ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยอดยุทธ์เซียนกระบี่

    ลำดับตอนที่ #92 : ตอนที่ 92 ยากจะยื่นมือเข้าแทรก

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.พ. 66


        ชายหนุ่มขมวดคิ้วแน่นจนผูกกันเป็นปม ดวงตาสีหมึกคู่นั้นมองร่างที่ถูกกระบี่ของตนผ่าครึ่ง ด้วยความสงสัยและพิศวงสุดพรรณนา

    “แหมๆ ไม่ต้องจับจ้องขนาดนั้นก็ได้กระมัง” ผู้นำของนักลอบสังหารกล่าวขึ้นอย่างเย้ายวน “เจ้านี่คืออะไร? คงไม่ใช่มนุษย์กระมัง สิ่งที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความแค้นความบ้าคลั่ง และ จิตสังหารเช่นนี้ไม่ต่างอะไรจากสัตว์เดรัจฉาน”

     

        คำถามของชายหนุ่มทำให้หัวหน้านักลอบสังหาร ใช้มือเรียวงามยกขึ้นมาปิดปากพร้อมส่งเสียงหัวเราะคิกคัก 

    “ท่านกล่าวถูกแล้ว พวกมันไม่ใช่มนุษย์เป็นได้แค่หุ่นเชิดของคนตาย ที่ถูกบ่มเพาะความแค้นจนไม่ต่างอะไรจากสัตว์เดรัจฉาน” เมื่อกล่าวจบเธอก็ตบมือสองครั้ง 

     

        ร่างบึกบึนที่คละคลุ้งไปด้วยความแค้นความบ้าคลั่งและกระหายเลือด ดวงตาแดงก่ำเต็มไปด้วยจิตสังหารกล้ามเนื้อปูดโปนไร้ซึ่งกลิ่นอายของชีวิต

    “ผีดิบ….ไม่เป็นแค่ศพเดินได้” หลินมู่แสดงสีหน้าจริงจังอย่างไม่เคยมีมาก่อน ก็เคยคิดอยู่หรอกว่าป่าที่เต็มไปด้วยไอหยินเช่นนี้ เบื้องหลังคงไม่ง่ายอย่างแน่นอน

     

        แต่ไม่คิดไม่ฝันว่ากองโจรนี้จะบ้าดีเดือด ถึงขั้นสร้างป่าหยินเพื่อเลี้ยงผีดิบขึ้นมา แม้พวกตรงหน้าจะยังไม่ใช่ผีดิบ แต่สัมผัสจากปราณหยินแล้วคาดว่า อีกไม่กี่เดือนก็เรียกได้ว่าผีดิบอย่างเต็มปาก

    ตอนนี้พวกนี้ก็แค่ซากศพเดินได้ที่เต็มไปด้วยความแค้น นอกจากความบ้าคลั่งและพละกำลังอันมหาศาลแล้ว ก็ไม่มีอย่างอื่นอีก ต่างจากอูเชินที่กลายเป็นผีดิบครึ่งตัว

     

        พวกนี้ยังไม่มีผิวทองแดงหรือกระดูกเหล็ก พึ่งเพียงความคมตามธรรมชาติของตงหยู ก็มากพอจะตัดพวกมันให้กลายเป็นชิ้นๆ ราวกับตัดเต้าหู้

    “เอาหล่ะ เอาหล่ะ ข้าเสวนากับท่านมามากพอแล้ว ข้าจะยื่นข้อเสนอท่านคิดเช่นไร?” นักลอบสังหารสาวพูดขึ้นพร้อมยกยิ้มขึ้นอย่างเย้ายวน

     

        ดวงตาของนางสาดประกายยากจะอธิบาย จับจ้องไปยังหลินมู่ที่กอดเด็กสาวนามผิงฮวาไว้ในอ้อมแขน “ข้อเสนออะไร?” ชายหนุ่มถามขึ้นพร้อมโคจรจิตกระบี่

    ดวงตาสีหมึกคู่นั้นเปล่งประกายดุจสายธารของมวลดารา เต็มไปด้วยกลิ่นอายอันคมกริบที่ไม่มีอะไรเปรียบ กระบี่ที่กุมอยู่เริ่มสั่นพ้องด้วยความตื่นเต้น

      

        นักลอบสังหารสาวหาได้สนใจกระบี่ใบขาวดุจหิมะแม้แต่น้อย ทำเพื่อหรี่ตายกยิ้มพูดขึ้นเล็กน้อยพร้อม กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย้ายวนเป็นพิเศษ

    “ข้าคิดว่าแม้ท่านจะเป็นราชายุทธ์ ก็ไม่ได้มีลมปราณและพลังมากพอ จะสู้กับพวกเราได้ตลอดทั้งวัน คนคนนึงย่อมมีขีดจำกัด ยังไม่นับอีกว่าตอนนี้ท่านยังมีตัวถ่วงแข่งถ่วงขาอยู่หนึ่งตัว”

     

       นางพูดขึ้นมองเหลือบไปมองดรุณีน้อยด้วยรอยยิ้ม ก่อนดวงตาจะสาดความประหลาดใจออกมา “โอ้ มันเป็นเจ้านี่เองหนูที่หลุดกรงไปได้ ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอกันอีก พ่อแม่ของเจ้าสบายดีไหม? โอะ ลืมไปตอนนี้พวกเขาอยู่ในบ่อน้ำ”

    สิ้นเสียงของเธอผู้คนโดยรอบก็หัวเราะคิกคัก ราวกับเย้ยหยันชะตาอันน่าบัดซบของเด็กสาว ผิงฮวาเม้มปากแน่นดวงตาเปล่งประกายความเกลียดชัง อยากจะหั่นร่างของพวกคนเหล่านี้เป็นพันเป็นหมื่นชิ้น

     

        หลังจากพูดเปิดแผลเด็กสาวเสร็จ นักลอบสังหารสาวก็หันมาต่อรองกับหลินมู่ต่อ “ข้อเสนอของข้าคือ จะเชิญท่านเข้าร่วมกับกองโจรพงไพรสายลม หากท่านยอมส่งมอบวิชาโบราณก็เป็นอะไรที่ดีอย่างมาก บางทีอาจจะได้รับรางวัลพิเศษ จากพรรคมารก็ได้ ท่านคิดเช่นไร?”

    ชายหนุ่มที่ยังคงสงสัยว่าคนเหล่านี้เอา วิธีกลั่นศพและสร้างผีดิบ มาจากไหนก็กระจ่างทันที เป็นพรรคมารที่มอบวิธีการเหล่านี้ให้นี้เอง 

     

        หลินมู่มองออกไปรอบตัวพร้อมถอนหายใจ โจรเหล่านี้คงไม่รู้กระมังว่าผีดิบที่พวกเขากำลังกลั่นขึ้นมา พวกเขาไม่อาจควบคุมได้หากไม่มีกระดิ่งวิญญาณ

    และพวกมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ฝึกฝนวรยุทธ์ของทวีปนี้จะรับมือได้ ผีดิบบางตนหากมีไอหยินและความแค้นเพียงพอ เมื่อถึงเวลาก็มีพลังเทียบเท่าปฐพีที่ 2 ได้เลย

     

        สำหรับคนเหล่านี้ที่ฝึกฝนกลั่นลมปราณ เป็นเรื่องยากที่จะต่อสู้กับวัตถุหยินที่ทรงพลังเช่นนั้น และแน่นอน เขายังไม่ตัดความเป็นไปได้ว่า พรรคมารมีกระดิ่งวิญญาณในครอบครอง 

    หากเป็นเช่นนั้นฝ่ายธรรมะก็แทบจะฝ่ายแพ้ตั้งแต่เริ่ม แต่นั้นอยู่ในกรณีที่หลินมู่ใช้ยันต์ไฟหยางไปหมดแล้ว ถึงกระนั้นยันต์ไฟหยางก็เสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ตอนนี้อณุภาพของมันอาจจะสะกดพวกซากศพวิญญาณแค้นได้

     

        แต่หากเป็นผีดิบตัวจริงที่ไม่ใช่ผีดิบครึ่งตัวแบบอูเชิน ก็ยากจะคาดเดาว่าไฟหยางอ่อนๆจะทำอะไรพวกมันได้หรือไม่ 

    ยังไม่ต้องพูดถึงหลินมู่ที่บนตัวไม่มีเวทย์กระบี่ มีแต่วิชากระบี่เท่านั้นให้พูดแบบไม่อายฟ้าดินคือ เขาเอาตัวรอดได้แต่ให้ช่วยคนอื่น มันเป็นไปไม่ได้

     

        ตอนนี้เขารับรู้แล้วว่าพรรคมารมีแผนจะใช้ ผีดิบในการเปิดม่านกลียุคขึ้นมา บนหน้าผากของชายหนุ่มเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ เมื่อจินตนาการถึงภาพอันโหดร้าย

    ที่มนุษย์ไม่ต่างอะไรจากหมูจากหมา ที่ถูกเหล่าผีดิบไล่สังหารกัดกินเลือดเนื้ออย่างโหดเหี้ยม ดวงตาสีหมึกคู่นั้นเปล่งประกายด้วยความแหลมคม เขาขยับริมฝีปากพูดขึ้นมาอย่างหนักแน่น

     

        “ข้าขอปฎิเสธ…” เขาคือศิษย์เซียนกระบี่แม้จะเป็นเพียงในนาม แต่จะให้เข้าร่วมกับคนชั่วก่อกรรมทำความผิดมันเป็นไปไม่ได้

    นักลอบสังหารสาวแสดงสีหน้าเศร้าใจ “ไม่เป็นไร อย่างไรทุบตีท่านจนปางตายก็ได้เหมือนกัน” พูดจบนางก็ดีดนิ้วเป็นการให้สัญญาณ ฟิ้ว!!!

     

       ลูกเกาทัณฑ์สีดำแสนคุ้นเคยพุ่งตัดผ่านกิ่งไม้ พุ่งตรงเข้าหาหน้าอกของชายหนุ่ม หวังพุ่งทะลุผ่านขั้วหัวใจ

    เพล้ง!! ร่างในชุดคลุมเทาบิดตัวขยับเท้าด้วยท่วงท่าแปลกตา ม้วนตัวใช้กระบี่ปัดป้องการโจมตีพร้อมกระโดดออกจากวงล้อม 

     

        ฟิ้วฟิ้วฟิ้ว!! เพียงพริบตาลูกเกาทัณฑ์อีกสามดอกก็พุ่งเข้ามา ด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อพวกมันเต็มไปด้วยจิตสังหารและไอความแค้น

    เปรี้ยง!! อาณาเขตสายฟ้าปะทุขึ้นจิตกระบี่กระจายไปทั่วบริเวณ ใบไม้ใบหญ้ากลายเป็นฝุ่นผง ปราณฟ้าดินถูกดึงมาอย่างมหาศาล จิตกระบี่เริ่มขับไล่ปราณหยินพร้อมเปลี่ยนปราณฟ้าดิน เป็นลมปราณเพื่อให้ชายหนุ่มโคจรวิชากระบี่

     

        พรึ่บ!!! ร่างจำนวนนับร้อยพุ่งเข้าโจมตีเขาอย่างกระทันหัน รวมถึงซากศพวิญญาณแค้นจำนวนมาก พุ่งเข้าอาณาเขตสายฟ้าอย่างไม่หวาดกลัว

    เสียงคำรามแหบแห้งไม่ใช่เสียงที่สิ่งมีชีวิตใดๆ จะเปล่งออกมาได้ พวกมันโคจรปราณหยินง้างกำปั้นต่อยเข้าร่างที่อยู่ในกลางทะเลอัสนีสายฟ้าอันเกรี้ยวกราดนี้

     

        ปราณหยินและปราณฟ้าดินจิตกระบี่รวมถึงลมปราณ เข้าปะทะกันและกันจนก่อเกิดเป็นภาพอันโกลาหล ส่งร่างของผู้ฝึกวรยุทธ์ที่มีตบะต่ำต้อยกระเด็นออกไป

    พวกตบะลมปราณล้ำลึกยังต้องถอยร่นออกมา แม้แต่โต๋วเจิ่งยังต้องถอยออกมา เขารู้สึกเหมือนถูกโยนลงไปในน้ำวนอันเชี่ยวกราก เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเน้นความสนใจทั้งการโจมตี และ การป้องกันพร้อมๆกันในสถานการณ์เช่นนี้

     

        ร่างในชุดคลุมเทากอดเด็กสาวแน่นก่อนจะโคจรจิตกระบี่ ดึงทะเลอัสนีสายฟ้าเข้าไปในใบกระบี่ พร้อมกับม้วนตัวฟันออกไป เปรี้ยง!!!

    เสียงสายฟ้าฟาดดังขึ้นเสียงอื้ออึงดังอยู่ในหูเหล่าโจร และ นักลอบสังหาร ร่างของซากศพวิญญาณแค้นหลายสิบร่วงหล่นลงมา ในสภาพถูกตัดครึ่งท่อนพร้อมประกายสายฟ้า

     

         ชายหนุ่มหลังจากออกกระบี่ก็ปลดปล่อยการโจมตีอีกหนึ่งกระบวนท่า ส่งจิตกระบี่นับสิบเส้นฟาดฟันไปทั่วสารทิศ เปิดทางให้ตนใช้หลบหนี 

    ร่างในชุดคลุมเทาพุ่งไปยังช่องว่างอย่างรวดเร็ว เพียงเสี้ยวอึดใจร่างนั้นก็หายเข้าไปในป่า “ตามเขาไป!!” นักลอบสังหารสาวตะโกนขึ้น สั่งให้เหล่าลูกสมุนของเธอตามอีกฝ่ายไป ดวงตาภายใจฮู้ดสาดประกายตื่นเต้นอย่างมาก

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×