่งเฉยให้เขาจับอยู่ได้



    “เห็นมั้ย  หน้าตาตอนไม่ร้องไห้เนี่ยมันดีกว่าตอนร้องไห้นะ รู้มั้ยเธอร้องไห้แล้วเหมือนเด็ก 2 ขวบ ฮ่าๆๆ” เขาพูด



    พร้อมกับหัวเราะ  ฉันพึ่งรู้สึกว่าลึกๆแล้วคนๆนี้ในความน่ากลัวของเขานั้นแฝงไปด้วยความใจดีเล็กน้อยนะ



    “เอ่อ….เอ่อ…” ฉันตะกุกตะกัก



    “ทำไมเหรอ” เขาถาม

    “ขอบคุณนะคะ” แฮะๆ ฉันซาบซึ้งจริงๆนะ



    “เธอบ้ารึเปล่า  เมื่อกี้พึ่งจะร้องไห้ไปเพราะฉันอยู่หยกๆ ตอนนี้มาขอบคุณฉันทำไมละ” เขาพูดพร้อมยิ้มยียวน



    “ก็แบบว่า  อย่างน้อยเราก็หายกันแล้วนะคะ” ฉันยิ้มตอบ  เขาทำหน้านิ่งแล้วพูดขึ้นว่า



    “เธอชื่ออะไร”



    “เซียงค่ะ แล้วเธอล่ะ”



    “………………….” เขาทำหน้านิ่งแล้วมองมาที่ฉัน



    “เอ่อ………..ทำไมเหรอคะ” ฉันสะกิดเขา



    “เปล่า  เธอยิ้มแล้วเหมือน  เอ่อ……..ช่างเถอะ”



    “เหมือนอะไรเหรอคะ หรือว่าฉันยิ้มน่าเกลียดคะ” ฉันเริ่มกังวล



    “เปล่าๆ อ่ะนะ เอ่อ…คือว่าฉันชื่อ บัส เธอชื่อเซียงใช่มั้ย อยู่ห้องอะไร”



    “7 ค่ะ แล้วเธอล่ะ”



    “เฮ้ย จิงดิ ห้อง 7 เหรอ ฉันก็อยู่ห้อง 7 ทำไมถึงไม่เคยเห็นเธอมาก่อนก็ไม่รู้”



    “ฉันก็ไม่เคยเห็นเธอมาก่อนเหมือนกันค่ะ”



    “งั้นเอาเป็นว่าฝากตัวด้วยแล้วกันนะ” เขาพูดพร้อมกับยิ้มอีกแล้ว



    “ค่ะ” ฉันยิ้มตอบ จากนั้นเขาก็ช่วยฉันเก็บขอบที่เกลื่อนกลาดจนหมด



    “บัส นายจะไปรึยัง ทุกคนรอนายอยู่คนเดียวนะ” ผู้ชายคนหนึ่งวิ่งมาบอกบัส



    “เอ่อ….งั้นบัส ก็ไปเถอะค่ะ เราก็จะไปแล้วเหมือนกัน” ฉันบอกเขา



    “อ้าว นี่แกจีบสาวคนใหม่เหรอวะ นี่อะไรกันเนี่ยไวจริงๆเลยนะเพื่อนเรา” ผู้ชายคนนั้นพูด

    “ไอ้บ้า ไม่ใช่เว้ย พึ่งรู้จักกันเมื่อกี้เอง  ไปเหอะ ไปก่อนนะเซียง” เขาพูดแล้วก็เดินไป  ฉันไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องมอง



    จนเขาเดินไปไกลจนลับตาด้วยนะ  ฉันเอาของไปเก็บไว้ในห้องโสตแล้วนั่งรอพี่ชายของฉันมารับ



    “เป็นไงบ้างเซียง  ท่าทางเหนื่อยๆ” พี่ชายฉันถาม



    “สบายมากค่ะอาฮง(ฉันมักจะเรียกพี่ชายฉันว่าอาฮงเสมอติดมาตั้งแต่เด็กแล้ว)” ฉันตอบ



    “แวะหาอะไรทานก่อนได้มั้ย  เดี๋ยวดึกๆพี่ต้องออกไปกับเพื่อน”



    “ค่ะ” พวกเราแวะทานอาหารที่ Cozy เป็นร้านอาหารที่น่ารักมากตกแต่งร้านสไตล์แฮนด์เมด  ฉันกับอาฮงนั่งทาน



    อาหารอยู่นานเหมือนกันก่อนที่จะกลับไปที่บ้าน   แล้วสายตาฉันมันก็เหลือบไปเห็นผู้ชายหน้าตาคุ้นๆคนหนึ่ง ใช่



    แล้วเขานั่นเอง บัส วันนี้เจอบัสเป็นครั้งที่ 3 แล้วฉันยังคงมองเขาผ่านกระจกของร้านอยู่อย่างนั้น  แล้วสายตาเรา



    ก็ประสานเข้าด้วยกัน  เขายิ้มให้ฉัน  เขาเดินมาพร้อมกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ซึ้งมีทั้งผู้ชายและผู้หญิงแขนซ้ายของเขา



    กอดเอวผู้หญิงคนหนึ่งแล้วแขนขวาของเขาก็กอดคอผู้หญิงอีกคนหนึ่ง แต่ละคนสวยๆทั้งนั้นเลยฉันอึ้งกับการ



    กระทำของเขา   อย่างนี้เรียกว่าเสือผู้หญิงรึเปล่า  อาฮงเรียกฉันบอกว่าจะกลับบ้านแล้ว  ฉันเสียดายจริงๆยังไม่



    อยากกลับเลย ฉันลุกขึ้นอย่างช่วยไม่ได้แล้วตามอาฮงไป  ในใจยังคิดถึงใบหน้าเมื่อกี้  ทำไมนะ  ปกติฉันไม่เคย



    คิดเรื่องอะไรซ้ำๆซากๆอย่างนี้นี่  แต่ฉันกลับนั่งนึกภาพที่เขากอดผู้หญิง 2 คนนั่นมันทำให้ฉันปั่นป่วนเหมือนกัน



    นะเนี่ย  แล้วทำไมฉันต้องมาคิดถึงเรื่องของคนที่พึ่งจะรู้จักกันเมื่อกี้ด้วยล่ะ  ไม่เอาไม่คิดแล้ว………..>_<

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×