ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยอดยุทธ์เซียนกระบี่

    ลำดับตอนที่ #93 : ตอนที่ 93 มีพลสอดแนม

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.พ. 66


       ภายในป่าอันรกทึบร่างในชุดคลุมเทามือขวากุมกระบี่ กอดเด็กสาวไว้ในอ้อมแขนพร้อมพุ่งไปมาด้วยความเร็วสูง 

    ด้านหลังคือกลุ่มคนจำนวนมากที่ไล่ตามมาด้วยความเร็วไม่แพ้กัน หนึ่งในนั้นหยิบบางสิ่งออกมาจากใต้แขนเสื้อ ก่อนจะนำมาทาบไว้บนริมฝีปาก

     

        เสียงขลุ่ยในท่วงทำนองน่าขนหัวลุกดังกึกก้อง ซากศพวิญญาณแค้นที่เคยวิ่งตามมาจากบนพื้น ก็เริ่มพากันคลุ้มคลั่งกระโดดขึ้นจากพื้น

    ไล่ตามชายหนุ่มชุดคลุมเทาอย่างดุร้าย หลินมู่เหลือบไปมองด้านหลังเล็กน้อย ก่อนจะปรับองศาเบี่ยงตนเองพุ่งไปอีกทาง

     

       ฟู้ม!!! เขาพุ่งไปด้วยความรวดเร็วตัดผ่านผืนป่า ราวกับเปลี่ยนตนเองกลายเป็นลูกเกาทัณฑ์ลูกหนึ่ง ในจังหวะนั้นเองเสียงขลุ่ยแสนพิลึกก็ดังขึ้นอีกครั้ง

    ดวงตาสีหมึกของชายหนุ่มเปล่งประกายด้วยความคิดบางอย่าง เขาสื่อสารกับเชือกวิเศษให้มัดตัวของผิงฮวาไว้กับตนเอง ก่อนจะหมุนตัวกลางอากาศทิ้งตัวลงบนกิ่งไม้

     

        ใช้มันเป็นแท่นส่งตนเองตรงไปหาเป้าหมาย นักลอบสังหารที่เป่าขลุ่ยควบคุมซากศพวิญญาณแค้น พอสังเกตเห็นก็เข้าใจเจตนาของชายหนุ่มได้ทันที

    เขาเป่าขลุ่ยอีกครั้งควบคุมให้ซากศพที่ทีพลังป้องกันมากที่สุด สามตัวพุ่งเข้าไปสกัดกั้นอีกฝ่าย แต่เขาหารู้ไม่ว่าพลังป้องกันเช่นนั้นเมื่อมาอยู่ต่อหน้า ความคมของตงหยูในยามนี้

     

       ก็ไม่ต่างอะไรจากกระดาษธรรมดาๆ คมกระบี่สีขาวบริสุทธิ์ดุจหิมะขาวในยามเหมันต์ฤดู ฟาดฟันตัดร่างของซากศพวิญญาณแค้นทั้งสาม ขาดเป็นเสี่ยงๆ

    ร่างในชุดคลุมเทายังคงพุ่งตรงมาด้วยความรวดเร็ว พร้อมประกายสายฟ้าอัสนีแปลบปลาบ “บ้าจริง!!” นักลอบสังหารสถบอย่างตกตะลึง

     

        เขาคาดไม่ถึงเลยว่าพลังป้องกันของซากศพวิญญาณแค้น ที่ฟันแทงไม่เข้าพอมาอยู่ต่อหน้าอีกฝ่าย ก็ไม่ต่างอะไรจากกระดาษเปียก 

    เขาโคจรลมปราณขยับตัวด้วยท่าเท้า จนเห็นเป็นเพียงภาพปิดตาถอยร่นทิ้งระยะ พร้อมทั้งเป่าขลุ่ยควบคุมซากศพบางตัว ให้เข้าไปสกัดกั้นอีกฝ่ายอีกครั้ง

     

        บนใบหน้าของชายหนุ่มไม่มีความร้อนรนเลยแม้แต่น้อย มีเพียงความสงบนิ่งไร้คลื่นกระเพื่อม ดวงตาสีหมึกคู่นั้นราวกับกักเก็บท้องนภายามรัตติกาล

    ที่ประดับประดาปกคลุมไปด้วยมวลดาราละลานตา กำลังสาดประกายความแหลมคมออกมา ฟิ้ว!!! เส้นสีฟ้าใสสองเส้นเสมือนริบบิ้นสีฟ้า พุ่งออกมาตัดผ่านระยะห่างในชั้วพริบตา

     

         ก็มาปรากฏต่อหน้านักลอบสังหาร “เป็นไปไ…” ยังพูดไม่ทันจบประโยคเส้นสีฟ้าทั้งสอง ก็เข้าโรมรันกับอีกฝ่ายตัดผ่านร่างกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

    รวมถึงขลุ่ยแสนแปลกประหลาดที่ใช้ควบคุมซากศพวิญญาณแค้นด้วย เพียงขลุ่ยถูกทำลายซากศพวิญญาณแค้นที่ยังเหลืออยู่ ก็ชะงักไปสักพักก่อนจะกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง

     

        “ไม่ได้มีอันเดียวสินะ…” หลินมู่พึมพำด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ดีดตัวถอยหลังหลบมีดสั้นที่ถูกปามา เมื่อตั้งหลักได้ชายหนุ่มก็พุ่งหายไปอีกครั้ง

    ฟิ้ว ตู้มม เพียงไม่กี่อึดใจหลังจากเขาจากไป พลุสัญญาณสีม่วงก็ถูกยิงขึ้นฟ้า นักลอบสังหารสาวที่ยืนดูสถานการณ์อยู่ ก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย

     

        “ถึงอย่างไรก็เป็นราชายุทธ์ รับมือได้ไม่ง่ายจริงๆ” เธอพึมพำพร้อมนำขลุ่ยสีแดงสดออกมาเป่า ส่งเสียงราวกับวิญญาณโหยหวนไปทั่วป่า

    ถัดไปจากนั้นไม่ไกลนักด้านบนต้นไม้สูง ร่างสูงโปร่งผมสีบรอนซ์ มีแผลเป็นรอยใหญ่บนใบหน้าคล้ายตะคาบ เมื่อเขาได้ยินเสียงขลุ่ยก็เริ่มขยับตัว ง้างสายเกาทัณฑ์ยิงลูกเกาทัณฑ์ขึ้นฟ้าตรงไปยังทิศทางหนึ่ง

     

       “ทางนั้นสินะ…” นักลอบสังหารสาวเหลือมองไปทิศทางที่ลูกเกาทัณฑ์พุ่งไป ก่อนจะนำพลุสัญญาณออกมา ตู้ม!! พลุสีเหลืองถูกยิงขึ้นฟ้า เป็นสัญญาณบอกให้เหล่านักลอบสังหาร และ กลุ่มโจรรู้ว่าเป้าหมายไปทางไหน

    “หากมีกระดิ่งทองแดงนั้นละก็…” หลังจากส่งสัญญาณเสร็จ นักลอบสังหารสาวก็พึมพำพร้อมกำขลุ่ยสีแดงในมือแน่น หากเธอได้ใช้กระดิ่งนั้น ป่านนี้ราชายุทธ์หนุ่มคนนั้น

     

        คงไม่มีโอกาสได้สร้างความวุ่นวายและหลบหนีเป็นแน่ แม้ขลุ่ยจะสามารถควบคุมเหล่าซากศพเหล่านี้ได้ แต่มันใช้เวลาเกินไปต่างจากกระดิ่งนั้น

    เธอเคยเห็นตัวแทนจากพรรคมารใช้เพื่อควบคุมศพเหล่านี้ มันง่ายดายราวกับการดื่มน้ำ อีกด้านหลินมู่แหงนหน้ามองขึ้นฟ้า เขามองสัญญาณพลุสีเหลืองด้วยสีหน้าขบคิด

     

        “นี้คงหมายถึงว่า เป้าหมายอยู่ทางนี้สินะ เหมือนอีกฝั่งจะมีพลสอดแนม หากไม่จัดการการที่จะหนีก็ทำได้ค่อนข้างยาก” หลินมู่สรุปสถานการณ์ออกมาคร่าวๆ ก่อนจะเปลี่ยนทิศทางอีกครั้ง

    เขาต้องจัดการตาของอีกฝ่ายก่อน แต่คงไม่ง่ายแน่นอนเพราะตั้งแต่ต้นจนจบ เขาก็ไม่ได้เห็นเงาคนคนนั้นหรือสิ่งสิ่งนั้นเลย คาดการณ์ได้ว่า อีกฝ่ายกำลังซ่อนตัวอย่างมิดชิด

     

        แต่ไม่น่าจะอยู่นอกอาณาเขตการต่อสู้ และ ควรจะเป็นจุดที่เห็นสภาพแวดล้อมไปกว้างที่สุด ชายหนุ่มแหงนหน้ามองขึ้นไป ยังต้นไม้สูงที่อยู่สุดสายตา

    นั้นน่าจะเป็นจุดที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด ผิงฮวาที่ถูกผูกติดกับชายหนุ่ม โดนเหวี่ยงไปมาพร้อมเห็นภาพการฆ่าฟัน ใบหน้าของนางก็เริ่มซีดเผือด ดวงตาไร้โฟกัสสติหลุดล่องลอยไปที่ใดไม่รู้

     

        หลินมู่เหลือบมองดรุณีน้อยเล็กน้อยก่อนจะละความสนใจไป เขาสะกิดเจ้าเชือกวิเศษเล็กน้อย ให้มันดึงปราณฟ้าดินเข้ามารอบตัว

    พร้อมพุ่งไปยังเป้าหมายด้วยวิชาตัวเบา โดยสวนทางกับทีมตามล่าของกลุ่มโจรและนักลอบสังหาร ตรงไปยังต้นไม้สูงตระหง่านที่สุดในบริเวณนี้

     

        ใช้เวลาเพียงไม่นานนักร่างในชุดคลุมเทาก็มาปรากฏ อยู่ด้านล่างของต้นไม้ เขากระโดนขึ้นไปตามกิ่งไม้โดยทิ้งไว้เพียงเงาติดตา เมื่อขึ้นมาถึงครึ่งทาง

    ลูกเกาทัณฑ์สีดำจำนวนสามลูก ก็ถูกยิงลงมาอย่างกระทันหัน เล็งตำแหน่งจุดตายอย่างไม่ปราณีใดๆ ชายหนุ่มชะงักเล็กน้อยไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะตอบโต้รวดเร็วเช่นนี้

     

        เขาใช้วิชาตัวเบาพร้อมท่าเท้าอันแปลกประหลาด หมุนตัวหลบลูกเกาทัณฑ์ไปอย่างง่ายดาย ก่อนจะมีลูกเกาทัณฑ์อีกชุดถูกยิงตามมา

    หลินมู่ปลดปล่อยจิตกระบี่ออกไปหนึ่งเส้น พร้อมดีดตัวขึ้นไปด้านบนฟันกระบี่ขึ้นไป ปลดปล่อยคลื่นสายฟ้าขึ้นด้านบน บังคับให้พลสอดแนมออกมาจากจุดซ่อนตัว

     

        เปรี้ยง!! เสียงอัสนีดังสนั่นดึงความสนใจจากทุกคนในทันที นักลอบสังหารสาวหันไปมองทางนั้นอย่างตกตะลึง

    “ได้อย่างไร!?” เธอโพล่งขึ้นอย่างตกใจอีกฝ่ายควรอยู่อีกฝั่งสิ แต่เหตุใดจึงไปอยู่ตรงนั้นได้ แต่ก่อนเธอจะได้ขยับตัว โต๋วเจิ่งที่นิ่งเงียบมาตลอด ก็หยุดเธอเอาไว้ก่อน

     

       ร่างสูงโปร่งผมสีบรอนซ์กระโดดหลบคมกระบี่ พร้อมง้างสายเกาทัณฑ์เตรียมโจมตีสวนกลับ หลินมู่ที่เห็นรูปลักษณ์ของอีกฝ่าย ก็เบิกตากว้าง “เป็นเจ้า?” เขาไม่คิดเลยว่าคนที่ตนเคยฆ่าไปแล้ว

    จะกลับมาไล่ฆ่าตนอีกครั้ง สมกับเป็นป่าที่ทีไอชั่วร้ายและปราณหยินหนาแน่นจริงๆ เพียงไม่ถึงสัปดาห์ก็เปลี่ยนให้ผู้ฝึกวรยุทธ์และมือเกาทัณฑ์ผู้เก่งกาจ กลายเป็นซากศพวิญญูแค้นแล้ว

     

       และแน่นอนร่างนั้นไม่ตอบกลับใดๆ ง้างเกาทัณฑ์สีดำจนกลายเป็นจันทร์เต็มดวง พร้อมปล่อยสายส่งลูกเกาทัณฑ์ที่คละคลุ้งไปด้วยปราณหยิน

    พุ่งลงมาหวังเด็ดชีวิตของชายหนุ่ม หลินมู่กลั่นหายใจควบคุมจิตกระบี่ พร้อมเอี่ยวตัวหลบ เขาควบคุมจิตกระบี่ดึงปราณฟ้าดินมากลั่นเป็นลมปราณอีกครั้ง พร้อมปลดปล่อยการโจมตีสวนกลับ

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×