ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] Reborn :: สัญญาใจ จากพิรุณ แด่ เมฆา... [[8018]]

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างจะเป็นปกติ

    • อัปเดตล่าสุด 5 ม.ค. 54


     

    บทที่ 2 ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างจะเป็นปกติ

     

    = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =

     

                      

     

                  โทรศัพท์มือถือ ที่ไม่มีเบอร์ของใครเมมไว้เลยแม้แต่เบอร์เดียว ยกเว้น...

                       D

                  เบอร์ที่ฮิบาริคอยแต่จับจ้องมันอยู่แทบทุกเวลา ดวงตาเหงาๆเศร้าๆที่มองมันราวกับเฝ้าหวังว่าคนปลายสายจะโทรมาบ้าง

                       ทุกครั้งที่คนตัวเล็กรับสาย ใบหน้ามักจะเต็มไปด้วยรอยยิ้มเสมอ หากแต่...

                       ทุกครั้งอีกเช่นกันที่วางสายแล้ว...

                       ดวงตาคู่เหงาจะเปื้อนไปด้วยน้ำตา...

     

                       “ฮึก...” ได้แต่ปลอบคนสะอื้นไปมาหวังให้คลายความเศร้า มือถือเครื่องน้อยถูกเจ้าของมือกำเอาไว้เสียแน่น

                       อีกครั้งที่ไม่รู้ว่าคนในอ้อมกอดต้องร่ำไห้ด้วยเหตุอันใด

                       ไม่ได้คิดจะเข้าไปยุ่งวุ่นวายเรื่องระหว่างคนสองคน

                       หากแต่ก็ไม่ได้คิดจะละเลยคนตรงหน้าด้วยเช่นกัน

     

                       ไม่มีใครกล้าเข้าหา เพราะเปลือกนอกที่สร้างไว้นั้นแข็งแกร่ง ดุดันจนเกินไป

                       แต่เมื่อเปลือกอันแข็งแกร่งได้ถูกกะเทาะออก และพังทลายลง

                       จะเหลือเพียงแค่ความอ่อนไหว และความอ่อนแอเท่านั้น....เหมือนกับตอนนี้

     

                  เขาออกไปรอข้างนอก เมื่อราวสิบห้านาทีก่อน หลังจากที่โทรศัพท์ที่คนตัวเล็กเฝ้ามองมันนักหนาจะสั่นขึ้น  ชั่วแวบก่อนจะออกจากห้องไป เห็นรอยยิ้มสดใสของอีกฝ่ายยามเมื่อกำลังจะกดรับสาย ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มอ่อนอย่างยินดี ที่เห็นคนตัวเล็กขยับยิ้ม อดนึกไม่ได้ว่า คราวนี้เห็นทีเมฆาจะมีความสุขขึ้นมาบ้างจริงๆเสียที

                       แต่ก็แค่นั้น...

                       รีบเปิดประตูเข้าไปหา เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของอีกฝ่าย

                       ภาพที่ทำเอาต้องเม้มปากแน่น ด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่ยากจะบรรยายออกมา คนตัวเล็กที่น่าจะมีความสุขกลับร้องไห้โฮ กรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง มือบางปิดหูสองข้างไว้แน่น ร่างเล็กคู้ตัวลงกับพรมหนาที่พื้น ดวงหน้าหวานส่ายไปมาราวกับคนที่ไม่ยอมรับในบางสิ่งบางอย่าง ก่อนเจ้าตัวจะเริ่มอาละวาดอย่างยากที่จะปรามได้

                       ตรึงมือสองข้างของอีกฝ่ายไว้แน่น สบตากับอีกฝ่ายที่ดวงตาเหม่อลอยอย่างน่ากลัว แต่กระนั้นทำนบน้ำตาก็ยังไหลพรากอย่างสุดจะหยุดได้ แรงของคนตัวเล็กมากกว่าที่คิดไว้มาก เมื่อเจ้าตัวพยายามขืนตัวเพื่อออกอาละวาดอีกครั้งปากบางที่เม้มเข้าหากันแน่นมีเลือดไหลซึมออกอย่างน่ากลัว

                       เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายได้ยิน หรือพูดคุยอะไรกับคนปลายสายมา

                       แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่เขาควรจะสนใจเลยสักนิด เมื่อสิ่งที่เขาควรสนใจมากกว่าคือคนตรงหน้า...

     

                       “ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร...” รั้งตัวคนในอ้อมกอดขึ้นมาบนตัก ให้คนร้องไห้ซบหน้าลงกับบ่าของตัวเอง สัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นเพราะน้ำตาของคนตัวเล็ก แต่เขาทำอะไรไม่ได้ นอกจากปลอบให้คนๆนี้สบายใจขึ้น คลายใจขึ้นก็เท่านั้น

                       เวลาผ่านไปพักใหญ่ กว่าร่างที่สั่นระริกจะค่อยๆสลบลง พร้อมๆกับเสียงสะอื้นที่ค่อยๆแผ่วลงเช่นเดียวกัน เขายังคงกอดฮิบาริเอาไว้นิ่ง รอจนกว่าที่อีกฝ่ายจะพร้อม จนเมื่อคนตัวเล็กค่อยๆขยับตัวออกนั่นแหล่ะ ถึงได้คลายอ้อมกอด ค่อยๆยกอีกฝ่ายขึ้นวางลงบนเบาะข้างตัว อีกฝ่ายนั่งก้มหน้านิ่ง ซึ่งเขารู้ดีว่าไม่ควรไปถาม หรือพูดอะไรที่เป็นการย้ำเหตุการณ์กับอีกฝ่าย

                       สำหรับฮิบาริแล้ว การทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นคงเป็นวิธีที่ดีที่สุด คิดอย่างนั้นถึงได้ลุกขึ้นโดยไม่ลืมบอกคนกลัวเหงาเอาไว้

                      

                       “เดี๋ยวไปเอาอะไรร้อนๆมาให้ ว่าแต่ฮิบาริจะเอานมร้อน หรือชาร้อนดีล่ะ”

     

                       แม้จะอยากรู้แค่ไหน แต่ถ้าหากสิ่งนั้นจะทำให้ฮิบาริรู้สึกแย่ลง เขาก็จะไม่รู้เด็ดขาด

                       จะไม่ถาม ไม่พูด

                       แต่จะทำให้ทุกอย่างปกติที่สุด

                       ถ้านั่น จะทำให้เมฆารู้สึกดีขึ้นมาบ้างล่ะก็นะ...

     

                  ฮิบาริเงยหน้าขึ้น มองเขาด้วยแววตาบางอย่างที่เขาอ่านไม่ออก หากนั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เมื่ออีกฝ่ายยกแขนขึ้นใช้แขนเสื้อเช็ดคราบน้ำตาทิ้ง เม้มปากสูดหายใจเข้าชั่วครู่ ก่อนดวงหน้าหวานเศร้านั่นจะเชิดขึ้นน้อยๆ

                       “เอาชาร้อนๆ เข้มๆ เร็วๆด้วย...นะ”

                      

                       จะทำทุกอย่างเพื่อเมฆาจะได้ไม่รู้สึกอ่อนแอไปมากกว่านี้

                       เพราะเมฆาเกลียดความอ่อนแอเป็นที่สุด

     

                  คนพูดพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูคล้ายคำสั่งไม่น้อย หากแต่ท้ายประโยคก็ยังไม่วาย...

                       แสดงถึงความขี้เหงา

                       แต่แค่นั้น...ก็ดีมากแล้ว

     

                       ทำให้ไม่วายต้องตอบกลับอย่างหยอกเอิน

                       “ตกลงครับ ช้าร้อนเข้มๆ และจะรีบกลับมาเร็วๆครับ”

     

    -------------------------------------------------------------

                 

                   

                      “คุยอะไรกับคุณฮิบาริอยู่ล่ะครับเนี่ย” สองแขนเรียวของผู้มาใหม่คล้องกับต้นคอของร่างสูงโปร่ง ริมฝีปากบนใบหน้าคมสันยกยิ้มเย็น ก่อนโทรศัพท์ในมือจะถูกวางลงบนโต๊ะข้างโซฟาหรูอย่างไม่ไยดี

                       “ก็นิดๆหน่อยๆน่ะ” ตอบยิ้มๆ สองมือประคองใบหน้าอีกฝ่ายนุ่มนวลอย่างที่ไม่คิดจะทำกับใครอีกคน ก่อนจะรั้งร่างผอมบางของอีกฝ่ายกดลงบนโซฟาใหญ่แล้วขึ้นคร่อมทาบทับ

     

                       “ว่าแต่ที่ถามเนี่ย หึงหรือไงกัน” ถามเย้าๆ สบตามองกับดวงตากลมโตของอีกฝ่าย

                       “หลงตัวเองจังเลยนะครับ” หัวเราะเบาๆกับคำกล่าวเข้าข้างตัวเองของคนตรงหน้า “ก็แค่อยากรู้เท่านั้นเองนี่ ไม่ได้หรือไง” ขยับยิ้มน้อยๆ ก่อนร่างจะถูกดึงขึ้นให้นั่งคร่อมบนตักหนาของร่างสูงกว่า

     

                       “ก็แค่...” ลากเสียงยาว ก่อนจะสบตามองกับดวงตาของอีกฝ่ายอย่างแฝงความนัย “ทำให้สัตว์เลี้ยงรู้ถึงสถานภาพของตัวเองเท่านั้นเอง”

     

                       คนตัวเล็กเลิกคิ้วสูง “พูดซะโหดร้ายเชียวนะครับ คนอย่างคุณไม่ใช่คนที่จะพูดร้ายๆตรงๆไปแบบนั้นหรอก”

                  “แล้วต้องแบบไหนล่ะ ถึงจะเป็นฉัน” ว่างพลางค่อยๆใช้นิ้วเรียวยาวของตนปลดกระดุมเสื้ออีกฝ่ายทีละเม็ดอย่างใจเย็น

                       “คนอย่างคุณน่ะ เป็นประเภทเอาหวานเข้าล่อ ลงมือด้วยขม แล้วตบท้ายด้วยหวานทับ ให้อีกฝ่ายต้องเสียน้ำตาเล่นน่ะสิ ประเภทลูบตัว ตบหัว ลูบหาง” สบตากับอีกฝ่ายอย่างท้าทาย ก่อนจะขยับยิ้มยวน ด้วยรู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีวันโกรธตัวเองอย่างแน่นอน

     

                  และมันก็เป็นอย่างนั้น...

                       “เพราะงั้นไง ของเล่นถึงได้ไม่ชำรุดเสียก่อนจะได้ใช้งานซ้ำ” ว่า ก่อนจะค่อยๆเริ่มเล้าอีกฝ่ายทีละน้อยๆ สะโพกแกร่งจงใจบดเบียดสะโพกบางที่คร่อมอยู่ที่หน้าตัก เพลงรักค่อยๆบรรเลงขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะค่อยๆโหมกระพือพัด โรมรันอย่างรุนแรง คนสองคนกำลังมีความสุข...

     

                       คนหนึ่งสนุก...ที่ได้เล่น

                       อีกคนสนุก...ที่ได้ชม

                       เล่น...เล่นให้ช้ำ แต่ต้องไม่ถึงตาย เพื่อจะได้ซ้ำทับ แล้วเสพสุขอย่างหฤหรรษ์

                  ชม...ชม แล้วร่วมลงเล่นกับของเล่นของอีกฝ่ายด้วย เพื่อความสนุกหรรษาส่วนตน

     

                  ไม่เคยติดว่าตัวเองจะผิด

                       เพราะอีกฝ่าย...โง่เอง

     

                       สนุก...ที่ได้เห็นความทุกข์ เห็นน้ำตา เห็นความอ่อนแอ

                       สนุก...ที่ได้ปั่นหัวเล่น ให้อีกฝ่ายต้องเดินไปตามที่ตัวเองกำหนดไว้

                       สนุก...ที่ได้ทำลายของๆตนให้ยับเยินลงทีละเล็กทีละน้อย และ...

                       สนุก...ที่ได้เห็นคนๆหนึ่งต้องเจ็บเจียนตายเพราะเกมของตน

     

                       ร่างสูงนั่งชันเข่าอยู่ข้างเตียงใหญ่ ข้างๆคือร่างบางแสนรักที่กำลังหลับใหลอยู่จากการร่วมรักมาร่วมคืน จากโซฟา ลงมาที่พื้น และจบลงบน...เตียง

                       ดวงตาสีอ่อนแหงนขึ้นมองดูท้องฟ้าสีมืด รอยยิ้มเย็นกระตุกขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา เมื่อนึกถึงคนอีกคนที่อยู่คนละซีกโลกกัน

     

                       “ตอนนี้นายจะร้องไห้เพราะฉันอยู่รึเปล่านะ เคียวยะ” พูดอย่างคิดถึงอีกฝ่ายมากมายด้วยรอยยิ้ม

                       ร้องไปสิ ร้องไป...

                       ร้องให้มากๆ...

                       คิดถึงฉันสิ...

                       คิดถึงฉันให้มากๆ...

                       แล้วฉันจะค่อยๆรักนายทีละน้อยๆ...

                       จะรัก แล้วหักมันทิ้ง...

                       แล้วมองดูนายค่อยๆตายลง...

                      

                       “อย่าเพิ่งช้ำใจตายซะก่อนนะ เคียวยะ” น้ำเสียงเจือไปด้วยความห่วงใยนัก หากแต่ดวงตาวาววับราวกับสัตว์กระหาย

                       ใช่...

                       เข้มแข็งเข้าไว้...

                       อดทนเข้าไว้ให้มากๆ...

                       อย่างเพิ่งช้ำจนตายเร็วนักเลย...

                       เพราะฉัน...

                       ยังสนุกไม่เต็มที่เลยนะ...

                       ของเล่นของฉัน...

     

                       “อยากเห็นน้ำตาของนายจัง...เคียวยะ...”

                      


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×