คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่1 เวลาผ่าน คนก็เปลี่ยน >
บทที่ 1 เวลาผ่าน คนก็เปลี่ยน
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
ยามาโมโตะ ทาเคชิ ก้มลงมองคนในอ้อมกอดด้วยสายตาอาดูรนัก อ้อมแขนแกร่งกระชับแน่นขึ้นเมื่ออีกฝ่ายร่างสั่นเทาน้อยๆเพราะความหนาว ตวัดผ้าห่มผืนหนาห่มทับหวังคลายความหนาวให้กับอีกฝ่าย มือขวายกขึ้นมาลูบศีรษะคนนอนแผ่วเบา นิ้วเรียวแข็งแกร่งค่อยๆปาดหยาดน้ำตาให้อย่างนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้ เสียงสะอื้นแผ่วของคนหลับยังคงจางหาย พร้อมๆกับหยาดน้ำใสที่ค่อยๆไหลออกมาจากดวงตาที่หลับพริ้มอยู่นั้นยังคงไม่ยอมหยุดไหล
มองคนในอ้อมกอดอย่างสงสารจับใจ ยิ่งฮิบาริ เคียวยะกรีดร้องพร้อมกับทำนบน้ำตาที่ไหลพราก มันยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าไม่ควรที่จะละเลยอีกฝ่ายไป ร่างผอมบางที่อ่อนแรงจากการร้องไห้หลับลงทั้งน้ำตาเมื่อหลายนาทีก่อนจวบจนวินาทีนี้ น้ำตาที่คอยซับให้เสมอก็ยังไม่ยอมหยุดไหล...
“ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร....ไม่เป็นไร...”
ได้แต่ปลอบประโลมซ้ำไปซ้ำมาช่วยบรรเทาความเจ็บปวดให้
กี่ครั้งแล้ว ที่คนๆนี้ต้องร่ำไห้...เขาไม่สามารถให้คำตอบได้
“ฮึก...ฮึก...”
“ไม่ร้องนะครับ ไม่ร้อง...อย่าร้องเลยครับคนดี...ไม่เป็นไรนะครับ ไม่เป็นไร...”
เอ่ยกระซิบ พร้อมปลอบประโลมไปด้วยนานจนอีกฝ่ายนิ่งสงบไปในที่สุด กระนั้นยามาโมโตะเองก็ยังคงกอดร่างบางไว้อย่างนั้น กอดเอาไว้เพื่อที่อีกฝ่ายจะได้ไม่รู้สึก...ตัวคนเดียว...
เกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ที่ตัวเขาคอยอยู่ข้างๆปลอบโยนให้คนๆนี้อยู่เสมอ แม้จะรู้ว่าเรื่องระเขาปล่อยหว่างคนสองคนเขาไม่ควรจะไปเป็นมือที่สาม หากแต่...
เขาปล่อยคนๆนี้ให้อยู่คนเดียวไม่ได้จริงๆ..
จิตสำนึกมันบอกว่าอย่าไปยุ่งกับเรื่องของคนอื่น หากแต่จิตใจมันกลับร่ำร้องบอกว่าอย่าปล่อยให้คนเข้มแข็งคนนี้ต้องอยู่คนเดียว เพราะ...คนเข็มแข็งคนนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว....
เปลี่ยนไปจนแทบไม่เหลือเค้าความเข้มแข็งของเจ้าตัวคนเดิมเลยจริงๆ...
"อือ..."
เสียงคนในอ้อมกอดดังขึ้นแผ่วเบา ทำให้ตัวเขาที่นั่งใจลอยอยู่เป็นต้องสะดุ้งน้อยๆ รีบก้มลงมองคนตัวเล็กร่างบาง ที่กำลังพยายามขดตัวราวกับเจ้าแมวตัวน้อยเพื่อซุกหาไออุ่น
แค่เวลาหลับสนิทเท่านั้นที่ปากแดงๆนี้จะขยับยิ้มบาง จนบางคราเขานึกภาวนาขออย่าให้คนๆนี้ต้องตื่นขึ้นมา แล้วจมอยู่กับน้ำตา และความเศร้าอีกเลย...
ไม่อยากเห็นร่างเล็กต้องอยู่ในสภาพนี้เลยจริงๆ...
... เพราะคนๆนี้ไม่เหมาะกับดวงตาที่หม่นหมอง... และ...
เพราะคนๆนี้ไม่เหมาะกับน้ำตา...
.
.
.
“อืม...อือ...” เปลือกตาสีน้ำนมค่อยๆปรือขึ้นช้าๆ น่าแปลกนักที่อากาศในยามนี้ไม่หนาวเลยสักนิด ทั้งๆที่หิมะก็ตกแท้ๆ มันควรจะหนาว...และเย็น...จับใจมากกว่านี้สิ หากแต่ทำไม...
ตาคมหมองเศร้าที่ช้ำแดงจากการร้องไห้กะพริบตาปริบๆมองสิ่งที่ช่วยคลายความหนาวให้กับตน
อ้อมกอด...
เขากำลังอยู่ในอ้อมกอดของใครคนหนึ่ง...คนเดียวที่มักจะอยู่เคียงข้างเขาเสมอในยามที่เขาไม่มีใครอยู่ข้างกาย คอยอยู่เสมอยามที่เขากำลังโศกเศร้า ไม่รู้ทำไมทุกๆครั้งหลังจากทะเลาะกับคนๆนั้น แล้วจบลงด้วยน้ำตา จะต้องมีเขาคอยช่วยปลอบใจ
อ้อมกอดของพิรุณไม่ได้หนาวเหน็บเลยสักนิด...
ตรงข้าม กลับอุ่น...อุ่นมาก...
ศีรษะซุกเข้าหาแผ่นอกของอีกฝ่ายมากขึ้น สองมือกำเสื้อนอนตรงแผ่นอกของอีกฝ่ายแน่น รู้ว่าตัวเองยังไม่พร้อมที่จะเจอความหนาวของฤดูหิมะตกในตอนนี้ สภาพของตนในตอนนี้ยังไม่พร้อมจะสัมผัสความเย็นจากทุกสิ่ง โดยเฉพาะจาก...
“ตื่นแล้วเหรอ ฮิบาริ” ถามเสียงอ่อนโยน ดวงตามองร่างเล็กที่กำลังซุกหัวทุยๆเข้ากับอกของเขา แล้วระบายยิ้ม เมื่อเห็นคนในอ้อมกอดดูจะหายเศร้าไปมากแล้ว ดวงตาเรียวคมคู่หมองช้ำยังคงเต็มไปด้วยคราบน้ำตาที่เหือดแห้ง ร่างสูงยันตัวขึ้นจากเตียงผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เรียวขายาวแข็งแรงทำท่าจะเดินออกไป เรียกให้มือเรียวของคนนอนอยู่คว้าชายเสื้ออีกฝ่ายไว้แน่น
คิ้วเรียวของคนบนเตียงขมวดเข้าหากันน้อยๆ พร้อมกับดวงตาที่ไหววูบ ดูก็รู้ว่าอารมณ์ของคนๆนี้ช่างอ่อนไหวนัก ดวงตาที่เริ่มแดงมากขึ้น เพราะคิดว่าคนที่ลุกออกไปจะทิ้งตนทำเอาน้ำตาแทบจะไหล
เขายังไม่อยากอยู่คนเดียว...
ไม่อยากอยู่กับความหนาวเพียงลำพัง...
คนตัวสูงกว่าระบายยิ้มอ่อน หันกลับมาหาคนบนเตียงแล้วรั้งร่างเล็กขึ้นมากอด มืออุ่นลูบปลอบศีรษะนุ่มนวล ลืมไปชั่วขณะว่า ฮิบาริคนนี้ ไม่ใช่ฮิบาริคนเดิมอีกแล้ว แต่เป็นแค่เด็กน้อยที่กลัวความเหงา ความหนาว และการถูกทิ้งให้อยู่เพียงลำพังเท่านั้น
“รอตรงนี้แปบนึงนะ อากาศมันหนาว จะไปเตรียมน้ำอุ่นที่อ่างน้ำให้” พูดแล้วก็ยืนนิ่งปล่อยให้อีกคนตัดสินใจว่าจะเอาเช่นไร จนเมื่อมือขาวยอมปล่อยชายเสื้อตัวเองนี่แหล่ะ สองแขนโอบกอดคนกลัวเหงาอีกครั้ง ไม่ลืมพูดทิ้งท้ายให้คนฟังสบายใจขึ้น แล้วเดินออกจากห้องไป
“นอนกอดผ้าห่มไปก่อนนะ จะรีบไปแล้วรีบกลับมา”
...
หลักพึ่งพิงหายไปแล้ว...
เดินออกไปแล้ว...
หนึ่งนาทีผ่านไป...
สองนาทีผ่านไป...
รู้สึกว่าเวลานั้นช่างเดินช้าเสียจริง สองมือกำผ้าห่มอุ่นแน่น ใบหน้าอิงแนบซบลงกันผืนผ้าใหญ่
ห้านาทีแล้วนะ...ทำไมยังไม่มาอีกล่ะ...
“ฮึก...ฮึก...” ปากแดงเม้มแน่น ด้วยความรู้สึกไม่อยากให้เสียงสะอื้นนั้นดังออกมา
เกลียด...
เกลียดตัวเองที่น่าสมเพช...
เกลียดตัวเองที่เป็นเหมือนกับสัตว์กินพืชโง่ๆ...
เกลียดตัวเองที่อ่อนแอ...
มันน่าสังเวช...
เขาไม่รู้ว่าตัวเองกลายเป็นคนเจ้าน้ำตาตั้งแต่เมื่อไหร่
รู้ว่าพอรู้สึกตัวขึ้นมาอีกที...
ตัวของเขาก็เปลี่ยนไปแล้ว...
เปลี่ยนไปอย่างที่ไม่อาจเรียกตัวตนเก่าให้กลับคืนมาได้...
อยากกลับเป็นคนเดิม...
แต่รู้ดีว่า ไม่มีวันที่จะกลับไปเป็นเช่นเดิมได้...
และตอนนี้เขาก็กำลังร้องไห้ เพราะความเหงา...
เหงาเพราะหลักพึ่งพิงเพียงหนึ่งเดียวไม่ได้อยู่เคียงข้าง...
เขาไม่อยากยอมรับ...
ว่าตอนนี้เขาอยู่ไม่ได้...
หากไม่มีคนชื่อ...ยามาโมโตะ ทาเคชิ...
อยู่ไม่ได้จริงๆ ถ้าไม่มีพิรุณที่แสนอบอุ่นคอยอยู่ข้างกาย...
“สิบนาทีแล้วนะ...กลับมาเร็วๆสิ...ยามาโมโตะ”
“กลับมาแล้วจ้า ฮิบาริ”
รีบช้อนตาขึ้นมองหาที่มาของเสียง อ้อมกอดอุ่นโอบกระชับร่างของเขาอย่างนุ่มนวล อย่างที่เขาไม่เคยได้รับจาก...
“ร้องไห้อีกแล้วเหรอ โอ๋ ไม่ร้องนะ ไม่ร้อง กลับมาแล้วไงครับ ไม่ร้องนะ” หลับตาพริ้มเมื่อมืออุ่นๆนั่นปลอบประโลมแผ่วเบาที่ศีรษะ สองแขนเรียวตวัดโอบรอบลำคออีกฝ่ายแน่น ฝังใบหน้าลงบนบ่ากว้าง รู้สึกได้ถึงมือที่โอบรั้งเอวตัวเองไว้อย่างหลวมๆ
คางมนถูกเชยขึ้นให้เงยสบตามอง ก่อนที่มือที่รั้งเอวไว้จะคลายออก ยกขึ้นมาเช็ดน้ำตาบนใบหน้าตัวเองให้ ดวงหน้าคมเข้มหล่อเหลาของอีกฝ่ายส่งยิ้มอ่อนให้ ก่อนลำตัวจะถูกช้อนขึ้นมาอุ้มทำเอาทั้งร่างสะดุ้งด้วยความตกใจ
“ปะ ไปอาบน้ำเถอะ น้ำกำลังอุ่น นะ”
เสียงครวญครางสรวลด้วยความหฤหรรษ์ดังลอดออกมานอกห้องนอนใหญ่ ร่างสองร่างที่กำลังบรรเลงบทรักร่วมกันอยู่ในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นคราบของคาวโลกีย์
“ทำแบบนี้ไม่กลัวคุณฮิบาริเสียใจเหรอครับ” ร่างเล็กว่า ก่อนจะขยับสะโพกขึ้นลงเหนือร่างสูงที่รั้งดวงหน้าหวานของคนคุมเกมเข้ามาประกบริมฝีปากด้วย เรียวลิ้นอุ่นร้อนของคนสองคนผลัดแลกกันจนเกิดเสียงดังออกมาสร้างอารมณ์ดิบให้พลุ่งพล่านมากขึ้น
ทันทีที่ผละจูบออก ร่างสูงสง่าสมชายก็ขยับยิ้มยวน รั้งปลายคางอีกฝ่ายแล้วสบตามอง
“ก็พอๆกันกับนายนั่นแหล่ะน่า”
ร่างเล็กหัวเราะเบา
“นั่นสิครับ เพราะเราสองคนต่างก็สวมเขาคุณฮิบาริทั้งคู่เลยนี่นา”
ความคิดเห็น