ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] Reborn :: สัญญาใจ จากพิรุณ แด่ เมฆา... [[8018]]

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3 ใจที่เริ่มไหวหวั่น

    • อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 54




    บทที่ 3 ใจที่เริ่มไหวหวั่น

     

    = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =

     

     

                             เขาไม่ชอบ....

                       ไม่ชอบเลยจริงๆ 

                       มันอาจเป็นแค่ความรู้สึกเพียงชั่ววูบ...แต่เขาแน่ใจว่าไม่ใช่เพราะหึงหวงอย่างที่เขาเคยรู้สึกกับใครอีกคน

     

                       ก็แค่ไม่ชอบ...

                       ก็แค่ไม่พอใจ...

                       ก็แค่หงุดหงิด...เล็กน้อย

                       มันก็เท่านั้น...

     

                       ดวงตากลมคู่หม่นลอบมองใครบางคนที่กำลังคุยโทรศัพท์อย่างสนุกสนาน ใบหน้าคมวาดยิ้มกว้างระบายเสียงหัวเราะน่าฟังอย่างที่ชวนให้นึกอิจฉา

                       ความรู้สึกบางอย่างที่ไม่เคยจะมีนับวันยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างที่ไม่เคยรู้ตัวมาก่อน

                       ไม่รู้ว่ามันคืออะไร

                       มันเร็ว...

                       เร็วจนเกินไป...

     

                       แค่ไม่อยากให้คนๆนั้นยิ้มให้ใครเหมือนกับที่ยิ้มให้เขา

                       แค่ไม่อยากให้คนๆนั้นสนิมสนมกับใครอื่นเกินหน้าเกินตาเขา

                       ก็แค่...ไม่อยากให้คนๆนั้นอ่อนโยนกับคนอื่น...



                       นอกเหนือไปจากเขา...

     

     


                      

                       และสุดท้าย...เพราะทนที่จะมองอีกฝ่ายยืนคุยต่อไม่ไหว ร่างบางจึงผุดลุกขึ้นขยับตัวลงจากเตียงนุ่ม เดินตรงเข้าไปหาคนอีกคนที่ยังคงคุยหันหลังให้เขาไม่หยุด เห็นอีกฝ่ายขยับก็อดนึกดีใจไม่ได้ แต่ความดีใจนั่นก็ต้องอันตรธานหายไป เมื่ออีกฝ่ายไม่ได้คิดจะหยุดคุยดังที่เขาคิด แต่กลับนั่งลงคุยต่อที่เก้าอี้ไม้สานตัวสวยขนาดใหญ่ซะงั้น ชวนให้อารมณ์ที่ไม่ค่อยคงที่ของคนมองยิ่งสูงปรี๊ดขึ้นไปใหญ่

                       ปากแดงเม้มแน่นอย่างคนขัดใจ หัวคิ้วเรียวขมวดนิ่ว มือสองข้างที่กำเข้าหากันสั่นระริกด้วยแรงอารมณ์ที่เพิ่มมากขึ้นทุกทีๆ เท้าเรียวบางกระทืบลงกับพื้นพรมอย่างแรงเพื่อหวังเรียกความสนใจ แต่ก็เสียเปล่า...ชวนให้ขัดเคืองใจยิ่งกว่าเก่า

     


                       ได้...คุยได้ก็คุยไป...

                       คุยให้ได้ตลอดแล้วกัน...คนบ้า!!

     


                       เรียวปากอิ่มวาดยิ้มสวย ดวงตาสีเข้มหรี่ลงน้อยๆ ก่อนเจ้าตัวจะพาร่างบางๆของตัวเองเข้าโอบรอบคอของอีกฝ่ายจากข้างหลัง รู้สึกได้ถึงอาการสะดุ้งน้อยๆด้วยความตกใจ

                       “ฮิ...” เอี้ยวหัวกลับเพื่อมองดูที่เข้ามาสวมกอดอย่างไร้สุ่มไร้เสียง

                       [เป็นอะไรรึเปล่าครับ ท่านผู้...]
     

                       “มะ..ไม่เป็นไรครับ งั้น..” ตอบกลับทันควัน ยังไม่ทันที่จะขอตัวตัดสาย สัมผัสอุ่นๆที่ข้างแก้มก็ประดังขึ้น ขึ้นไปยังใบหู ลมหายใจอุ่นๆเป่าฟู่อย่างชวนให้อารมณ์บางอย่างก่อตัวขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ มือที่ถือโทรศัพท์ข้างไว้ถูกสัมผัสนุ่มบางเบาแตะ ก่อนอีกฝ่ายจะแย่งมือถือเขาไปวางบนโต๊ะกระจกข้างๆเก้าอี้ ปุ่มสปีกโฟนถูกกดลง ยังไม่ทันที่จะได้แย่งเอามือถือมา อีกฝ่ายก็เบียดร่างนุ่มนิ่มของตัวเองลงคร่อมตักของเขาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

     

                       “ฮิบาริ ของชั้นคุยธุระให้เสร็จก่อนได้ไหม” บอกกับอีกฝ่ายอย่างนุ่มนวล มือที่กำลังจะเอื้อมคว้าโทรศัพท์กลับถูกฝ่ายตรงข้ามคว้าไปเสียก่อน สะโพกนุ่มบดเบียดลงมาอย่างชวนให้ลมหายใจสะดุด

                       “ฮะ...ฮิบา..”

                       “ก็คุยต่อไปสิ ไม่ได้ห้ามนี่” อีกฝ่ายตอบเสียงหวาน สองมือละออกจากมืออุ่นก่อนจะโอบลำคอร่างสูง ใบหน้าสวยแหงนขึ้นคลอเคลียกับศีรษะ ก่อนจะช้อนตามองสบกับกวงตาสีเปลือกไม้ เสียงจากโทรศัพท์ที่ดังลอดมาชวนให้ขยับยิ้มเย้า

     

                        “คุยต่อไปแบบนี้แหล่ะ สปีกโฟนก็เปิดให้แล้ว...ทำได้ไม่ใช่เหรอจริงมั๊ย”

                       เอาสิ...ถ้าคุยต่อได้อีก ก็ให้มันรู้ไปเลยว่าจะคุยได้นานแค่ไหน!





                 .

     

                  .

     

                  .

     

                  สุดท้ายก็ไม่ได้คุยต่อ...

                  ไม่รู้ว่าทางนั้นจะเป็นยังไงบ้าง แต่ทางนี้สิ...

                       นั่งยิ้ม นอนยิ้ม เกลือกตัวกลิ้งไปมาบนเตียงพร้อมด้วยเสียงหัวเราะ ใบหน้าสะใสแสนหวานเชิดขึ้นน้อยๆอย่างได้ทีได้ใจ เหมือนตัวเองเป็นประหนึ่งผู้ชนะ...

     

                       นั่นไง เชิดอีกแล้ว นึกสงสัยไม่น้อยเลยว่าที่เชิดเอาเชิดเอานั่นน่ะ ไม่เมื่อยบ้างหรือยังไง คิดแล้วก็อดไม่ได้ที่จะเอามือไปบีบจมูกโด่งรั้นๆนั่นด้วยความหมั่นไส้แกมเอ็นดู

                       อีกฝ่ายทำตาโต ก่อนหัวคิ้วเรียวจะเริ่มขมวดเข้าหากัน แก้มใสๆแดงระเรื่อนั้นโป่งพองลงจนทำให้ต้องเปลี่ยนเป็นใช้มือหยิกแก้มนุ่มๆแทน

                      

     

                       “อะ...อย่ามาหยิกนะ เดี๋ยวแก้มเค้าก็ยืดหมด เชอะ” สะบัดหน้าพร้อมปัดมือของเขาหนี แขนเรียวบางหยิบหมอนข้างใหญ่นุ่มข้างกายเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด ก่อนจะซุกหน้าหวานๆของตัวเองลงกับหมอนข้างสีขาวนุ่ม ให้เขาต้องปล่อยหัวเราะออกมาเบาๆกับท่าทางราวกับเด็กๆนั่น

                       เด็กน้อยในความคิดส่งสายตาเขียวปัดมาให้อย่างน่ารักน่าขันนักเชียว

                       ร่างสูงใหญ่ขยับตัวนั่งลงกับเตียงใหญ่ เรียวแขนแข็งแรงรั้งร่างบางที่ยังคงกอดหมอนข้างอยู่ให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอด แผ่นหลังบางทาบทับสนิทกับแผ่นอกแกร่งชวนให้บางสิ่งบางอย่างในใจสั่นระรัว ได้แต่ก้มหน้างุดๆลงกับหมอนข้างนุ่มด้วยความรู้สึกแปลกๆ

                       ลมหายใจอุ่นแผ่วเบารดอยู่ตรงซอกคออย่างชวนให้รู้สึกเกร็งยังไงชอบกล มันไม่มีแม้แต่เสียงพูด นอกจากเสียงของลมหายใจเข้าออกระหว่างคนสองคน และเสียงของหัวใจ...ที่เต้นสั่นระรัวอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

                      

     

                       ความรู้สึกบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ...

                       หากแต่สำหรับความรู้สึกที่ว่า ฮิบาริ เคียวยะ มันเร็วมาก...

                       เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว...

                       ไม่รู้ว่ามันคืออะไร...แต่ไม่เหมือนดังที่อยู่นภาแห่งคาบัคโรเน่

                       และเขาตามมันไม่ทัน...

     

     

                       เขากำลังตามความรู้สึกของตัวเองไม่ทัน...

     

                       แล้วกับคนข้างหลังล่ะ...

                       คนที่โอบกอดตัวเขาไว้ตอนนี้...

                       กำลังรู้สึกอย่างเดียวกับเขาหรือเปล่า...

                       เขาไม่อาจรู้ได้เลย...

     

                       .

                       .

                       .

                       “ฉันชอบนายนะ...ฮิบาริ”

                       คำกล่าวที่ทำเอาคนฟังเบิกตากว้าง ใจที่เริ่มสงบลง กลับมาขยับรัวอีกรอบ

                       “ชอบ...ชอบมาก...” ริมฝีปากอุ่นจนร้อนแนบลงที่ซอกคอ หลังคอทว่าไม่ได้ทิ้งร่องรอย เรื่อยมาจรดสองข้างแก้ม ร่างของเขาถูกจับให้หันร่างมาปะกับอีกคน มือแกร่งจับที่ปลายคางมนแผ่วเบาให้ใบหน้าหวานเงยขึ้นสบกับตนเอง ก่อนจะโน้มใบหน้าลงแนบปากกับหน้าผากมน ข้างขมับ  และเรือนผมนุ่ม

     

     

                       ปฏิเสธไม่ได้ว่าชอบ...

                       ชอบที่จะตกอยู่ในความอบอุ่น อ่อนโยนอันแสนหวานของพิรุณข้างหน้า...

                       ชอบ...

                       ชอบมาก...

     

                       สัมผัสแผ่วเบา

                       ไม่จาบจ้วง

                       ไม่หยาบโลน

                        ไม่แข็งกระด้าง

     

                       ชวนให้ความรู้สึกที่ไม่อาจเข้าใจได้ที่ว่าแผ่ขยายไปมากขึ้นทุกทีๆ

                       จนบางที...เผลอคิดไปว่า...

                       ถ้าได้อยู่อย่างนี้ตลอดไป...ก็คงจะดี

     

                       ก่อนคำพูดต่อมาจะเป็นเสมือนระเบิดที่บอมบ์ร่างทั้งร่างของเขาให้ไม่เป็นตัวของตัวเอง จนต้องรีบซุกหน้าลงกับแผ่นอกของอีกฝ่าย แล้วหลับตาลงปล่อยร่างให้อยู่ในอ้อมกอด และสัมผัสแว่วหวาน

                       ที่เขาหวังว่ามันจะอยู่กับเขา...จะเป็นแค่ของเขา...คนเดียว

                       ตลอดไป...

     

                      

                       “ฉันชอบฮิบาริ ชอบ ชอบ ชอบ ชอบมากจริงๆ”

                  .

                  .

                  “เพราะนายเป็นสิ่งสำคัญ...เป็นคนสำคัญของฉันนะ...ฮิบาริ”







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×