คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 ใจที่เริ่มไหวหวั่น
บทที่ 3 ใจที่เริ่มไหวหวั่น
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
เขาไม่ชอบ....
ไม่ชอบเลยจริงๆ
มันอาจเป็นแค่ความรู้สึกเพียงชั่ววูบ...แต่เขาแน่ใจว่าไม่ใช่เพราะหึงหวงอย่างที่เขาเคยรู้สึกกับใครอีกคน
ก็แค่ไม่ชอบ...
ก็แค่ไม่พอใจ...
ก็แค่หงุดหงิด...เล็กน้อย
มันก็เท่านั้น...
ดวงตากลมคู่หม่นลอบมองใครบางคนที่กำลังคุยโทรศัพท์อย่างสนุกสนาน ใบหน้าคมวาดยิ้มกว้างระบายเสียงหัวเราะน่าฟังอย่างที่ชวนให้นึกอิจฉา
ความรู้สึกบางอย่างที่ไม่เคยจะมีนับวันยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างที่ไม่เคยรู้ตัวมาก่อน
ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
มันเร็ว...
เร็วจนเกินไป...
แค่ไม่อยากให้คนๆนั้นยิ้มให้ใครเหมือนกับที่ยิ้มให้เขา
แค่ไม่อยากให้คนๆนั้นสนิมสนมกับใครอื่นเกินหน้าเกินตาเขา
ก็แค่...ไม่อยากให้คนๆนั้นอ่อนโยนกับคนอื่น...
นอกเหนือไปจากเขา...
และสุดท้าย...เพราะทนที่จะมองอีกฝ่ายยืนคุยต่อไม่ไหว ร่างบางจึงผุดลุกขึ้นขยับตัวลงจากเตียงนุ่ม เดินตรงเข้าไปหาคนอีกคนที่ยังคงคุยหันหลังให้เขาไม่หยุด เห็นอีกฝ่ายขยับก็อดนึกดีใจไม่ได้ แต่ความดีใจนั่นก็ต้องอันตรธานหายไป เมื่ออีกฝ่ายไม่ได้คิดจะหยุดคุยดังที่เขาคิด แต่กลับนั่งลงคุยต่อที่เก้าอี้ไม้สานตัวสวยขนาดใหญ่ซะงั้น ชวนให้อารมณ์ที่ไม่ค่อยคงที่ของคนมองยิ่งสูงปรี๊ดขึ้นไปใหญ่
ปากแดงเม้มแน่นอย่างคนขัดใจ หัวคิ้วเรียวขมวดนิ่ว มือสองข้างที่กำเข้าหากันสั่นระริกด้วยแรงอารมณ์ที่เพิ่มมากขึ้นทุกทีๆ เท้าเรียวบางกระทืบลงกับพื้นพรมอย่างแรงเพื่อหวังเรียกความสนใจ แต่ก็เสียเปล่า...ชวนให้ขัดเคืองใจยิ่งกว่าเก่า
ได้...คุยได้ก็คุยไป...
คุยให้ได้ตลอดแล้วกัน...คนบ้า!!
เรียวปากอิ่มวาดยิ้มสวย ดวงตาสีเข้มหรี่ลงน้อยๆ ก่อนเจ้าตัวจะพาร่างบางๆของตัวเองเข้าโอบรอบคอของอีกฝ่ายจากข้างหลัง รู้สึกได้ถึงอาการสะดุ้งน้อยๆด้วยความตกใจ
“ฮิ...” เอี้ยวหัวกลับเพื่อมองดูที่เข้ามาสวมกอดอย่างไร้สุ่มไร้เสียง
[เป็นอะไรรึเปล่าครับ ท่านผู้...]
“มะ..ไม่เป็นไรครับ งั้น..” ตอบกลับทันควัน ยังไม่ทันที่จะขอตัวตัดสาย สัมผัสอุ่นๆที่ข้างแก้มก็ประดังขึ้น ขึ้นไปยังใบหู ลมหายใจอุ่นๆเป่าฟู่อย่างชวนให้อารมณ์บางอย่างก่อตัวขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ มือที่ถือโทรศัพท์ข้างไว้ถูกสัมผัสนุ่มบางเบาแตะ ก่อนอีกฝ่ายจะแย่งมือถือเขาไปวางบนโต๊ะกระจกข้างๆเก้าอี้ ปุ่มสปีกโฟนถูกกดลง ยังไม่ทันที่จะได้แย่งเอามือถือมา อีกฝ่ายก็เบียดร่างนุ่มนิ่มของตัวเองลงคร่อมตักของเขาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
“ฮิบาริ ของชั้นคุยธุระให้เสร็จก่อนได้ไหม” บอกกับอีกฝ่ายอย่างนุ่มนวล มือที่กำลังจะเอื้อมคว้าโทรศัพท์กลับถูกฝ่ายตรงข้ามคว้าไปเสียก่อน สะโพกนุ่มบดเบียดลงมาอย่างชวนให้ลมหายใจสะดุด
“ฮะ...ฮิบา..”
“ก็คุยต่อไปสิ ไม่ได้ห้ามนี่” อีกฝ่ายตอบเสียงหวาน สองมือละออกจากมืออุ่นก่อนจะโอบลำคอร่างสูง ใบหน้าสวยแหงนขึ้นคลอเคลียกับศีรษะ ก่อนจะช้อนตามองสบกับกวงตาสีเปลือกไม้ เสียงจากโทรศัพท์ที่ดังลอดมาชวนให้ขยับยิ้มเย้า
“คุยต่อไปแบบนี้แหล่ะ สปีกโฟนก็เปิดให้แล้ว...ทำได้ไม่ใช่เหรอจริงมั๊ย”
เอาสิ...ถ้าคุยต่อได้อีก ก็ให้มันรู้ไปเลยว่าจะคุยได้นานแค่ไหน!
.
.
.
สุดท้ายก็ไม่ได้คุยต่อ...
ไม่รู้ว่าทางนั้นจะเป็นยังไงบ้าง แต่ทางนี้สิ...
นั่งยิ้ม นอนยิ้ม เกลือกตัวกลิ้งไปมาบนเตียงพร้อมด้วยเสียงหัวเราะ ใบหน้าสะใสแสนหวานเชิดขึ้นน้อยๆอย่างได้ทีได้ใจ เหมือนตัวเองเป็นประหนึ่งผู้ชนะ...
นั่นไง เชิดอีกแล้ว นึกสงสัยไม่น้อยเลยว่าที่เชิดเอาเชิดเอานั่นน่ะ ไม่เมื่อยบ้างหรือยังไง คิดแล้วก็อดไม่ได้ที่จะเอามือไปบีบจมูกโด่งรั้นๆนั่นด้วยความหมั่นไส้แกมเอ็นดู
อีกฝ่ายทำตาโต ก่อนหัวคิ้วเรียวจะเริ่มขมวดเข้าหากัน แก้มใสๆแดงระเรื่อนั้นโป่งพองลงจนทำให้ต้องเปลี่ยนเป็นใช้มือหยิกแก้มนุ่มๆแทน
“อะ...อย่ามาหยิกนะ เดี๋ยวแก้มเค้าก็ยืดหมด เชอะ” สะบัดหน้าพร้อมปัดมือของเขาหนี แขนเรียวบางหยิบหมอนข้างใหญ่นุ่มข้างกายเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด ก่อนจะซุกหน้าหวานๆของตัวเองลงกับหมอนข้างสีขาวนุ่ม ให้เขาต้องปล่อยหัวเราะออกมาเบาๆกับท่าทางราวกับเด็กๆนั่น
เด็กน้อยในความคิดส่งสายตาเขียวปัดมาให้อย่างน่ารักน่าขันนักเชียว
ร่างสูงใหญ่ขยับตัวนั่งลงกับเตียงใหญ่ เรียวแขนแข็งแรงรั้งร่างบางที่ยังคงกอดหมอนข้างอยู่ให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอด แผ่นหลังบางทาบทับสนิทกับแผ่นอกแกร่งชวนให้บางสิ่งบางอย่างในใจสั่นระรัว ได้แต่ก้มหน้างุดๆลงกับหมอนข้างนุ่มด้วยความรู้สึกแปลกๆ
ลมหายใจอุ่นแผ่วเบารดอยู่ตรงซอกคออย่างชวนให้รู้สึกเกร็งยังไงชอบกล มันไม่มีแม้แต่เสียงพูด นอกจากเสียงของลมหายใจเข้าออกระหว่างคนสองคน และเสียงของหัวใจ...ที่เต้นสั่นระรัวอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ความรู้สึกบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ...
หากแต่สำหรับความรู้สึกที่ว่า ฮิบาริ เคียวยะ มันเร็วมาก...
เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว...
ไม่รู้ว่ามันคืออะไร...แต่ไม่เหมือนดังที่อยู่นภาแห่งคาบัคโรเน่
และเขาตามมันไม่ทัน...
เขากำลังตามความรู้สึกของตัวเองไม่ทัน...
แล้วกับคนข้างหลังล่ะ...
คนที่โอบกอดตัวเขาไว้ตอนนี้...
กำลังรู้สึกอย่างเดียวกับเขาหรือเปล่า...
เขาไม่อาจรู้ได้เลย...
.
.
.
“ฉันชอบนายนะ...ฮิบาริ”
คำกล่าวที่ทำเอาคนฟังเบิกตากว้าง ใจที่เริ่มสงบลง กลับมาขยับรัวอีกรอบ
“ชอบ...ชอบมาก...” ริมฝีปากอุ่นจนร้อนแนบลงที่ซอกคอ หลังคอทว่าไม่ได้ทิ้งร่องรอย เรื่อยมาจรดสองข้างแก้ม ร่างของเขาถูกจับให้หันร่างมาปะกับอีกคน มือแกร่งจับที่ปลายคางมนแผ่วเบาให้ใบหน้าหวานเงยขึ้นสบกับตนเอง ก่อนจะโน้มใบหน้าลงแนบปากกับหน้าผากมน ข้างขมับ และเรือนผมนุ่ม
ปฏิเสธไม่ได้ว่าชอบ...
ชอบที่จะตกอยู่ในความอบอุ่น อ่อนโยนอันแสนหวานของพิรุณข้างหน้า...
ชอบ...
ชอบมาก...
สัมผัสแผ่วเบา
ไม่จาบจ้วง
ไม่หยาบโลน
ไม่แข็งกระด้าง
ชวนให้ความรู้สึกที่ไม่อาจเข้าใจได้ที่ว่าแผ่ขยายไปมากขึ้นทุกทีๆ
จนบางที...เผลอคิดไปว่า...
ถ้าได้อยู่อย่างนี้ตลอดไป...ก็คงจะดี
ก่อนคำพูดต่อมาจะเป็นเสมือนระเบิดที่บอมบ์ร่างทั้งร่างของเขาให้ไม่เป็นตัวของตัวเอง จนต้องรีบซุกหน้าลงกับแผ่นอกของอีกฝ่าย แล้วหลับตาลงปล่อยร่างให้อยู่ในอ้อมกอด และสัมผัสแว่วหวาน
ที่เขาหวังว่ามันจะอยู่กับเขา...จะเป็นแค่ของเขา...คนเดียว
ตลอดไป...
“ฉันชอบฮิบาริ ชอบ ชอบ ชอบ ชอบมากจริงๆ”
.
.
“เพราะนายเป็นสิ่งสำคัญ...เป็นคนสำคัญของฉันนะ...ฮิบาริ”
ความคิดเห็น